วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560

ตอนที่ 344 : วิหารจินกวง!

Posted By: wuxiathai - 00:33
จิตใจต้าโถวเต็มไปด้วยความขมขื่น แต่เพื่อที่จะรักษาชีวิตไว้ มันจึงแสดงสีหน้ายินดี จากนั้นก็หยิบเอาเหยือกใบเล็กๆ ออกมาจากถุงสมบัติของมันอย่างเชื่อฟัง
เป็นเหยือกที่มีขนาดเท่ากำปั้น และมีรูอยู่เล็กน้อยมองเห็นได้ที่บนพื้นผิว เมื่อสายลมพัดผ่านรูเหล่านั้น ก็เกิดเป็นเสียงแหลมเล็กออกมา ดูแล้วไม่มีอะไรแปลกเป็นพิเศษเกี่ยวกับเสียงนั้น และก็ดูเหมือนเหยือกธรรมดาทั่วไป เมิ่งฮ่าวมองไม่ออกว่ามันพิเศษเช่นไร แม้แต่จิตสัมผัสของเขาก็ไม่อาจจะมองเห็นสิ่งผิดปกติใดๆ
อันที่จริง ถ้าเขาสังหารปรมาจารย์ต้าโถวไป จากนั้นก็ควานหาในถุงสมบัติของมัน แม้เมิ่งฮ่าวจะหยิบเหยือกนั้นขึ้นมา เขาก็คงคิดว่าเป็นเครื่องดนตรีอย่างใดอย่างหนึ่ง และคงไม่ให้ความสนใจมันอีกต่อไป
เห็นได้ชัดว่าปรมาจารย์ต้าโถวกลัวว่าจะเกิดการเข้าใจผิด มันรีบกัดนิ้วชี้ข้างซ้ายให้เป็นแผลอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หยดโลหิตลงไปในรูทั้งเก้าของเหยือกนั้น กระทำตามลำดับขั้นตอนอย่างเคร่งครัด
ปรากฎราวกับว่ามีกลไกบางอย่างที่เมิ่งฮ่าวไม่เคยเห็นมาก่อน ตอนนี้ถูกเปิดออกโดยต้าโถว เหยือกนั้นเริ่มเปล่งแสงสีดำออกมา เห็นได้ชัดว่าไม่มีสายลมอยู่ในบริเวณนี้ แต่เหยือกใบนั้นก็ยังคงส่งเสียงดังออกมาอย่างต่อเนื่อง
ทันใดนั้น กระแสของสัญลักษณ์เวทก็เริ่มลอยออกมาจากเหยือกเล็กๆ ใบนั้น หมุนวนเป็นวงกลมไปรอบบริเวณนั้น ตามด้วยกลิ่นอายอันน่ากลัว
เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ยกนิ้วชี้จากมือขวาขึ้นมา ทำให้เหยือกสีดำนั้นลอยมาอยู่บนฝ่ามือ จากนั้นเขาก็ตรวจสอบมันอย่างละเอียด
อย่างช้าๆ เมิ่งฮ่าวเริ่มตื่นเต้นมากขึ้น สัญลักษณ์เวทที่ก่อตัวเข้าด้วยกัน สร้างเป็นภาพของวิญญาณที่กำลังกู่ร้อง เมื่อมองไปที่มัน เขาก็รู้สึกได้อย่างลึกล้ำว่านี่เป็นของวิเศษอย่างแท้จริง
“นี่เป็นสิ่งที่ข้าได้มาจากซากปรักหักพังเมื่อหลายปีมาแล้ว” ปรมาจารย์ต้าโถวกล่าว เลือกคำพูดอย่างระมัดระวัง ไม่กล้าปิดบังสิ่งใด “ข้าพบมันบนร่างของผู้ฝึกตนอสูร ที่มีเขาสองข้างบนศีรษะ ยังมีแผ่นหยกด้วย ซึ่งข้าอ่านและทำลายไปแล้ว เป็นบันทึกวิธีการใช้เหยือกสายลมปีศาจนี้ มันยังบอกด้วยอีกว่าผู้ฝึกตนอสูรนั้น มาจากสถานที่บางแห่งที่ถูกเรียกว่าขุนเขาที่สี่ และก่อนที่มันจะตายไป ก็ได้ส่งของชิ้นนี้ให้กับผู้สืบทอดต่อไป”
