วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560

ตอนที่ 326 : ข้าไม่เคยทดลองมันมาก่อน!

Posted By: wuxiathai - 00:25
“รากไม่อาจถูกทำลายและใบก็ไม่มีทางตาย, ใบไม่มีทางตาย และรากไม่อาจถูกทำลาย…” ดวงตาเมิ่งฮ่าวเต็มไปด้วยความครุ่นคิด ขณะที่เขารวบรวมชิ้นส่วนเข้าด้วยกัน รูปแบบชีวิตมหัศจรรย์ซึ่งแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างมารดาและบุตรตามธรรมชาติ เป็นสิ่งที่หาได้ยากในโลกนี้ แทบจะไม่มีทางหาพบ
สิ่งที่ปรากฎขึ้นในจิตใจเมิ่งฮ่าวตอนนี้ก็คือคำพูดที่เขาได้ยินมาเมื่อหลายปีก่อน
“ดักแด้ไม่อาจถูกทำลาย และเส้นใยก็ไม่มีวันขาด, เส้นใยไม่มีวันขาด และดักแด้ก็ไม่มีทางถูกทำลาย!” คำพูดเหล่านี้ได้อธิบายถึงสิ่งมีชีวิตนั้น เมื่อป้อนใบหม่อนแหสายฟ้าให้ มันก็จะกลายร่างจากตัวไหมหิมะเยือกเย็น เป็นแมลงมหัศจรรย์ที่เรียกว่า ดักแด้ไร้ตา
“นอกจากดักแด้นี้แล้ว ก็ยังมีวิธีอื่นอีก แต่การเติบโตของมันก็ยังไม่สมบูรณ์…” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขณะที่เขาคิดเกี่ยวกับร่างจำแลงโลหิต
เพราะแกนกลางของแต่ละร่างจำแลงโลหิตเป็นผิวหนังของผีโต้ง ตราบเท่าที่ตัวมันไม่ตายไป พวกมันก็ไม่อาจถูกทำลายลงไปได้ ถึงจะถูกทำลายไป พวกมันก็สามารถสร้างขึ้นมาใหม่อย่างง่ายดาย อาจจะคุยโอ่ได้ว่าไม่อาจทำลายพวกมันได้ตลอดกาลนาน แต่ความเป็นจริงก็คือ เป็นเรื่องที่ยากเย็นอย่างมากที่จะสังหารพวกมันไปอย่างแท้จริง
แต่พื้นฐานฝึกตนของร่างจำแลงโลหิตก็ยากที่จะย้ายมาจากร่างของมันเอง พวกมันอาจจะถูกทำลายได้ยาก แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับทัณฑ์สวรรค์ เมิ่งฮ่าวก็รู้ว่าร่างจำแลงโลหิตต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
“นอกจากข้ากลั่นสกัดโลหิตจากเก้าชั่วคน แล้วก็รวมของตัวเองเข้าไปด้วย จากนั้นก็บังคับให้โลหิตอีกรุ่นอยู่บนสุดของเก้าชั่วคน มันก็จะกลายเป็นวิญญาณโลหิต ซึ่งข้าไม่อาจทำลายได้ และวิญญาณก็ไม่มีทางสลายไป!”
