ต้าโถวจ้องไปยังเมิ่งฮ่าว จิตใจเต็มไปด้วยความรู้สึกอันอ่อนแอไร้พลังใดๆ หลายวันที่หลบหนี, การไล่ล่าอย่างไม่ลดละ, ความรู้สึกสิ้นหวังหลังจากที่ร้องขอความช่วยเหลือครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งหมดนี้ทำให้มันรู้สึกสิ้นหวังและอ่อนล้า มันเหน็ดเหนื่อยจนสายตัวแทบขาด การใช้วิชาลับอย่างต่อเนื่อง ทำให้อาการบาดเจ็บของมันอยู่ในจุดที่ไม่อาจจะรักษาให้หายดีได้อีกต่อไป ในตอนนี้ มันสามารถใช้พลังจากพื้นฐานฝึกตนได้แค่เพียงสองถึงสามในสิบส่วนเท่านั้น
การใช้พลังที่จำกัดเช่นนั้น มาต่อสู้กับเมิ่งฮ่าว ผู้นำกลุ่มผู้ฝึกตนนับร้อย และเป็นผู้ที่สังหารผู้คนมากมายที่มันขอให้ช่วยเหลือ…เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างแท้จริง มันไม่มีทางที่จะต่อสู้กลับไปแม้แต่น้อยนิด
ต้าโถวรู้เรื่องทั้งหมดนี้ ทันทีที่เมิ่งฮ่าวพูดขึ้น มันก็แผดเสียงออกมา นี่ไม่ใช่การโจมตี และไม่ใช่เสียงระเบิด เป็นเสียงแผดร้องที่ปลดปล่อยแรงกดดันทั้งหมดของมันออกมา เสียงนี้ดังก้องออกไป
“แม้ว่าข้า, โอวหยางต้องตายไป ข้าก็จะไม่ยอมก้มศีรษะให้กับคนชั่วเช่นเจ้า! แม้ข้าจะตายไปในวันนี้ ข้าก็จะเป็นผู้ฝึกตนอีกครั้งในอนาคต! การทำลายวิญญาณของข้า ก็ไม่ได้ทำให้ข้าหลุดไปจากวงจรของการกลับชาติมากำเนิดใหม่ ข้าอาจจะไม่สามารถเลือกเกิดได้ แต่ข้าสามารถเลือกวิธีการตายได้ เจ้าแสงบัดซบ, เจ้าปีศาจร้าย…” ขณะที่คำพูดของมันดังขึ้น มันก็ได้ระบายความเคียดแค้นทั้งหมดออกมา และดูเหมือนจะเป็นกลอุบายของมัน ทันใดนั้น…
โดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า สายฟ้าปรากฎขึ้นในท้องฟ้าที่ไร้กลุ่มเมฆ แต่เป็นสีฟ้าเจิดจ้า พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าวด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ ดูเหมือนจะไม่ยอมเปิดโอกาสให้ทันมีปฏิกิริยาใดๆ สายฟ้าก็กระแทกเข้าไปที่หมวกของเขาด้วยเสียงดังกึกก้อง
ปะจุไฟฟ้าพุ่งกระจายออกไปทั่วจากหมวกใบนั้น บางส่วนก็ตกลงไปบนร่างเมิ่งฮ่าว ซึ่งทำให้เส้นผมเขาลุกขึ้นชี้ชัน กลุ่มควันสีเขียวเข้มพุ่งออกมาจากหมวกใบนั้น
ดูเหมือนว่าสวรรค์ได้เฝ้าจับตาดูการแสวงหาเส้นทางการเป็นเซียนของเมิ่งฮ่าวอยู่ นอกจากนี้ สายฟ้ายังได้กระแทกลงมาในช่วงการพูดจาของต้าโถวพอดี…
ต้าโถวอ้าปากค้างด้วยความตกใจมองมายังเมิ่งฮ่าว นี่เป็นครั้งที่สองในเร็วๆ นี้ที่มันได้เห็นสายฟ้า จู่ๆ ก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้าโดยไม่มีเหตุผล ดูเหมือนจะเป็นสายฟ้าปกติทั่วไป แต่จริงๆ แล้วก็มีพลังที่สามารถกำจัดผู้ฝึกตนขั้นต้นสร้างแกนลมปราณไปได้อย่างง่ายดาย
