แต่อย่างไรก็ตาม…ขณะที่ปรมาจารย์ต้าโถวเพิ่งจะทำทุกอย่าง ท้องฟ้าที่มีแสงแดดแผดจ้า ทันใดนั้นก็ถูกแยกออกไปโดยการปรากฎขึ้นของสายฟ้า เมฆลงทัณฑ์หายไปแล้ว แต่ก็ยังมีสายฟ้าฟาดลงมายังเมิ่งฮ่าว
สายฟ้าพุ่งลงมาด้วยความเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ ตรงมายังหมวกบนศีรษะเมิ่งฮ่าว เสียงกระหึ่มกึกก้องดังไปทั่วบริเวณนั้น
เมิ่งฮ่าวไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่มีกลุ่มควันสีเขียวเข้มลอยขึ้นมาจากหมวกใบนั้น เมิ่งฮ่าวอ้าปากค้างด้วยความตกใจ มองขึ้นไปในท้องฟ้าซึ่งยังคงมีสีฟ้าสดใสและแสงแดดอันร้อนแรง ดูท่าสายฟ้านี้คงเป็นอุบัติเหตุ
“นั่นคงเป็นทัณฑ์สวรรค์ที่ยังหลงเหลืออยู่…” เมิ่งฮ่าวคิดพร้อมขมวดคิ้ว โชคดีที่สายฟ้านี้ไม่ได้ทำความเสียหายใดๆ มันถูกดูดซับเข้าไปโดยหมวกผีโต้ง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ก็ทำให้ปรมาจารย์ต้าโถวตกตะลึงด้วยเช่นกัน มันมองขึ้นไปในท้องฟ้า แต่ก็รีบตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว และเริ่มหลบหนีไปด้วยความเร็วทั้งหมดเท่าที่จะทำได้ ต้องการจะยืดระยะห่างระหว่างเมิ่งฮ่าวและตัวมันให้ไกลมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้ว ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกไม่ดี สายฟ้าเมื่อครู่นี้เกิดขึ้นอย่างกระทันหันมากเกินไป ไร้วี่แววมาก่อนล่วงหน้า ท้องฟ้าที่ด้านบนก็เป็นสีฟ้าครามอันสวยงาม อีกครั้งที่เขาจ้องมองไปยังปรมาจารย์ต้าโถวที่กำลังหลบหนีไป
เมิ่งฮ่าวแค่นเสียงเย็นชา จากนั้นก็ก้าวตรงไปอย่างเนิบนาบ
เมื่อรวบรวมพลังได้แล้ว เขาก็พุ่งออกไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ หายลับไปยังที่ห่างไกล
ใบหน้าปรมาจารย์ต้าโถวซีดขาวมากขึ้นขณะที่หลบหนี มันบินมาตลอดทั้งวัน และถุงสมบัติของมันในตอนนี้ก็ไร้เม็ดยาสำหรับการรักษาฟื้นฟู อาการบาดเจ็บของอวัยวะภายในก็เลวร้ายลง ทำให้มันใช้พลังของพื้นฐานฝึกตนได้แค่สี่ในสิบส่วนเท่านั้น
“บัดซบ, บัดซบ…” ดวงตามันแดงก่ำ กัดฟันแน่น เมิ่งฮ่าวไล่ล่ามาทางด้านหลัง เกาะติดมันราวกับไขข้อบนกระดูก
แกนปราณส่งเสียงแหลมเล็กตรงมาที่มันเป็นระยะ ทำให้ปรมาจารย์ต้าโถวเกิดความหวาดกลัว คิดอะไรไม่ออกนอกจากหลบหนีไปด้วยพลังทั้งหมดที่มี