ขณะที่เมิ่งฮ่าวจมอยู่ในภวังค์ห้วงความคิด เจ้านกแก้วที่หยิ่งผยองก็มองมายังเมิ่งฮ่าวด้วยท่าทางดูถูกอีกครั้ง “ไม่ต้องแม้แต่จะไปคิดถึงมัน” จู่ๆ มันกล่าวขึ้น “มีแต่ผู้คนที่มีโชคอย่างน่าเหลือเชื่อ และมีดวงชะตาอันน่ามหัศจรรย์เท่านั้น ถึงจะมีโอกาสได้ครอบครองรูปแบบชีวิตมหัศจรรย์เช่นนั้นได้ ยกตัวอย่างเช่น ข้า, อู่เหยีย, ครั้งหนึงเคยมีรากของดอกบัวมหัศจรรย์ มีแต่บุคคลเช่นข้าถึงจะมีสิ่งของเช่นนั้น”
เมิ่งฮ่าวไม่สนใจนกแก้ว และเริ่มคิดต่อไป ความคิดใหม่ๆ ทันใดนั้น ก็แวบขึ้นมาในจิตใจ คำพูดของนกแก้วได้เปิดประตูที่เกี่ยวข้องกับทัณฑ์สวรรค์ในจิตใจเขาออก นอกจากนั้น เขาก็ไม่ได้อยู่ในเขตขุมทรัพย์เซียนโลหิต ครั้งนี้เขาต้องเผชิญหน้ากับทัณฑ์สวรรค์นั้นเพียงลำพัง
เขาเคยครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านี้มาเป็นเวลานาน, นานมากแล้ว คำพูดของนกแก้วเมื่อครู่นี้ได้จุดประกายไฟในจิตใจของเขาขึ้นมา ความคิดและคำถามทั้งหมดได้ระเบิดอยู่ในจิตใจเขา
“เกี่ยวกับรูปแบบชีวิตมหัศจรรย์” เขาคิด “มีบางสิ่งที่ข้าสามารถทำได้ ข้าสามารถยืมปราณอสูรจากสวรรค์และปฐพี เพื่อสร้างเป็นกายทิพย์ นอกจากนั้นกายทิพย์นี้ก็สามารถนำเจตจำนงของข้าไปกับมันด้วยเพื่อสังหารผู้คน ข้าอยากรู้นักว่าถ้าข้าสามารถใช้มันต่อต้านทัณฑ์สวรรค์…แย่ยิ่งนักที่กายทิพย์นี้อ่อนแอมาก แต่ก็สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้มันได้” ดวงตาเขาสาดประกายขึ้น ขณะที่ตระหนักว่าจริงๆ แล้ว เขามีรูปแบบชีวิตมหัศจรรย์อยู่แล้วถึงสามชนิด
“และข้าก็มีผีโต้งด้วย!” เขาคิด ดวงตาแวบแสงที่แทบมองไม่เห็นออกมา การใช้ผีโต้งเพื่อต่อต้านทัณฑ์สวรรค์จะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาจะใช้ เขาได้รับรู้ถึงความสามารถในการกลืนกินสายฟ้าของมันมานานแล้ว
“ลืมมันเถอะ, ลืมมันไป” นกแก้วกล่าว ชายตามองมายังเมิ่งฮ่าว ถอนหายใจ สีหน้าของมันเต็มไปด้วยท่าทางรอบรู้ไปทุกเรื่อง “วิธีเมื่อครู่นี้ช่างยากเย็นอย่างแท้จริง ในสวรรค์ทั้งหมดนี้ ข้าคิดว่ามีแต่อู่เหยียที่สามารถครอบครองสิ่งของเช่นนั้นได้ สำหรับคนอื่นๆ เพียงเกิดขึ้นแต่ในความฝันของพวกมันเท่านั้น”
“อู่เหยียคือผู้คงแก่เรียน, ปักษาเซียนโบราณ และผู้รอบรู้ ตกลง ข้าจะบอกวิธีอื่นแก่เจ้า นี่เป็นวิธีที่ไม่ยากเย็นมากนัก จริงๆ แล้ว มันก็ค่อนข้างง่าย แต่วิธีการนี้ก็ใช้ได้เฉพาะบุคคลที่มีโชคและดวงชะตาที่พิเศษเฉพาะเท่านั้น”
