ผู้ฝึกตนหน้ากากฟ้า เป็นคนเดียวกับผู้เชี่ยวชาญสร้างแกนลมปราณ ที่พยายามจะสังหารเขาในวันนั้นเมื่อนานมาแล้ว
“ข้ากำลังขาดแคลนคนที่จะต่อสู้ด้วยอยู่พอดี” เมิ่งฮ่าวคิด “คนผู้นี้…ต้องเป็นคู่ต่อสู้คนต่อไปของข้า!” แสงเจิดจ้าในดวงตาในที่สุดก็จางหายไป เขาสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และหลับตาลง เข้าฌาณและโคจรพื้นฐานฝึกตน เพื่อให้มั่นใจว่า เขามีความสามารถอยู่ที่จุดสูงสุด
ตอนนี้เขาตัดสินใจต่อสู้ จึงสงบเย็นเป็นอย่างยิ่ง
ไม่ว่าเขาจะชนะหรือพ่ายแพ้ เขาต้องโจมตี! การต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นขั้นสุดท้ายของการรู้แจ้งของเขา!
ทันทีที่เขาหลับตาลง กลุ่มคนจากดินแดนสีดำก็มาถึง ดึงดูดความสนใจของผู้ฝึกตนที่อยู่บริเวณรอบๆ เกือบทั้งหมด
โจวเจี๋ย และคนอื่นๆ ที่บรรลุขั้นสร้างแกนลมปราณไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่หวังลี่ไห่ และหานซานเต้า รวมถึงเต้าจื่อและผู้ถูกเลือกของสำนักต่างๆ ทั้งหมดต่างก็ยังอยู่
ท่ามกลางผู้ฝึกตนนับหมื่นที่ใกล้กับน้ำพุร้อนแห่งเต๋า มีหลายคนที่จดจำบุคคลทั้งสองที่สวมใส่หน้ากากสีทองนั้นได้
“คนทั้งสองที่สวมหน้ากากสีทอง…พวกมันก็คือเต้าจื่อ ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังเมื่อปีก่อนในดินแดนสีดำ!”
“เต้าจื่อแห่งดินแดนสีดำ หลัวชง และ ฉือเฟย!”
“ต้องเป็นพวกมันอย่างแน่นอน มีเพียงคนทั้งสองที่สามารถสวมหน้ากากสีทอง!”
เสียงพูดคุยดังกระจายออกไป ในที่สุด สายตาทุกคู่ก็จ้องไปที่สองเต้าจื่อดินแดนสีดำ ในปีที่ผ่านมา เรื่องราวของพวกมันได้กระจายไปทั่วในดินแดนด้านใต้ ทำให้พวกมันค่อนข้างเป็นที่รู้จัก พวกมันอยู่ในครึ่งทางของขั้นสร้างแกนลมปราณ และจากข่าวลือ พวกมันสามารถจะก้าวไปขั้นสร้างแกนลมปราณได้ทุกเมื่อ
“หน้ากากสีฟ้าสามคนที่อยู่ด้านหลังพวกมันต้องเป็นสามหน้ากากฟ้าดินแดนสีดำอย่างแน่นอน คนทั้งสามต่างก็มีพื้นฐานฝึกตนอยู่ในขั้นสร้างแกนลมปราณ ที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือแกนปราณของพวกมัน…กล่าวกันว่า นักปรุงยามากมายถูกจับตัวไปโดยพวกมัน”
“ผู้ฝึกตนขั้นสร้างแกนลมปราณ ผู้มีแกนปราณ ไม่ใช่ผู้ที่จะไปล้อเล่นด้วยได้…”
หวังลี่ไห่ขมวดคิ้ว ขณะที่มันมองไปยังกลุ่มคนจากดินแดนสีดำ ห่างออกไปไม่ไกลนัก หานซานเต้าแห่งสำนักกูตู๋เจี้ยน ก็ดูไม่ค่อยพอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขณะที่มันมองไปยังเต้าจื่อดินแดนสีดำ
ซ่งหยุนซูยืนไร้คำพูดอยู่ในฝูงชน สีหน้าเยือกเย็น
สองเต้าจื่อหน้ากากทองจากดินแดนสีดำ มองลงมายังฝูงชน หนึ่งในพวกมันพูดขึ้น ตอนแรกก็แผ่วเบา แต่จากนั้นก็กลายเป็นเสียงกระหึ่มกึกก้องราวฟ้าร้องอย่างรวดเร็ว ”ข้า หลัวชง จากดินแดนสีดำ ขอท้าสู้กับเต้าจื่อของดินแดนด้านใต้ตัวต่อตัว!”
