ฉู่อวี้เยียนสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ขณะที่นางเดินตรงขึ้นไปบนบันไดที่นางสร้างขึ้นด้วยตัวเอง
คนอื่นๆ ทุกคน ยังคงอยู่ในท่ามกลางการปรุงเม็ดยา ชายชราที่ก่อนหน้านี้อยู่ในลำดับที่สอง ตอนนี้ก็ได้สร้างบันไดได้มากกว่าเก้าพันขั้น ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันใดๆ ขึ้น มันก็จะเป็นคนที่สองที่จะผ่านด่านที่สามนี้ไป
แต่แล้วในตอนนี้เองที่…
เสียงฟ้าผ่าอย่างน่าตกใจก็ดังออกมา ระเบิดออกมาจากภายในโลกของแดนสวรรค์ พร้อมกับเสียงของฟ้าผ่า เมฆลงทัณฑ์ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบหนึ่งร้อยจ้าง ปรากฎขึ้นเหนือกระถางปรุงยาของเยี่ยเฟยโม่ มันม้วนตัวไปมาอยู่กลางอากาศ และเสียงฟ้าร้องก็ดังกึกก้องออกมา ดูเหมือนมันต้องการจะทำลายเม็ดยาซึ่งถูกปรุงขึ้นมา
สายฟ้าเกิดขึ้นแต่ภายในโลกของแดนสวรรค์ ด้านนอกบนภูเขาตงหลาย ซึ่งมีผู้ชมอยู่มากมาย ยังมีแสงแดดแผดจ้า พร้อมกับสายลมอันอ่อนโยน ทุกคนกำลังมองไปยังจอภาพของเยี่ยเฟยโม่ และเมฆลงทัณฑ์ภายในแดนสวรรค์อย่างจดจ่อ
ความนิยมยกย่องอันเข้มข้นเต็มอยู่ในดวงตา เทพกระถางม่วงเยี่ยหยุนเทียนกล่าวขึ้นเบาๆ “เมฆลงทัณฑ์ ดูเหมือนเม็ดยาที่เฟยโม่ปรุงขึ้นมา ได้ไปกระตุ้นทัณฑ์สายฟ้า”
ขณะที่เมฆลงทัณฑ์กำลังจะส่งสายฟ้าฟาดลงมา ตานกุ่ยก็ยกมือขึ้น และโบกตรงไปที่จอภาพ ทันใดนั้น เมฆลงทัณฑ์ของเยี่ยเฟยโม่ก็สั่นไปมา และจากนั้นก็เริ่มจางหายไป สายฟ้าที่อยู่ด้านในก็หายไปโดยสิ้นเชิง
ในเวลาเดียวกันนั้น กระถางปรุงยาของเยี่ยเฟยโม่ก็ระเบิดออกมา พร้อมกับเสียงดังกึกก้อง ขณะที่เม็ดยาปรากฎขึ้น เป็นเม็ดยาเก้าสี ประกอบด้วยสีทั้งหมดเก้าสีของดอกต้นม่านไข่มุกเก้าสมบัติ แต่ก็ยังได้ใช้ตัวยาของต้นสมุนไพรนี้สร้างเป็นตัวยาที่สิบขึ้นมาด้วยเช่นกัน
ทันทีที่เม็ดยาปรากฎขึ้น บันไดที่เบื้องหน้าเยี่ยเฟยโม่ก็ส่งเสียงดังกึกก้อง หลังจากที่ขั้นบันไดปรากฎขึ้น สิบ, หนึ่งร้อย, หนึ่งพัน…ทั้งหมดมีหนึ่งหมื่นขั้น!
ฉู่อวี้เยียนอาจจะต้องสร้างอีกหนึ่งขั้น เพื่อจะทำให้บันไดของนางเสร็จสมบูรณ์
เพียงชั่วพริบตา เยี่ยเฟยโม่ก็ทะยานขึ้นมาจากอันดับสุดท้าย กลายเป็นอันดับหนึ่ง!
