ตูม!
ขณะที่หมัดกระแทกเข้าไปยังผู้ฝึกตนทะเลทรายตะวันตกที่มีภาพศักดิ์สิทธิ์เป็นรูปหมี ใบหน้าของมันก็เปลี่ยนไป สิ่งแรกที่เกิดขึ้นก็คือหมียักษ์สั่นสะท้านอย่างรุนแรง และจากนั้นก็แตกกระจายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยนับไม่ถ้วน ขณะที่เสียงระเบิดดังก้องออกไป ร่างของมันก็ยุบลงไป โลหิตกระจายออกมาจากปากเจ็ดถึงแปดครั้ง ขณะที่มันกระเด็นไปด้านหลังอย่างรุนแรงหลายร้อยจ้าง ในที่สุดมันก็หยุดชะงักลง กระอักโลหิตออกมาอีก และจากนั้นก็ทรุดตัวลงไปอย่างเห็นได้ชัดเจน ร่างของมันเต็มไปด้วยโลหิต
ผิวหน้าของมัน จู่ๆ ก็ดูเหมือนจะแก่ชราลง ก่อนที่มันจะหยุดการเคลื่อนไหว มันก็ได้เปลี่ยนจากชายวัยกลางคนเป็นชายชราที่แก่หง่อม เส้นผมมันเป็นสีเทา ผิวกายเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น และดวงตาก็ไร้ประกายโดยสิ้นเชิง
สิ่งที่น่ากลัวมากที่สุดก็คือ รอยสักของภาพศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามภาพ ที่อยู่บนร่างของมันได้จางลง และจากนั้นก็หายไป
อย่างน่าตกใจ ภาพภูติผีของหมียักษ์ที่ส่งเสียงแผดร้องเมื่อครู่นี้ ได้ลอยอยู่เหนือมือขวาของเมิ่งฮ่าว
เมิ่งฮ่าวยังไม่หยุด ในช่วงหนึ่งลมหายใจ เขาก้าวเท้าตรงไป และต่อยออกไปอีกสามหมัด
หมัดแรกกระแทกเข้าไปยังผู้ฝึกตนทะเลทรายตะวันตกที่มีภาพศักดิ์สิทธิ์เป็นรูปคชสาร โลหิตพ่นออกมาจากปากของมัน ขณะที่มันสั่นสะท้านกระเด็นไปด้านหลังเกือบยี่สิบจ้าง มันส่งเสียงแผดร้องราวกับร่างกายของมันกำลังจะระเบิดออกมา มันเริ่มแก่ชราลงอย่างรวดเร็ว พลังชีวิตและภาพศักดิ์สิทธิ์ของมันจางหายไป ตอนนี้ภาพหมีและคชสารหมุนวนเป็นวงกลมไปรอบๆ มือเมิ่งฮ่าว
หมัดที่สองกระแทกเข้าไปในหน้าอกของหนึ่งในผู้ฝึกตนหน้ากากฟ้า เสียงกระแทกได้ยินออกมา และบุรุษผู้นั้นก็แผดร้อง หน้ากากของมันแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ขณะที่โลหิตพุ่งออกมาจากปาก ลอยละลิ่วไปด้านหลังเกือบยี่สิบจ้างด่วยเช่นกัน ร่างของมันชราลงอย่างรวดเร็ว และดูราวกับว่าพื้นฐานฝึกตนของมันจะพังทลายลงไป
หมัดที่สามกระแทกไปบนร่างของผู้ฝึกตนหน้ากากฟ้าอีกผู้หนึ่ง พื้นฐานฝึกตนของมันอ่อนแอกว่าคนอื่นๆ มันเพิ่งจะก้าวเข้ามาในขั้นต้นสร้างแกนลมปราณ และด้วยเช่นนั้น แกนลมปราณของมันยังไม่มั่นคงเท่าใดนัก หมัดของเมิ่งฮ่าวส่งผลให้มันกระเด็นไปไกลถึงสามสิบกว่าจ้าง ขนทั่วร่างมันลุกชี้ชันขณะที่รู้สึกได้ถึงพลังอันน่ากลัวผ่านเข้ามาในร่าง ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างไป แกนของมันแตกออกเป็นชิ้นๆ และจากนั้นร่างของมันก็ระเบิดออกเป็นกลุ่มควันของโลหิตและชิ้นเนื้อ
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตา จากนั้น เมิ่งฮ่าวก็มาอยู่ตรงหน้าหลัวชง มือข้างที่สวมถุงมือพุ่งออกไปคว้าจับตรงลำคอของหลัวชง ยกมันขึ้นไปในอากาศ
ด้านหลังหน้ากากสีทอง ดวงตาหลัวชงสาดประกายด้วยความหวาดกลัวและประหลาดใจอย่างรุนแรง ร่างของมันสั่นสะท้าน และหอบหายใจอย่างเร่งร้อน แต่มันก็ไม่กล้าจะดิ้นรน มันสัมผัสได้ถึงรังสีสังหารที่กระจายออกมาจากผู้โจมตีที่ไร้ใบหน้านี้ ความเข้มข้นของรังสีสังหารนี้ทำให้จิตใจของมันหมุนเคว้งคว้าง
เมื่อได้เห็นรังสีสังหารที่กระจายออกมาจากร่างเมิ่งฮ่าว ใบหน้าตั่วหลันก็ซีดขาว และร้องออกมา “เจ้าอสูรผู้ยิ่งใหญ่, ได้โปรดฟังข้า! พวกเราไม่ได้มีเจตนาร้าย สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้เป็นความเข้าใจผิด เจ้าอสูรผู้ยิ่งใหญ่, ข้าขอร้องท่านช่วยยกโทษให้กับความใจร้อนของพวกเรา, พวกเราไม่ทราบว่านี่คืออาณาเขตของท่าน เจ้าอสูรผู้ยิ่งใหญ่ได้โปรดวางมือ…พวกเรายินดีที่จะจ่ายค่าตอบแทนสำหรับการกระทำเมื่อครู่นี้”
“เจ้าอสูรผู้ยิ่งใหญ่” หลัวชงพรั่งพรูออกมา “นี่…นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งสิ้น จริงๆ แล้ว ก็เป็นเรื่องเข้าใจผิด…” มันรู้สึกราวกับว่าได้ยื่นเท้าเข้าไปในหลุมฝังศพแล้วหนึ่งข้าง เป็นความรู้สึกเดียวกับที่มันเคยเผชิญหน้ากับฟางมู่จากดินแดนด้านใต้ ซึ่งเป็นบุคคลที่ทำให้มันยังคงฝันร้ายอยู่เสมอมา
นั่นเป็นครั้งแรกที่มันเกิดความรู้สึกเช่นนี้ และตอนนี้ก็เป็นครั้งที่สอง
แต่ความรู้สึกในครั้งนี้ยังมีความเข้มข้นรุนแรงมากกว่าครั้งแรกมากนัก ความเย่อหยิ่งถือดีของมันทั้งหมดเมื่อครู่นี้ได้หายไปโดยสิ้นเชิง
“เข้าใจผิด?” เมิ่งฮ่าวกล่าว ด้วยเสียงแหบแห้ง ราวกับก้อนศิลาขัดสีกัน ยื่นมือซ้ายสอดเข้าไปในเสื้อของเขา และหยิบเอาเม็ดยาออกมา เขาสอดมันเข้าไปในปากหลัวชง และจากนั้นก็ส่งเม็ดยาที่เหมือนกันนี้พุ่งตรงไปยังตั่วหลัน
“กลืนยาเม็ดนั้นลงไป” เขากล่าวเสียงราบเรียบ “และจากนั้นพวกเราก็สามารถบอกว่านี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด” ดวงตาหลัวชงสาดประกายด้วยความหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น มันไม่แน่ใจว่าเม็ดยาที่เพิ่งจะกลืนลงไปนั้นคือยาอะไร แต่ก็พอจะคิดออกได้ว่าเป็นยาอะไร มันไม่สามารถจะทำอะไรได้ในตอนนี้ คงต้องรอจนกระทั่งกลับไปยังโม่ถูกง ซึ่งน่าจะสามารถกำจัดยานี้ออกไปได้
ใบหน้าตั่วหลันเปลี่ยนไปขณะที่นางลังเล นางไม่ได้สนใจมากนักว่าหลัวชงจะมีชีวิตอยู่หรือตายไป แต่ถ้านางไม่กลืนยาเม็ดนี้ลงไป ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการต่อต้านเช่นนี้ก็คงไม่ดีแน่
ตั่วหลันกัดฟันที่สวยงามของนาง ยกเม็ดยาขึ้นมา และจากนั้นก็กลืนมันลงไป มองมายังเมิ่งฮ่าว
เขาปล่อยมือ จากนั้นก็โบกสะบัดชายแขนเสื้อ และหมุนตัวเดินกลับตรงไปยังภูเขา จงใจแสดงท่าทางวางอำนาจขึ้นมาบนใบหน้ากล่าวว่า “ออกไปจากที่นี่ ถ้าพวกเจ้าเข้ามาในบริเวณนี้รัศมีหกร้อยหลี่ทั่วทุกทิศทาง ยาพิษนั้นก็จะสังหารเจ้า! ไม่มีนักปรุงยาใดๆ ที่จะสามารถถอนพิษยาอสูรของข้าได้” ด้วยเช่นนั้น เขาก็หายเข้าไปในถ้ำแห่งเซียน
หลัวชง, ตั่วหลัน และคนอื่นๆ ลังเลชั่วขณะก่อนที่จะหายลับไปยังที่ห่างไกล
เมื่อพวกมันอยู่ห่างออกไปไกลกว่าสองร้อยหลี่ พวกมันก็หยุดลง และมองกลับไปยังทิศทางถ้ำแห่งเซียนของเมิ่งฮ่าว
“บัดซบ…เมื่อไหร่ที่ข้ากลับไปยังโม่ถู่กง ข้าจะส่งคนมากวาดล้างสถานที่แห่งนี้ให้ราบเรียบ!” หลัวชงกล่าว ท่าทางดุร้ายปรากฎขึ้นบนใบหน้าของมัน
“ข้าจะจัดการเอง” หนึ่งในผู้ฝึกตนหน้ากากฟ้าที่แก่ชรากล่าวผ่านร่องฟันที่ขบกันจนแน่น “มาดูกันว่าคนผู้นั้นจะมีความสามารถเหนือมนุษย์เช่นไรกัน ข้าจะ…” ก่อนที่มันจะกล่าวจบ หนึ่งคำจู่ๆ ก็ดังออกมาจากที่ไหนสักแห่ง
“ผนึก!”
หนึ่งคำ ทันทีที่ดังก้องออกมา ผู้ฝึกตนหน้ากากสีฟ้าก็เริ่มสั่นสะท้าน หลัวชง และคนอื่นๆ มองไปด้วยความประหลาดใจ ขณะที่กลุ่มควันสีดำกระจายออกมาจากดวงตา, จมูก และปากของมันเป็นระยะ ในที่สุดกลุ่มควันสีดำจำนวนมากมายก็กระจายออกมาจากร่างมัน สำหรับตั่วหลัน นางสามารถมองเห็นที่ด้านบนศีรษะของชายชรานี้เป็นร่างของภูติผี มันไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากร่างอสูรผนึกความเที่ยงธรรมของเมิ่งฮ่าว
เงาร่างอันเลือนลางของอสูรไหลซึมเข้าไปในร่าง ผ่านขม่อมบนศีรษะของมัน ผู้ฝึกตนหน้ากากฟ้าเริ่มส่งเสียงแผดร้อง และมือขวาของมันก็เริ่มสั่นระรัวขึ้นมาในทันที หลัวชงมองมาอย่างประหลาดใจ ขณะที่มือขวาของผู้ฝึกตนหน้ากากฟ้า จู่ๆ ก็พุ่งตรงขึ้นไปที่หน้าผากของมันเอง
เสียงระเบิดได้ยินออกมา ขณะที่ศีรษะของมันระเบิด ทำให้มันตกตายไปในทันที
“สำรวมท่าทีของพวกเจ้าด้วย” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบก่อนที่จะหายตัวไป
ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบสงัดราวความตาย
ร่างหลัวชงสั่นสะท้านอย่างไม่อาจควบคุมตัวเองได้ และมันก็ล้มเลิกความคิดทั้งหมดที่เพิ่งจะพูดไปในทันที สิ่งเดียวที่มันคิดได้ก็คือ จะไม่กลับมาในรัศมีหกร้อยหลี่ของสถานที่แห่งนี้อีกแล้ว
ตั่วหลันอ้าปากหอบหายใจ และดวงตาก็เบิกกว้าง นางเคยเห็นสิ่งที่ถูกเรียกว่าเจ้าอสูรในทะเลทรายตะวันตกมาก่อน แต่ก็ไม่มีใครที่จะน่ากลัวพิลึกเท่ากับคนผู้นี้
“จะเป็นเช่นไรถ้ามันกลายเป็นภาพศักดิ์สิทธิ์…?” ตั่วหลันคิด จิตใจเต้นรัวเร็วขึ้นกว่าเดิม
ยังคงเหลือสี่ผู้ฝึกตนพุ่งออกไปยังที่ห่างไกลอย่างเงียบๆ จนหายลับตาไป
ด้านนอกถ้ำแห่งเซียน การหลบหนีของหลัวชงและคนอื่นๆ ทำให้สายตามากกว่าหนึ่งร้อยคู่ของกลุ่มผู้ฝึกตนเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง ผู้ฝึกตนเทิดทูนบูชาความแข็งแกร่ง และพลังที่เมิ่งฮ่าวแสดงให้เห็นเมื่อครู่นี้ก็ทำให้จิตใจของพวกมันสั่นสะท้านหมุนเคว้งคว้าง
“เจ้าเห็นหรือไม่?” นกแก้วกล่าว บินขึ้นไปในอากาศทันที ดวงตากวาดผ่านไปยังกลุ่มผู้ฝึกตนอย่างช้าๆ “นั่นไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากเวทเซียนของอู่เหยีย! ถ้าพวกเจ้าขยันขันแข็งฝึกฝนด้วยวิธีการของข้า อีกไม่นานพวกเจ้าก็คงจะแข็งแกร่งเช่นนั้น!”
ในถ้ำแห่งเซียน เมิ่งฮ่าวมองลงไปยังมือข้างขวา ดวงตาเต็มไปด้วยแสงอันลี้ลับ
“มือขวาข้างนี้ รวมเข้ากับพลังพื้นฐานฝึกตนของข้า และปราณอสูร สามารถที่จะกำจัดขั้นกลางสร้างแกนลมปราณได้ แต่ถ้าเป็นขั้นสุดท้ายสร้างแกนลมปราณ ทางเลือกเดียวของข้าก็คือใช้หน้ากากเซียนโลหิต”
“ทั้งสองวิธีนี้ เมื่อคิดว่าข้าอยู่ที่จุดสูงสุดขั้นต้นของสร้างแกนลมปราณ ก็มีผู้ฝึกตนสร้างแกนลมปราณไม่มากนักที่จะต่อสู้กับข้าได้ เมื่อไหร่ที่ข้ามีแกนสีทองสมบูรณ์ และบรรลุขั้นกลางสร้างแกนลมปราณ ผู้ฝึกตนที่อยู่ในขั้นเดียวกันซึ่งสามารถต่อสู้กับข้าได้ก็คงหายากอย่างแน่นอน!” ดวงตาเขาสาดประกายด้วยความเชื่อมั่น
เท่าที่เขากังวล ความแตกต่างระหว่างพลังที่เขาใช้ในขั้นพื้นฐานลมปราณ และพลังในตอนนี้ช่างห่างไกลกันอย่างมากมายมหาศาล
“การจะหาต้นสมุนไพรที่เป็นส่วนผสมสุดท้ายคงไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก แต่ทัณฑ์สวรรค์ซึ่งจะมาหลังจากที่ข้าก่อตั้งแกนสีทองสมบูรณ์…นั่นถึงจะเป็นปัญหาอย่างแท้จริง” เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้ว นั่นเป็นสิ่งที่เขาวิตกกังวลเป็นอย่างมาก ทัณฑ์สวรรค์จากพื้นฐานลมปราณเมื่อครั้งก่อนช่างน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง ถ้าขุมทรัพย์เซียนโลหิตไม่ได้ต่อต้านให้กับเขา เมิ่งฮ่าวก็คงไม่อาจจะก่อตั้งพื้นฐานสมบูรณ์ได้
พึมพำกับตัวเอง จากนั้นดวงตาก็สาดประกาย ขณะที่เขาส่งจิตสัมผัสออกไปพร้อมกับข้อความ สักพักหลังจากนั้น เสียงกระพือปีกก็ได้ยินมา ขณะที่นกแก้วสีสดใสบินเข้ามาจากด้านนอก ดูท่าทางกระวนกระวายใจเล็กน้อย
“เกิดอะไรขึ้น?” มันกล่าว มองมายังเมิ่งฮ่าว “เจ้าไม่รู้ว่าอู่เหยียกำลังอยู่ในช่วงการสอนผู้ฝึกตนที่ด้านนอกเหล่านั้น? เจ้าไม่รู้ว่าเวลาของอู่เหยียมีค่ามากแค่ไหน?”
