วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2560

ตอนที่ 307 : ฟางมู่ก็คือเมิ่งฮ่าว!

Posted By: wuxiathai - 20:42
ในตอนที่จี้หงตงตายไป มีบางสิ่งได้เกิดขึ้นที่ด้านหนึ่งของทะเลเทียนเหอ บนชายแดนของดินแดนตะวันออกอันกว้างใหญ่ บนยอดเขาสีขาว เป็นภูเขาที่ไม่มีหิมะอยู่ แต่ก้อนหินดินทรายที่ก่อตัวขึ้นเป็นภูเขาเป็นสีขาวโดยสิ้นเชิง ดูเหมือนจะไม่มีรอยคราบหรือสิ่งสกปรกใดๆ ปนอยู่เลย
ในดินแดนตะวันออก สถานที่แห่งนี้ถูกเรียกว่าภูเขาสีขาว
สถานที่บางแห่งบนภูเขาสีขาวเป็นบึงน้ำ ซึ่งมีความลึกเป็นอย่างมาก จากตำนานที่เล่าขานกันมา น้ำที่อยู่ในบึงนั้น ไหลลงไปไกลเท่ากับความสูงของภูเขา
ที่กำลังนั่งอยู่ข้างบึงน้ำนั้นเป็นชายชรา มันมีรูปร่างผอมแห้ง ใบหน้าไร้ความรู้สึก และในมือก็ถือคันเบ็ดอยู่ สายเบ็ดตกปลาหย่อนลงไปในบึงน้ำ และในตอนนี้ มันก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ
ทันใดนั้น สายเบ็ดก็ตึงขึ้นมา สีหน้าชายชราไม่ได้เปลี่ยนไป มันกระตุกสายเบ็ดขึ้นด้วยมือขวา เสียงแหลมเล็กแหวกฝ่าอากาศอย่างน่าประหลาดใจดังขึ้น ขณะที่สายเบ็ดลอยขึ้นมา ที่เกี่ยวกับปลายสุดของสายเบ็ดเป็นแสงรูปทรงกลมขนาดเล็ก
ถ้ามองไปทีแสงนั้นอย่างละเอียด ก็จะเห็นว่ามันประกอบด้วยเส้นใยที่กำลังเรืองแสงอยู่นับไม่ถ้วน แต่ละเส้นใยนั้นเป็นใบหน้า และในท่ามกลางของพวกมันทั้งหมด ในจุดศูนย์กลางของแสงลูกทรงกลม เป็นบุรุษวัยกลางคน สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว มันคุกเข่าลงในทันที เริ่มร้องขอความเมตตา
ชายชรามองไปที่มันและกล่าวเสียงราบเรียบ “สำหรับข้าการตกกรรมของเจ้าออกมาจากสิ่งมีชีวิตทั้งหมดก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าความโชคดีของเจ้า ใช่หรือไม่? ทำไมถึงต้องร้องขอความเมตตา?” มือของมันทำท่าคว้าจับอยู่ในกลางอากาศ และแสงลูกทรงกลมก็ลอยเข้าไปในมือ ขณะที่มันจับแสงนั้น บุรุษวัยกลางคนที่อยู่ด้านในก็ส่งเสียงแผดร้องต่อต้านออกมา เป็นเสียงที่ดังขึ้นก่อนตายของมัน นอกจากนั้น มันยังได้กระจายปราณของวงจรอันยิ่งใหญ่ขั้นสุดท้ายวิญญาณแรกก่อตั้งออกมาด้วย
ชายชราปล่อยให้ปราณกระจายออกมา จากนั้น มันก็หย่อนแสงลูกทรงกลมนั้นเข้าไปในปาก เสียงขบเคี้ยวได้ยินออกมา จากนั้นมันก็กลืนลงไป โลหิตไหลซึมออกมาจากมุมปากมันเล็กน้อย ซึ่งมันก็รีบใช้ลิ้นเลียอย่างรวดเร็ว ดวงตาเต็มไปด้วยแสงเจิดจ้า
“อา, รสชาดของกรรม…” มันพึมพำ หลังจากเวลาผ่านไป มันมองขึ้นไปในท้องฟ้า ทันใดนั้น มันก็คุกเข่าลง และหมอบกราบ
มันโขกศีรษะเก้าครั้ง จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน มองไปยังบึงน้ำ หลังจากนั้นสักพัก มันก็ขมวดคิ้ว ยื่นมือออกไป และแผ่นหยกที่แตกหักก็ปรากฎขึ้นในมือ
“หือ?” ดวงตามันสาดประกาย “บุตรแห่งจี้ตายแล้ว…หนึ่งในบุตรแห่งจี้ สายโลหิตของข้า ตายในดินแดนด้านใต้…?” มันบีบลงไปที่แผ่นหยก และภาพของใบหน้าก็ปรากฎขึ้นในจิตใจ
เป็นใบหน้าที่ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเมิ่งฮ่าว!