ผู้ฝึกตนชุดดำ หน้ากากขาว ขยับถอยไปด้านหลังในทันที
สีหน้าสามผู้ฝึกตนหน้ากากฟ้าไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย พวกมันนั่งขัดสมาธิลอยอยู่กลางอากาศ ไม่สนใจในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้
เต้าจือหน้ากากทองดินแดนสีดำอีกคน, ฉือเฟย พูดด้วยเช่นกัน เป็นเสียงที่นุ่มนวลกว่าเสียงของหลัวชง แต่ก็เริ่มเย็นเยียบราวน้ำแข็ง ขณะที่มันเข้าไปในหูของผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น ”ข้า ฉือเฟย แห่งดินแดนด้านใต้ ขอท้าประลองกับเต้าจื่อแห่งดินแดนด้านใต้ ตัวต่อตัวด้วยเช่นกัน!”
ไม่มีแม้แต่คนเดียวในหมื่นผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ น้ำพุร้อนแห่งเต๋าจะกล่าวคำใดๆ ออกมา พวกมันมองขึ้นไปยังหลัวชง และฉือเฟยอย่างเงียบๆ ความคิดหลากหลายที่แตกต่างกัน วิ่งวนไปมาอยู่ในจิตใจ
หลัวชง แค่นเสียงเย็นชาออกมา ”อย่าบอกข้านะว่า ท่ามกลางฝูงชนของผู้ฝึกตนดินแดนด้านใต้ ไม่มีใครกล้าจะต่อสู้กับพวกเรา?” คำพูดของมันดังออกมา เต็มไปด้วยกลิ่นอายคุกคาม ซึ่งทำให้คำท้าทายของมันดูเข้มข้นมากขึ้น
ทันใดนั้น เสียงแค่นเย็นชาก็ดังออกมา ลำแสงพุ่งขึ้นไป นี่ไม่ใช่ใครบางคนที่มาจากห้าสำนักใหญ่หรือสามตระกูลดัง มันเป็นผู้ฝึกตนที่มาจากสำนักอื่นๆ ด้วยพื้นฐานฝึกตนในขั้นวงจรอันยิ่งใหญ่ของพื้นฐานลมปราณ มันพุ่งตรงไปยังหลัวชง
ภายใต้หน้ากากของมัน เต้าจื่อดินแดนสีดำยิ้มออกมา ร่างของมันขยับ ขณะที่มันตรงไปโจมตี ขณะที่บุรุษผู้นั้นใกล้เข้ามา มันยื่นแขนทั้งสองข้างออกไป ภาพภูติผีมากมายพุ่งออกมา และทันใดนั้นภาพลวงตาของกระถางขนาดใหญ่ก็ปรากฎขึ้นและพุ่งตรงไป
เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังออกมา ผู้ฝึกตนดินแดนด้านใต้เดินโซเซถอยหลัง กระอักโลหิตออกมา ใบหน้าซีดขาว หลัวชงโบกสะบัดแขนเสื้อ และเดินหน้าตรงไป เสียงระเบิดดังออกมาอีก แค่ไม่กี่อึดใจ ในที่สุด เสียงแผดร้องอย่างน่ากลัวก็ได้ยินมา น้ำพุโลหิตพุ่งออกมาจากลำคอของผู้ฝึกตนดินแดนด้านใต้ มีเพียงเนื้อหนังบางๆ เชื่อมต่อกับร่างของมัน ขณะที่มันร่วงลงไปกองกับพื้น
หลัวชงค่อยๆ ยกมือที่เต็มไปด้วยโลหิตขึ้นมาช้าๆ และเช็ดโลหิตบางส่วนบนหน้ากากสีทองของมันออกไป เป็นภาพที่ดูแล้วน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
“สหายเต๋าหวังลี่ไห่ ด้วยการเป็นเต๋าจื่อแห่งตระกูลหวัง ท่านกล้าที่จะต่อสู้กับข้าหรือไม่!?” หลัวชงร้องออกมา ดวงตาสาดแสงเจิดจ้า ภายใต้หน้ากาก ขณะที่มันมองไปยังผู้ฝึกตนตระกูลหวัง และหวังลี่ไห่
