“วัตถุโบราณ, เจ้าเป็นคนที่ไล่ตามข้ามาเอง นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายด้วยความเย็นเยียบ ขณะที่เขาพุ่งไปข้างหน้า ที่ด้านข้าง ปรมาจารย์ผมสีแดงพุ่งผ่านอากาศเป็นเสียงแหลมเล็กตรงมาที่เขา
ชายชราผู้นั้นแค่นเสียงเย็นชา จากนั้นก็เร่งความเร็วขึ้น “การขโมยสิ่งของในการประมูลเป็นความผิดอย่างมหันต์! จากนั้นเจ้าก็ใช้อุบายอันต่ำช้ามาขโมยทรัพย์สมบัติของพวกข้า! เจ้าเป็นสิ่งที่น่าอับอายของดินแดนสีดำ ซึ่งมีโทษถึงตาย!” ด้านหลังมัน ดวงตาปรมาจารย์หน้าฝีดาษดูน่ากลัวอย่างลี้ลับ ไกลออกไป ผู้ฝึกตนที่เหลือทั้งหมดต่างก็มองมายังเมิ่งฮ่าวด้วยความต้องการฆ่าฟัน
“พื้นฐานฝึกตนของเจ้าอยู่ในขั้นสุดท้ายสร้างแกนลมปราณ หลังจากผ่านไปสามวัน เจ้าก็ยังไม่อาจตามจับผู้ฝึกตนขั้นต้นสร้างแกนลมปราณเช่นข้าได้? แล้วเจ้ายังมีหน้าไปพูดเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร?” เมิ่งฮ่าวเร่งความเร็วขึ้นด้วยเช่นกัน
“เจ้าปากมากไปเถอะ! คงอีกไม่นานก่อนที่ข้าจะช่วยให้เจ้าเข้าใจถึงคำว่า การมีชีวิตอยู่เลวร้ายกว่าตายไปมากนัก!” ขณะที่พูด ปรมาจารย์ผมแดงใช้วิชาบางอย่าง ทำให้ใบหน้าของมันจู่ๆ ก็เริ่มเป็นสีม่วงคล้ำ ความเร็วของมันเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่า ขณะที่มันพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว ด้วยความรวดเร็วนี้ มันสามารถไล่ตามทันแค่ไม่กี่อึดใจ
“โลภจนถึงกระดูก” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ “เมื่อดูจากพื้นฐานฝึกตนของเจ้า ยังมีหน้ามาพูดอีก?” นกแก้วอ้าปากขึ้น และสายลมอันรุนแรงก็พุ่งออกมา พร้อมเสียงกระหึ่มอย่างน่าตกใจ
เมิ่งฮ่าวเร่งความเร็ว อยู่เหนือสายลมอันรุนแรงนั้น ปรมาจารย์ผมแดง และผู้ฝึกตนนับร้อยที่อยู่ด้านหลังมัน ไม่อาจทำอะไรได้นอกจากส่งเสียงแผดร้องด้วยโทสะ ขณะที่ความเร็วของพวกมันลดลง
