กระบี่เล่มนี้สามารถกระเทือนสวรรค์สั่นปฐพี!
กระบี่เล่มนี้สร้างความตกตะลึงให้กับผู้ฝึกตนนับหมื่น!
กระบี่เล่มนี้เกิดจากโทสะของผู้ฝึกตนหน้ากากฟ้า ความต้องการสังหารเมิ่งฮ่าวของมันไม่เคยมากมายเช่นนี้มาก่อน
จิตใจเมิ่งฮ่าวสัมผัสได้ถึงอันตรายตั้งแต่เริ่มต้นการต่อสู้ แต่ในตอนที่ความรู้สึกนี้เกิดขึ้น เส้นใยแห่งปราณที่อยู่ภายในร่างก็เริ่มขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ในที่สุด เขาก็จะสามารถทะลวงผ่านพื้นฐานฝึกตนได้
ตอนนี้ เมิ่งฮ่าวรู้สึกอย่างแรงกล้าว่า ถ้าเขาสามารถยืนหยัดต่อต้านการโจมตีครั้งนี้ได้…เขาก็จะสามารถทะลวงผ่านได้เช่นกัน ปราณการต่อสู้โบราณก็จะช่วยให้เขาสร้างเสาแห่งเต๋าสมบูรณ์ต้นที่เก้าขึ้นมาได้ เขาจะกลายเป็นผู้ฝึกตนคนแรกในยุคนี้ที่จะมีวงจรอันยิ่งใหญ่ของพื้นฐานลมปราณสมบูรณ์!
ความมุ่งมั่นเต็มอยู่ในดวงตาเมิ่งฮ่าว กระบี่วิญญาณพุ่งใกล้เข้ามา แยกอากาศออกขณะที่มันพุ่งตรงมาที่เขา เมิ่งฮ่าวทันใดนั้นก็ยื่นแขนออกไปทั้งสองข้าง ดวงตาเป็นสีแดงคล้ำขณะที่เขาตะโกน
“ห้าร่างจำแลงโลหิต! ออกมา!” ห้าเงาร่างสีโลหิต ทันใดนั้น ก็ปรากฎขึ้นรอบๆ ตัว นี่ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากห้าร่างจำแลงโลหิต ที่เมิ่งฮ่าวสร้างขึ้นมา
ทันทีที่พวกมันปรากฎขึ้น ภาพภูติผีก็โผล่ขึ้นมารอบๆ พวกมัน ขณะที่ภาพภูติผีเหล่านั้นกลายเป็นแก่นแท้ของร่างจำแลง ซึ่งก็คือ ผิวหนังของผีโต้งนั่นเอง!
พวกมันกลายร่างเป็นแก่นแท้ของร่างจำแลง เกือบจะในเวลาเดียวกันนั้น กระบี่วิญญาณของผู้ฝึกตนหน้ากากฟ้าก็พุ่งมาถึง เต็มไปด้วยรังสีสังหาร แทนที่มันจะกระแทกเข้าไปในหน้าผากเมิ่งฮ่าว มันก็กระแทกไปที่ผิวหนังของผีโต้ง!
เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังเต็มอยู่ในอากาศ ห้าชิ้นของผิวหนังผีโต้งลอยไปด้านหลัง ไม่ได้ถูกทำลายไป แต่ก็ไม่อาจควบคุมพลังที่มีผลกระทบตามมา พลังนั้นกระแทกเข้าไปในตัวเมิ่งฮ่าว ทำให้เขาหมุนคว้างไปด้านหลัง ราวกับว่าวที่ถูกตัดสายป่าน โลหิตกระจายออกมาจากปาก
กระบี่วิญญาณส่งเสียงร้องแหลมเล็กแหวกฝ่าอากาศ ดูสลัวลงเล็กน้อยจากก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าการขัดขวางของผิวหนังผีโต้งทำให้มันสั่นไปมา แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอกจากทำให้มันหยุดชะงักเพียงชั่วครู่ก่อนที่จะพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าวอีกครั้ง
ถึงแม้เมิ่งฮ่าวจะกระอักโลหิตออกมา ทุกสิ่งทุกอย่างก็ได้เกิดขึ้นตามที่เขาคาดคิดไว้จริงๆ เขาล่าถอยไปด้านหลัง และไม่มีเวลาในการปาดเช็ดโลหิตที่มุมปาก หยิบเอากระบี่ไม้แห่งกาลเวลาออกมา
เมิ่งฮ่าวมีสีหน้าดุร้าย และรังสีสังหารอันเข้มข้นก็กระจายออกมา ดูผิวเผิน ก็เหมือนกับเขาได้ต่อสู้กับสร้างแกนลมปราณได้อย่างเท่าเทียมกัน มีแต่เขาเท่านั้นที่จะรู้ว่า แค่ผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็จะทำให้เขาถึงแก่ความตายลงไปในทันที
มันน่าประหลาดใจนัก ที่เขาสามารถยืนหยัดต่อสู้ได้นานขนาดนี้ สิ่งที่สำคัญมากที่สุดของการต่อสู้นี้ก็แน่นอนว่า เป็นตอนที่เขาใช้จี้หยกเพื่อทำลายแกนปราณอันทรงพลังของคู่ต่อสู้!