มันโบกสะบัดแขนเสื้อ และกระถางปรุงยาก็หายไป ขณะที่เดินขึ้นไปบนบันได ทันใดนั้น มันก็กลายเป็นจุดสนใจของคนทั้งหมด
“ช่างสมกับเป็นผู้ถูกเลือกของเต๋าแห่งการปรุงยาจริงๆ…หนึ่งหมื่นขั้น!”
“ใครจะเป็นเทพกระถาม่วงได้อีก ถ้าไม่ใช่มัน…”
“ดูเหมือนว่าจริงๆ แล้ว มันก็คือ…เจ้าโอสถจอมกระถาง อย่างแท้จริง!”
ในขณะเดียวกันนั้น ยาเม็ดที่เก้าของเมิ่งฮ่าวก็ปรากฎขึ้น ทำให้เส้นทางของเขามีขั้นบันไดเพิ่มขึ้น ตอนนี้มีอยู่เก้าขั้น เมื่อเปรียบเทียบกับหนึ่งหมื่นขั้น ก็เป็นเรื่องที่เล็กน้อยมากจนเกินกว่าจะพูดถึง
สีหน้าเมิ่งฮ่าวสงบเรียบเหมือนเช่นเคย เขาไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นที่ด้านนอก ไม่รู้ถึงความปั่นป่วนวุ่นวายที่เกิดจากฉู่อวี้เยียน และเยี่ยเฟยโม่ สีหน้าเขาจริงจังขณะที่หยิบเอาเม็ดยาทั้งเก้าขึ้นมา และใส่เข้าไปในกระถางปรุงยา สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เริ่มปรุงเม็ดยา…ซึ่งสอดคล้องกับเต๋าแห่งการปรุงยาของเขาเอง! เม็ดยาซึ่งเกี่ยวข้องกับทักษะของเขา และจะกลับไปเป็นความเรียบง่ายของธรรมชาติ
ขณะที่เม็ดยาเข้าไปในกระถางปรุงยา ดวงตาเมิ่งฮ่าวค่อยๆ ปิดลง ยื่นมือออกไปในอากาศ ขณะที่เขาเริ่มทำการปรุงยา
การกระทำของเมิ่งฮ่าวบนจอภาพค่อนข้างจะไม่เป็นจุดสังเกตของใครๆ เนื่องจากคนส่วนใหญ่กำลังมองอย่างตกตะลึงไปยังจอภาพของเยี่ยเฟยโม่ ผู้คนที่ดูเหมือนจะสังเกตดูก็มีเพียงเจ้าอ้วน, หานเป้ย และอันจ้ายไห่
เยี่ยเฟยโม่เดินไปตามขั้นบันได้ช้าๆ ดูคล้ายกับผู้ถูกเลือก จอภาพของมันเป็นจุดสนใจเพียงหนึ่งเดียวบนยอดเขา มีเพียงคนเดียวที่สามารถแข่งขันกับมันได้ก็คือ ฉู่อวี้เยียน
สำหรับบุคคลอื่นๆ พวกมันได้ล้าหลังอยู่ไกล หลังจากเวลาชั่วธูปไหม้หมดไปหนึ่งดอก ชายชราซึ่งเคยอยู่ในอันดับสอง ในที่สุด ก็ปรุงเม็ดยาได้อย่างเพียงพอ ขั้นบันได 9,937 ขั้นปรากฎขึ้น กระถางปรุงยาเบื้องหน้ามันระเบิดออก และต้นม่านไข่มุกเก้าสมบัติก็หายไป นี่เป็นการบ่งชี้ให้เห็นว่ามันได้บรรลุถึงจุดสูงสุดของมันแล้ว
มันสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ขณะที่เริ่มเดินขึ้นไปตามขั้นบันได
ด้านหลังมัน เวลาเลยผ่านไปอย่างต่อเนื่อง ผู้เข้าแข่งขันที่เหลือพยายามกันต่อไป การที่ได้เข้าร่วมในการทดสอบครั้งนี้ ก็แสดงให้เห็นว่าพวกมันไม่ใช่นักปรุงยาธรรมดาทั่วไป พวกมันอาจจะช้าไปบ้างเล็กน้อย แต่อย่างน้อยที่สุด ในท่ามกลางกลุ่มคนเหล่านี้ ก็สามารถที่จะสร้างขั้นบันได้ได้ถึงเก้าพันหกร้อยขั้น ก่อนที่กระถางปรุงยาของมันจะระเบิดออก และมันก็เดินไปตามขั้นบันไดที่สร้างขึ้น