ตอนนี้ ไม่มีใครในพวกมันมีอาวุธเวท บางคนอาจจะใช้วิชาลับ หรือแกนปราณในการเร่งความเร็วเข้ามาใกล้เมิ่งฮ่าว แต่เพียงแค่ลมหายใจเดียวที่พ่นออกมาจากนกแก้ว ก็ทำให้มีระยะห่างเพิ่มขึ้นในทันที ดังนั้นไม่ว่าพวกมันจะเร่งความเร็วขึ้นเช่นไร ก็ไม่มีทางจะไล่ตามเมิ่งฮ่าวทัน
ตลอดช่วงสามวันมานี้ โทสะของพวกมันก็เพิ่มความรุนแรงมากขึ้นไปเรื่อยๆ
เมื่อเห็นระยะห่างระหว่างพวกมันและเมิ่งฮ่าวเพิ่มมากขึ้นอีกครั้ง รังสีสังหารในจิตใจปรมาจารย์ผมแดงก็กระจายไปทั่วร่าง ปรมาจารย์หน้าฝีดาษก็เช่นกัน รวมถึงผู้ฝึกตนนับร้อยที่อยู่ด้านหลังพวกมัน
หลังจากเดินทางมาตลอดสามวัน เมิ่งฮ่าวก็บอกได้จากเครื่องหมายบ่งชี้อาณาเขตที่พุ่งผ่านไปว่า กำลังเข้าใกล้ถ้ำแห่งเซียนของเขาแล้ว
“เมือดูจากความโกรธแค้นของพวกมัน แน่ใจว่าความคิดของเจ้าจะได้ผล?” เมิ่งฮ่าวกล่าวกับนกแก้ว, ขมวดคิ้วขึ้น
“แน่นอน มันต้องได้ผล” นกแก้วคุยโม้ตอบมา “เจ้าไม่มีทางผิดพลาดเมื่อเชื่อฟังอู่เหยีย แค่นำคนเหล่านี้ไปยังอาณาเขตของพวกเรา เจ้าก็สามารถกลับเข้าไปในถ้ำ และปล่อยทุกอย่างให้อู่เหยียจัดการได้เลย!” มันตบไปที่หน้าอก และกล่าวอย่างจองหองต่อไป “ไม่ต้องกังวล, ยิ่งมีผู้คนมากเท่าใด ก็ยิ่งมีความวุ่นวายมากขึ้นเท่านั้น และจะทำให้ใช้วิชาที่ข้าพูดถึงช่วยถ่วงเวลาทัณฑ์สวรรค์ได้ง่ายขึ้น”
เมิ่งฮ่าวยังคงขมวดคิ้ว ตลอดช่วงสามวันที่เดินทางมา เขาได้พูดคุยกับนกแก้วถึงเรื่องการถ่วงเวลาทัณฑ์สวรรค์ เขารู้ว่าวิธีการนั้นเป็นรูปแบบของการหลอกลวง โดยการใช้กลิ่นอายนานัปการที่แตกต่างกันเพื่อทำให้สวรรค์สับสน เหมือนกับการกระจายตาข่ายไปบนใบหน้าของทัณฑ์สวรรค์
ดังนั้น ผู้ฝึกตนที่ไล่ตามมาเหล่านี้ ซึ่งมีมากกว่าหนึ่งร้อยคน จริงๆ แล้วก็เป็นแค่เครื่องมือบางอย่างของเมิ่งฮ่าวและนกแก้ว แต่วิธีนี้จะสำเร็จหรือไม่ และนกแก้วจะสามารถถ่วงเวลาคนกลุ่มนี้ได้จริงๆ หรือไม่ เมิ่งฮ่าวไม่แน่ใจโดยสิ้นเชิง
ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดถึงสิ่งเหล่านี้ ดวงตาเขาจู่ๆ ก็แวบขึ้น มองตรงไปข้างหน้า และดวงตาก็หดแคบลง ที่นั่นเขามองเห็นลำแสงสิบกว่าลำพุ่งตรงมา เขากำลังถูกสกัดกั้น!