ผลลัพธ์ที่ทำให้คู่ต่อสู้อ่อนแอลงชั่วคราว จึงเป็นสิ่งที่ทำให้เมิ่งฮ่าวสามารถยืนหยัดได้จนถึงตอนนี้
ผลลัพธ์ของการต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายนี้ ก็กำลังทำให้ปราณที่กำลังทะลวงผ่านพื้นฐานฝึกตนภายในร่างของเขาเติบโตมากขึ้น ทุกครั้งที่โจมตี ก็จะทำให้เส้นใยแห่งปราณเติบโตขึ้นหลายเท่ารวดเร็วกว่าตอนที่เขาได้ต่อสู้กับพื้นฐานลมปราณก่อนหน้านี้
ดังนั้น เขาจึงไม่ได้หวาดกลัวการต่อสู้นี้
กระบี่แห่งกาลเวลาเพิ่งจะเกิดขึ้นในดินแดนด้านใต้ เมิ่งฮ่าวจึงไม่แน่ใจว่ามันจะทรงพลังมากแค่ไหน มันได้ลดอายุขัยของหลัวชงไป แต่มันก็เป็นแค่ผู้ฝึกตนขั้นพื้นฐานลมปราณ และเมิ่งฮ่าวก็แทบจะไม่ต้องใช้ความพยายามมากเท่าไหร่ในการโจมตี เขาไม่แม้แต่จะพยายามดึงพลังของกระบี่ออกมาเลย แต่ตอนนี้ เขากำลังต่อสู้กับสร้างแกนลมปราณ…ดวงตาเมิ่งฮ่าวเต็มไปด้วยการตกลงใจ การต่อสู้ทั้งหมดในตอนนี้ขึ้นอยู่กับของวิเศษชิ้นนี้!
ขณะที่เขายกกระบี่ไม้แห่งกาลเวลาขึ้นมา เขาตัดทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆ ตัวออกไป มุ่งความสนใจทั้งหมดไปอยู่ที่กระบี่ ราวกับว่าเขาเป็นกระบี่ และกระบี่ก็เป็นเขา!
ยากที่จะบอกว่าร่างกายเขาทำตามการเคลื่อนไหวของกระบี่ หรือกระบี่ทำตามเวทเจตจำนงของเขา ตอนนี้ เมิ่งฮ่าวมีความศรัทธาต่อกระบี่นี้อย่างสูงสุด เขาเชื่อมั่นว่ากระบี่นี้จะเป็นตัวเปลี่ยนพลิกสถานการณ์!
ความศรัทธาดูเหมือนเป็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์ แต่จริงๆ แล้ว หลังจากที่เขาส่งจิตใจเข้าไปในกระบี่ เขาก็ได้รับการรู้แจ้งด้วยตนเอง มันเหมือนกับที่เขากำลังฝึกฝนพลังฝึกตน…นั่นคือผลลัพธ์ในความศรัทธา!