โชคร้าย ขั้นบันไดที่หายไปหนึ่งร้อยขั้นในการทดสอบบนภูเขาจื่อตง ชี้ให้เห็นว่าเป็นความล้มเหลว มีอยู่หลายคนที่ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยใบหน้าที่ซีดขาว เมื่อพวกมันเดินไปถึงจุดสิ้นสุดของขั้นบันไดที่พวกมันสร้างขึ้นมา มีเพียงบุรุษวัยกลางคนที่ทำได้สำเร็จ
ในกลุ่มของคนทั้งแปดในตอนนี้ มีเพียงห้าคนที่เหลืออยู่ สี่คนทำได้สำเร็จเรียบร้อยแล้ว มีเพียงเมิ่งฮ่าวที่ยังคงปรุงเม็ดยาอยู่
นอกจากเจ้าอ้วน, หานเป้ย และอันจ้ายไห่ ไม่มีใครสนใจมองมาที่จอภาพเขาแม้แต่คนเดียว คนทั้งหมดกำลังมองไปที่จอภาพของเยี่ยเฟยโม่ และฉู่อวี้เยียน
จนกระทั่ง…เวลาชั่วธูปไหม้หมดไปครึ่งดอกหลังจากนั้น เสียงเบาๆ ของฟ้าร้องทันใดนั้นก็ดังออกมา ทำให้เกิดเป็นแรงดึงดูดความสนใจของคนเกือบทั้งหมดในทันที เสียงฟ้าร้องได้ยินออกมาเป็นครั้งที่สอง ครั้งนี้ได้ยินชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม ทุกคนทันใดนั้นก็เริ่มมองไปรอบๆ รู้สึกสับสน พยายามที่จะค้นหาว่าเสียงนั้นดังออกมาจากจอภาพไหน
เมื่อสายตาของพวกมัน ในที่สุด ก็ไปหยุดอยู่ที่จอภาพของเมิ่งฮ่าว ฟ้าร้องดังขึ้นเป็นครั้งที่สาม ดังกึกก้องออกมา เพียงพอที่จะสะเทือนสวรรค์สั่นปฐพี ปกคลุมไปทั่วทั้งโลกแห่งแดนสวรรค์ ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากจอภาพ ผู้คนมากมายเริ่มเปลี่ยนการมองจากเยี่ยเฟยโม่ และฉู่อวี้เยียน มามองยังเมิ่งฮ่าว
ทันใดนั้น พวกมันก็เริ่มอ้าปากค้าง
นี่เป็นเพราะ ถึงแม้ว่าเมิ่งฮ่าวจะมีสีหน้าจดจ่อตั้งอกตั้งใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนก็ตาม เหนือกระถางปรุงยาที่เบื้องหน้าเขา มีกลุ่มเมฆสีดำที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางหนึ่งร้อยจ้างกำลังม้วนตัวไปมา มันดูเหมือนกับกลุ่มเมฆที่ปรากฎขึ้นที่ด้านบนของเยี่ยเฟยโม่
“ฟางมู่…”
“อย่าบอกข้านะว่า มันก็ปรุงเม็ดยาที่ประหลาดขึ้นมาด้วยเช่นกัน?”
ขณะที่ความประหลาดใจกระจายออกไปทั่วทั้งยอดเขา อันจ้ายไห่เริ่มสูดลมหายใจอย่างหนักหน่วง และดวงตาก็สาดประกายด้วยแสงอันน่าเหลือเชื่อ สีหน้าแปลกๆ ของมัน ทันใดนั้น ก็ดึงดูดความสนใจของเทพกระถางม่วงคนอื่นๆ
ทันใดนั้น เสียงฟ้าร้องอันน่าตกใจอีกเสียงหนึ่งก็ดังออกมา มันรุนแรงกว่าเสียงก่อนหน้านี้มากนัก อย่างน้อยก็มากกว่าถึงสิบเท่า กระถางปรุงยาของเมิ่งฮ่าวสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ด้านบนขึ้นไป เมฆลงทัณฑ์ขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว จากหนึ่งร้อยจ้างเป็นหนึ่งพันจ้าง!