“ข้าจะเอาชนะทัณฑ์สวรรค์ได้อย่างไร?” เมิ่งฮ่าวถามตรงๆ โดยไม่อ้อมค้อม
“ทัณฑ์สวรรค์?” นกแก้วจ้องมาด้วยความตกตะลึง จากนั้นก็บินเป็นวงกลมไปรอบๆ เมิ่งฮ่าว ดูเหมือนกำลังจะประเมินเขาจากแง่มุมต่างๆ ในที่สุด มันก็ทำเสียงจุ๊กจิ๊กและส่ายหน้า ถอนหายใจออกมา “ไม่มีใครเอาชนะมันได้ เจ้าจะตาย ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น ข้า, อู่เหยีย, ปักษาเซียนโบราณ คงต้องพิจารณาหาเจ้านายใหม่แล้ว”
มันกำลังจะจากไป เมื่อเมิ่งฮ่าวยังคงมีสีหน้าสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย กล่าวเสียงราบเรียบว่า “ถ้าเช่นนั้น เจ้าก็ไม่รู้วิธีการเอาชนะทัณฑ์สวรรค์ และเจ้าก็ยังคงเรียกตัวเองว่าปักษาเซียนโบราณ” เห็นได้ชัดว่าสีหน้าเขาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย
เมื่อนกแก้วเห็นสีหน้าเยาะเย้ยนั้น ขนของมันก็ลุกตั้งชี้ชันขึ้นมาในทันที มันจ้องมายังเมิ่งฮ่าว
“ข้าไม่รู้?” มันกล่าวหอบหายใจ “เจ้ากล้าพูดว่าข้าไม่รู้? ข้า…ข้าไม่ได้ถูกหลอกได้อย่างง่ายดายเช่นนั้น!” แทนที่จะกล่าวต่อไปอีก มันก็มีสีหน้าทรนงและเริ่มไซ้ขนของมัน
“ถ้าเช่นนั้น เจ้าก็เป็นแค่นกแก่ๆ ตัวหนึ่ง!” เมิ่งฮ่าวกล่าวอย่างเรื่อยเปื่อย สีหน้าเยาะเย้ยยิ่งเห็นได้เด่นชัดมากขึ้น เขายังได้หลับตาลง ราวกับว่าไม่ต้องการจะพูดต่อไปอีก
นกแก้วมีโทสะขึ้นในทันที จิกขนของมันอย่างดุร้ายขณะที่ไซ้ขนไปมา มันแผดเสียง “ใครบอกว่าข้าไม่รู้?! ข้ารู้วิธีที่สามารถสะกดและถ่วงเวลาทัณฑ์สวรรค์ ไม่มีเวทเซียนใดที่ข้าไม่รู้!”
“ถ้าเช่นนั้น เจ้าก็ไม่รู้จริงๆ” เมิ่งฮ่าวกล่าวตอบเสียงแผ่วเบา
“ทัณฑ์สวรรค์ไม่มีอะไรนอกจากเป็นการผายลม!” นกแก้วแผดเสียง “ย้อนกลับไปในวันที่ข้าสามารถเอาชนะทัณฑ์นั้นด้วยหนึ่งอึดใจ! แม้แต่ในตอนนี้ ข้ารู้อย่างน้อยก็มีถึงหมื่นวิธี…ไม่ใช่, ข้าหมายถึงล้านวิธีที่แตกต่างกันที่จะทำเช่นนั้น! ข้าจะบอกเจ้าหนึ่งในวิธีนั้น สิ่งที่เจ้าต้องทำทั้งหมดก็คือ ค้นหารูปแบบชีวิตมหัศจรรย์ เป็นประเภทที่รากและใบเชื่อมต่อถึงกัน ด้วยวิธีการเดียวกับมารดาและบุตรเชื่อมต่อถึงกัน รากไม่อาจถูกทำลายและใบก็ไม่มีทางตาย, ใบไม่มีทางตาย และรากไม่อาจถูกทำลาย! เจ้ายึดรากและใช้ใบต่อต้านทัณฑ์สวรรค์ นี่ก็คือวิธีการเอาชนะทัณฑ์สวรรค์!”
“แย่ยิ่งนักที่รูปแบบชีวิตมหัศจรรย์ไม่ใช่สิ่งธรรมดาทั่วไป แม้แต่สิ่งที่คล้ายกับมันก็ไม่ธรรมดา พวกมันทั้งหมดดับสูญไปหมดแล้ว เจ้าต้องมีโชคอย่างน่าเหลือเชื่อถึงจะได้พบสักหนึ่งชิ้น เพียงแค่มองไปที่เจ้า ข้าก็บอกได้เลยว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ เจ้าไม่ใช่บุคคลที่โชคดีเช่นนั้น มีโอกาสเป็นอย่างมากที่เจ้าต้องตายไป”
เมื่อได้ยินคำพูดของนกแก้ว จริงๆ แล้วก็ทำให้ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นมา หลังจากวิเคราะห์คำพูดของมัน ก็ดูเหมือนว่าจะมีเหตุผลอยู่เล็กน้อย ยิ่งไปกว่านั้น จิตใจเขากำลังหมุนคว้างอยู่ในตอนนี้ นี่เป็นเพราะเขาได้คิดไปถึงรูปแบบชีวิตมหัศจรรย์ของดินแดนสีดำ ซึ่งเหมือนกับสิ่งที่นกแก้วอธิบายมาเป็นอย่างมาก!