หวังลี่ไห่เงยหน้าขึ้น เริ่มเดินตรงมายังหลัวชงช้าๆ ดวงตาสาดประกาย
ทันทีที่มันเริ่มขยับตัว หานซานเต้าแห่งสำนักกูตู๋เจี้ยน ก็ลุกขึ้นยืนด้วยเช่นกัน จากนั้นก็ลอยออกไปในอากาศ ตรงไปยังเต้าจื่อดินแดนสีดำ ฉือเฟย
การปรากฎตัวของคนทั้งสอง ทำให้เกิดความปั่นป่วนขึ้นท่ามกลางกลุ่มผู้ฝึกตนดินแดนด้านใต้ สายตาทุกคู่จ้องมองมาที่พวกมัน การต่อสู้ครั้งนี้ เป็นการต่อสู้ระหว่างสี่เต้าจื่อ เว้นแต่จะมีบางสิ่บางอย่างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น นามของพวกมันก็จะสร้างความสั่นสะเทือนไปทั่ว ไม่ว่าใครจะได้รับชัยชนะก็ตาม
สายตาของเต้าจื่อดินแดนสีดำ หลัวชงและฉือเฟย ส่องประกายด้วยความตั้งใจ พวกมันมองมาขณะที่หานซานเต้าและหวังลี่ไห่เข้ามาใกล้ ดูเหมือนไม่มีใครในคนทั้งสี่ที่ต้องการจะขยับเคลื่อนไหวก่อน
เท่าที่หลัวชงและฉือเฟยเข้าใจ การต่อสู้ครั้งนี้เป็นตัวแทนของสุดยอดแห่งดินแดนด้านใต้ คนที่อยู่ในขั้นสร้างแกนลมปราณไม่อาจลงสนามต่อสู้ได้ นอกจากวงจรอันยิ่งใหญ่ของพื้นฐานลมปราณเท่านั้น
ดังนั้น ดวงตาของพวกมันจึงเต็มไปด้วยความตั้งใจ และภายในจิตใจของพวกมันก็ลุกไหม้ด้วยความต้องการต่อสู้อย่างแรงกล้า
ทุกสิ่งทุกอย่างสงบเงียบ ขณะที่ฝูงชนมองไปยังสี่เต้าจื่อ และรอให้สุดยอดการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น
แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังจดจ่อสนใจกับบุคคลทั้งสี่ ทันใดนั้น ใครบางคนท่ามกลางกลุ่มผู้ฝึกตนที่นั่งขัดสมาธิอยู่ ก็ค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างช้าๆ
เขาสวมใส่ชุดนักศึกษาสีฟ้า และขณะที่ลุกขึ้นมา ก็บินขึ้นไปในท้องฟ้า นี่ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเมิ่งฮ่าว
การปรากฎตัวของเขา ทำให้ผู้ฝึกตนนับหมื่นที่อยู่รอบๆ น้ำพุร้อนแห่งเต๋า ต่างก็มีสีหน้าประหลาดใจไปตามๆ กัน ไม่เพียงแต่พวกมันเท่านั้น สี่เต้าจื่อที่อยู่กลางอากาศก็จ้องมาที่เขาด้วยความประหลาดใจด้วยเช่นกัน
สายตาหวังลี่ไห่มาหยุดนิ่งอยู่ที่เสื้อผ้าของเมิ่งฮ่าว เมื่อได้เห็นเป็นสีฟ้า ดวงตาของมันก็หดเล็กลง และภาพของคนผู้หนึ่งก็ปรากฎขึ้นในจิตใจ
ห่างออกไปไม่ไกลนัก หานซานเต้า ก็ดูมีท่าทางครุ่นคิด ขณะที่มันจ้องมายังเสื้อผ้าของเมิ่งฮ่าว