ในเวลาเดียวกันนั้น เสียงอันแหลมเล็กก็ดังก้องอยู่ในจิตใจของมัน
“ท่านปรมาจารย์, บุคคลที่สังหารข้ามีนามว่าฟางมู่ แห่งสำนักจื่อยิ่น มีอีกนามว่าเมิ่งฮ่าว!” เสียงนั้นเป็นเสียงของจี้หงตง นี่เป็นเจตจำนงสุดท้ายก่อนที่มันจะตายไป เป็นเสียงที่โศกเศร้าโหยหวน เต็มไปด้วยความคับแค้นอย่างมากมาย
ไม่มีทางที่เมิ่งฮ่าวจะคาดคิดว่าเรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้น ตระกูลจี้มีวิธีการส่งผ่านคลื่นเสียงหลังจากที่พวกมันตกตายไป เมิ่งฮ่าวเพียงรู้ถึงความสามารถในการส่งภาพเท่านั้น
โชคดีที่การสกัดโลหิตของตระกูลจากจี้หงตง ก่อนที่มันจะตาย ทำให้มันเจ็บปวดทรมานเป็นอย่างมาก ด้วยเช่นนั้น ทำให้สติของมันปั่นป่วนวุ่นวาย สิ่งที่มันสามารถส่งออกไปได้มีแต่นามของเมิ่งฮ่าว มันได้ลืมเรื่องของฉื่อชิงไปโดยสิ้นเชิง
“เจ้าโง่ที่ไร้ประโยชน์” ชายชรากล่าวพร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย “ถึงมันจะใช้การไม่ได้ แต่โลหิตของตระกูลจี้ก็ยังคงไหลเวียนอยู่ในร่างของมัน ทำไมมนุษย์ธรรมดาถึงได้สังหารมันได้อย่างง่ายดายนัก? ถึงแม้จะเป็นสำนักจื่อยิ่นก็ตามที…” ช่างน่าตกใจนัก ชายชราผู้นี้มองว่าผู้ฝึกตน เป็นเพียงแค่มนุษย์ธรรมดา!