ถ้าปรมาจารย์ต้าโถวไม่ได้พูดเกี่ยวกับขุนเขาที่สี่ เมิ่งฮ่าวก็อาจจะสงสัยต่อไป แต่หลังจากที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ แสงที่แทบมองไม่เห็นก็สาดประกายออกมาจากดวงตา
เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเก้าขุนเขาทะเล เป็นสิ่งที่ผู้ฝึกตนทั่วไปไม่อาจจะรับรู้ได้ ในการคาดคะเนของเมิ่งฮ่าว ผู้คนที่รู้เรื่องนี้แน่นอนว่าหายากมาก
โดยไม่กระพริบตา เขาเก็บเหยือกเล็กๆ ใบนี้ไว้ และจากนั้นก็มองไปยังปรมาจารย์ต้าโถว
มันเริ่มกระวนกระวายมากขึ้นในทันที และรีบกล่าวว่า “สหายเต๋า, เมื่อข้ายังอยู่ ศาลาสมบัติของสามสำนักใหญ่ก็น่าจะปลอดภัย แต่เมื่ออีกสองสำนักรู้ว่าปรมาจารย์ของพวกมันตายไปแล้ว ก็คงไม่นานก่อนที่ศิษย์ของพวกมันจะเริ่มแบ่งทรัพย์สมบัติกัน ท่านคิดว่าพวกเราควรจะรีบไปที่นั่นให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้หรือไม่?”
ในตอนนี้ ลำแสงนับร้อยใกล้เข้ามาจากที่ห่างไกลออกไป การมองเห็นผู้คนมากมายเช่นนี้ ก็ทำให้ปรมาจารย์ต้าโถวกังวลใจมากยิ่งขึ้น
ความหวาดกลัวต่อเมิ่งฮ่าวของมัน ไม่อาจจะมากไปกว่านี้อีกแล้ว ความหวาดกลัวได้ฝังลึกแน่นลงไปในจิตใจ ถ้ามันสามารถย้อนเวลากลับไปได้ มันต้องไม่ยอมไปตอแยกับสิ่งมีชีวิตที่เหนือมนุษย์ผู้นี้อย่างแน่นอน
ถึงแม้มันจะไปมีเรื่องกับเขา มันก็ต้องไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับการทำลายค่ายกลเวทนั้นอย่างแน่นอน จริงๆ แล้ว เพื่อรักษาชีวิตของมันไว้ มันคงต้องสังหารปรมาจารย์จากสองสำนักใหญ่นั้นอย่างแน่นอน
เมิ่งฮ่าวรับรู้ได้ว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ด้วยการมองแค่แวบเดียว หลังจากครุ่นคิดชั่วครู่ เขาก็พยักหน้า
ต้าโถวถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมา แต่จากนั้น ก็เริ่มกังวลใจขึ้นมาอีกครั้งในทันที มันเกรงว่าศิษย์ของอีกสองสำนักจะแบ่งสมบัติเหล่านั้นไปจริงๆ ไม่นานหลังจากนั้น มันและเมิ่งฮ่าวก็กลายเป็นลำแสงหลากสี พุ่งกลับไปยังอาณาเขตของเมืองตงลั่ว
ไม่กี่วันต่อมา ก็มองเห็นเกราะป้องกันเรืองแสงสีเหลือง ปกคลุมภูเขาหิมะสีขาวซึ่งห่างออกไปไม่ไกลนักจากเมืองตงลั่ว สีขาวของภูเขาและแสงสีเหลืองรวมเข้าด้วยกัน จนเกิดเป็นภาพที่สวยงาม แม้ว่าจะดูไม่เข้ากันก็ตามที
เมิ่งฮ่าวลอยอยู่ด้านนอกภูเขา เขาไม่ได้โจมตีด้วยตัวเอง ปล่อยให้ต้าโถวและผู้ฝึกตนศีรษะล้าน ซึ่งเคยเป็นสมาชิกของเก้าผู้ฝึกตนแห่งภูเขาสีดำโจมตีแทน คนทั้งสองพร้อมกับผู้ฝึกตนนับร้อยที่ติดตามเมิ่งฮ่าวมา เต็มอยู่ในท้องฟ้า เสียงระเบิดดังกึกก้องกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง
ต้าโถวทุ่มเทอย่างเต็มที่ ดวงตาแดงก่ำ มันกลัวว่าไม่อาจจะทำลายเกราะป้องกันเพื่อเข้าไปด้านในได้ ผู้ฝึกตนศีรษะล้านก็คิดเช่นเดียวกัน เห็นได้ชัดว่าเพื่อประจบเอาใจเมิ่งฮ่าว คนทั้งสองแทบจะแข่งขันกันเอง ขณะที่พวกมันนำวิชาเวทต่างๆ ทั้งหมดออกมาใช้โจมตี
ภายใต้การโจมตีอันทรงพลังของคนทั้งสองเช่นนี้ รวมถึงผู้ฝึกตนอีกหลายร้อยคน ทำให้สำนักใหญ่อันต่ำต้อยนี้ต้านทานได้แค่ธูปไหม้หมดไปหนึ่งดอก จากนั้น เกราะป้องกันก็พังทลายกลายเป็นชิ้นส่วนของแสงสีเหลืองนับไม่ถ้วนกระจายออกไป ขณะที่เกราะป้องกันแหลกสลาย สีขาวของภูเขาหิมะที่ด้านล่างก็เริ่มมองเห็นได้ชัดเจน
ไม่จำเป็นต้องทำการสังหารหมู่ใดๆ หลังจากที่เกราะป้องกันพังทลายลง ผู้ฝึกตนของสำนักฮั่นสุ่ยเกือบร้อยคนก็ให้คำมั่นสัญญาว่าจะภักดีต่อเมิ่งฮ่าวในทันที
ยิ่งไปกว่านั้น พวกมันก็ยื่นส่งทรัพย์สมบัติของสำนักให้กับเขาด้วยความเคารพ ขุมกำลังของเมิ่งฮ่าวในตอนนี้มีเกือบหกร้อยคน ขณะที่พวกเขามุ่งหน้าตรงไปยังสำนักใหญ่อีกแห่ง
คนทั้งหมดเคลื่อนที่ไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่ในครั้งนี้ได้พบกับการต่อต้านเล็กน้อย ก็คือบุรุษวัยกลางคนที่มีรอยสักภาพศักดิ์สิทธิ์สามภาพอยู่บนร่างที่ค่อนข้างสูงใหญ่ การโจมตีของมันเกิดขึ้นพร้อมกับภาพลวงตาของภูเขาและแม่น้ำ รวมถึงมังกรวารีพิษ ถึงแม้ทุกคนสัญญาว่าจะจงรักภักดี แต่คนผู้นี้ก็ยังคงแอบลอบโจมตีอย่างดุร้าย มันได้สังหารผู้คนที่ยอมจำนนไปมากมาย จากนั้นก็พยายามจะหลบหนีไป
ขณะที่มันพยายามจะทำลายเวทผนึกเพื่อจะหลบหนีไป ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็สาดประกายเย็นชา เขาพุ่งตรงไป เพียงชั่วพริบตาก็มาอยู่เบื้องหน้ามัน เขาต่อยมันไปหนึ่งหมัดอย่างแผ่วเบา
เสียงระเบิดดังเต็มอยู่ในอากาศ โลหิตกระจายออกมาจากปากของมัน ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างชั่วร้าย แต่ก่อนที่มันจะทันได้ใช้วิชาเวทใดๆ เมิ่งฮ่าวก็ต่อยมันอีกครั้ง เขาไม่ได้สังหารมัน แต่ควบคุมพื้นฐานฝึกตนของมันไว้ และจากนั้นก็ทำให้มันสลบไป
สำหรับสำนักสุดท้าย สำนักฉีอู้ (แปลกประหลาด) ไม่มีปัญหาใดๆ ในที่แห่งนั้น ด้วยการปรากฎตัวของต้าโถว จึงไร้การต่อต้านใดๆ และศิษย์ของสำนักร้อยกว่าคนก็ให้การต้อนรับเมิ่งฮ่าวด้วยความเคารพ
ประตูใหญ่ของสำนักฉีอู้ ตั้งอยู่ในบึงน้ำที่กว้างใหญ่ ซึ่งอยู่รอบๆ ภูเขา สำนักเงียบสงบและดูมีรสนิยม ก่อสร้างอย่างมีระเบียบแบบแผน หลังจากที่ได้เห็น เมิ่งฮ่าวก็ตัดสินใจยึดครองสถานที่แห่งนี้สักระยะเวลาหนึ่ง