“มันจะไล่ตามข้าไปถึงเมื่อไหร่กัน!?!?” ปรมาจารย์ต้าโถวรู้สึกราวกับว่า มันกำลังจะพังทลายลงไป ไม่อาจรับรู้ได้ถึงสิ่งใดๆ นอกจากรู้สึกเกลียดชังต่อปรมาจารย์ผมแดง และปรมาจารย์หน้าฝีดาษ รวมถึงหนึ่งร้อยกว่าคนที่ก่อเรื่องนี้ขึ้น รู้ว่ามีมันเพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ มันรู้สึกเต็มไปด้วยความเสียใจ การถูกไล่ล่าติดตามมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มันเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวัง
ทันใดนั้น แกนปราณก็โจมตีตรงมาที่มัน ทำให้ปรมาจารย์ต้าโถวกระอักโลหิตออกมา อากาศที่ใต้เท้ามันพลุ่งพล่านปั่นป่วน ขณะที่กลุ่มเมฆภูติผีปรากฎขึ้น ทำให้มันมีความเร็วมากขึ้น เพิ่มระยะห่างระหว่างมันและเมิ่งฮ่าวออกไปอีก
แสงแปลกๆ สาดประกายออกมาจากดวงตาเมิ่งฮ่าว ตลอดทั้งวันมานี้เขามีโอกาสอยู่หลายครั้งที่ใกล้จะจับมันได้ แต่ทุกครั้ง ปรมาจารย์ต้าโถวก็ใช้วิธีการบางอย่าง ซึ่งเกี่ยวข้องกับวิญญาณชั่วร้ายเพื่อเพิ่มระยะห่างระหว่างคนทั้งสอง
เมิ่งฮ่าวไม่ได้เผชิญพบกับสถานการณ์เช่นนี้บ่อยครั้งนัก ด้านหลังเขา มีผู้ฝึกตนมากกว่าหนึ่งร้อยคนไล่ติดตามมาด้วยเช่นกัน ความรวดเร็วของพวกมันสู้เมิ่งฮ่าวไม่ได้ แต่พวกมันก็มีร่างจำแลงโลหิตของเมิ่งฮ่าวเป็นผู้นำ ดังนั้นพวกมันจึงสามารถติดตามมาได้
เมื่อยามพลบค่ำมาถึง ก็ทำให้ยากที่จะมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ชัดเจน ด้านหน้าขึ้นไปเป็นที่ราบกว้างใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยบ้านเรือนที่จัดเรียงเป็นรูปวงกลม และกั้นล้อมด้วยรั้ว
หมู่บ้านนี้เป็นที่อยู่ของผู้ฝึกตนมากกว่าร้อยคน ซึ่งกำลังนั่งเข้าฌาณอยู่ แต่ตอนนี้ก็มีคนลุกขึ้นมา และมองไปเห็นปรมาจารย์ต้าโถวที่ใกล้เข้ามา ชายชราสามคนบินออกไปพบกับมัน
“มันคือปรมาจารย์ของสำนักฉีอู้ (แปลกประหลาด) แห่งเมืองตงลั่ว, ผู้อาวุโสโอวหยาง!”
“เป็นผู้อาวุโสโอวหยางจริงๆ แต่มันกำลังหลบหนีใครอยู่?”
ใบหน้าของชายชราทั้งสามเปลี่ยนไป พวกมันลังเลอยู่สักพัก ปรมาจารย์ต้าโถวใกล้เข้ามา ดวงตาเต็มไปด้วยความยินดี
“สหายเต๋า, โปรดช่วยข้าหยุดเจ้าคนชั่วนี้!” ปรมาจารย์ต้าโถวกล่าว ไม่มีความกังวลอยู่ในน้ำเสียงของมัน มีเพียงเสียงอันเยือกเย็น ทำให้คำพูดของมันฟังดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น “ข้ากำลังนั่งเข้าฌาณเพียงลำพัง ตอนที่มันแอบเข้ามาโจมตีอย่างน่าละอาย ทำให้ข้าได้รับบาดเจ็บและพื้นฐานฝึกตนก็ถูกทำลายไป สหายเต๋า, ถ้าท่านช่วยถ่วงเวลาให้ข้าได้เพียงชั่วครู่แค่ธูปไหม้หมดไปครึ่งดอก ข้าก็สามารถฟื้นฟูพื้นฐานฝึกตนได้ สหายเต๋า, หลังจากที่ข้าสังหารมัน ข้าก็จะเป็นหนี้ท่านอย่างแน่นอน ข้าจะช่วยให้ท่านบรรลุขั้นสร้างแกนลมปราณ!”