“มันไม่ได้ซับซ้อนมากมายนัก เจ้าเพียงแค่จำเป็นต้องมีวิญญาณสายฟ้าอยู่ข้างกาย ถ้าเจ้ามี มันก็จะเอาชนะทัณฑ์สวรรค์ได้ง่ายมาก แต่เจ้าต้องสั่งสอนวิญญาณสายฟ้าด้วยตัวเอง โดยหลักแล้ว เจ้าต้องเริ่มจากวิญญาณของผู้ฝึกตนทีมีพื้นฐานฝึกตนอันลึกล้ำ จากนั้นก็ค่อยๆ ใช้สายฟ้าเปลี่ยนแปลงมันให้กลายวิญญาณที่มีรูปร่าง นอกจากนั้น เจ้าต้องค่อยๆ เพิ่มจำนวนสายฟ้าให้มากขึ้น แต่ต้องไม่ทำลายวิญญาณนั้นไป จากนั้นเจ้าก็จะบังคับให้มันกลายเป็นวิญญาณสายฟ้าที่เจ้าสามารถนำมาใช้ได้ในที่สุด” นกแก้วอ้าปากหาว และจากนั้นก็บินออกไปจากถ้ำแห่งเซียนอย่างรวดเร็วราวแสงแวบผ่าน ด้านนอก มันเริ่มสอนกลุ่มผู้ฝึกตนเกี่ยวกับเวทเซียนที่มันกล่าวอ้างเองอีกครั้ง
เมิ่งฮ่าวนั่งขัดสมาธิอยู่ในถ้ำแห่งเซียน ครุ่นคิดเกี่ยวกับสิ่งที่นกแก้วกล่าวเรื่องวิญญาณสายฟ้า สีหน้าแปลกๆ ปรากฎขึ้นบนใบหน้า หลังจากนั้นสักพัก เขาก็ตบไปที่ถุงสมบัติ หน้ากากสีโลหิตก็ปรากฎขึ้นอยู่ในมือ เขาส่งจิตสัมผัสเข้าไปด้านใน เพื่อไปหาปรมาจารย์ตระกูลหลี่ ซึ่งถูกผีโต้งลืมไปแล้วหลังจากการปรากฎตัวของนกแก้ว
ปรมาจารย์ตระกูลหลี่ไม่ได้หมดอาลัยตายอยากเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป แต่ทันทีที่มันเห็นเมิ่งฮ่าว ร่างของมันก็เริ่มสั่นสะท้าน เห็นได้ชัดว่า ความหวาดกลัวต่อผีโต้งของมันได้มาถึงระดับขั้นสูงสุด
เมิ่งฮ่าวเดินเป็นวงกลมไปรอบๆ ปรมาจารย์ตระกูลหลี่ ตรวจสอบรูปร่างวิญญาณของมัน หลังจากนั้นดวงตาเขาก็เริ่มสาดประกาย
แสงเจิดจ้าในดวงตาของเขา ทำให้จิตใจปรมาจารย์ตระกูลหลี่เริ่มหวาดกลัวขึ้นมา
“เจ้า…เจ้ากำลังวางแผนจะทำอะไร?!” มันถามอย่างระมัดระวัง มีความรู้สึกเลวร้ายราวกับว่ามีบางสิ่งที่น่าอนาถใจกำลังจะเกิดขึ้นกับร่างวิญญาณของมัน หลังจากที่มันใช้เวลาอย่างทุกข์ทรมานกับผีโต้ง โดยไม่มีทางตกตายไปได้ มันก็ไม่ได้ภาคภูมิใจหรือหยิ่งยโสเหมือนที่เคยเป็นอีกต่อไป
เมิ่งฮ่าวไม่กล่าวอันใด หลังจากตรวจสอบปรมาจารย์ตระกูลหลี่อยู่สักพัก เขาก็ทำบางอย่างกับจิตสัมผัสของเขา และสายฟ้าก็ปรากฎขึ้นภายในหน้ากากสีโลหิต มันฟาดลงมายังปรมาจารย์ตระกูลหลี่ กระแทกตรงไปบนร่างวิญญาณของมัน
“บัดซบ! เจ้ากำลังทำบ้าอะไรอยู่?!?!” มันสั่นสะท้าน และร่างวิญญาณของมันก็แวบขึ้นราวกับมันกำลังจะแตกสลายไป
เมิ่งฮ่าวพยักหน้า จากนั้นก็ใช้จิตสัมผัสของเขาอีกครั้ง เพื่อเรียกสายฟ้าออกมาอีก และสายฟ้าเส้นแล้วเส้นเล่าก็ส่งเสียงดังก้องออกมา ขณะที่พวกมันกระแทกลงไปบนปรมาจารย์ตระกูลหลี่ ซึ่งส่งเสียงแผดร้องแหลมเล็กออกมาอย่างต่อเนื่อง
ขั้นตอนนี้ใช้เวลาถึงหนึ่งชั่วยาม จนกระทั่งร่างวิญญาณปรมาจารย์ตระกูลหลี่เริ่มสลัวเลือนลางลง