ไม่กี่วันหลังจากนั้น นกแก้วและผีโต้งต่างก็ฟื้นสติกลับคืนมา นกแก้วตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้เห็นผู้ติดตามใหม่เกือบเจ็ดร้อยคน มันกระพือปีกไปมา ส่งเสียงออกคำสั่งขณะที่เริ่มสอนผู้ฝึกตนเหล่านั้น
สำหรับผีโต้ง มันบินไปมาอย่างขี้เกียจ บนศีรษะของใครบางคนที่สะดุดตามัน ขณะที่เริ่มเย้ยหยันและวิพากษ์วิจารณ์นกแก้วเหมือนเช่นเคยอย่างต่อเนื่อง
เมิ่งฮ่าวถามพวกมันเกี่ยวกับสายฟ้าที่สุ่มฟาดลงมาจากท้องฟ้า แต่ทุกครั้งที่เขาพูดเรื่องนี้ ทั้งนกแก้วและผีโต้ง ก็จะมองไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หายตัวไปในทันที
ในที่สุด เมิ่งฮ่าวก็มีเจตนายั่วยุนกแก้ว เมื่อศักดิ์ศรีของมันถูกท้าทาย มันก็พูดโพล่งบางสิ่งออกมา ซึ่งทำให้ใบหน้าเมิ่งฮ่าวดูน่าเกลียดขึ้นเล็กน้อยในทันที “แล้วยังไง!” มันกล่าว “อู่เหยียช่วยถ่วงเวลาทัณฑ์สวรรค์ แน่นอนว่าก็ต้องมีสายฟ้าบางสายที่คลาดเคลื่อนไปบ้าง มันไม่ได้ตั้งใจจะสังหารเจ้า เป็นเพียงแค่สายฟ้าอันน้อยนิด!”
ด้วยเช่นนั้น นกแก้วก็กระพือปีกของมัน และบินออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เมิ่งฮ่าวนั่งเข้าฌาณตามลำพังอยู่ในห้อง ซึ่งเคยเป็นห้องของต้าโถว
เวลาแวบผ่านไป ในที่สุดก็ผ่านไปครึ่งเดือน ในช่วงเวลานั้น นามของปรมาจารย์จินกวงได้มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วทั้งอาณาเขตของดินแดนสีดำ ถึงแม้ว่านามนี้ไม่ได้กระจายออกไปไกลมากนัก แต่ผู้ฝึกตนที่อยู่ในบริเวณนี้ต่างก็รู้จักนามนี้กันทุกคน
จากตำนานที่เล่าขานสืบต่อกัน ปรมาจารย์จินกวงชอบที่จะสังหารผู้ฝึกตน, ชอบดื่มสุราที่หมักด้วยเสาแห่งเต๋า, ชอบกลืนกินแกนปราณ และมีภาพลักษณ์ของปีศาจร้าย คำอธิบายที่เกินจริงเช่นนี้กระจายออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งทุกคนที่พูดถึงปรมาจารย์จินกวง ก็มักจะมีใบหน้าที่ซีดขาวด้วยความหวาดกลัว
ปรมาจารย์จินกวง ผู้ฝึกตนที่ดุร้าย และเป็นผู้นำของกลุ่มคน ตอนนี้เขากำลังถูกยึดถือว่าเป็นผู้ที่มีอำนาจอยู่ในพื้นที่แถบนี้
ผู้คนในดินแดนสีดำเริ่มมีความกระวนกระวายใจมากขึ้น สิบวันก่อนหน้านี้ หนึ่งในแปดตระกูลที่ยังเหลืออยู่ ซึ่งเคยเป็นพันธมิตรของจิ่วเหมิง (เก้าสหพันธ์) จู่ๆ ก็ถูกโม่ถู่กง (ราชวังดินแดนสีดำ) โจมตี และถูกกำจัดไปโดยสิ้นเชิง ในชั่วเวลาค่ำคืนเดียว เมืองก็ถูกเปลี่ยนมือ จากนั้น โม่ถู่กงก็ออกคำสั่งไปทั่วทั้งดินแดนสีดำ
มันบอกว่า ตอนนี้โม่ถู่กงเป็นผู้มีอำนาจเพียงหนึ่งเดียวในดินแดนสีดำ สำหรับอีกเจ็ดตระกูลที่รวมตัวกันเรียกว่า จิ่วเหมิง, พวกมันต้องถูกกำจัดไป
สงครามใหญ่ได้เริ่มขึ้นอย่างแท้จริง!