กระบี่ไม่ได้ส่องแสงเจิดจ้าใดๆ ออกมา ไม่ได้กระจายระลอกคลื่นอันน่าตกใจออกมาด้วยเช่นกัน มันเพียงพุ่งขึ้นไป และจากนั้นก็กรีดลงไปบนกระบี่วิญญาณที่กำลังพุ่งเข้ามา
วิญญาณของผู้ฝึกตนหน้ากากฟ้าตกตะลึง
เป็นครั้งแรกของการต่อสู้ ที่ผู้ฝึกตนหน้ากากฟ้าสัมผัสได้ถึงอันตรายอย่างลึกซึ้ง ขณะที่มันลอยอยู่ภายในจิตวิญญาณ มันก็คิดถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับเต้าจื่อหลัวชงในทันที
แต่มันก็ไม่ยอมล่าถอย มันไม่ต้องการหลบหนี เพราะถ้ามันไม่อาจสังหารฟางมู่ มันก็ยากที่จะเรียกวิญญาณกลับมาได้ ดังนั้น มันจึงพุ่งตรงไปด้วยความเร็วสูงสุด กระแทกเข้าไปในกระบี่ไม้แห่งกาลเวลาที่กรีดลงมา
ไม่มีเสียงกระหึ่มกึกก้อง ไม่มีเสียงระเบิด แต่สายลมแห่งกาลเวลาอันน่าตกใจพุ่งขึ้นมา เต็มอยู่ในพื้นที่บริเวณนั้น มันเป็นเสียงเพลงแห่งเวลา แสงแห่งชีวิตดูเหมือนจะคล้ายกับภาพลวงตาบางอย่าง
ปราณเก่าแก่เต็มอยู่ในอากาศ จากนั้นก็หลอมรวมเข้ากับสิ่งที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น เมื่อกระบี่วิญญาณ และกระบี่ไม้แห่งกาลเวลาปะทะกัน วิญญาณของผู้ฝึกตนหน้ากากฟ้าส่งเสียงแผดร้องอย่างน่ากลัวออกมา ซึ่งไม่มีใครสามารถได้ยินยกเว้นตัวมันเอง มันได้รับบาดเจ็บโดยไร้บาดแผล แต่ก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดอย่างน่าเหลือเชื่อ ราวกับว่า…พลังชีวิตของมันได้รับบาดเจ็บ ราวกับว่าชีวิตของตัวมันเองถูกดูดออกไป มันอ่อนแอลงอย่างมาก
ความรู้สึกอ่อนแอเต็มอยู่ในจิตใจพร้อมกับความหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพียงพริบตามันก็ตระหนักว่า กระบี่ไม้แห่งกาลเวลา ทำให้อายุขัยของมันลดลงไปถึงหกสิบปีเต็ม!!
นี่เป็นผลลัพธ์ของการกรีดกระบี่เพียงแค่ครั้งเดียว ก่อนที่กระบี่ที่สองจะกรีดลงมา วิญญาณของผู้ฝึกตนหน้ากากฟ้าก็ส่งเสียงตะโกนอย่างดุร้ายออกมา กระบี่วิญญาณพุ่งตรงไป แทงทะลุหน้าอกเมิ่งฮ่าวออกไป จากนั้นก็หายเข้าไปในห่าโลหิต
โลหิตกระจายออกมาจากปากเมิ่งฮ่าว และใบหน้าเขาก็ซีดขาว ร่างกายกลายเป็นลำแสงหลากสี ขณะที่เขาตกลงไปที่จอภาพเรืองแสง และน้ำพุร้อนแห่งเต๋า
เมื่อกระบี่วิญญาณหายไป ร่างของผู้ฝึกตนหน้ากากฟ้าสั่นสะท้าน โลหิตกระจายออกมาจากปาก ขณะที่มันลืมตาขึ้น เมื่อมันก้าวโซเซไปด้านหลัง ร่างกายมันก็แก่ตัวลง กระอักโลหิตออกมาอีกครั้ง หน้ากากของมัน ทันใดนั้น ก็หลุดล่วงลง เผยให้เห็นใบหน้าที่ซีดขาวของชายชรา ไร้สีเลือดโดยสิ้นเชิง
หลังจากที่อยู่ในขั้นสร้างแกนลมปราณ มันก็ไม่เคยพบใครที่ยากจะสังหารได้เหมือนเมิ่งฮ่าวมาก่อน มันหอบหายใจ ใบหน้าซีดขาว ไม่ยอมชะล่าใจแม้แต่น้อย และกำลังจะพุ่งโจมตีอีกครั้ง นี่เป็นเพราะมันรู้ว่า…กระบี่นั้นไม่ได้แทงทะลุหัวใจของเมิ่งฮ่าว ในเสี้ยวเวลาสุดท้าย เมิ่งฮ่าวได้ขยับไปด้านข้าง ทำให้กระบี่พลาดจุดสำคัญไป
ทันใดนั้น ความตกใจก็ปกคลุมใบหน้าของมัน ขณะที่มองตรงไปยังเมิ่งฮ่าว
ด้านล่าง ผู้ฝึกตนนับหมื่นต่างก็มองมาด้วยความตกตะลึงด้วยเช่นกัน พวกมันเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่าง รวมถึงกระบี่ที่ทะลุผ่านหน้าอกของเมิ่งฮ่าวไป ตอนนี้ ดวงตาของพวกมันต่างก็เบิกโพลงด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
สายตาทุกคู่จ้องนิ่งอยู่ที่เมิ่งฮ่าว!