“เจ้าโรคจิต!” ปรมาจารย์ตระกูลหลี่ร้องออกมา กัดฟันแน่น “เจ้ามันบ้าบัดซบ! เจ้าผีโต้งนั่นก็เป็นฝันร้ายด้วยเช่นกัน! สักวันหนึ่งข้าต้องแก้แค้นให้ได้!” มันด่าทอสาปแช่งต่อไป แต่ภายในจิตใจมันจริงๆ แล้วก็รู้สึกสมเพชตัวเองเป็นอย่างยิ่ง และกำลังถอนหายใจอย่างต่อเนื่องออกมา
ในถ้ำแห่งเซียน เมิ่งฮ่าวลืมตาขึ้น
“ปรมาจารย์ตระกูลหลี่มีพื้นฐานฝึกตนที่ไม่ธรรมดา มันมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะกลายเป็นวิญญาณสายฟ้า นับจากนี้ไป ข้าจำเป็นต้องใช้ทุกวิธีในการทำให้มันคุ้นเคยกับสายฟ้า ข้ายังต้องการดักแด้ไร้ตาด้วยเช่นกัน แต่ก่อนอื่น ข้าควรจะออกไปรวบรวมต้นสมุนไพรซึ่งเป็นส่วนผสมสุดท้ายที่ต้องใช้สำหรับแกนสีทองสมบูรณ์” เมื่อตัดสินใจได้แล้ว เมิ่งฮ่าวก็ส่งจิตสัมผัสออกไปหาหวงต้าเซียน
มันกำลังมองไปอย่างอิ่มเอมใจ ขณะที่นกแก้วบินไปรอบๆ เหนือกลุ่มคนทั้งหมดซึ่งกำลังวิ่งไปรอบๆ ด้วยรูปแบบที่แตกต่างกัน ร่างหวงต้าเซียนสั่นสะท้านขณะที่เสียงเมิ่งฮ่าว จู่ๆ ก็ดังก้องอยู่ในหัว จากนั้น จิตใจของมันก็ถูกประทับด้วยรูปภาพของต้นสมุนไพรที่เมิ่งฮ่าวต้องการ
ครึ่งเดือนหลังจากนั้น เมิ่งฮ่าวกำลังมองลงไปยังแผ่นหยก ด้านในเป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับต้นสมุนไพรที่เขาต้องการ เบาะแสของมันถูกเปิดเผยขึ้น ในช่วงการสืบหาโดยกลุ่มผู้ฝึกตนมากกว่าร้อย เมิ่งฮ่าวลุกขึ้นยืนและออกไปจากถ้ำแห่งเซียน
“เมืองตงลั่ว สมาชิกของจิ่วเฉิงเหลียนเหมิง (เก้าเมืองสหพันธ์)” ด้านในแผ่นหยกยังมีแผนที่ของดินแดนสีดำ ทำเครื่องหมายตำแหน่งเมืองตงลั่วไว้ ซึ่งไม่ได้ไกลออกไปมากนัก
ตอนนี้ เมิ่งฮ่าวคุ้นเคยกับโครงสร้างอำนาจของดินแดนสีดำ ต้องขอบคุณกลุ่มผู้ติดตามของเขาทั้งร้อยกว่าคนนี้ นอกจากโม่ถู่กง (ราชวังดินแดนสีดำ) และจิ่วเหมิง (เก้าสหพันธ์) แล้ว ดินแดนสีดำก็เต็มไปด้วยผู้ฝึกตนเร่ร่อน ในบางกรณี พวกมันก็รวมตัวกันเป็นกลุ่มเล็กๆ บางกลุ่มก็แข็งแกร่ง, บางกลุ่มก็อ่อนแอ แต่ไม่ว่าอย่างไร พวกมันก็ยังคงอยู่ในดินแดนแห่งความแตกแยกนี้
สำหรับจิ่วเหมิง เป็นกลุ่มที่ตั้งขึ้นมาจากตระกูลผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งมากที่สุดในดินแดนสีดำเก้าตระกูล และเมืองที่เติบโตขึ้นมารอบๆ ตระกูลของพวกมัน, พวกมันได้รวมตัวเข้าด้วยกันและก่อตั้งเป็นพันธมิตรเพื่อต่อต้านอำนาจของโม่ถู่กง
ส่วนผสมที่เมิ่งฮ่าวต้องการก็คือใบกล้วยไม้วิญญาณ ต้นสมุนไพรที่หาได้ไม่ยากเย็นนัก แต่ก็กล่าวกันว่า มันไม่ใช่สิ่งที่ผู้มีพลังอำนาจอันน้อยนิดจะครอบครองได้ มันมีอยู่แต่ในเก้าเมืองหลักเท่านั้น