โดยไม่แม้แต่จะรอฟังคำตอบ ปรมาจารย์ต้าโถวพุ่งไกลออกไป สำหรับคนกลุ่มนี้จะตอบรับคำขอร้องของมันอย่างไร มันก็ไม่ได้หยุดอยู่เพื่อจะรับรู้ ถ้าพวกมันยอมรับ ก็เยี่ยมยอด, แต่ถ้าไม่ มันก็ไม่อาจจะทำอันใดได้
สามผู้ฝึกตนนี้ต่างก็อยู่ในขั้นสุดท้ายพื้นฐานลมปราณ หลังจากที่ได้ยินคำพูดของปรมาจารย์ต้าโถว จิตใจของพวกมันก็เริ่มหนักอึ้ง สิ่งที่ดึงดูดใจพวกมันก็คือโอกาสที่จะได้รับการช่วยเหลือให้บรรลุขั้นสร้างแกนลมปราณ
พวกมันลังเลอยู่ชั่วครู่ สำหรับใครบางคนที่แอบลอบโจมตีปรมาจารย์ของสำนักหนึ่งได้สำเร็จ ก็หมายความว่า คนที่กำลังไล่ตามมาไม่ได้อ่อนแอ ต้องเป็นผู้ที่อยู่ในขั้นสร้างแกนลมปราณอย่างแน่นอน แต่ผลตอบแทนที่ได้ก็ช่างดึงดูดใจนัก พวกมันสบตากันขณะที่เมิ่งฮ่าวเข้ามาใกล้ ติดตามด้วยผู้ฝึกตนมากกว่าหนึ่งร้อยคน
ภาพที่เห็นทำให้ผู้ฝึกตนขั้นสุดท้ายพื้นฐานลมปราณ รู้สึกกังวลใจและลังเลมากยิ่งขึ้นในทันที สุดท้ายหนึ่งในพวกมันก็กัดฟันแน่น บินตรงมา ประสานมือและโค้งตัวลงให้กับเมิ่งฮ่าว
“ผู้อาวุโส, โปรดรอสักครู่, ข้า…”
“ไสหัวไป!” เมิ่งฮ่าวกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา บินผ่านพวกมันไป
สีหน้าผู้ฝึกตนที่กำลังโค้งตัวอยู่เปลี่ยนไป ขนลุกตั้งชี้ชัน การชำเลืองมองของเมิ่งฮ่าวเมื่อครู่นี้ ทำให้จิตใจของมันสั่นสะท้านไปด้วยความหวาดกลัว แต่สิ่งที่ปรมาจารย์ต้าโถวสัญญาว่าจะตอบแทนก็เน้นย้ำอยู่ในจิตใจของมัน
ผู้ฝึกตนขั้นพื้นฐานลมปราณอีกสองคนดึงมันกลับไป จากนั้นก็ประสานมือคารวะให้กับเมิ่งฮ่าว พวกมันไม่กล้าที่จะถ่วงเวลาแม้แต่น้อย คนทั้งสองก็เช่นกัน กระหายสำหรับสิ่งตอบแทนที่ปรมาจารย์ต้าโถวสัญญาไว้ แต่คำพูดของเมิ่งฮ่าว และสายตาที่เย็นชาทำให้จิตใจพวกมันหมุนคว้างไปมา เสาแห่งเต๋าของพวกมันสั่นสะท้าน
เมิ่งฮ่าวไม่ได้ช้าลงแม้แต่น้อย เขาพุ่งผ่านอากาศจนเป็นเสียงแหลมเล็ก ติดตามด้วยผู้ฝึกตนมากกว่าร้อยคน ซึงยังคงมีร่างจำแลงโลหิตเป็นผู้นำ พวกมันชำเลืองมองไปยังผู้ฝึกตนทั้งสามด้วยรอยยิ้มอันเย็นชาขณะที่พุ่งผ่าน แหวกฝ่าอากาศไปราวกับดาวตก
เมื่อกลุ่มคนเหล่านั้นจากไปสักพัก สามผู้ฝึกตนขั้นสุดท้ายพื้นฐานลมปราณ ถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมา ใบหน้าพวกมันค่อนข้างซีดขาว แต่พวกมันก็รู้ว่าความโลภเมื่อครู่นี้ ได้นำพวกมันไปยังหลุมฝังศพครึ่งทางแล้ว
