เจ็ดวันหลังจากนั้น ลมพายุอันยิ่งใหญ่ก็พัดผ่านดินแดนด้านใต้ จิตใจของผู้ฝึกตนทุกคนในเขตตะวันตกสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
ทั้งหมดนี้ก็สืบเนื่องมาจากคนผู้หนึ่ง
บุรุษชุดฟ้านิรนาม!
จากข่าวลือ มันสวมใส่ชุดยาวสีฟ้า และมองไม่เห็นใบหน้านอกจากความเลือนลาง
จากข่าวลือ มันอยู่แค่ขั้นพื้นฐานลมปราณ แต่พลังต่อสู้ของมันช่างน่าเหลือเชื่อนัก เป็นบางสิ่งที่ยากจะพบเห็น
จากข่าวลือ เมื่อไหร่ที่มันโจมตี มันจะกล่าวเพียงแค่คำเดียว
“สู้!”
ข่าวลือได้แพร่สะพัดออกไปในทันที หลังจากการต่อสู้ครั้งแรกของมัน เจ็ดวันก่อน มันได้ต่อสู้กับผู้ถูกเลือกแห่งสำนักจินซวง ผู้ซึ่งอยู่ในวงจรอันยิ่งใหญ่ขั้นสุดท้ายพื้นฐานลมปราณ พวกมันได้พบกันตอนที่บินอยู่กลางอากาศ และโดยไม่มีเหตุผลใดๆ ปรากฎขึ้น คำว่า ”สู้” ถูกตะโกนออกมา ทำให้เกิดเสียงระเบิดเต็มอยู่ในท้องฟ้า
ทันใดนั้น ผู้ถูกเลือกแห่งสำนักจินซวงก็พ่ายแพ้ มันเกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตา ราวกับว่าผู้ถูกเลือกนั้นเป็นเพียงแค่หญ้าแห้ง หรือกิ่งไม้ที่เน่าผุ ซึ่งกำลังรอการถูกบดขยี้
ผู้คนมากมายได้เห็นการต่อสู้นั้น มันน่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ก่อนที่พวกมันจะทันได้กระจายข่าวออกไป พวกมันก็ได้เห็นการต่อสู้ครั้งที่สองของบุรุษชุดฟ้านิรนามนั้น
คู่ต่อสู้ของมันก็คือ ผู้ถูกเลือกแห่งสำนักเซี่ยเยา อีกครั้งที่ผู้ถูกเลือกนั้นต้องพ่ายแพ้ไปในทันที!
มันถูกไว้ชีวิต แต่การพ่ายแพ้เช่นนั้นก็เหมือนกับอุทกภัยที่สามารถกวาดล้างความเชื่อมั่นของมันทั้งหมดไป เหลือทิ้งไว้แต่ความพ่ายแพ้อย่างยับเยิน
ในวันต่อมา ตระกูลหลี่, สำนักชิงหลัว, ตระกูลซ่ง, สำนักกูตู๋เจี้ยน, ตระกูลหวัง…สำนักใหญ่และตระกูลดังทั้งหมด ได้เผชิญกับชะตากรรมเช่นเดียวกัน ที่เกิดขึ้นกับศิษย์ผู้ถูกเลือกของพวกมัน ใครก็ตามที่พบเจอกับบุรุษชุดฟ้านิรนาม ก็ไม่เคยมีโอกาสได้โจมตีเป็นครั้งที่สอง พวกมันทั้งหมดต่างก็พ่ายแพ้ในทันที
เขตตะวันตกของดินแดนด้านใต้ ตกอยู่ในความโกลาหลวุ่นวาย ขณะที่ทุกคนเริ่มคาดเดาถึงตัวตนของบุรุษชุดฟ้านิรนามผู้นั้น ความคิดเห็นที่แตกต่างกันกระจายออกไปเป็นวงกว้าง
ในวันที่แปด ประมาณสามร้อยหลี่ห่างไกลออกไปจากน้ำพุร้อนแห่งเต๋า เป็นสถานที่ซึ่งศิษย์สำนักกูตู๋เจี้ยนได้มารวมตัวกัน บุรุษชุดฟ้านิรนามลอยตัวอยู่กลางอากาศ ด้านหน้าขึ้นไปเป็นบุรุษวัยกลางคนใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาของมันสาดประกายเจิดจ้า ขณะที่จ้องมองไปยังบุรุษชุดฟ้านิรนามที่เบื้องหน้า
“เจ้าเป็นใครกันแน่?!”
บุรุษชุดฟ้านิรนามผู้นั้น ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก เมิ่งฮ่าว
เมื่อหลายวันที่ผ่านมา เขาได้ต่อสู้อย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้ก็เพื่อพยายามที่จะได้รับการรู้แจ้งจากการต่อสู้ ซึ่งเกี่ยวกับเสาแห่งเต๋าต้นที่เก้า เขาได้ยินเรื่องของน้ำพุร้อนแห่งเต๋า แน่นอนว่า รวมถึงเรื่องของผู้คนที่ได้บรรลุขั้นสร้างแกนลมปราณด้วย
แต่เขาก็ไม่ได้ไปยังน้ำพุร้อนแห่งเต๋าในทันที เขาไปท้าทายต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งของดินแดนด้านใต้แทน หลังจากผ่านไปหลายวันจากการเผชิญหน้ากับศัตรูมากมาย และได้รับชัยชนะครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนนี้เขาได้ตั้งเป้าหมายไปยังเต้าจื่อของสำนักใหญ่และตระกูลดังต่างๆ
บุรุษวัยกลางคนที่ตรงหน้าเขา ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอันดับหนึ่งของเจ็ดบุตรกระบี่แห่งสำนักกูตู๋เจี้ยน, หานซานเต้า ซึ่งอยู่ในวงจรอันยิ่งใหญ่ของพื้นฐานลมปราณ อีกครึ่งทางก็จะอยู่ในขั้นสร้างแกนลมปราณ!
“สู้? หรือไม่สู้?” เมิ่งฮ่าวถามเสียงราบเรียบ
ดวงตาหานซานเต้าสาดประกายเจิดจ้า เงยหน้ามองท้องฟ้า หัวเราะออกมาเสียงดัง จากนั้นก็ยกมือขวาขึ้น ส่งผลให้กระบี่เล่มใหญ่ส่งเสียงร้องออกมา รังสีกระบี่สาดพุ่งขึ้นไปจนถึงสวรรค์ ขณะที่มันพุ่งตรงไปที่เมิ่งฮ่าว รอยยิ้มจางๆ อยู่ที่มุมปากของเมิ่งฮ่าว และเขาก็ก้าวเท้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าว
เสียงระเบิดดังกึกก้องเต็มไปทั่วท้องฟ้า และในเวลาเดียวกันนั้น…
โลหิตกระจายออกมาจากปากของหานซานเต้า ขณะที่มันล่วงไปด้านหลังตกลงมาจากกลางอากาศ ความประหลาดใจเต็มอยู่บนใบหน้า กระบี่เล่มใหญ่ของมันเริ่มแตกออกเป็นชิ้นๆ ที่ซ่อนอยู่ด้านในเป็นมีดบินซึ่งสามารถปลดปล่อยพลังของขั้นสร้างแกนลมปราณออกมาได้ แต่มันก็สั่นระรัวและเต็มไปด้วยรอยร้าวด้วยเช่นกัน มีดบินลอยไปด้านหลังติดตามหานซานเต้าไป
หนึ่งอึดใจ, ขยับไหวแค่หนึ่งครั้ง, พังพินาศสิ้น!
รอยกรีดเป็นทางยาว จากไหล่ขวาของหานซานเต้า ยาวไปถึงรักแร้ด้านซ้าย เป็นรอยแผลที่ลึกจนเห็นกระดูก โลหิตพุ่งออกมาจากภายในบาดแผล ใบหน้าหานซานเต้าซีดขาว ขณะที่ศิษย์คนอื่นๆ ของสำนักกูตู๋เจี้ยนช่วยพยุงมันไว้
มันสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และยืนขาสั่นอยู่ที่นั่น ”ท่านที่นับถือ ได้รับการรู้แจ้งเกี่ยวกับเวทการต่อสู้โบราณที่มีอยู่ในน้ำพุร้อนแห่งเต๋า ข้ายอมรับความพ่ายแพ้”
เมิ่งฮ่าวไม่กล่าวตอบ เพียงหันหลังและจากไป ตลอดช่วงเวลาแปดวันนี้ เขาได้ต่อสู้กับผู้คนมากมาย มีน้อยคนมากที่จะพูดถึงเรื่องน้ำพุร้อนแห่งเต๋า และเวทการต่อสู้โบราณ
หลังจากเมิ่งฮ่าวจากไป ความเลือนลางที่อยู่บนใบหน้าก็เปลี่ยนไป สักพักหลังจากนั้น เขาก็กลายเป็นฟางมู่อีกครั้ง แต่ก็ยังคงสวมใส่ชุดยาวสีฟ้า ครึ่งชั่วยามต่อมา เมิ่งฮ่าวก็มายืนมองอยู่ที่ทะเลสาบอันกว้างใหญ่
มันเป็นทะเลสาบ แต่ก็น่าจะเหมาะสมกว่าถ้าจะเรียกมันว่า น้ำพุร้อนแห่งเต๋า!
ทะเลสาบถูกห้อมล้อมเต็มไปด้วยผู้ฝึกตนที่มาชุมนุมกัน มีมากกว่าหนึ่งหมื่นคน พวกมันทั้งหมดนั่งขัดสมาธิ ดูเหมือนจะเข้าฌาณอยู่ในระดับลึก
การมาถึงของเมิ่งฮ่าว ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใดๆ
เขามองไปยังฝูงชนที่อยู่รอบๆ จากนั้นก็เลือกตำแหน่งหนึ่งที่มีผู้คนอยู่ไม่มาก นั่งลงขัดสมาธิ และเริ่มสังเกตดูน้ำพุร้อนแห่งเต๋าอย่างเงียบๆ
เวลาผ่านไป ในวันที่สอง เมิ่งฮ่าวสังเกตเห็นผู้ฝึกตนมายังทะเลสาบนี้มากขึ้นเรื่อยๆ จากทั่วทุกทิศทาง เมื่อถึงตอนเที่ยงวัน ก็มีผู้คนหลายหมื่นปรากฎขึ้นในตอนนี้
ยามสนธยา ทั่วทั้งบริเวณนั้นก็เบียดเสียดเนืองแน่นเต็มไปด้วยผู้คน มีผู้ฝึกตนมากถึงเกือบหนึ่งแสนคนปรากฎขึ้น
ทันใดนั้น น้ำก็พุ่งขึ้นไป จากนั้นแสงเจิดจ้าก็ปรากฎขึ้นเหนือน้ำพุร้อนแห่งเต๋า แสงเชื่อมต่อกันก่อให้เกิดเป็นจอภาพขึ้นในท้องฟ้า ด้านในของจอภาพนั้นเป็นภาพเลือนลางของคนผู้หนึ่ง กำลังนั่งขัดสมาธิเข้าฌาณอยู่ สองมือขยับร่ายเวทอาคม มันก็คือผู้พิทักษ์เต๋า!
“มันปรากฎขึ้นแล้ว!”
“การรู้แจ้งที่อยู่ในน้ำพุร้อนแห่งเต๋านี้คืออะไรกันแน่? ท่านย่ามันเถอะ! ข้ามายังที่นี่เกือบจะครบหนึ่งปีแล้ว แต่พื้นฐานฝึกตนของข้าก็ยังไม่ก้าวหน้าขึ้นเลยแม้แต่น้อย”
เสียงของผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นดังกระจายไปทั่ว เมิ่งฮ่าวมองขึ้นไปเพื่อตรวจสอบจอภาพ ขณะที่เขาทำเช่นนั้น ภาพอันเลือนลางนั้นก็เริ่มกระจ่างชัดขึ้น รวมถึงสองมือของบุรุษผู้นั้นด้วย เมิ่งฮ่าวทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่า นั่นเป็นภาพลวงตาของบุรุษที่กำลังเปล่งรังสีสังหารออกมา!
เป็นรังสีสังหารที่บางเบา แต่เมิ่งฮ่าวก็มั่นใจว่ามันมีอยู่ที่นั่น และเขาก็ไม่ใช่เป็นเพียงคนเดียวที่สังเกตเห็น
พึมพำกับตัวเอง เขาสงบจิตใจลง และบังคับตัวเองให้เข้าสู่ความเงียบสงบ จ้องไปยังเงาร่างบนจอภาพ และค่อยๆ เริ่มตกอยู่ในห้วงภวังค์การหลับใหล เขาตกอยู่ในขั้นนี้ตลอดทั้งคืน เช้าตรู่ในวันถัดมา เขาขมวดคิ้ว ไม่มีความก้าวหน้าใดๆ เกิดขึ้น
แม้ในขณะที่เขานั่งครุ่นคิดอยู่ที่นั่น เสียงกระตือรือร้นก็ได้ยินมาจากด้านข้าง ”เฮ, สหายเต๋า, ลองดูนี่” มันเป็นบุรุษวัยกลางคนร่างผอมแห้ง แต่มีดวงตาที่เจิดจ้า ตลอดทั้งร่างของมันดูเหมือนจะเปล่งประกายความฉลาดเฉลียวออกมา
เมิ่งฮ่าวสังเกตเห็นมันก่อนหน้านี้ มันกำลังเดินไปมาผ่านฝูงชนที่อยู่รอบๆ น้ำพุร้อนแห่งเต๋า เร่ขายตำราจากถุงสมบัติของมัน น้อยคนนักที่จะสนใจซื้อ คนส่วนใหญ่ดูเหมือนจะคิดว่ามันเป็นคนที่น่ารำคาญเป็นอย่างยิ่ง
มันเป็นคนที่รอบคอบ ทันทีที่มันรู้สึกว่าคนผู้นั้นไม่ต้องการซื้อ มันก็จะยิ้มและเดินจากไป
มันมายืนอยู่ข้างเมิ่งฮ่าว สีหน้าเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ด้วยการโค้งตัวประจบเมิ่งฮ่าว มันโค้งตัวลงจนถึงเอว และเริ่มพูดอย่างรวดเร็ว
“สหายเต๋า, ท่านกังวลใจเพราะยังไม่ได้รับการรู้แจ้งของน้ำพุร้อนแห่งเต๋านี้?” เสียงของมันทำให้ผู้คนรู้สึกกระตือรือร้นขึ้นมา “ท่านเคยเผชิญหน้ากับภูเขาสมบัติ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะทำอะไรกับมันได้หรือไม่?”
เมิ่งฮ่าวจ้องไปยังบุรุษผู้นั้น ด้วยความประหลาดใจ
“ไม่ต้องกังวลไป” มันกล่าวต่อไป ดวงตาสาดประกายเจิดจ้า ”ท่านกำลังจะได้เห็นความรู้แจ้งขั้นต้นของผู้ยิ่งใหญ่แห่งน้ำพุร้อนเต๋าโบราณนี้แล้ว!” มันตบไปที่ถุงสมบัติ ตำราเล่มเล็กๆ ก็ค่อยๆ ปรากฎขึ้นในมือของมันในทันที
“ในความรู้แจ้งขั้นต้นของผู้ยิ่งใหญ่แห่งน้ำพุร้อนเต๋าโบราณนี้ ข้าได้บันทึกข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ที่เกี่ยวกับการรู้แจ้งของสหายเต๋ามากมายจนนับไม่ถ้วนอยู่ อันที่จริง ด้วยความพยายาม ข้ายังได้ไปแสดงความเคารพต่อนางเซียน ฉื่อชิงแห่งสำนักชิงหลัว, นางเซียนแห่งสำนักเซี่ยเยา หลี่ชือฉี รวมถึงเต้าจื่อแห่งตระกูลหวัง หวังลี่ไห่ ความรู้แจ้งทั้งหมดของพวกมันได้ถูกบันทึกอยู่ในตำราเล่มนี้ มันยังมีความรู้ของผู้ถูกเลือกอีกมากกว่าร้อยคนของสำนักต่างๆ ข้าสร้างความรู้แจ้งขั้นต้นของผู้ยิ่งใหญ่แห่งน้ำพุร้อนเต๋าโบราณนี้ ด้วยโลหิต, หยาดเหงื่อ และน้ำตา!” มันพุดด้วยความรวดเร็ว ถือตำราด้วยมือข้างหนึ่ง และทำท่าประกอบด้วยมืออีกข้าง เมิ่งฮ่าวจ้องไปด้วยความตกตะลึง
“สหายเต๋า, ข้ารู้ว่าท่านกำลังคิดอะไรอยู่ คุณค่าของตำราความรู้แจ้งขั้นต้นของผู้ยิ่งใหญ่แห่งน้ำพุร้อนเต๋าโบราณนี้ ยากที่จะประเมินออกมาได้ มันช่างหาค่ามิได้, ใช่หรือไม่?” มันตบไปที่ต้นขา ราวกับว่ากำลังบังคับให้เขาตัดสินใจ
“สหายเต๋า, ท่านสามารถวางใจได้อย่างแน่นอน ราคาของตำราความรู้แจ้งขั้นต้นของผู้ยิ่งใหญ่แห่งน้ำพุร้อนเต๋าโบราณนี้ไม่ใช่หนึ่งแสนหินลมปราณ ไม่ใช่หนึ่งหมื่นหินลมปราณ และไม่ใช่หนึ่งพันหินลมปราณ ตำราเล่มนี้ประกอบไปด้วยการรู้แจ้งของผู้ถูกเลือกที่มากกว่าหนึ่งร้อยคน รวมถึงเต้าจื่อทั้งหลาย ซึ่งถ้านำไปเปรียบเทียบกับโลหิต, หยาดเหงื่อ และหยดน้ำตาที่มากมายจนนับไม่ถ้วนแล้ว ตำราความรู้แจ้งขั้นต้นของผู้ยิ่งใหญ่แห่งน้ำพุร้อนเต๋าโบราณนี้ก็จะเป็นของท่านด้วยราคาเพียงเก้าสิบเก้าหินลมปราณเท่านั้น!”
เมิ่งฮ่าวกระแอมไอเบาๆ และกำลังจะกล่าววาจาออกมา
“สหายเต๋า, อย่าได้ปล่อยให้โอกาสนี้ผ่านไป! ท่านมีโอกาสแล้วในตอนนี้ ซึ่งมันจะไม่ย้อนกลับมาอีกครั้ง ฟังนะ, ข้าจะบอกความลับแก่ท่าน” มันมองไปรอบๆ จากนั้นก็พูดเสียงแผ่วเบา ”ท่านเคยได้ยินเรื่องของบุรุษชุดฟ้านิรนามหรือไม่? นั่นเป็นผู้เหี้ยมหาญที่ดุร้ายและมีชื่อเสียงเป็นอย่างยิ่ง มันได้ทำให้ผู้ถูกเลือกมากมายต่างก็ต้องพ่ายแพ้ไปในชั่วพริบตา จริงๆ แล้ว ท่านอาจจะไม่เคยได้ยินว่า เมื่อไม่กี่วันก่อน มันได้ต่อสู้กับหานซานเต้า แห่งสำนักกูตู๋เจี้ยน และหานซานเต้าก็พ่ายแพ้อย่างย่อยยับ!”
“สหายเต๋า, ฟังนะ เมื่อครึ่งเดือนก่อน บุรุษชุดฟ้านิรนามผู้นั้น ได้ซื้อตำราความรู้แจ้งขั้นต้นของผู้ยิ่งใหญ่แห่งน้ำพุร้อนเต๋าโบราณนี้ของข้าไป!”
เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้ว ขณะที่เขามองไปยังบุรุษวัยกลางคนนั้นอีกครั้ง
“ก็ได้, ก็ได้ สิบหินลมปราณเป็นอย่างไร? ข้าขอขายให้ท่านแค่สิบหินลมปราณ ท่านเป็นลูกค้าคนแรกของข้าในวันนี้ ซึ่งก็ทำให้พวกเราได้คบหาเป็นสหายกัน ข้านามว่า ฉื่อหลิวซาน ศิษย์แห่งสำนักเซี่ยเยา”
เมิ่งฮ่าวลังเลอยู่สักครู่ จากนั้นก็กล่าวว่า ”ข้ามีหินลมปราณแค่สามก้อน” เขาหยิบเอาหินลมปราณสามก้อนสุดท้ายออกมาจากชุดยาวในทันที
“ตกลง!” บุรุษวัยกลางคนกล่าวตอบ โดยไม่มีการลังเลแม้แต่น้อย มันวางตำราความรู้แจ้งขั้นต้นของผู้ยิ่งใหญ่แห่งน้ำพุร้อนเต๋าโบราณลงไปบนมือของเมิ่งฮ่าวในทันใด ดูเหมือนเกรงว่าเมิ่งฮ่าวจะเปลี่ยนใจ
เมิ่งฮ่าวมองไปยังตำราเล่มเล็กๆ นั้นพร้อมรอยยิ้มที่แห้งแล้ง ทันใดนั้นสายลมก็พัดผ่านมา ทำให้ตำราเล่มนั้นเปิดออก ดวงตาเมิ่งฮ่าวหรี่เล็กลงในทันที และเขาก็ยื่นส่งหินลมปราณสามก้อนให้กับฉื่อหลิวซาน
ฉื่อหลิวซานรีบจากไปอย่างรวดเร็ว ถอนหายใจและพึมพำกับตัวเองเกี่ยวกับความยากลำบากในการค้าขายของมันในวันนี้ อันที่จริง รูปภาพในตำราที่มันวาดไว้ มันได้ไปอยู่ในเขตพื้นที่ของน้ำพุร้อนแห่งเต๋ามาแล้วหลายครั้ง แต่ละครั้งที่จอภาพปรากฎขึ้น มันก็จะวาดภาพลงไป หลังจากเวลาผ่านไป มันก็เกิดความคิดว่าจะรวบรวมเป็นตำราเล่มเล็กๆ ไปเร่ขาย
เมิ่งฮ่าวไม่สนใจฉื่อหลิวซานอีกต่อไป และเริ่มเปิดตำราเล่มนั้นดู แต่ละภาพดูเหมือนเกือบจะเหมือนกัน แต่ไม่นานนัก แสงแปลกๆ ก็เริ่มส่องประกายภายในดวงตาเมิ่งฮ่าว เขาเงยหน้าขึ้น และมองไปยังภาพบนหน้าจอซึ่งแขวนอยู่กลางน้ำพุร้อนแห่งเต๋า
“ภาพในตำราเล่มนี้ ทั้งหมดก็เหมือนกัน แต่จริงๆ แล้ว ก็มีบางอย่างที่แตกต่างกันออกไปของแต่ละภาพ…” เมิ่งฮ่าวศึกษาจอภาพนั้นสักพัก จนกระทั่งในที่สุด มันก็เริ่มจางหายไป ทันทีที่มันกำลังจะหายไปโดยสิ้นเชิง ร่างกายเมิ่งฮ่าวก็สั่นสะท้าน เขาได้เห็นสิ่งที่แตกต่างออกไป ภายในเงาร่างบนจอภาพนั้นก็คือ…เส้นใยแห่งปราณ!
เส้นใยแห่งปราณ มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น แต่ละภาพวาดจึงแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย เป็นความแตกต่างที่ไม่มากนัก ซึ่งแม้แต่ฉื่อหลิวซานก็ไม่อาจสังเกตเห็น