จากข้อมูลที่เขาได้รับมา เมืองตงลั่วจะมีงานประมูลในเร็วๆ นี้ เม็ดยาจะถูกนำมาขาย รวมถึงต้นสมุนไพร สำหรับใบกล้วยไม้วิญญาณ จริงๆ แล้วมันถูกใช้ในการรักษาอาการบาดเจ็บได้โดยตรง ดังนั้นแน่นอนว่าผู้คนต่างก็ยินดีที่จะซื้อหามัน
เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดแขนเสื้อ ขณะที่เขาออกไปจากอาณาเขตของถ้ำแห่งเซียนเป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งปีกว่า กลายเป็นลำแสงหลากสี พุ่งออกไปราวกับสายฟ้ายังที่ห่างไกล
ต้องขอบคุณเม็ดยาแรกเสริมฟ้า เส้นผมของเขาในตอนนี้กลับมาเป็นสีดำอีกครั้ง และดวงตาก็เต็มไปด้วยความลึกซึ้งแววาว เขาสวมเสื้อคลุมยาวสีเขียว มีหน้าตาหล่อเหลาและดูสุภาพเรียบร้อย บนหน้าผากมีเครื่องหมายที่ดูคล้ายกับเกล็ดปลาและขนนก โดยภาพรวมทั้งหมด เขาดูไม่ธรรมดาโดยสิ้นเชิง
ขณะที่เขาบินออกไปจากถ้ำแห่งเซียน ผีโต้งและนกแก้วก็ติดตามไปด้วย
ขณะที่พวกมันบินไปด้วยกัน นกแก้วก็ดุด่าผีโต้งอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ผีโต้งก็ทะเลาะกลับมาอย่างไม่มีวันสิ้นสุด เป็นเช่นนี้ไปสองสามวันที่ทั้งสองระเบิดสงครามคารมใส่กันเป็นระยะ ในที่สุด นกแก้วก็ใช้ไพ่ไม้ตาย มันเริ่มด้วยชุดคำถาม “เจ้าอยากรู้หรือไม่?” ซึ่งทำให้ผีโต้งกลายร่างเป็นระฆังใบเล็กๆ พันไปรอบๆ ขาของนกแก้วอย่างรวดเร็ว
สุดท้ายนกแก้วก็มาหยุดพักอยู่ที่ไหล่ของเมิ่งฮ่าว เกาะอยู่ที่นั่นด้วยท่าทางหยิ่งยโส ซึ่งเขียนไว้บนใบหน้าของมันว่า มันคือหนึ่งในปักษาเซียนโบราณ เป็นที่นับถือทั้งในสวรรค์และปฐพี โดดเด่นอยู่เหนือสิ่งมีชีวิตทั้งปวง
พื้นดินที่เบื้องล่างพวกเขาเป็นสีดำเข้ม ซึ่งมีต้นไม้สีดำเติบโตขึ้นมาจากดินดำนั้นเป็นระยะ ทั้งหมดนี้ดูน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง ตลอดเวลาเมิ่งฮ่าวไม่เคยหยุดพักเลย เดินทางไปตามข้อมูลบนแผนที่ เขาบินตรงไปยังเมืองตงลั่ว
ในตอนเย็นของหลายวันหลังจากนั้น เมืองสีเขียวก็ปรากฎขึ้นที่เบื้องหน้า มันไม่ได้ดูหรูหราหรือน่าเกรงขราม แต่มีรูปร่างสี่เหลี่ยมจัตุรัส และเห็นได้ชัดว่าถูกสร้างขึ้นมาจากต้นไม้
กำแพงเมืองสร้างมาจากต้นไม้ที่ผสานเรียงร้อยเข้าด้วยกัน สีเขียวที่เกิดจากต้นไม้ทำให้เมืองนี้ดูโดดเด่นออกมาจากพื้นดินสีดำ
ตรงจุดกึ่งกลางของเมือง มีต้นไม้ขึ้นอยู่เต็มไปหมด ต้นไม้เหล่านั้นแตกกิ่งก้านกระจายออกไป ประสานร้อยเรียงก่อตัวกันเป็นชั้น ทั่วทั้งเมืองดูเหมือนจะมีอยู่สองระดับ หนึ่งอยู่บนพื้นดิน อีกหนึ่งอยู่ในท้องฟ้า