“น่าสนใจนัก” หลัวชงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม ”สหายเต๋าท่านนี้ดูเหมือนจะขยับตัวช้าไปเล็กน้อย แต่ท่าทางคงได้ตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว สหายเต๋าหวัง, สหายเต๋าหาน ขอให้ข้าสังหารมันก่อนได้หรือไม่?” ขณะที่มันมองดูเมิ่งฮ่าว ดูเหมือนมันไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับเขา มันได้เห็นรูปภาพของผู้ถูกเลือก และเต้าจื่อทั้งหมดในดินแดนด้านใต้มาแล้ว และเมิ่งฮ่าวก็ดูไม่คุ้นตาเท่าใด ด้วยเช่นนั้น มันจึงสรุปว่าเขาไม่ควรค่าแก่การให้ความสนใจ
ผู้ฝึกตนเช่นนี้ หลัวชงสามารถสังหารได้โดยไม่ต้องคิดทบทวนเป็นครั้งที่สอง
โดยไม่รอคำตอบจากหวังหรือหาน หลัวชง โบกสะบัดแขนเสื้อ หันร่าง และมุ่งหน้าตรงมายังเมิ่งฮ่าว
“เมื่อหลัวชงโจมตี” มันกล่าวพร้อมหัวเราะ ”มีแต่บาดแผลที่สาหัสเหลือทิ้งไว้ ไม่ใช่อาการบาดเจ็บ เจ้าสมควรได้รับการยกย่องในความกล้าหาญ ดังนั้น ข้าจะยอมให้เจ้ามีซากศพที่ครบถ้วนสมบูรณ์” เมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ ผู้ฝึกตนนับหมื่นที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นต่างก็ขมวดคิ้ว
สำหรับพวกมัน การกระทำของเมิ่งฮ่าวดูเหมือนจะหุนหันพลันแล่นมากเกินไป มันไม่มีอะไรนอกไปจากแค่ชะลอการต่อสู้ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่กำลังจะเกิดขึ้นเพียงเท่านั้น
“มันเป็นใคร? มันคิดว่ามันสามารถร่วมการต่อสู้ของเต้าจื่อได้จริงๆ?”
“มันต้องคิดว่าพื้นฐานฝึกตนของมันคงน่าประหลาดใจมาก ดังนั้นมันจึงต้องการเข้าร่วมการต่อสู้ เพื่อสร้างชื่อเสียง…”
ขณะที่เสียงพูดคุยกำลังเริ่มกระจายออกไป หลัวชงพุ่งลงมาที่เมิ่งฮ่าว ขณะที่เมิ่งฮ่าวลอยขึ้นไปกลางอากาศ เสียงเย็นชาของเขา ทันใดนั้นก็ดังออกมาราวกับเสียงฟ้าฟาด ”เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า” เขากล่าวกับหลัวชง ”บุคคลที่ข้าต้องการต่อสู้…” เขาชี้ออกไปในทันที “ก็คือเจ้า!!”
คำว่า ’เจ้า’ พุ่งตรงไปไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้ฝึกตนหน้ากากฟ้าร่างผอมแห้ง ผู้ซึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่กลางอากาศในที่ห่างไกลออกไป
ทันทีที่คำพูดดังออกมา ดวงตาผู้ฝึกตนร่างผอมแห้งหน้ากากฟ้าก็เปิดขึ้นในทันใด ส่องประกายเจิดจ้า ขณะที่มองมายังเมิ่งฮ่าว ม่านตามันหดแคบลงเมื่อมันจดจำเขาได้
คำพูดของเมิ่งฮ่าว เห็นได้ชัดว่าทำให้เกิดเสียงพูดคุยดังกระจายออกไปทั่ว ท่ามกลางกลุ่มผู้ฝึกตนทั้งหมื่นคนของดินแดนด้านใต้ หลายคนลุกขึ้นยืนในทันที ความไม่อยากจะเชื่อเขียนอยู่บนใบหน้าของพวกมัน
“เจ้าคนผู้นั้นมันบ้าหรือไม่? มันต้องการต่อสู้กับผู้ฝึกตนหน้ากากฟ้าแห่งดินแดนสีดำ?!?!”