เขากำลังตกลงมา แต่จากนั้นก็หยุดอยู่กลางอากาศ ลอยตัวอยู่ที่นั่น และเมื่อดวงตาเขาลืมขึ้นมา พวกมันก็เปล่งแสงอันเย็นเยียบราวน้ำแข็ง บาดแผลของเขาหนักหนาสาหัส แม้แต่จะใช้พลังแปลงม่านตาม่วงเพื่อช่วยรักษา ก็ยังไม่อาจจะฟื้นฟูกลับมาให้หายได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
สิ่งที่สร้างความตกตะลึงให้กับผู้ฝึกตนที่ไร้หน้ากาก และผู้ฝึกตนคนอื่นๆ อีกนับหมื่น เป็นสิ่งที่สร้างความตกใจให้กับพวกมันจนลึกลงไปถึงไขกระดูก ก็คือ เมิ่งฮ่าวซึ่งกำลังลอยตัวอยู่กลางอากาศในตอนนี้…อยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับเงาร่างบนจอภาพเรืองแสง! ร่างกายของพวกเขาซ้อนทับกัน
ความรู้สึกอันทรงพลัง ทันใดนั้น ก็ประดังขึ้นมาในร่างเมิ่งฮ่าว เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงเส้นใยลมปราณที่กำลังระเบิดออกมาพร้อมพลังที่จะทำให้ทะลวงผ่านพื้นฐานฝึกตน
การระเบิดของปราณนี้ ทำให้เกิดความตกตะลึงไปทั่วอยู่ในจิตใจทุกคน ทั้งผู้ฝึกตนที่ไร้หน้ากาก, หวังลี่ไห่, เต้าจื่อดินแดนสีดำ และคนอื่นๆ ทุกคน!
พื้นฐานฝึกตนถูกทะลวงผ่านในท่ามกลางการต่อสู้!
ขณะที่ทุกคนรู้สึกตกตะลึงอยู่ในจิตใจ เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เขาได้รอคอยตอนนี้มาเป็นเวลานาน เพื่อจะบรรลุการทะลวงผ่านนี้ เขาตั้งใจที่จะต่อสู้กับขั้นสร้างแกนลมปราณ ในที่สุด ปราณการต่อสู้โบราณก็ระเบิดออกมาภายในร่าง สุดท้าย เมิ่งฮ่าวก็รู้สึกได้ถึงความเร็วอันน่าเหลือเชื่อที่เสาแห่งเต๋าต้นที่เก้ากำลังก่อตัวขึ้นมา
หนึ่งส่วน, สองส่วน, สามส่วน…
เขาไม่จำเป็นต้องได้รับการเห็นชอบจากสวรรค์และปฐพี เพื่อก่อตัวเสาแห่งเต๋าต้นที่เก้านี้ แต่เขาก็จำเป็นต้องใช้พลังลมปราณ ในตอนนี้ เสาแห่งเต๋าทั้งแปดต้นในร่างเขากำลังส่งพลังลมปราณจำนวนมากมายอย่างน่าตกใจออกมา ปราณทั้งหมดไหลเข้าไปในเสาแห่งเต๋าต้นที่เก้า
สี่ส่วน, ห้าส่วน, หกส่วน…
กลิ่นอายเมิ่งฮ่าวเริ่มแข็งแกร่งทรงพลังมากขึ้นไปเรื่อยๆ เมื่อเป็นเช่นนั้น ร่างของเขาก็กระจายแสงสีม่วงเจิดจ้าบาดตาพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า และปกคลุมไปทั่วรอบๆ บริเวณนั้น แรงกดดันอันยิ่งใหญ่กระจายออกมาจากร่าง กดลงไปบนร่างของผู้ฝึกตนพื้นฐานลมปราณนับหมื่น ทำให้จิตวิญญาณของพวกมันสั่นไหว พื้นฐานฝึกตนของพวกมันเริ่มไม่คงที่ และเสาแห่งเต๋าก็สั่นสะท้าน เกินกว่าที่พวกมันจะควบคุมได้! ราวกับว่าการคงอยู่ของเมิ่งฮ่าว กำลังทำให้เสาแห่งเต๋าทั้งหมดต้องโค้งตัวลงคารวะเขา