ยังมีระดับที่สาม ซึ่งก่อตัวมาจากต้นไม้ยักษ์ขนาดใหญ่เพียงต้นเดียว อยู่ในเมืองชั้นใน เมื่อดูจากที่ห่างไกล เป็นเมืองที่ดูแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง ดวงตาเมิ่งฮ่าวเริ่มสาดประกาย
ขณะที่พวกเขาเข้าไปใกล้ ก็มองเห็นประตูเมือง ซึ่งก่อตัวขึ้นมาจากต้นไม้ขนาดยักษ์แปดต้นประสานเข้าด้วยกัน ผู้ฝึกตนเดินเข้าและออกตรงประตูเมือง และด้านในตัวเมืองก็มีผู้ฝึกตนอยู่ไม่น้อย
ที่เกาะอยู่ด้านบนสุดของต้นไม้ยักษ์ในจุดศูนย์กลางของเมืองเป็นหงส์ยักษ์ มีความยาวสิบกว่าจ้าง มันมีขนสีแดงเจิดจ้า ดูสวยงามอย่างน่าเหลือเชื่อ
เมื่อเพ่งดูอย่างละเอียดก็พบว่า จริงๆ แล้วมันไม่ใช่หงส์ แต่เป็นนกยูง
มันมองไปรอบๆ เมืองด้วยท่าทางหยิ่งผยองเป็นระยะ ไม่มีพลังของพื้นฐานฝึกตนกระจายออกมา แต่จากที่ห่างไกลมันก็ยังมีกลิ่นอายอันทรงพลังและคุกคามซึ่งเมิ่งฮ่าวสัมผัสได้ ทำให้ม่านตาเขาหดเล็กลง
แววตาของนกยูงดูเหมือนจะพูดว่า ไม่มีใครมีค่าควรแก่การมองดูจากมัน มันมองไปรอบๆ ด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง ดูเหมือนจะดูถูกทุกสิ่งทุกอย่างที่มันได้เห็น
ทันใดนั้น เมิ่งฮ่าวก็ได้ยินนกแก้วกระซิบขึ้น “เจ้าบังอาจแสดงท่าทางเช่นนี้ต่อหน้าอู่เหยีย, สารเลว!?”
เมิ่งฮ่าวเคยอ่านข้อมูลเกี่ยวกับนกยูงสีแดงในแผ่นหยก มันเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลตงลั่ว ด้วยเหตุผลที่ไม่รู้บางอย่างสำหรับบุคคลภายนอก มันมักจะบินเป็นวงกลมไปรอบๆ เมืองอยู่เป็นระยะ ทุกคนที่มองเห็นภาพนั้นก็จะยกย่องต่อความงดงามของมัน
ขณะที่พวกเขากำลังจะเข้าไปในเมือง เมิ่งฮ่าวก็ได้ยินเสียงนกแก้วที่อยู่ข้างกายเขา หอบหายใจอย่างรุนแรง
“อี๋? เมื่อเข้ามาใกล้ ข้าก็มองเห็นแววตาของมัน…หือ นกสีแดง, ข้าไม่เคยทดลองมันมาก่อน…” ก่อนที่เมิ่งฮ่าวจะทันมีปฏิกิริยาใดๆ หรือแม้แต่จะคิดเกี่ยวกับความหมายของมัน นกแก้วก็หายตัวไป เมิ่งฮ่าวมองหาขณะที่ระลอกคลื่นกระจายออกไปในอากาศ และริ้วหลากสีก็พุ่งผ่านอากาศตรงขึ้นไปยังนกยูงตัวนั้น

About wuxiathai

Organic Theme is officially developed by Templatezy Team. We published High quality Blogger Templates with Awesome Design for blogspot lovers.The very first Blogger Templates Company where you will find Responsive Design Templates.

Copyright © 2015 ผนึกสวรรค์ สยบมาร สะท้านเทพ

Designed by Templatezy | Distributed By Gooyaabi Templates