“พวกมันอยู่ในขั้นสร้างแกนลมปราณ และได้ฝึกฝนแกนปราณมา ผู้ฝึกตนนั้นเป็นใคร? มันดูเหมือนนักศึกษา! มันกล้าที่จะท้าทายผู้ฝึกตนขั้นสร้างแกนลมปราณจริงๆ!?”
“ขั้นสุดท้ายพื้นฐานลมปราณ ต่อสู้กับสร้างแกนลมปราณ ฮา ฮา ฮา! นี่เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก ความต้องการมีชื่อเสียงของคนผู้นี้ช่างแย่ยิ่ง มันกำลังจะตายเพราะชื่อเสียง!”
ขณะที่เสียงพูดคุยดังเต็มอยู่ในอากาศ ดวงตาหวังลี่ไห่หดเล็กลง ก่อนหน้านี้ มันไม่ค่อยแน่ใจถึงตัวตนของเมิ่งฮ่าว แต่ตอนนี้ มันไม่สงสัยอะไรอีก มันสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ รู้ว่าบุคคลผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากบุรุษชุดฟ้านิรนาม
มีแต่บุรุษชุดฟ้านิรนามผู้ลึกลับเท่านั้น ที่จะมีคุณสมบัติในการดูถูกพื้นฐานลมปราณ และสามารถทำบางสิ่งที่แม้แต่ในสมัยโบราณ ก็ยากที่จะได้พบเห็นในโลกแห่งการฝึกตนนี้ มันกำลังเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างให้สลับกลับด้าน ท้าสู้ขั้นสร้างแกนลมปราณ ในขณะที่อยู่ในขั้นพื้นฐานลมปราณ!
หานซานเต้าสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ด้วยเช่นกัน ความคิดเช่นเดียวกันกับหวังลี่ไห่ กำลังก่อตัวอยู่ในจิตใจของมัน
หลัวชงหัวเราะเสียงดัง ”ผู้ฝึกตนดินแดนด้านใต้ช่างน่าสนใจอย่างแท้จริง เห็นได้ชัดว่าเจ้าไม่รู้ว่าฟ้าสูงถึงเพียงไหน แผ่นดินต่ำสักปานใด แสดงถึงความคิดที่เกินจริงของตัวเองออกมา! เจ้ามันแค่ผู้ฝึกตนขั้นสุดท้ายพื้นฐานลมปราณอันต่ำต้อย ไม่แม้แต่จะอยู่ในวงจรอันยิ่งใหญ่ แต่ก็ยังบังอาจมาท้าทายผู้ฝึกตนหน้ากากฟ้าดินแดนสีดำ” สีหน้าเยาะเย้ยอย่างที่สุดปกคลุมใบหน้าภายใต้หน้ากาก ก่อนที่มันจะพูดจบ มันยกมือขวาขึ้น โบกสะบัดตรงมายังเมิ่งฮ่าว
“ข้าจะให้เจ้ามีซากศพที่สมบูรณ์” หลัวชงกล่าวพร้อมเสียงหัวเราะอันเย็นชา ”ก่อนที่เจ้าจะตาย ข้าจะช่วยให้เจ้าเข้าใจว่าฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเป็นเช่นไร!” อันที่จริง จิตใจของมันไม่ได้ดูถูกเหมือนกับสีหน้าท่าทางภายนอก จริงๆ แล้ว มันได้จัดการเรื่องราวด้วยความจริงจังเป็นอย่างยิ่ง มันไม่อยากจะเชื่อว่า คนผู้นี้จะมาท้าทายขั้นสร้างแกนลมปราณจริงๆ ในความคิดของมัน เขาคงคาดหวังว่าจะพึ่งพาการช่วยเหลือบางอย่าง ขณะที่มันโบกแขนเสื้อ ลำแสงเจิดจ้าก็พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว