เม็ดยามากกว่าหนึ่งพันหมุนวนเข้าด้วยกัน ก่อตัวเป็นกระถาง กลิ่นอายของตัวยาเต็มอยู่ในพื้นที่ ทันใดนั้น ทุกคนเริ่มหายใจอย่างหนักหน่วง ตกตะลึงต่อภาพของกระถางยักษ์ ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบสงัด
หลินไห่หลง ลุกขึ้นมายืน จ้องไปยังเมิ่งฮ่าว ดวงตาสาดประกายด้วยความเจิดจ้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ข้างกายมัน อันจ้ายไห่ ซึ่งรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเจ้าโอสถจอมกระถางเรียบร้อยแล้ว ก็ยังตกตะลึงอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อมองเห็นภาพกระถางที่ก่อตัวขึ้นมาจากเม็ดยาระดับเลิศเก้าในสิบส่วน
เทพกระถางม่วงคนอื่นๆ ต่างก็ประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เม็ดยาระดับเลิศเก้าในสิบส่วนมากมาย ทั้งหมดต่างก็ถูกทำเครื่องหมายด้วยสัญลักษณ์กระถาง เห็นได้ชัดว่าเป็นการบ่งชี้ถึงตัวตนของเมิ่งฮ่าว ในตอนนี้ ก็ไม่มีใครโง่พอที่จะปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่ตานติ่ง
ถ้าเขาไม่ใช่ตานติ่ง แล้วทำไมเขาถึงมีเม็ดยาระดับเลิศเก้าในสิบส่วนได้มากมายเช่นนี้?
ถ้าเขาไม่ใช่ตานติ่ง แล้วทำไมเขาถึงสามารถสร้างบางสิ่งขึ้นมาจากความว่างเปล่า อย่างน่าตกตะลึงในด่านที่สามได้?
เมื่อคิดถึงเรื่องทั้งหมดที่ได้เกิดขึ้น และจากนั้นก็เผชิญหน้ากับกระถางเม็ดยาที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศ ทุกคนก็เห็นได้ชัดว่า ตานติ่งต้าชือผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฟางมู่
ใบหน้าเยี่ยหยุนเทียนซีดขาว ขณะที่มันโซเซถอยไปด้านหลังสองสามก้าว ร่างกายสั่นไปมา ดวงตาเบิกโพลงด้วยความไม่อยากจะเชื่อ มันรู้ว่าเยี่ยเฟยโม่ไม่ใช่ตานติ่งต้าชือ และที่สำคัญมันไม่เคยคิดมาก่อนว่าฟางมู่จะเป็นบุคคลผู้ลึกลับนั้น อันที่จริง มันเคยคาดเดาว่าตัวตนของตานติ่งต้าชือเป็นบุคคลอื่น และได้ยืนกรานในข้อสรุปนั้นของมัน แต่ตอนนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับเป็นตรงกันข้าม จิตใจเยี่ยหยุนเทียนหมุนเคว้งคว้าง!
นามของเจ้าโอสถจอมกระถาง ดังก้องไปทั่วทั้งดินแดนด้านใต้ ด้วยการรวมเข้าไปกับเจ้าโอสถอีกสามท่าน อันที่จริงผู้คนมากมายเชื่อว่า เจ้าโอสถจอมกระถางจริงๆ แล้วก็เป็นเจ้าโอสถคนที่สี่ของดินแดนด้านใต้
ด้วยตัวตนและความเป็นจริงเช่นนี้ ก็เหมือนกับใบหน้าเยี่ยหยุนเทียนถูกตบจนเกิดเสียงดัง, ถูกจิกกัด, โดนเผาไหม้ จนทำให้จิตใจของมันหมุนคว้างไปมา
มันคิดถึงเรื่องที่มันเพิ่งจะพูดไป และคำถามที่ฟางมู่ได้ถามมันเกี่ยวกับคุณสมบัติ ตอนนี้ คำพูดที่มันได้กล่าวไว้…ได้ทำให้ใบหน้าของมันร้อนผ่าวมากขึ้น มันรู้สึกละอายใจจนอยากจะหารูมุดตัวลงไป
ถ้าเจ้าโอสถจอมกระถางไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นเทพกระถางม่วง แล้วใครในโลกนี้จะเป็นได้? แม้แต่เทพกระถางม่วงทั้งแปดในตอนนี้จะมีคุณสมบัติเพียงพอ…?
ร่างเยี่ยเฟยโม่สั่นสะท้าน และใบหน้าของมันก็ขาวซีดจนไร้สีเลือด มันดูท่าทางมืดมัวราวความตาย ขณะที่จ้องมายังเมิ่งฮ่าว และกระถางปรุงยาขนาดยักษ์ที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศอย่างเงียบๆ จิตใจของมันว่างเปล่า ราวกับว่ามันสูญเสียแม้แต่ความสามารถที่จะนึกคิด
มันรู้ตัวมาตลอดเวลาว่า มันไม่ใช่ตานติ่งผู้ลึกลับ ขณะที่มีผู้คนมากมาย คนแล้วคนเล่าคาดเดาว่าเป็นมัน มันก็มักรู้สึกว่าควรจะบอกความจริง แต่มันก็ยังคงนิ่งเงียบ
มันจำเป็นต้องใช้ตัวตนนั้นเพื่อช่วยผลักดันให้มันกลายเป็นเทพกระถางม่วง ดังนั้น เมื่อฉู่อวี้เยียนมาถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันก็ไม่พูดอะไรออกมา และด้วยเช่นนั้นก็เป็นการยอมรับอย่างปริยาย
อันที่จริง มันได้ยอมรับเจ้าโอสถจอมกระถางอยู่ลึกๆ ด้านใน ด้วยเช่นนั้น มันก็มักจะรู้สึกผิดอยู่ในใจเป็นประจำ
ตอนนี้ มันตกตะลึงเมื่อรู้ว่าฟางมู่เป็นเจ้าโอสถจอมกระถางผู้ลึกลับนั้น ทำให้จิตใจของมันเต็มไปด้วยความว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง
ฉู่อวี้เยียน สั่นสะท้าน และจิตใจก็หมุนเคว้งคว้าง ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนางที่จะยอมรับเรื่องเช่นนี้ ภาพของเจ้าโอสถจอมกระถาง และฟางมู่ที่ปรากฎขึ้นในจิตใจของนาง ไม่เคยจะซ้อนทับกันได้ นางเชื่อว่าเยี่ยเฟยโม่เป็นเจ้าโอสถจอมกระถางมาโดยตลอด
แต่ตอนนี้ เมื่อได้เผชิญหน้ากับกระถางปรุงยาที่ก่อตัวมาจากเม็ดยา ได้เห็นความเยือกเย็นและสงบนิ่งของเมิ่งฮ่าว ได้ยินคำพูดของเขาดังก้องอยู่ในหู ใบหน้านางก็เต็มไปด้วยความว่างเปล่าและไม่อยากจะเชื่อ
นางไม่เข้าใจว่า ฟางมู่ผู้ซึ่งทำให้นางรู้สึกหงุดหงิดตั้งแต่วันแรก ที่ได้เห็นเขาเมื่อหลายปีก่อน จริงๆ แล้วก็คือตานติ่ง ผู้ซึ่งนางแอบเทิดทูนบูชาอย่างมากมายได้อย่างไร ไม่มีทางที่ฉู่อวี้เยียนจะยอมรับเรื่องนี้ นางได้แต่จ้องไปอย่างเก้ๆ กังๆ
ตอนนี้สีหน้าของเทพกระถางม่วงทั้งหมด ที่เคยสนับสนุนเยี่ยเฟยโม่ได้เปลี่ยนไป เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เจ้าโอสถจอมกระถางมีความสำคัญมากกว่าความสันพันธ์ธรรมดา ระหว่างพวกมันและเยี่ยเฟยโม่
การสนับสนุนเยี่ยเฟยโม่ก็ไม่มีสิ่งใด ไม่เหมือนกับการสนับสนุนเจ้าโอสถจอมกระถาง ในจิตใจของอาจารย์ปรุงยาแห่งแผนกเม็ดยาบูรพา เจ้าโอสถจอมกระถางอยู่ในตำแหน่งที่น่าเคารพเทิดทูนเช่นเดียวกับเจ้าโอสถจอมปีศาจ
ดังนั้น ถึงแม้ว่าพวกมันจะเคยสนับสนุนเยี่ยเฟยโม่ แต่เรื่องราวในตอนนี้ก็เปลี่ยนไปในทันที ตอนนี้ตัวตนของฟางมู่ได้เปิดเผยออกมาแล้ว คำพูดของเขาดังก้องอยู่ในอากาศราวกับเสียงฟ้าฟาด สะท้อนไปมาอยู่ในจิตใจของเจ้าแห่งเตาจนใกล้ถึงจุดระเบิด
เจ้าแห่งเตาทั้งหมดจ้องไปอย่างเงียบๆ สูดลมหายใจอย่างหนักหน่วง ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจอย่างรุนแรง
ไม่มีใครพูด แต่จิตใจของพวกมันทั้งหมดต่างก็เกิดเสียงหึ่งๆ ขึ้นด้วยความคิดเดียวกัน
“เจ้าแห่งเตาฟางมู่ เป็นเจ้าโอสถจอมกระถางตัวจริง…”
“ช่างมีเม็ดยาระดับเลิศเก้าในสิบส่วนมากมายยิ่ง มีเพียงเจ้าโอสถจอมกระถางเท่านั้น ถึงจะปรุงได้มากมายเช่นนี้ ฟางมู่…จริงๆ แล้วก็คือเจ้าโอสถจอมกระถาง!!”
นอกเหนือจากกลุ่มคนในแผนกเม็ดยาบูรพา ผู้ฝึกตนจากสำนักด้านนอกทั้งหมดต่างก็มีความสงสัยอยู่บนใบหน้า
ปรมาจารย์จื่อหลัว แห่งสำนักชิงหลัว จ้องมองมาด้วยความตกตะลึง ทันใดนั้น มันก็คิดย้อนกลับไปเมื่อฟางมู่ได้ปรุงเม็ดยาให้กับพวกมันในสำนัก และจากนั้นมันก็ตระหนักว่าทำไมเม็ดยาเหล่านั้นถึงได้มีประสิทธิภาพมากนัก เป็นเพราะว่าฟางมู่ไม่ใช่เจ้าแห่งเตาธรรมดาทั่วไป แต่เขาคือ…เจ้าโอสถจอมกระถาง!
หานเป้ยหุบปากที่อ้ากว้างลง ราวกับว่านางหายใจไม่ออก จ้องอย่างเห็นด้วยไปยังเมิ่งฮ่าว ชื่อเสียงของเจ้าโอสถจอมกระถางไม่เพียงแต่ยิ่งใหญ่เท่านั้น ยังโด่งดังราวกับเสียงฟ้าร้องที่ดังกรอกหูนาง! และตอนนี้ก็กลายเป็นว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ฟางมู่ก็คือเจ้าโอสถจอมกระถาง!
เจ้าอ้วนอ้าปากหอบหายใจ และสีหน้าของมันก็เต็มไปด้วยการยอมรับอย่างเข้มข้น
สำหรับเฉินฟ่าน, หลี่เต้าอี และหลี่ชือฉี รวมถึงศิษย์คนอื่นๆ จากสำนักต่างๆ พวกมันเพียงแค่จ้องมองมา จิตใจสั่นสะท้าน เนื่องจากการเปิดเผยตัวตนของฟางมู่
ถึงแม้ว่า ปรมาจารย์ย่อยกำลังจ้องมองมาอย่างครุ่นคิด แต่ดวงตาของพวกมันก็สาดประกายด้วยแสงแปลกๆ พวกมันคาดคิดได้ว่าหลังจากวันนี้ นามของเจ้าโอสถจอมกระถางก็จะดังก้องไปทั่วทั้งดินแดนด้านใต้
เมื่อเกิดขึ้นเช่นนั้น ฟางมู่…ก็จะไม่เป็นเพียงแค่ดวงตะวันในท้องฟ้าเหนือดินแดนด้านใต้เท่านั้น แต่เขาจะมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วอย่างแน่นอน!
“เทพกระถางม่วงเยี่ย” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ จ้องไปยังดวงตาของเยี่ยหยุนเทียนที่มีสีหน้าขาวซีด “สถานภาพของข้าสูงเพียงพอหรือไม่?”
เยี่ยหยุนเทียนอยากจะกล่าวบางอย่างออกมา แต่เมื่อพิจารณาว่าฟางมู่เป็นเจ้าโอสถจอมกระถาง คำพูดทั้งหมดของมันก็ติดอยู่ในลำคอ มันยังจะมีหน้าไปพูดจาใดๆ ได้?
“ข้าสนับสนุนเจ้าแห่งเตาฟางมู่!” อันจ้ายไห่กล่าวขึ้นในทันใด ข้างกายมัน หลินไห่หลง ไม่ลังเลอีกต่อไป ทันใดนั้น มันก็กล่าวตามคำพูดของอันจ้ายไห่ จากนั้นก็เป็นสตรีวัยกลางคน ต่อมา เทพกระถางม่วงทั้งหมดที่เคยสนับสนุนเยี่ยเฟยโม่ ก็แอบถอนหายใจ และส่งเสียงสนับสนุนฟางมู่
หลังจากนั้น เก้าในสิบส่วนของเจ้าแห่งเตาเกือบหนึ่งร้อยคน ต่างก็ส่งเสียงสนับสนุนดังก้องขึ้น
“ข้าสนับสนุนเจ้าโอสถจอมกระถาง!”
“ข้าสนับสนุนเจ้าแห่งเตาฟางมู่!”
เสียงของพวกมันดังก้องออกไป เสียงแล้วเสียงเล่า ก่อตัวเป็นเสียงเซ็งแซ่เต็มอยู่ในอากาศ