“คนผู้นั้นเป็นใคร?” พวกมันคิด สบสายตากันไปมา “มันทำให้ผู้อาวุโสโอวหยางต้องหลบหนี…”
ขณะที่บินผ่านอากาศ เมิ่งฮ่าวโบกมือไปที่ด้านหน้า อากาศกระจายเป็นระลอกคลื่น ขณะที่แสงสีทองเป็นเส้นโค้งปรากฎขึ้น พุ่งตรงไปยังปรมาจารย์ต้าโถว แต่ก่อนที่จะเข้าไปได้ใกล้ มันก็พ่นโลหิตออกมาบางส่วน อากาศที่อยู่รอบๆ เท้าของมันเริ่มเลือนลางลง และความเร็วก็เพิ่มมากขึ้น ทำให้มันหลีกเลี่ยงการโจมตีของเมิ่งฮ่าวได้ เพียงชั่วพริบตา มันก็จากไปไกลเกือบหนึ่งพันจ้าง
“เร็วมาก!” เมิ่งฮ่าวคิด แค่นเสียงเย็นชาขณะที่มุ่งหน้าต่อไป เมื่อคิดถึงสาเหตุของการไล่ล่าครั้งนี้ เป็นเพราะเขามีความสนใจในวิชาลับของปรมาจารย์ต้าโถวนั่นเอง
สีหน้าปรมาจารย์ต้าโถวซีดขาว มันกัดฟันแน่นและหลบหนีต่อไป ด้วยจิตใจที่หนักอึ้ง ความรู้สึกถึงอันตรายของชีวิตและความตายลอยอยู่ภายในใจ มีเพียงสิ่งเดียวที่มันคิดได้ในตอนนี้ก็คือ หลบหนีการไล่ล่าและหลบเลี่ยงจากความตาย
ความขมขื่นเต็มอยู่ในจิตใจ หลังจากบรรลุขั้นสร้างแกนลมปราณ มันมักจะเป็นผู้ล่าและสังหารคนอื่นๆ นี่เป็นครั้งแรกที่มันถูกไล่ล่าราวกับเป็นสุนัขจรจัด
“ถ้าข้าสามารถหลบหนีไปได้ ความอัปยศทั้งหมดนี้ก็จะถูกตอบแทนเป็นร้อยเท่าพันทวี!” มันคิด ดวงตาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง เพิ่มความเร็วขึ้น พุ่งผ่านระยะทางอีกหนึ่งพันจ้างเพียงชั่วพริบตา
หลังจากที่ใช้ความรวดเร็วสูงสุดของขั้นสร้างแกนลมปราณไปครึ่งวัน ปรมาจารย์ต้าโถวก็มองเห็นกำแพงดินที่อยู่ห่างไกลออกไป เมืองนี้ไม่ได้เจริญรุ่งเรืองเหมือนกับเมืองของหนึ่งในเก้าสหพันธ์ แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามีกลุ่มคนที่แข็งแกร่งพักอาศัยอยู่ด้านใน
ขณะที่มันเข้าไปใกล้ ปรมาจารย์ต้าโถวก็ร้องตะโกนออกไป “สหายเต๋าเฉิน!” ทันใดนั้น ลำแสงหลากสีก็พุ่งออกมาจากภายในเมือง ด้านในลำแสงเป็นบุรุษที่กำยำแข็งแรง อยู่ในขั้นกลางสร้างแกนลมปราณ พร้อมด้วยเส้นผมสีดำที่ลอยพริ้วไปมา เมื่อมันมองเห็นปรมาจารย์ต้าโถว ก็อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ
“พี่ใหญ่โอวหยาง, เกิดอะไรขึ้น…?”