ทำให้เกิดความตกใจเต็มอยู่ในจิตใจของทุกคนที่โลกด้านนอก แต่จากนั้น เสียงฟ้าร้องที่สั่นสะเทือนไปถึงสวรรค์เสียงที่ห้า, หก และเจ็ด ก็ดังออกมา!
เสียงฟ้าร้องนี้ทำให้แดนสวรรค์สั่นไปมา และจอภาพก็เริ่มกระพริบริบหรี่ ราวกับว่าพวกมันกำลังเผชิญหน้ากับการรบกวนบางอย่าง เมฆลงทัณฑ์ขยายตัวออกไปเรื่อยๆ ตอนนี้ พวกมันมีเส้นผ่าศุนย์กลางถึงหนึ่งหมื่นจ้าง ภาพที่เห็นทำให้จิตใจของผู้ฝึกตนที่อยู่ในโลกด้านนอกหมุนคว้างไปมา
“กำลัง…กำลังเกิดอะไรขึ้น…?”
“มันปรุงเม็ดยาอะไรถึงทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ได้? เม็ดยาเยี่ยเฟยโม่ ไม่ได้กระตุ้นให้เกิดเมฆลงทัณฑ์ที่น่าตกใจได้เช่นนี้!!”
ทุกคนกำลังอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวาย เป็นไปไม่ได้ที่พวกมันจะไม่ประหลาดใจ ก่อนหน้านี้ พวกมันเชื่อว่าภาพที่เกิดจากเยี่ยเฟยโม่ช่างน่าเหลือเชื่อนัก แต่ตอนนี้ พวกมันนิ่งงันราวเป็นใบ้ นี่…คือความน่าเหลือเชื่อที่แท้จริง!
เสียงฟ้าร้องดังก้องกระจายไปทั่วทั้งโลกของแดนสวรรค์ พุ่งขึ้นไปจนถึงสวรรค์ชั้นฟ้า ตอนนี้ ไม่เพียงแต่จอภาพของเมิ่งฮ่าวเท่านั้นที่กระพริบไปมา แต่เป็นทุกจอภาพ พวกมันบิดเบี้ยวไปมาอย่างรุนแรง เหมือนจะแยกออกเป็นชิ้นๆ และหายไปได้ทุกเมื่อ
เหตุการณ์อันน่าตกใจนี้เห็นได้ชัดเจน ต่อสายตาของทุกคนบนยอดเขาด้านนอก ผู้เข้าแข่งขันคนที่เหลือทั้งหมดหยุดชะงักลง สีหน้าเปลี่ยนไป และเริ่มเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
เห็นได้ชัดว่า พวกมันทั้งหมดได้ยินเสียงฟ้าร้อง และมองเห็นเมฆลงทัณฑ์ ทำให้เกิดความตกตะลึงเต็มอยู่ในจิตใจของทุกคน เม็ดยาของเยี่ยเฟยโม่เป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดาอย่างแท้จริง แต่มีเพียงมันคนเดียวเท่านั้นที่มองเห็น ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดที่อยู่ภายในแดนสวรรค์ และบนภูเขาเดียวกันนั้น พวกมันเดินอยู่บนเส้นทางที่แตกต่างกัน ดังนั้น เรื่องใดๆ ก็ตามที่คนอื่นๆ ทำขึ้น พวกมันก็ไม่อาจจะมองเห็นหรือสัมผัสได้
แต่ตอนนี้ ภาพอันน่าตกใจก็ปรากฎขึ้น เสียงกึกก้องที่เกิดจากเม็ดยาของเมิ่งฮ่าว ทะลวงผ่านเกราะป้องกันใดๆ ออกมา ทำให้ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดสามารถมองเห็นเมฆลงทัณฑ์นั้น
“มันเกิดขึ้นเช่นนี้ได้อย่างไร…?”