ดูเหมือนราวกับเมิ่งฮ่าวได้กลายเป็นราชันย์ของขั้นพื้นฐานลมปราณ แรงกดดันอันมหาศาลที่ไหลซึมออกมาจากตัวเขา ก็ดูเหมือนจะสามารถทำให้ผู้ฝึกตนพื้นฐานลมปราณที่เหลือไม่ใช่สิ่งใดๆ นอกจากมนุษย์ธรรมดา
กลิ่นอายอันทรงพลังนั้นเริ่มเข้มข้นมากขึ้นไปเรื่อยๆ ทำให้จิตใจของทุกคนหมุนเคว้งคว้าง จิตใจของผู้ฝึกตนไร้หน้ากากตอนนี้ก็เต๋มไปด้วยความรู้สึกถึงอันตรายอย่างรุนแรง
“ข้าต้องไม่ปล่อยให้มันแข็งแกร่งมากไปกว่านี้” มันคิด ใบหน้าบิดเบี้ยว “บัดซบ, มันอยู่ท่ามกลางการรู้แจ้งน้ำพุร้อนแห่งเต๋า!” โดยไม่ลังเล มันเริ่มบินตรงมายังเมิ่งฮ่าวด้วยความรวดเร็ว
แต่ขณะที่มันเข้ามาใกล้ เสียงกระหึ่มกึกก้อง ทันใดนั้น ก็ดังออกมาจากน้ำพุร้อนแห่งเต๋า ตรงเบื้องหน้าของผู้ฝึกตนนับหมื่นที่ตกตะลึงอยู่ มันระเบิดพลังปราณอันไร้ขอบเขตออกมา!
ปราณจำนวนมากมายมหาศาลพุ่งขึ้น และจุดเชื่อมต่อของการระเบิดนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากตัวเมิ่งฮ่าวเอง ทันใดนั้น ผู้ฝึกตนไร้หน้ากากก็ถูกบังคับให้ต้องหยุดลง มันไม่กล้าจะข้าไปใกล้ และทำได้แต่เพียงมองไป ขณะที่เมิ่งฮ่าวถูกห่อหุ่มไว้ด้วยพลังลมปราณ และจากนั้นก็หายไป
“ฟางมู่ได้รับการรู้แจ้ง! น้ำพุร้อนแห่งเต๋าจะปะทุพลังลมปราณออกมา ตอนที่มีใครบางคนได้รับการรู้แจ้งเท่านั้น!!”
“แต่…มันระเบิดพลังลมปราณออกมามากมายยิ่งนัก…”
“ตอนที่หลี่ชือฉี บรรลุขั้นสร้างแกนลมปราณ ก็มีพลังลมปราณเพียงแค่สามในสิบส่วนของครั้งนี้เท่านั้น ซึ่งก็เหมือนกับหลี่เต้าอี, ฟางมู่…มันกำลังทะลวงผ่านเข้าไปในขั้นอะไร? ช่างมีพลังปราณมากมายยิ่ง!!”
ผู้ฝึกตนนับหมื่นตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวาย ขณะที่พวกมันมองไปยังพลังปราณที่ระเบิดออกมา และจากนั้นก็ไหลเข้าไปก่อตัวเป็นเสาแห่งเต๋าในร่างเมิ่งฮ่าว
ดูราวกับว่าปราณนี้ไม่ได้เป็นของสวรรค์และปฐพีอีกต่อไป แต่เป็นของเมิ่งฮ่าวเพียงผู้เดียว!
เจ็ดส่วน, แปดส่วน, เก้าส่วน…
ในที่สุด…ก็สิบส่วนเต็ม!
แต่ในขณะที่เสาแห่งเต๋าต้นที่เก้าเสร็จสมบูรณ์ ร่างกายเมิ่งฮ่าวก็สั่นสะท้านอย่างน่าตกใจขึ้นมา เขาคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างได้จบลงแล้ว เขารู้สึกได้ถึงพลังที่อยู่ภายในร่างเขามากมายอย่างคาดไม่ถึงมาก่อน แต่อย่างไรก็ตาม…
ท่าทางตกตะลึงและไม่อยากจะเชื่อเต็มอยู่บนใบหน้า ขณะที่เขาสังเกตว่า พลังปราณที่กำลังไหลเวียนอยู่ภายในร่างเขาจริงๆ แล้ว กำลังก่อตัวเป็น…
เสาแห่งเต๋าต้นที่สิบ!