เมื่อทัณฑ์เม็ดยาปรากฎ เมิ่งฮ่าวนั่งอยู่ในถ้ำแห่งเซียน ดวงตาสาดประกายเจิดจ้า ขณะที่จ้องไปยังกระถางปรุงยาที่อยู่ตรงหน้า กระถางเต็มไปด้วยแสงสีทอง ทำให้ทั่วทั้งถ้ำแห่งเซียนกลายเป็นสีทองตามไปด้วย
ขณะที่แสงสีทองกระจายออกมา เมิ่งฮ่าวก็สัมผัสได้ถึงเสียงแตกร้าว
เสียงนั้นดังออกมาจากภายในกระถางปรุงยา เมิ่งฮ่าวสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่คล้ายกับเป็นของเหลวสีทองอยู่ภายในกระถาง กำลังหดตัวและกลายเป็นของแข็งอย่างรวดเร็ว ทุกครั้งที่มันหดตัว เสียงแตกร้าวก็ได้ยินออกมา ราวกับว่าของเหลวนั้นกำลังถูกสะกดอยู่
ในตอนนี้เองที่ทัณฑ์เม็ดยาได้ปรากฎขึ้นในท้องฟ้าด้านบน ด้วยทัณฑ์สายฟ้าที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นนั้น เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และเพ่งสมาธิไปที่กระถางปรุงยา
ในโลกด้านนอก เมฆลงทัณฑ์กระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง สายฟ้าปะทุขึ้นและเสียงฟ้าร้องก็ดังก้องขึ้นไปถึงสวรรค์ ด้านนอกถ้ำแห่งเซียนของเมิ่งฮ่าว กลุ่มควันแห่งปราณสีขาวพุ่งขึ้นมาจากภูเขาเตี้ย หมุนวนเข้าด้วยกันเพื่อก่อตัวเป็นรูปร่างของกระถางปรุงยา ซึ่งดูเหมือนต้องการจะบินขึ้นไปในท้องฟ้า
ภาพที่เห็นนี้ทำให้ปรมาจารย์ขั้นสุดท้ายสร้างแกนลมปราณของสามสำนักใหญ่ จ้องมองไปอย่างเงียบๆ แต่ไม่นานนักก่อนที่สีหน้าของพวกมันจะเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“นั่นคือ…ทัณฑ์เม็ดยา!!”
“นั่นต้องเป็นทัณฑ์เม็ดยาในตำนานอย่างแน่นอน ข้าเคยอ่านมาจากในบันทึกโบราณ ซึ่งได้กล่าวไว้ว่าเมื่อเม็ดยาปรากฎขึ้น หรือบางครั้งก็อาจจะเป็นวัตถุสวรรค์ หรือของวิเศษปฐพีบางอย่าง ซึ่งทำให้สวรรค์เริ่มไม่พอใจและต้องการที่จะทำลายสิ่งของเหล่านั้นไป!”
“ผู้ฝึกตนบัดซบนั่นคือผู้ที่กำลังปรุงเม็ดยา? ใครจะไปรู้ว่ามันสามารถทำเช่นนั้นได้?! และใครจะคาดคิดว่ามันสามารถปรุงยาที่ไปกระตุ้นให้เกิดเป็นทัณฑ์เม็ดยาขึ้นมา!?”
ความโลภปรากฎขึ้นบนใบหน้าของสามปรมาจารย์
ผู้ฝึกตนที่อยู่ด้านหลังพวกมันไม่เข้าใจว่ากลุ่มเมฆดำเหล่านั้นหมายถึงอะไร ดังนั้นดวงตาของพวกมันจึงเต็มไปด้วยความสับสน จากนั้น เสียงฟ้าร้องก็เริ่มดังรุนแรงมากขึ้น และใบหน้าของพวกมันก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ในตอนนี้เองที่แรงสั่นสะเทือนขนาดใหญ่พุ่งผ่านพื้นดิน ขณะที่ผู้ฝึกตนทั้งหมดที่ยังเหลืออยู่ซึ่งกำลังส่งพลังให้กับค่ายกล ต่างก็กระอักโลหิตออกมา และจากนั้นก็สลบไป ขณะที่พวกมันล้มลงไป กลุ่มหมอกก็หายไปด้วย
ตอนนี้สามารถมองเห็นภูเขาเตี้ยได้อย่างชัดเจน ขณะที่นกแก้วและผีโต้งกำลังลอยอยู่กลางอากาศ ตอนนี้พวกมันกำลังมองขึ้นไปในท้องฟ้า สีหน้าแปลกๆ ปรากฎขึ้นบนใบหน้า
เมื่อกลุ่มหมอกหายไป วิญญาณชั่วร้ายที่ยังหลงเหลืออยู่ก็เริ่มส่งเสียงกรีดร้องแหลมเล็ก ราวกับว่าเสียงฟ้าร้องและฟ้าแลบในท้องฟ้าทำให้พวกมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ทันใดนั้น สายฟ้าขนาดใหญ่ก็เริ่มจะฟาดลงมาบนพื้น ขณะที่มันพุ่งลงมา สายฟ้าขนาดเล็กกว่านับพันก็รวมตัวเข้าด้วยกัน จนกระทั่งมันมีขนาดความกว้างเกือบครึ่งจ้าง พุ่งตรงลงมายังภูเขาเตี้ย