“เจ้าแห่งเตาฟางมู่, มัน…มันกำลังทำอะไรอยู่…?”
เจ้าอ้วนปากอ้าตาค้างมองไป หอบหายใจ ทันใดนั้น ความตื่นเต้นก็เริ่มเต็มอยู่ในดวงตา ร่างของมันเริ่มสั่นสะท้าน ด้านใน มันกำลังตะโกนออกมา ส่งเสียงร้องอยากให้เมิ่งฮ่าวมีชื่อเสียงโด่งดัง ดูเหมือนมันจะตื่นแต้นมากกว่าเมิ่งฮ่าวซะอีกในตอนนี้
ดวงตาหานเป้ยสาดประกาย สีหน้าของนางเปลี่ยนเป็นปกติอย่างรวดเร็ว แต่ด้านใน นางกำลังคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่นางคาดหวังต่อฟางมู่
อันจ้ายไห่นั่งขัดสมาธิอยู่ที่นั่น ดวงตาสาดประกายด้วยแสงอันเข้มข้น เทพกระถางม่วงทั้งหมดกำลังจ้องไปด้วยความจดจ่ออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้
ในตอนนี้เองที่เสียงฟ้าร้องเสียงที่เก้าดังออกมา
ทำให้ทั่วทั้งโลกของแดนสวรรค์สั่นสะเทือน ด้านบนของภูเขาจื่อตง ฉู่อวี้เยียน, เยี่ยเฟยโม่ และคนอื่นๆ ทั้งหมดต่างก็รู้สึกถึงความสั่นสะเทือนนี้
ด้านบนขึ้นไปของพวกมัน มองเห็นท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยเมฆลงทัณฑ์ที่ไร้จุดสิ้นสุดโดยสิ้นเชิง พวกมันมีขนาดใหญ่มหึมา และไร้จุดจบ หนา สีดำ และทับซ้อนกันเป็นชั้นๆ ขณะที่เสียงกึกก้องดังออกมา สายฟ้าจำนวนมากมายจนนับไม่ถ้วน เริ่มพลุ่งพล่านไปมาภายในก้อนเมฆ พลังที่เห็นนั้นช่างน่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง
“ใครกำลังทำเรื่องเช่นนี้…?” ฉู่อวี้เยียนพึมพำ ใบหน้าซีดขาว ราวกับว่านางได้สูญเสียจิตใจไป นางไม่มีทางมองเห็นว่าใครกำลังทำให้เกิดภาพอันน่าตกใจนี้ขึ้นมา บุคคลแรกที่ปรากฎขึ้นในจิตใจของนางก็คือเยี่ยเฟยโม่ แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุผลที่ไม่รู้บางอย่าง ภาพของมันทันใดนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยใครบางคนที่ทำให้นางรู้สึกหงุดหงิดอย่างน่าเหลือเชื่อ
ใบหน้าเยี่ยเฟยโม่ซีดขาวราวไร้สีเลือด มันจ้องขึ้นไปในท้องฟ้าอย่างเงียบๆ สีหน้าแล้วสีหน้าเล่าเปลี่ยนไปมา สีหน้าไม่อยากเชื่อ, สับสน และความซับซ้อนอันหลากหลาย ปรากฎขึ้น จิตใจของมันทันใดนั้นก็งุนงงว่างเปล่า
สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาที่มากกว่าความประหลาดใจ ขณะที่เสียงฟ้าร้องเสียงที่เก้าได้ยินมา ไม่เพียงแต่เยี่ยเฟยโม่, ฉู่อวี้เยียน และคนอื่นๆ บนภูเขาจื่อตง กำลังตกตะลึง…เกิดสิ่งที่คาดไม่ถึงขึ้นมานั่นก็คือ เสียงฟ้าร้องเสียงที่เก้านี้ได้มีอิทธิพลไปถึงโลกด้านนอก! ในท้องฟ้าเหนือยอดเขาตงหลาย ก้อนเมฆสีดำ ม้วนตัวไปมา ทันใดนั้นก็ปรากฎขึ้น ภายในก้อนเมฆ สายฟ้าเต้นไปมา และเสียงกระหึ่มกึกก้องก็ได้ยินออกมา