“กรรมสนอง!” ต้าโถวแผดร้อง “นี่คือผลกรรมที่คนชั่วเช่นเจ้าจะได้รับ! ถูกผ่าเป็นสองเสี่ยงด้วยสายฟ้า!” ตัวสั่นสะท้าน มันเริ่มหัวเราะเสียงดัง สำหรับเมิ่งฮ่าว ใบหน้าเขาดูน่าเกลียดขึ้นเล็กน้อย เขารู้ว่าปรมาจารย์ต้าโถว หมดความคิดที่จะต่อสู้ไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นความสนใจของเขาในตอนนี้ก็คือเพ่งไปที่ด้านบนท้องฟ้ามากกว่า
“นี่เป็นครั้งที่สอง” เขาคิด ลางร้ายในจิตใจรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผ่านไปไม่ถึงครึ่งเดือน สายฟ้าสองสายก็ฟาดลงมาที่เขา ความเร็วของมันช่างน่าเหลือเชื่อนัก ดูเหมือนพวกมันไม่ได้เจาะจงเวลาหรือสถานที่ ยิ่งไปกว่านั้น สายฟ้าแต่ละเส้นก็แผ่กระจายกลิ่นอายของทัณฑ์สวรรค์ออกมาด้วย
คนอื่นๆ อาจจะไม่มีเวลาในการสังเกตเห็นกลิ่นอายเช่นนั้น แต่เมิ่งฮ่าวคุ้นเคยกับทัณฑ์สวรรค์ เขามั่นใจว่านี่ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากทัณฑ์สายฟ้า
“มันกระทำเช่นนี้ทำไม?” เขาคิด “มันเกิดขึ้นแล้วสองครั้ง ซึ่งก็หมายความว่ามันจะเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สาม? หรืออาจจะมากกว่านั้น…?” ทันใดนั้น เขาก็คิดย้อนกลับไปในสิ่งที่ผีโต้งได้เคยพูดไว้สั้นๆ หลังจากที่นกแก้วกลับไปจำศีล และก่อนที่มันจะเริ่มจำศีลด้วยเช่นกัน มันได้กล่าวว่า มันและนกแก้วได้เคยช่วยใครบางคนในการเอาชนะทัณฑ์สายฟ้ามาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็จบลงด้วยการที่คนผู้นั้นพยายามที่จะสังหารพวกมัน
“อย่าบอกข้านะว่า…นี่เป็นเรื่องที่หลังจากการถ่วงเวลาทัณฑ์สวรรค์? สายฟ้าจึงได้ฟาดมาที่ข้าอย่างต่อเนื่อง?” ใบหน้าเมิ่งฮ่าวบิดเบี้ยว ขณะที่มองกลับไปยังต้าโถว และถามเสียงราบเรียบ “เจ้าต้องการเลือกว่าจะตายแบบไหนหรือไม่?”
พื้นดินที่ด้านล่างปั่นป่วน ขณะที่เถาวัลย์อันดุร้ายพุ่งขึ้นมา พวกมันส่ายไปมา ไม่ได้เข้ามาใกล้ แต่ปากที่ปลายเส้นเถาวัลย์ เต็มไปด้วยฟันอันแหลมคม และมีของเหลวหยดหยาดลงมา
ด้วยสีแดงคล้ำ, ส่ายไหวไปมาอย่างแปลกประหลาด, ความน่ากลัว รวมถึงกลิ่นเหม็นเน่าที่กระจายออกมาจากพวกมัน ทำให้ใครก็ตามที่มองเห็นต้องรู้สึกตกใจเป็นอย่างยิ่ง
“ข้า…” ต้าโถวหัวเราะเสียงเย็นชา และมองอย่างดูถูกเหยียดหยามไปยังเมิ่งฮ่าว สีหน้ามันมีความภาคภูมิใจขณะที่ยกมือขึ้นไปที่หน้าผาก
มันไม่ได้ร้องขอให้ไว้ชีวิต เมื่อพิจารณาจากเส้นทางโลหิตที่ทิ้งไว้อยู่เบื้องหลังโดยเมิ่งฮ่าว ต้าโถวก็รู้ว่ามันมีโอกาสน้อยมากที่จะหลบเลี่ยงความตายในครั้งนี้ได้ ดังนั้น ถ้ามันจะตาย มันก็จะตายอย่างสมศักดิ์ศรี
แต่ทันทีที่มือของมันกำลังจะกดลงไปบนหน้าผาก สายฟ้าอีกสาย ทันใดนั้นก็ปรากฎขึ้นในท้องฟ้าที่สว่างจ้า พุ่งลงมายังเมิ่งฮ่าวด้วยความรวดเร็ว เพียงชั่วพริบตา ก็ห่างจากศีรษะเขาไม่เกินสามจ้าง
แต่เนื่องจากสายฟ้าก่อนหน้านี้สองสาย ทำให้เมิ่งฮ่าวได้เริ่มเพ่งมองไปยังท้องฟ้าบ้าง เกือบจะในทันทีที่สายฟ้าเริ่มฟาดลงมา เขาก็ตบไปที่ถุงสมบัติ และหยิบเอาร่างวิญญาณกึ่งโปร่งใสออกมา
ร่างวิญญาณนี้ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากปรมาจารย์ตระกูลหลี่ มีเส้นใยเล็กๆ เชื่อมต่อกับมันไปยังหน้ากากสีโลหิต ทำให้แม้ในขณะที่ตอนนี้มันกำลังลอยอยู่ด้านนอก ก็ยังไม่อาจจะหลบหนีไปได้ ชีวิตหรือความเป็นตายของมัน ถูกตัดสินจากความคิดเพียงครั้งเดียวของเมิ่งฮ่าว
จู่ๆ ก็ถูกดึงออกมาเช่นนี้ ทำให้ปรมาจารย์ตระกูลหลี่มองไปรอบๆ ด้วยความสับสน นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่มันได้มองเห็นท้องฟ้าในโลกภายนอก แต่ก่อนที่มันจะทันได้แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา มันก็ถูกเมิ่งฮ่าวโยนขึ้นไปในท้องฟ้า
เสียงระเบิดดังกระจายออกไป ขณะที่สายฟ้ากระแทกเข้าไปบนร่างวิญญาณของปรมาจารย์ตระกูลหลี่ เสียงแผดร้องแหลมเล็กดังก้องออกมา ขณะที่ปรมาจารย์ตระกูลหลี่ตัวสั่นสะท้าน แผดร้องด้วยความเจ็บปวด และโทสะก็เดือดพล่านไปมา ร่างวิญญาณของมันใกล้จะแตกสลาย ทำให้มันหวาดกลัวเป็นอย่างมาก มันรีบทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อที่จะรวบรวมวิญญาณเข้าด้วยกัน
ถ้าร่างวิญญาณหายไป มันก็ต้องกลายเป็นฝุ่นลอยไปกับสายลมอย่างแน่นอน
ความสับสนของมันหายไปอย่างรวดเร็ว ถูกบังคับให้หายไปโดยเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด มันส่งเสียงแผดร้อง กัดฟันแน่น ขณะที่ลอยอยู่กลางอากาศ มองลงไปยังเมิ่งฮ่าว ถ้าความเกลียดชังสามารถสังหารใครก็ได้ มันก็คงจะเฉือนเมิ่งฮ่าวออกเป็นชิ้นๆ ไปแล้ว
สายฟ้าไม่ได้หยุดลงไปในครั้งที่สาม แต่หลังจากสองสามอึดใจผ่านไป สายฟ้าสายที่สี่ก็พุ่งลงมา ก่อนที่มันจะฟาด เมิ่งฮ่าวซึ่งมีสีหน้าไร้ความรู้สึก ก็โยนปรมาจารย์ตระกูลหลี่ขึ้นไป
สายฟ้ากระแทกเข้าไปบนตัวมัน ทำให้ปรมาจารย์ตระกูลหลี่ส่งเสียงแผดร้องแหลมเล็กออกมา โชคดีที่ร่างวิญญาณของมันแข็งแกร่ง หลังจากที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากผีโต้ง มันก็ฟื้นคืนกลับมาบ้างเล็กน้อย ถึงแม้ว่าจะดูค่อนข้างอ่อนแอบ้างก็ตามที
หลังจากที่เสียงระเบิดดังก้องออกมา ปรมาจารย์ตระกูลหลี่ก็เริ่มดูเกือบจะเลือนลางไปโดยสิ้นเชิง แต่ก่อนที่มันจะสูดลมหายใจ สายฟ้าเส้นที่ห้าก็ฟาดลงมา และเสียงร้องแหลมเล็กอีกเสียงก็ดังก้องออกมา ต้าโถวมองเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
ในครั้งแรก ตอนที่กำลังยืนอยู่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว มันไม่ได้ซ่อนความหวาดกลัวที่อยู่ในดวงตาไว้ มันรู้สึกเห็นใจต่อร่างวิญญาณนี้ เท่าที่มันรับรู้มา เมิ่งฮ่าวเป็นผู้ฝึกตนที่อำมหิตมากที่สุดเท่าที่มันเคยพบเห็นมาอย่างแน่นอน ดูเหมือนเขาไม่ได้จมอยู่ในความชั่วร้าย และไม่ได้จมอยู่ในความโหดเหี้ยม หรือดีงามราวกับเทพเจ้า
“ร่างวิญญาณนี้ช่างน่าอนาถนัก แต่มันก็ยังทำเรื่องเช่นนี้กับมัน” ต้าโถวคิด “ข้าอยากรู้นักว่าพวกมันมีความแค้นอันลึกล้ำใดต่อกัน…ร่างวิญญาณนั้นดูเหมือนใกล้จะกระจายหายไปโดยสิ้นเชิง” มันแอบถอนหายใจ จิตใจหมุนคว้างเนื่องจากความโหดร้ายของเมิ่งฮ่าว ตอนนี้ความรู้สึกของมันถูกประทับตรึงแน่นลงไป
“คนผู้นี้คงขี้ขลาดกลัวตาย และไม่เด็ดขาดเพียงพอ วิญญาณของมันถูกกักขังไว้โดยผู้ฝึกตนที่ชั่วร้ายผู้นี้ ข้า, ถึงอย่างไรก็ได้ตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว ข้าจะไม่จบลงเช่นนี้ ถ้ามันขโมยวิญญาณของข้า ข้าก็อาจจะเป็นเช่นนี้ ถูกทรมานจนวิญญาณสลายไป” เมื่อให้กำลังใจตัวเองจนถึงจุดนี้ ต้าโถวก็ยกมือขึ้นมา เตรียมกระแทกไปบนหน้าผากของมัน ทันใดนั้น ร่างกายของมันก็เริ่มสั่นสะท้าน และการตัดสินใจของมันก็มลายหายไป
ดวงตาของมันเบิกกว้าง เต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อและความหวาดกลัวอย่างรุนแรง นี่เป็นเพราะขณะที่ร่างวิญญาณ ซึ่งดูเหมือนกำลังจะสลายหายไปโดยสายฟ้า แสงสีม่วงก็สาดประกายอยู่ในดวงตาเมิ่งฮ่าว เขาพ่นปราณสีทอง ซึ่งเต็มไปด้วยพลังชีวิตของเขาเองออกมาหนึ่งคำ มีจำนวนไม่มากนัก แต่หลังจากที่มันรวมเข้ากับร่างวิญญาณของปรมาจารย์ตระกูลหลี่ บาดแผลทั้งหมดของมันก็เริ่มสมานตัวกลับคืนมา
ขณะที่มันเกือบจะฟื้นฟูได้อย่างสมบูรณ์ สายฟ้าสายที่หกก็ฟาดลงมา เสียงฟ้าผ่าดังออกไป ตามมาด้วยเสียงแผดร้องแหลมเล็ก ความทุกข์ทรมานเต็มอยู่ในดวงตาของปรมาจารย์ตระกูลหลี่ ตามมาด้วยความสิ้นหวัง เป็นความสิ้นหวังที่จะตกตายไป มากกว่าที่จะมีชีวิตอยู่
ภาพที่เห็นนี้ทำให้ต้าโถวขนลุกตั้งชี้ชัน และใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นขาวซีด มันเริ่มสั่นไปทั้งร่าง คำพูดอันยิ่งใหญ่ที่มันเตรียมจะกล่าวขึ้นมาเมื่อครู่นี้ ในตอนนี้มันทำได้เพียงแค่กลืนลงไปพร้อมกับน้ำลาย มือที่กำลังจะกระแทกไปบนหน้าผากก็ตกลงไปด้านข้าง ความภาคภูมิใจในดวงตาถูกแทนที่ด้วยความสิ้นหวัง
ทันใดนั้น มันก็ตระหนักว่า ถึงแม้มันจะฆ่าตัวตายไป แต่เขาก็เป็นผู้ฝึกตน หลังจากที่มันตายไปแล้ว ก็ยังมีวิธีอีกมากมายที่สามารถใช้สกัดวิญญาณของมัน
มันอาจจะพยายามแสดงท่าทีกล้าหาญไม่กลัวตาย แต่เมื่อได้เห็นวิธีการลงทัณฑ์ทรมานของเมิ่งฮ่าว ต้าโถวก็รู้ว่าการตายไปไม่ใช่วิธีการหลบหนีที่แท้จริง
มันไม่ได้กลัวความตาย แต่สิ่งที่มันหวาดกลัวก็คือ การมีชีวิตอยู่เลวร้ายกว่าตกตายไป
ตอนนี้เมิ่งฮ่าวไม่ได้สนใจต้าโถว และกำลังเพ่งสมาธิไปยังสายฟ้า และวิญญาณของปรมาจารย์ตระกูลหลี่โดยสิ้นเชิง
สิ่งที่เขาสังเกตเห็นก็คือ แม้ในขณะที่ร่างวิญญาณอาจจะพังทลายลงไปได้ทุกเมื่อ เศษประจุไฟฟ้าของสายฟ้าก็ยังหลอมรวมเข้าไปในวิญญาณ ต้องขอบคุณสำหรับการรักษาโดยพลังชีวิตของเมิ่งฮ่าว ทำให้การฟื้นฟูร่างวิญญาณของปรมาจารย์ตระกูลหลี่ทำได้รวดเร็วกว่าสายฟ้าที่มารวมอยู่ด้านใน
“กลั่นสกัดวิญญาณแห่งสายฟ้า, หือ…? ดูเหมือนมันต้องใช้เครื่องสังเวยเพื่อจะกลั่นสกัดสิ่งของเช่นนั้น!” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกาย ขณะที่มองไปรอบๆ เพื่อหาสายฟ้าเพิ่มขึ้นอีก หลังจากเวลาชั่วธูปไหม้หมดครึ่งดอกผ่านไป สายฟ้าเส้นสุดท้ายก็ปรากฎขึ้น หลังจากปรมาจารย์ตระกูลหลี่ดูดซับมันเข้าไป เมิ่งฮ่าวก็นำมันกลับเข้าไปในหน้ากากสีโลหิต มันก่นด่าสาปแช่งเมิ่งฮ่าวอย่างดุร้ายอยู่ตลอดเวลา
ในที่สุด เมิ่งฮ่าวก็มองไปยังต้าโถวอย่างครุ่นคิด ยกมือขึ้นมา กำลังจะสังหารมัน และปล่อยให้เถาวัลย์กลืนมันลงไป และดึงเอาวิชาลับเฉพาะของมันออกมา
นอกจากนี้ ท่าทีของต้าโถวก่อนหน้านี้ก็แน่วแน่ยืนกราน แม้แต่ยินยอมที่จะตายไป ไม่ว่าเมิ่งฮ่าวจะทรมานมันมากแค่ไหน ก็ไม่มีทางที่มันจะบอกความจริงเขาเรื่องวิชาลับนั้น
แต่ในขณะที่เมิ่งฮ๋าวยกมือขึ้นมา ต้าโถวก็เริ่มสั่นสะท้านและใบหน้าก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างรุนแรง
“สหายเต๋า…สหายเต๋า, ฟังข้าก่อน” มันพรั่งพรูออกมา “ข้ารู้ตำแหน่งของศาลาสมบัติลับของสามสำนักใหญ่ทั้งหมด มีของวิเศษมากมายซุกซ่อนอยู่ที่นั่น! ข้าจะยกสมบัติทั้งหมดของสำนักฉีอู้ (แปลกประหลาด) ของข้าให้ท่านเป็นของกำนัล ข้าจะทำทุกอย่างตามที่ท่านสั่ง แม้จะเผชิญหน้ากับภูเขากระบี่ หรือทะเลเปลวไฟ ข้า, ต้าโถว ก็จะไม่ขมวดคิ้วแม้แต่น้อย!” วิธีของเมิ่งฮ่าวเมื่อครู่นี้ ทำให้มันสั่นไปทั้งร่าง ไม่ต้องการให้วิญญาณของมันถูกทรมานหลังจากที่ตายไปแล้ว
เมิ่งฮ่าวอ้าปากค้างไปยังปรมาจารย์ต้าโถวชั่วครู่ ทำให้มันเริ่มหอบหายใจและวิตกกังวลเพิ่มมากขึ้น ได้ยินเสียงหัวใจมันเต้นถี่รัว แต่ดวงตามันก็เต็มไปด้วยการตัดสินใจแน่วแน่ มันสาบานด้วยยาพิษ กัดฟันแน่น ยังได้ดึงเอาโลหิตวิญญาณบางส่วนออกมาจากหน้าผากของมันส่งให้กับเมิ่งฮ่าว ด้วยเช่นนั้น เมิ่งฮ่าวก็สามารถสังหารมันได้ทุกเมื่อ
ต้าโถวเชื่อว่าด้วยความแน่วแน่เช่นนี้ มันถึงจะหลีกเลี่ยงมหันตภัยครั้งนี้ไปได้อย่างแท้จริง
เมิ่งฮ่าวขบคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้สักพัก ไม่นานนักเขาก็ค้นพบสิ่งที่ต้าโถวกำลังครุ่นคิด เขามองไปที่มันชั่วครู่ จากนั้นรอยยิ้มจางๆ ก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้า ในที่สุด เขาก็ยื่นมือออกไป และยอมรับโลหิตวิญญาณของมัน
“ตอนนี้” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ “อธิบายถึงวิชาลับอันแปลกประหลาดของเจ้าให้ข้าฟัง”