ภาพที่เห็นทำให้ปรมาจารย์ของสามสำนักใหญ่ รวมถึงผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ พวกมัน จ้องมองไปด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ปากก็อ้าค้างไปตามๆ กัน
แต่เมื่อทุกคนคิดว่า สายฟ้านั้นกำลังจะฟาดลงไปบนภูเขา ทันใดนั้นมันก็เริ่มหายไปอย่างไร้เหตุผล ขณะที่เป็นเช่นนั้น สายฟ้าขนาดใหญ่ก็แยกออกเป็นสายฟ้าขนาดเล็กนับร้อย จากนั้นก็ส่งเสียงกึกก้องตรงมายังวิญญาณชั่วร้ายที่ตัวสั่นสะท้านอยู่บนพื้น
ดูเหมือนว่าวิญญาณชั่วร้ายเหล่านี้ ก็เป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของทัณฑ์สวรรค์ด้วยเช่นกัน ทำให้มันแยกสายฟ้าบางส่วนออกมา และพยายามจะกำจัดพวกมันไป
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้นกแก้วและผีโต้งมีสีหน้าแปลกๆ อันที่จริง ก็ถือว่าโชคดีเป็นอย่างมาก ที่ทัณฑ์เม็ดยาปรากฎขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่ค่ายกลได้ล่มสลายไปพอดี
เสียงระเบิดดังเต็มอยู่ในอากาศ และพื้นดินก็สั่นสะเทือน วิญญาณชั่วร้ายนับร้อยกรีดร้องเสียงแหลมเล็ก ขณะที่มากกว่าครึ่งถูกสายฟ้าฟาดจนหายไปในทันที อีกครึ่งที่เหลือค่อยๆ จางหายไปอย่างช้าๆ ด้วยความต้องการจากไปอย่างรวดเร็ว
ไม่มีสายฟ้าพุ่งลงมายังกระถางปรุงยาของเมิ่งฮ่าวในถ้ำแห่งเซียนแม้แต่น้อยนิด แสงสีทองสาดประกายออกมาจากกระถาง กระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง ทะลุผ่านถ้ำแห่งเซียนออกไป ส่องประกายไปทั่วทั้งภูเขาและพื้นดิน
ทันใดนั้น แสงสีทองอันเจิดจ้าก็ปรากฎขึ้นที่ด้านนอกของภูเขาเตี้ย รวมถึงแถบแสงสีทองก็ได้ซึมออกมาจากภายในพื้นดิน
วิญญาณชั่วร้ายที่หลบหนีมาจากทัณฑ์สายฟ้าและกำลังจะจางหายไป มองเห็นแสงสีทองและจากนั้นก็เริ่มกรีดร้อง และหายไปด้วยความเร่งรีบมากขึ้น
แสงสีทองอันลึกล้ำ!
มันพุ่งออกมาจากจุดศูนย์กลางของภูเขา ราวกับว่ามีดวงตะวันได้ถูกฝังอยู่ภายใน!
เหมือนกับดวงตะวันนี้ปรารถนาจะพุ่งขึ้นมาจากอเวจี และพุ่งขึ้นไปต่อสู้กับสวรรค์!
ผีโต้งและนกแก้วได้บินจากไปนานแล้ว แต่นกแก้วก็รู้สึกไม่ดีต่อผู้ฝึกตนซึ่งได้ช่วยก่อตั้งเป็นขบวนค่ายกล ดังนั้นก่อนที่มันจะจากไป มันและผีโต้งก็นำกลุ่มคนเหล่านั้นไปแอบซุกซ่อนไว้ยังที่ห่างไกล
เพียงชั่วพริบตา ไม่อาจจะมองเห็นภูเขาได้ชัดเจนอีกต่อไป มีเพียงสิ่งเดียวที่มองเห็นได้ก็คือแสงอันเจิดจ้าไร้ขอบเขต
แสงนั้นแทงทะลุผ่านขึ้นไปในกลุ่มเมฆด้านบน ทำให้พวกมันพลุ่งพล่านปั่นป่วนอย่างรุนแรง ฟ้าแลบเต้นระริกไปมา และสายฟ้าสายที่สองก็เริ่มก่อตัวขึ้น พุ่งลงตรงไปที่จุดศูนย์กลางของแสงสีทอง, ภูเขาเตี้ยซึ่งเป็นแกนกลางของทั้งหมด
มันเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ และตรงไปบนยอดเขาเกือบจะในทันที
แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะที่มันเกิดขึ้น…
เสียงปะทุก็ดังออกมาจากภายในถ้ำแห่งเซียน ฝาของกระถางปรุงยาลอยขึ้นไป และแสงสีทองเจิดจ้าอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนก็กระจายออกมา บดบังแสงจากก่อนหน้านี้ไปสิ้น บางสิ่งที่เหมือนกับจะเป็นดวงตะวันได้ลอยขึ้นมา ส่องแสงสีทองอันร้อนแรงออกมา จนดูเหมือนถ้ำแห่งนี้, และภูเขาทั้งลูกจะถูกแผดเผาให้กลายเป็นจุลไป!