เมื่อมันปรากฎขึ้น อันจ้ายไห่ก็กระโดดขึ้นมายืน เทพกระถางม่วงคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ข้างกายมัน ก็มีสีหน้าตกตะลึงด้วยเช่นกัน ตานกุ่ยนั่งอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ สักพัก จากนั้น ก็ยกมือขวาขึ้น และโบกสะบัดนิ้วไปมา
การเคลื่อนไหวเดียวกัน ที่ท่านใช้ในการทำให้เมฆลงทัณฑ์ของเยี่ยเฟยโม่จางหายไป พลังที่เพียงพอจะกำจัดสายฟ้าและเมฆลงทัณฑ์ในโลกด้านนอก แต่อย่างไรก็ตาม เมฆลงทัณฑ์ที่อยู่ภายในแดนสวรรค์ก็ยังคงมีอยู่ที่นั่น
เมื่อได้เห็นเมฆลงทัณฑ์กำลังจะถึงจุดที่พวกมันจะฟาดสายฟ้าลงมา เมิ่งฮ่าวก็เริ่มหลั่งเหงื่อออกมา แต่ดวงตาก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น หลังจากไม่กี่อึดใจผ่านไป เขาก็ยืนสองมือตรงไปที่กระถางปรุงยา
ขณะที่เขาทำเช่นนี้ เสียงกระหึ่มกึกก้องก็ดังเต็มอยู่ในอากาศ เสียงปะทุดังออกมา ขณะที่รอยแตกร้าวกระจายออกไปทั่วพื้นผิวของกระถางปรุงยา ต่อจากนั้น มันก็ระเบิดออก และเม็ดยาไร้สีก็ลอยออกมา ทันใดนั้น เมฆลงทัณฑ์ที่ด้านบนขึ้นไป ก็เริ่มหดตัวลง สายฟ้าขนาดใหญ่ หนาเท่าตัวคน เริ่มฟาดลงมา
ดวงตาตานกุ่ยสาดประกาย และกล่าวว่า “ซ่าน! (กระจายไป)”
เพียงแค่คำเดียว แต่ก็ทำให้ทั่วทั้งโลกของแดนสวรรค์ ทันใดนั้น ก็สั่นสะท้านราวกับว่ามีกฎใหม่ได้ถูกประกาศขึ้นมา กฎนี้ดูเหมือนจะส่งผลกระทบต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ด้านใน มันทำให้ท้องฟ้าบิดเบี้ยว เปลี่ยนแปลงสายฟ้า ปกคลุมเมฆลงทัณฑ์ ทำให้พวกมันทันใดนั้น…หายไป ราวกับว่าท้องฟ้าได้ถูกแทนที่ในทันที
เมิ่งฮ่าวยื่นมือออกไป และคว้าจับเม็ดยากึ่งโปร่งใสนั้น
ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดนิ่ง และเงียบสงบในโลกด้านนอก สายตาทุกคู่ตรึงแน่นอยู่ที่จอภาพของเมิ่งฮ่าว และมือขวาของเขา อาจารย์ปรุงยา, เจ้าแห่งเตา, เทพกระถางม่วง และศิษย์ทั้งหมดของสำนักต่างๆ แม้แต่ปรมาจารย์ย่อยขั้นวิญญาณแรกก่อตั้ง ทั้งหมดต่างก็จ้องไปยังสิ่งเดียวกัน
สิ่งที่พวกมันต้องการจะรู้ก็คือ เมื่อพิจารณาว่าเม็ดยานี้ได้ทำให้เกิดปฏิกิริยาอันน่าตกใจเช่นนั้น ทำให้มีบางสิ่งกระจายออกมายังโลกด้านนอกได้…
แล้วมันจะสร้างบันไดได้กี่ขั้น?!