“สหายเต๋าเฉิน, โปรดช่วยหยุดเจ้าคนชั่วที่ไล่ล่าข้ามาด้วย!” มันพรั่งพรูออกมา ขณะที่พุ่งผ่านบุรุษร่างกำยำ “ท่านและข้ามีพื้นฐานฝึกตนเท่าเทียมกัน แต่ข้าถูกลอบทำร้าย ขณที่นั่งเข้าฌาณตามลำพัง ข้าถูกพิษและต้องการเวลาชั่วธูปไหม้หมดหนึ่งดอก เพื่อสะกดข่มพิษร้าย ข้าเป็นหนี้ท่าน!”
ดวงตาของบุรุษร่างกำยำสาดประกาย ขณะที่มันมองเห็นเมิ่งฮ่าวใกล้เข้ามา
เมิ่งฮ่าวชำเลืองมองไปยังกำแพงดิน และบุรุษร่างกำยำซึ่งลอยอยู่กลางอากาศ
“เป็นผู้ที่ไม่รู้ถึงความแตกต่างระหว่างชีวิตและความตายอีกคนแล้ว” เมิ่งฮ่าวกล่าวขณะที่บินตรงไป
บุรุษร่างกำยำลังเลชั่วครู่ แต่หลังจากที่ได้เห็นเมิ่งฮ่าว มันก็รู้สึกว่า พื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าว อยู่แค่ขั้นกลางสร้างแกนลมปราณเท่านั้น ไม่ใช่คนที่ควรจะต้องไปกังวลมากมายนัก แต่มีแสงสีทองห้อมล้อมเมิ่งฮ่าวไว้ รวมถึงความรู้สึกถึงอันตรายได้แผ่กระจายออกมาจากตัวเขา ทำให้บุรุษผู้นั้นระมัดระวังตัวมากขึ้น “สหายเต๋า, ได้โปรดรอสักครู่ ไม่อาจบินเข้าไปในเมืองนี้!”
ขณะที่คำพูดดังออกมาจากปากของมัน ก็มีผู้ฝึกตนมากกว่าสองร้อยคนบินออกมาจากในเมือง กลิ่นอายของพวกมันกระจายออกมา ก่อตัวเป็นพลังปิดกั้น พวกมันยืนอยู่ที่นั่น จ้องมองมายังเมิ่งฮ่าวด้วยความเกลียดชัง
คนกลุ่มนี้มีพื้นฐานฝึกตนที่แตกต่างกันหลากหลาย บางคนก็อยู่ในขั้นสร้างแกนลมปราณ ส่วนใหญ่เป็นผู้ฝึกตนพื้นฐานลมปราณ หรือขั้นรวบรวมลมปราณ แต่พวกมันทั้งหมดก็เปล่งรังสีสังหารอันเข้มข้นออกมา เห็นได้ชัดว่าพวกมันได้สังหารผู้คนไปมากมายแล้วในอดีตที่ผ่านมา
เมิ่งฮ่าวไม่ได้ใส่ใจคนกลุ่มนี้ทั้งหมด ซึ่งเห็นได้ชัดว่ากำลังรนหาที่ตาย เขามุ่งหน้าต่อไปโดยไม่หยุดชะงัก ทำให้สีหน้าบุรุษร่างกำยำเปลี่ยนไป มันยกมือขวาขึ้นร่ายเวทอาคม แต่จู่ๆ มันก็มองเห็นแววตาของเมิ่งฮ่าว