อันที่จริงแล้ว…เมื่อมันเพิ่งจะโผล่ออกมา ก้อนศิลา, เวทผนึก, สิ่งทั้งหมดที่อยู่ภายใน ก็เริ่มกลายเป็นเถ้าธุลีในทันใด มีเพียงสิ่งเดียวที่หลงเหลืออยู่ก็คือแสงสีทอง ที่แทงทะลุขึ้นไปจนถึงสวรรค์ เป็นแสงที่ไม่อาจจะปกปิดไว้ได้ ขณะที่มันพุ่งขึ้นไปกระแทกยังสายฟ้า
เมื่อแสงและสายฟ้ากระทบกัน ระเบิดขนาดใหญ่ก็กระเพื่อมออกไปเป็นระลอกคลื่น ทำให้สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรง ถ้ำแห่งเซียนหายไป เมิ่งฮ่าวนั่งขัดสมาธิอยู่ที่นั่นอาบไล้อยู่ในแสงสีทอง พื้นดินใต้ร่างเขากำลังเริ่มหลอมละลาย พื้นดินสีดำกำลังกลายเป็นของเหลวสีทอง ซึ่งกระจายออกไปทุกที่จนกลายเป็นทะเลสาบ!
ทะเลสาบสีทอง!
ตรงจุดกึ่งกลางของทะเลสาบก็คือเมิ่งฮ่าว เส้นผมของเขาพริ้วไปมา แกนสีม่วงหมุนคว้างอยู่ภายในร่างอย่างรวดเร็ว เครื่องหมายแปลกๆ ที่อยู่บนหน้าผากเปล่งแสงวาววับ เสื้อผ้าปลิวสะบัดอย่างรุนแรง และดวงตาก็สาดประกายด้วยความดื้อรั้นไม่ยอมแพ้
ที่อยู่ในมือขวาของเขาก็คือ…เม็ดยาสีทอง!
อาจจะถูกต้องมากกว่าที่จะพูดว่าสิ่งที่เขาถืออยู่ในมือไม่ใช่เม็ดยา แต่เป็นดวงตะวันสีทองอันเจิดจ้า!
เม็ดยาสีทองนี้ก็คือ เม็ดยาแกนสีทองสมบูรณ์!
ปรมาจารย์จากสามสำนักใหญ่ รวมถึงผู้ฝึกตนนับร้อย ยืนอยู่ที่นั่นด้วยจิตใจที่หนักอึ้ง ทันทีที่พวกมันมองเห็นเม็ดยา เสาแห่งเต๋าของผู้ฝึกตนขั้นพื้นฐานลมปราณก็เริ่มสั่นสะท้าน ราวกับว่าพวกมันรู้ดีถึงผลลัพธ์จากการกลืนกินเม็ดยานั้น จะแตกต่างไปจากการกลืนยาเม็ดอื่นๆ
สำหรับผู้ฝึกตนสร้างแกนลมปราณ โดยเฉพาะสามปรมาจารย์ ร่างกายของพวกมันสั่นสะท้านอย่างรุนแรง พวกมันสัมผัสได้ถึงความหวังอย่างเข้มข้น ที่กระจายออกมาจากแกนภายในร่างกาย ดูราวกับว่าแกนของพวกมันต้องการจะหลอมรวมเข้ากับเม็ดยาสีทองนั้น เพียงครู่เดียวคนทั้งสามก็เข้าใจในทันที ถ้าพวกมันสามารถกลืนยาเม็ดนี้ พวกมันก็จะ…สามารถเดินไปบนวิถีทางของการฝึกตนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน!
มีเพียงสามปรมาจารย์เท่านั้นที่สามารถควบคุมตัวเองได้ ผู้ฝึกตนที่เหลือร้อยกว่าคนเริ่มคลุ้มคลั่งขึ้นในทันที และพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว ด้วยความต้องการจะแย่งชิงเม็ดยาแกนสีทองสมบูรณ์มาให้ได้
แต่ขณะที่พวกมันเข้าไปใกล้ เสียงฟ้าร้องก็ดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่สายฟ้าสามสายรวมตัวกัน เส้นผมเมิ่งฮ่าวกระพือพริ้วอยู่ในอากาศ ขณะที่เขาใช้พลังที่มีทั้งหมดเอาเม็ดยาไปวางอยู่ในปากและกลืนมันลงไป!
นี่คือการเริ่มต้นของแกนลมปราณสีทองแห่งเต๋าอันยิ่งใหญ่!