ท่ามกลางความปั่นป่วนวุ่นวาย และความรู้สึกหวาดกลัวกังวลใจ ขุมกำลังของเมิ่งฮ่าวก็กลายเป็นที่หลบภัยในทันที ผู้ฝึกตนเข้ามาร่วมด้วยมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงผู้ที่อยู่ในขั้นสร้างแกนลมปราณบางส่วน
ในช่วงครึ่งเดือนที่เหตุการณ์ทั้งหลายได้เกิดขึ้น เมืองตงลั่วเริ่มว่างเปล่าขึ้นไปเรื่อยๆ ทันใดนั้น พวกมันก็เริ่มมองไปยังเมิ่งฮ่าว และขุมกำลังเกือบพันคนของเขา ราวกับพยัคฆ์มองดูเหยื่อของมัน
ไม่กี่วันต่อมา คำว่า ‘วิหารจินกวง’ ก็เริ่มกระจายออกไป นอกจากตระกูลตงลั่วแล้ว ตอนนี้กองกำลังกลุ่มนี้มีความแข็งแกร่งมากที่สุดในอาณาเขตของเมืองตงลั่ว
ในสถานการณ์แห่งสงครามเช่นนี้ ขุมกำลังของเมิ่งฮ่าวเกือบพันคน ก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง เขาคือคำสั่งในพื้นที่แห่งนี้!
อันที่จริง เมิ่งฮ่าวไม่เคยคิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายเช่นนี้ นกแก้วและผีโต้ง ดูเหมือนจะสนใจเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการรับสมัครผู้ฝึกตนให้มากขึ้น ผีโต้งรู้สึกว่าการได้เปลี่ยนแปลงผู้คนนับพันในครั้งเดียว เป็นสิ่งที่มันไม่เคยทำมาก่อนอย่างแน่นอน และคงเป็นความสำเร็จที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นชีวิตในอดีต, ปัจจุบัน หรืออนาคตของมัน
สำหรับนกแก้ว สิ่งที่มันสนใจก็คือ เมื่อได้ยินเสียงของผู้คนนับพันกล่าวคำพูดยกย่องมัน เชื่อมั่นในอู่เหยีย ได้รับชีวิตชั่วนิรันดร์ ก็ทำให้ขนทั่วร่างของมันลุกตั้งชี้ชันขึ้นมาในทันที
ดูเหมือนพวกมันได้ลืมไปแล้วว่า ทุกๆ ไม่กี่วัน สายฟ้าก็จะฟาดลงมาจากท้องฟ้า และพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าวได้อย่างไร

About wuxiathai

Organic Theme is officially developed by Templatezy Team. We published High quality Blogger Templates with Awesome Design for blogspot lovers.The very first Blogger Templates Company where you will find Responsive Design Templates.

Copyright © 2015 ผนึกสวรรค์ สยบมาร สะท้านเทพ

Designed by Templatezy | Distributed By Gooyaabi Templates