เป็นแววตาที่เย็นชาเต็มไปด้วยรังสีสังหาร ขณะที่การมองนั้นเลยผ่านมันไป จิตใจของบุรุษร่างกำยำก็เริ่มหนักอึ้ง เสียงแตกร้าวได้ยินออกมาจากแกนลมปราณของมัน ราวกับว่ามันกำลังจะแตกสลายออกเป็นชิ้นๆ มันรู้สึกประหลาดใจ แต่ก่อนที่จะหลบหนีไป เมิ่งฮ่าวก็มาอยู่เบื้องหน้ามัน กระแทกหมัดไปที่หน้าอกของบุรุษผู้นั้น และพุ่งผ่านมันไป ขณะที่เมิ่งฮ่าวผ่านเลยไป โลหิตก็พุ่งกระจายออกมาจากปากของมัน จากนั้นร่างมันก็สั่นสะท้าน และ…ระเบิดออกเป็นชิ้นส่วนของโลหิต
การตายของมัน ทำให้สีหน้าของผู้ฝึกตนที่เหลือทั้งหมดจากในเมือง เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ทุกคนในที่นี้ ใครที่สัญญาว่าจะภักดีต่อข้าจะมีชีวิตอยู่ ใครที่ไม่…” เมิ่งฮ่าวรู้ว่า ในดินแดนสีดำ ต้องไม่มีจิตใจที่อ่อนโยน มีทางเดียวที่จะสร้างความแข็งแกร่ง และได้รับความนับถือก็คือต้องโหดเหี้ยมดุร้าย เมื่อส่งเสียงดังออกไป ร่างจำแลงโลหิตของเขาก็มาถึง ตามมาด้วยผู้ฝึกตนมากกว่าร้อยคน ซึ่งมีรังสีสังหารพุ่งขึ้นไปจนถึงสวรรค์ พวกมันพุ่งตรงไปยังผู้ฝึกตนที่อยู่ในเมือง และเสียงของการฆ่าฟันก็ดังกระจายออกไปในทันที ตามมาด้วยเสียงแผดร้องอย่างโหยหวนและเสียงร้องไห้คร่ำครวญ
เมิ่งฮ่าวจ้องไปยังปรมาจารย์ต้าโถว สายตาสาดประกายด้วยรังสีสังหาร “มาดูกันว่าคนที่เจ้าติดต่อด้วยจะถูกสังหารไปมากน้อยแค่ไหนตลอดเส้นทางหลบหนีของเจ้า!” เขาพุ่งตรงไปไล่ล่าติดตามไปอีกครั้ง
ปรมาจารย์ต้าโถวช่างเป็นคนที่แปลกนัก ไม่ว่าเมิ่งฮ่าวจะใช้พลังอะไรออกไป มันก็คล้ายกับเป็นปลาไหล ที่ลื่นและยากที่จะจับด้วยมือเปล่า
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาถึงวิชาลับที่ช่วยเพิ่มความเร็วให้ มันได้ใช้วิชานี้มาหลายครั้ง ทำให้เกิดระยะห่างระหว่างมันและเมิ่งฮ่าวมากขึ้น แม้แต่ความรู้สึกถึงอันตรายแปลกๆ ของมัน ทุกครั้งที่เมิ่งฮ่าวโจมตี ก็ดูเหมือนว่ามันจะสามารถรับรู้ได้ล่วงหน้า และหลบหนีได้ทันท่วงที
“เจ้าบัดซบนั่นช่างโง่เขลานัก มันไม่อาจแม้แต่จะหยุดเจ้านั่นได้แม้ชั่วอึดใจเดียว!!” ปรมาจารย์ต้าโถวกัดฟันแน่น, เส้นผมมันยุ่งเหยิง, เสื้อผ้ายับย่น, ลมหายใจหนักหน่วง, พุ่งตรงไป มันรู้สึกเหนื่อยล้า แต่เมิ่งฮ่าวก็ยังคงไล่ติดตามมา มันเงยหน้าขึ้นไปในท้องฟ้า ส่งเสียงกู่ร้องออกมา