มีการปิดล้อมอยู่ด้านหน้า และกลุ่มคนก็ไล่ตามมาทางด้านหลัง ผู้คนที่ด้านหน้าอาจจะถ่วงเวลาเขาได้เล็กน้อย และจากนั้นกลุ่มคนที่ด้านหลังก็จะมาถึง เขาถูกปิดล้อมแล้ว
ด้านหลังเขา ปรมาจารย์ผมแดง และคนอื่นๆ ทั้งหมด ดูตื่นเต้นเป็นอย่างมากในทันที เห็นได้ชัดว่า พวกมันได้ใช้วิธีการต่างๆ เพื่อขอความช่วยเหลือก่อนหน้านี้ และผลลัพธ์ก็คือ กลุ่มคนเหล่านี้ที่เบื้องหน้า ซึ่งกำลังเตรียมสกัดกั้นเส้นทางของเมิ่งฮ่าวไว้
ท่ามกลางกลุ่มผู้ฝึกตนที่ใกล้เข้ามา เป็นชายวัยกลางคนอยู่ในขั้นกลางสร้างแกนลมปราณ แกนปราณลอยอยู่เหนือศีรษะของมัน แต่ก็มีสีสับสนปนเปกัน เห็นได้ชัดว่ามันเพิ่งจะสร้างแกนปราณขึ้นมาได้เมื่อเร็วๆ นี้ ยิ่งไปกว่านั้น ก็เห็นได้ชัดว่ามันมีแกนผสม
สีหน้าของมันดูน่ากลัวขณะที่จ้องมายังเมิ่งฮ่าว จากนั้นก็ร่ายเวทอาคม ทำให้แกนปราณกลายเป็นศีรษะของสัตว์ป่า แผดเสียงร้องขณะที่พุ่งตรงมา
สีหน้าเมิ่งฮ่าวสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย ขณะที่เขายกมือขึ้น จากนั้นก็ชี้นิ้วลงไปบนพื้น
“ผนึกความเที่ยงธรรม!” แสงแปลกๆ แวบขึ้นในดวงตา ทันใดนั้น ภาพภูติผีก็พุ่งออกมาจากพื้นดินโดยรอบบริเวณนั้น ตอนนี้ เขาสามารถมองเห็นกลุ่มควันของปราณอสูรซึ่งไม่มีใครมองเห็นได้ พวกมันพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว และจากนั้นก็เริ่มหมุนวนเป็นวงกลมรอบๆ ตัว
กลุ่มควันที่มองไม่เห็นนี้ ล้อมรอบเมิ่งฮ่าวรวมตัวกันเป็นปีศาจ มันดูเลือนลาง แต่หลังจากที่ก่อตัวเป็นรูปร่าง ก็กระจายกลิ่นอายของเมิ่งฮ่าวออกมา
ต่อมาเขาโบกสะบัดมือตรงไปยังกลุ่มผู้ฝึกตนที่เบื้องหน้า ทำให้ปีศาจนั้นพุ่งตรงไปยังพวกมัน
เมิ่งฮ่าวไม่ต้องการแบ่งแยกความสนใจของเขาเพื่อไปควบคุมปีศาจตนนั้น ทันทีที่มันเข้าไปใกล้กลุ่มผู้ฝึกตน เขาก็พูดขึ้น “ระเบิด!”
ปีศาจตนนั้นระเบิดออกในทันที
เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังขึ้นจนสวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน สิ่งที่ทุกคนมองเห็นก็คือ เมิ่งฮ่าวเพียงแค่ชี้นิ้วไปยังกลุ่มผู้ฝึกตน หลังจากนั้น โลหิตก็กระจายออกมาจากปากพวกมัน บางคนยังได้ระเบิดออกมาโดยตรง ใบหน้าของผู้ฝึกตนขั้นสร้างแกนลมปราณสลดลง และมันก็ลอยไปด้านหลังเจ็ดถึงแปดก้าว ดูเหมือนมันไร้พลังที่จะต่อต้านสิ่งที่เหมือนกับเป็นสายลมรุนแรงที่มองไม่เห็น ซึ่งกระแทกมาที่ตัวมัน ทำให้ต้องกระเด็นไปด้านหลังในทันที
ความแปลกประหลาดใจเต็มอยู่บนใบหน้า ขณะที่มันกลิ้งกระเด็นออกไป โลหิตพ่นออกมาจากปาก ก่อนหน้านี้มันคิดว่า ถึงแม้ศัตรูของมันจะแข็งแกร่ง แต่มันก็มีถึงสิบกว่าคน ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่มันต้องทำก็คือ แค่ถ่วงเวลา ซึ่งคิดว่าไม่น่ามีปัญหาใดๆ