มันโบกสะบัดแขนเสื้อที่กว้างใหญ่ ทำให้แผ่นหยกกลายเป็นฝุ่นผง จากนั้น ก็ทะยานขึ้นไปในอากาศ หายตัวไปในชั่วพริบตา
มีเพียงเสียงอันน่ากลัวของมัน ยังคงดังก้องอยู่ในภูเขา “ดินแดนด้านใต้ ข้าไม่ได้ไปที่นั่นมาหลายปีแล้ว”
———-
ด้านนอกของถ้ำกำเนิดใหม่ ชายชราแปดคนนั่งขัดสมาธิอยู่ใต้ธงของตระกูลจี้ พวกมันลืมตาขึ้นทีละคน ความประหลาดใจและไม่อยากจะเชื่อ สาดประกายออกมา ขณะที่พวกมันลุกขึ้นยืน
ดวงตาของพวกมันเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย และรังสีสังหารอันดุร้ายรุนแรงก็กระจายออกมา นี่เป็นสายตาที่สร้างความตกตะลึงให้กับทุกคนในพื้นที่บริเวณนั้น ทีละคน ทีละคน ผู้ฝึกตนจากสำนักและตระกูลอื่นๆ ต่างก็มองมาด้วยความประหลาดใจ ขณะที่พวกมันมองไปยังเพลิงโทสะอย่างที่ยากจะอธิบายออกมาได้ และรังสีสังหารอันเข้มข้นที่พุ่งออกมาจากชายชราทั้งแปด
พวกมันทั้งหมดเป็นผู้พิสดารขั้นวิญญาณแรกก่อตั้ง ด้วยพื้นฐานฝึกตนที่ไม่ธรรมดานี้ รวมถึงรังสีสังหารของพวกมัน ก็เพียงพอที่จะทำให้สวรรค์สั่นสะท้าน ปฐพีสั่นสะเทือน และเปลี่ยนสีของสายลมไปได้
“หนึ่งในบุตรแห่งจี้ได้ตายไปแล้ว…” ชายชราทั้งแปดสบสายตากัน ท่ามกลางรังสีสังหารที่พุ่งขึ้นมา พวกมันยังสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวของแต่ละคน ซึ่งทำให้จิตใจพวกมันสั่นสะท้าน
จากกฎของตระกูลจี้ พวกมันรู้ว่าถ้าหาผู้สังหารจี้หงตงไม่พบ พวกมันก็จะถูกส่งเข้าไปในหลุมฝังศพพร้อมกับจี้หงตงเป็นเครื่องสังเวย อันที่จริง สมาชิกของตระกูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับพวกมันต้องถูกกำจัดไปในทันที
นั่นเป็นค่าตอบแทนที่พวกมันต้องจ่าย ถ้าไม่อาจหาผู้สังหาร และนำมันกลับไปยังดินแดนตะวันออกได้!
หนึ่งในท่ามกลางชายชราทั้งแปด ยกมือขึ้นตบไปที่ถุงสมบัติ ชิ้นส่วนของแผ่นหยกก็ปรากฎขึ้นในทันที พวกมันทั้งแปด แต่ละคนก็หยิบขึ้นมาหนึ่งชิ้น จากนั้นก็ถือชิ้นส่วนแผ่นหยกนั้นรวมเข้าด้วยกัน แสงอันอบอุ่นก็สาดประกายออกมาในทันที
แสงนั้นพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า และใบหน้าของชายชราทั้งแปดก็เคร่งขรึมอย่างน่าเหลือเชื่อ ขณะที่พวกมันศึกษาแสงนั้นอย่างละเอียด ไม่เพียงแต่พวกมัน ผู้ฝึกตนของสำนักที่อยู่รายรอบ ก็มองดูสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้อย่างละเอียดด้วยเช่นกัน
ภายในแสงนั้นปรากฎเป็นเงาร่าง ที่สวมใส่หน้ากาก ทำให้ยากที่จะตัดสินได้ว่าเป็นใคร แต่หน้ากากนั้นก็กระจายเต็มไปด้วยรังสีสังหาร ทำให้จิตใจของพวกที่มุงดูอยู่ทั้งหมดสั่นสะท้านขึ้นในทันที
“นั่นคือ…”
“นั่นเป็นหน้ากากของขุมทรัพย์เซียนโลหิต! นั่นคือหน้ากากของเซียนโลหิต แห่งชนเผ่าไท่เอ้อโบราณ!”
“ใช่แล้ว! ในช่วงของการล่าขุมทรัพย์เซียนโลหิตครั้งล่าสุด ข้าเห็นมันด้วยสายตาของตัวเอง…แต่ตระกูลหลี่บอกว่าได้เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น ทำให้พวกมันต้องสูญเสียหน้ากากนี้ไป ภายในเขตขุมทรัพย์เซียนโลหิตใช่หรือไม่? แน่นอนว่า สำนักใหญ่ต่างๆ ไม่เชื่อในสิ่งที่พวกมันพูด และได้ทำการตรวจสอบด้วยตัวเอง แต่สุดท้ายพวกมันก็สรุปได้ว่า ตระกูลหลี่ไม่ได้ครอบครองขุมทรัพย์…”
เมื่อชายชราทั้งแปดได้ยินคำพูดเหล่านั้น ดวงตาพวกมันก็สาดประกาย รังสีสังหารของพวกมันก็เริ่มเข้มข้นมากขึ้น พวกมันมองไปยังเสาแห่งแสงที่เป็นของตระกูลหลี่ ทำให้สีหน้าของสมาชิกตระกูลหลี่เปลี่ยนไปในทันที
ก่อนที่พวกมันจะทันได้อธิบายสิ่งใดๆ ออกมา แปดลำแสงก็พุ่งมาจากที่ห่างไกลในทันที ส่งเสียงแหวกฝ่าอากาศแหลมเล็กออกมาขณะที่พวกมันเข้ามาใกล้ เห็นได้ชัดว่านั่นคือผู้อาวุโสของตระกูลหลี่ที่กำลังใกล้เข้ามา
ชายชราที่เป็นผู้นำร้องออกมา “เต้าจื่อตระกูลหลี่ หลี่เต้าอีตายอยู่ในสถานที่แห่งนี้ สหายเต๋าทั้งหลาย พวกท่านรู้จักคนผู้นี้หรือไม่?” มันโบกสะบัดมือ และจอภาพก็ปรากฎขึ้น บนจอนั้นเป็นภาพของเมิ่งฮ่าว
ในเวลาเดียวกันนั้น ภาพเงาร่างหน้ากากที่อยู่ภายในลำแสงที่ถูกฉายออกมาโดย แผ่นหยกของตระกูลจี้ ทันใดนั้น ก็บิดเบี้ยวไปกลายเป็นภาพอื่น อีกครั้งที่ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก…เมิ่งฮ่าว!
ตอนนี้ สายตาทุกคู่ในบริเวณนั้นต่างก็จ้องนิ่งไปบนจอภาพเรืองแสงทั้งสอง และภาพที่ปรากฎอยู่ที่นั่น จิตใจพวกมันหมุนคว้างไปมา
พวกมันหมุนคว้าง ก็เนื่องมาจากข่าวที่ว่า เต้าจื่อแห่งตระกูลหลี่ได้ตายไปแล้ว
พวกมันหมุนคว้าง เพราะสำนักและตระกูลต่างๆ ทั้งหมดในดินแดนด้านใต้ ทันใดนั้น ก็ประติดประต่อเรื่องราวเข้าด้วยกัน ตอนนี้พวกมันรู้แล้วว่า ทำไมตระกูลจี้ถึงได้ประกอบแผ่นหยกที่แตกหักเข้าด้วยกัน และทำไมภาพนั้น ถึงเป็นภาพเดียวกับภาพที่ถูกสร้างขึ้นมาจากตระกูลหลี่
หนึ่งในปรมาจารย์จากสำนักจินซวงอ้าปากค้าง “เป็นไปได้หรือไม่ว่า…หนึ่งในบุตรแห่งจี้ของตระกูลจี้…”
“ถ้านั่นเป็นเรื่องจริง ใครก็ตามที่ทำเรื่องนี้ ได้ไปกระตุ้นให้เกิดหายนะอันใหญ่หลวงขึ้นแล้ว! ตระกูลจี้แห่งดินแดนตะวันออก…พวกมันจะปล่อยวางเรื่องนี้ได้อย่างไร!?”
“ผู้สังหารนั้นเป็นศิษย์ของสำนักไหน…?”
ทุกสิ่งทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ ผู้ฝึกตนทั้งหมดที่อยู่ในบริเวณนั้นเริ่มค่อยๆ ถอยหลังออกไป
“นั่น…นั่นดูเหมือนเมิ่งฮ่าว ซึ่งหายตัวไปเมื่อหลายปีมาแล้ว…”
“เมิ่งฮ่าว? คัมภีร์สุดยอดวิญญาณ! ข้าจำได้แล้ว! นั่นก็คือเมิ่งฮ่าว!”
“เมิ่งฮ่าว…”
เสียงพูดคุยดังเต็มอยู่ในบริเวณที่อยู่รอบๆ บึงน้ำ ท่ามกลางเสียงกระหึ่มนั้น ดวงตาของชายชราจากตระกูลจี้ พลุ่งพล่านด้วยรังสีสังหาร เช่นเดียวกับผู้อาวุโสจากตระกูลหลี่
ชายชราจากตระกูลหลี่กัดฟันแน่นกล่าวขึ้น “เจ้าเมิ่งฮ่าวผู้นี้ ยังคงอยู่ภายในดินแดนภาพลวงตาของซากศพ ปิดผนึกพื้นที่แห่งนี้ให้หมด! ห้ามใช้การเคลื่อนย้ายทางไกล! ไม่ว่าเจ้าบัดซบน้อยนั่นจะมีของวิเศษอันใด มันก็ไม่อาจจะหนีรอดไปได้ แม้มันจะมีปีกก็ตามที!” ผู้อาวุโสขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งที่อยู่รอบๆ พุ่งออกไปยังทิศเหนือ, ใต้, ตะวันออก และตะวันตกในทันที
เห็นได้ชัดว่า พวกมันคิดจะปิดผนึกสถานที่แห่งนี้ และป้องกันไม่ให้ทุกคนเคลื่อนย้ายทางไกลจากไป
“หนึ่งในบุตรแห่งจี้ของตระกูลจี้ได้ตายอยู่ในที่แห่งนี้ สหายเต๋าแห่งดินแดนด้านใต้ ได้โปรดอยู่ที่นี่ และรอจนกระทั่งรายละเอียดทั้งหมดกระจ่างชัดออกมา จนกระทั่งถึงตอนนั้น ห้ามไม่ให้ใครจากไป” สี่ในแปดชายชราตระกูลจี้แยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่า พวกมันไม่ได้คิดจะพึ่งพาเพียงวิธีการของตระกูลหลี่ และจะสร้างการผนึกของพวกมันเอง
“เห็นได้ชัดว่า บุคคลผู้นี้ได้ครอบครองวิชาการเปลี่ยนร่างบางอย่าง” หนึ่งในชายชราจากตระกูลจี้กล่าวขึ้นมา ตามด้วยเสียงแค่นอย่างเย็นชา “แต่ก็ไม่เป็นไร การสังหารสมาชิกของตระกูลจี้ มันได้ก่อกรรมของสวรรค์และปฐพีไปแล้ว เมื่อไหร่ที่มันโผล่ออกมา พวกเราก็รับรู้ถึงตัวมันได้”
ในตอนนี้เองที่ทันใดนั้น ปราณที่ถูกแช่แข็งไว้ ก็ระเบิดออกมาจากสถานที่ใกล้กับถ้ำกำเนิดใหม่ในทันที มันประกอบไปด้วยพลังอันน่ากลัว เป็นอำนาจของขั้นตัดวิญญาณ อย่างช้าๆ เงาร่างสูงใหญ่ก็ค่อยๆ เดินออกมาจากภายในบึงน้ำ
เป็นบุรุษวัยกลางคน ที่สวมใส่ชุดยาวสีส้ม ขณะที่มันเดินทอดน่องออกมา ก็กลายเป็นจุดดึงดูดความสนใจของผู้ฝึกตนจากสำนักและตระกูลต่างๆ ที่อยู่รอบๆ ทั้งหมด พวกมันทุกคนต่างก็จดจำมันได้ในทันที นี่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังมากที่สุดซึ่งเป็นตัวแทนท่ามกลางกลุ่มตระกูลจี้
พื้นฐานฝึกตนของมันอยู่ในระดับขั้นตัดวิญญาณ เมื่อปรมาจารย์ของตระกูลอื่นๆ ทั้งหมดได้ล่าถอยออกมาจากบึงน้ำ ที่อยู่รอบๆ ถ้ำกำเนิดใหม่ มันยังคงอยู่ด้านหลัง มันรู้ว่าถ้ำแห่งนี้เป็นสถานที่อันน่ากลัว แม้แต่จะเป็นคนที่อยู่ในขั้นตัดวิญญาณ และถ้าไม่จำเป็นอย่างแท้จริง ก็ไม่มีใครต้องการจะเข้าไปในถ้ำแห่งนั้น อันที่จริง ไม่มีใครในปรมาจารย์จากสำนักเหล่านี้ต้องการจะเข้าไป มากที่สุด ก็แค่เข้าไปใกล้ปากถ้ำเท่านั้น
บุรุษผู้นี้ไม่ได้ล่าถอยกลับไป ด้วยเช่นนั้น มันจึงได้ต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตแปลกๆ ที่อยู่ใกล้เคียงกับถ้ำแห่งนี้ ขณะที่มันโผล่ออกมา ใบหน้ามันเคร่งขรึม เมื่อมันเข้าไปใกล้ชายชราทั้งแปดจากตระกูลจี้ พวกมันทั้งหมดก็ประสานมือคำนับมันด้วยความเคารพ
บุรุษวัยกลางคน แบมือขึ้นเผยให้เห็นชิ้นส่วนที่แตกกระจายทั้งหมดของแผ่นหยก
“ผู้สังหารก็คือฟางมู่ แห่งสำนักจื่อยิ่น หรือรู้จักกันในนามว่าเมิ่งฮ่าว!” มันกล่าวเสียงราบเรียบ “นี่คือข้อความที่ส่งมาจากจี้หงตงก่อนที่มันจะตายไป เรื่องนี้ยังได้ไปรบกวนท่านปรมาจารย์จี้ฟาง ซึ่งกำลังออกมาจากดินแดนตะวันออกเร่งมายังที่นี่ในตอนนี้” ถึงแม้เสียงของมันจะเยือกเย็น แต่ก็ประกอบไปด้วยบรรยากาศการคุกคามอันเข้มข้น ทำให้จิตใจของสมาชิกสำนักทั้งหมดที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นสั่นสะท้านไปตามๆ กัน
“ฟางมู่…เมิ่งฮ่าว…”
“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร!? ฟางมู่แห่งแผนกเม็ดยาบูรพา ของสำนักจื่อยิ่น ก็คือบุคคลคนเดียวกับที่ทุกคนค้นหาไปทั่วทั้งดินแดนด้านใต้ในปีนั้น, เมิ่งฮ่าว?!?!”
“นี่…ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมไม่มีใครเคยหาเมิ่งฮ่าวพบ มันได้หลบซ่อนอยู่ในสำนักจื่อยิ่น และยังได้กลายเป็นศิษย์ทายาท…”
ท่ามกลางเสียงพูดคุย สายตาคู่แล้วคู่เล่า จ้องมายังเสาแห่งแสงที่เป็นของสำนักจื่อยิ่น ด้านใน ใบหน้าของผู้ฝึกตนสำนักจื่อยิ่นเริ่มเปลี่ยนไปในทันที
ใบหน้าอันจ้ายไห่หมองคล้ำลง ด้านข้างมัน หลินไห่หลงอ้าปากค้าง และลุกขึ้นมายืน อู๋ติงชิวจ้องมาอย่างเงียบๆ สักพัก และจากนั้นใบหน้าของมันก็เริ่มเคร่งขรึมอย่างน่าเหลือเชื่อ ความรู้สึกถึงวิกฤตอย่างลึกล้ำ เต็มอยู่ในจิตใจของศิษย์สำนักจื่อยิ่นทุกคน
ในตอนนี้เองที่ภายในเสาแห่งแสงของสำนักจื่อยิ่น ดวงตาของปรมาจารย์ขั้นตัดวิญญาณก็ค่อยๆ ลืมขึ้นมา

About wuxiathai

Organic Theme is officially developed by Templatezy Team. We published High quality Blogger Templates with Awesome Design for blogspot lovers.The very first Blogger Templates Company where you will find Responsive Design Templates.

Copyright © 2015 ผนึกสวรรค์ สยบมาร สะท้านเทพ

Designed by Templatezy | Distributed By Gooyaabi Templates