แต่เมื่อเมิ่งฮ่าวใช้วิชาบางอย่างที่แค่ชี้นิ้ว และจากนั้นก็ปลดปล่อยพลังอันน่าเหลือเชื่อบางอย่างออกมา จิตใจของมันรู้สึกเย็นเยียบขณะที่มองเห็นเมิ่งฮ่าวเข้ามาใกล้ มันไม่กล้าทำสิ่งใดๆ ที่จะไปหยุดเขาอีก
เมิ่งฮ่าวพุ่งตรงไป ผ่านกลุ่มผู้ฝึกตนที่พยายามปิดกั้นเส้นทาง แต่ตอนนี้ก็แตกกระจายออกไปแล้วในทันที
ภาพที่เห็นทำให้ผู้ฝึกตนที่ไล่ตามหลังมาร้อยกว่าคน รู้สึกตกตะลึงกันโดยสิ้นเชิง พวกมันทั้งหมดช้าลงด้วยความลังเล แต่เมื่อพวกมันคิดเกี่ยวกับถุงสมบัติที่ว่างเปล่า และคิดว่า ‘มีพวกมาก’ ก็ทำให้รังสีสังหารของพวกมันพลุ่งพล่านขึ้นมาในทันที ไม่มีแม้แต่คนเดียวจะล่าถอย พวกมันพุ่งไล่ตามเมิ่งฮ่าวไปในทันที เรียงกันเป็นเส้นตรงราวกับลูกธนูอันแหลมคม
เวลาผ่านไป หลังจากนกแก้วหายใจเข้าออกสามหรือสี่ครั้ง ในที่สุดเมิ่งฮ่าวก็มองเห็นภูเขาเตี้ย และถ้ำแห่งเซียน เขายังมองเห็นกลุ่มผู้ฝึกตนร้อยกว่าคนที่อาศัยอยู่รอบๆ ภูเขาอีกด้วย
เมื่อพวกมันมองเห็นเขาและผู้ที่ไล่ตามมา ความระมัดระวังตัวและไม่สบายใจก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้าพวกมัน
ทันทีที่พวกมันเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ เสียงแหลมเล็กของนกแก้วก็โพล่งขึ้นมา “เด็กๆ อู่เหยียกลับมาแล้วพร้อมกับแขกบางส่วน เตรียมค่ายกล!”
ในเวลาเดียวกันนั้น เมิ่งฮ่าวก็กลายเป็นลำแสงพุ่งตรงไปยังรอยแยกที่ด้านข้างภูเขา
ขณะที่ทำเช่นนั้น นกแก้วก็ปล่อยกรงเล็บออกมาจากไหล่ของเขา และบินขึ้นไปในอากาศ ระฆังผีโต้งที่ผูกติดอยู่กับขาของมันส่งเสียงดังกรุ๊งกริ๊งออกมา
เมื่อผู้ฝึกตนมากกว่าร้อยคนได้ยินเสียงนกแก้ว แรงสั่นสะเทือนก็วิ่งผ่านร่างกาย พวกมันกัดฟันลุกขึ้นมายืนในทันที จากนั้นก็เริ่มวิ่งตามรูปแบบอย่างเป็นระเบียบ วนเป็นวงกลมรอบๆ ภูเขาเตี้ยเหมือนที่พวกมันเคยทำมาก่อนหน้านี้
สีหน้าแปลกๆ ปรากฎขึ้นบนใบหน้าเมิ่งฮ่าว ขณะที่เขาใช้จิตสัมผัสเพื่อมองไปยังภาพเหล่านั้น เขาคิดย้อนกลับไปในสิ่งที่นกแก้วเรียกว่า ค่ายกลเซียน และการฝึกวิ่งทั้งหมดที่มันให้ผู้ฝึกตนเหล่านั้นทำ เขาลังเลอยู่สักพัก จากนั้นก็กัดฟันแน่นนั่งลงขัดสมาธิ หยิบเอาต้นสมุนไพรที่ใช้ในการสร้างเม็ดยาแกนสีทองสมบูรณ์ออกมา และเริ่มปรุงมัน
เขาต้องปรุงเม็ดยาแกนสีทองสมบูรณ์, กลืนมันลงไป และจากนั้นก็แทนที่แกนสีม่วงของเขาด้วยแกนสีทอง ยิ่งไปกว่านั้น เขาจะต้องทะลวงจากขั้นต้นสร้างแกนลมปราณไปยังขั้นกลางสร้างแกนลมปราณ ทั้งหมดนี้ต้องใช้แกนสีทองสมบูรณ์!
“หลังจากมันเกิดขึ้น ข้าจะถ่วงเวลาทัณฑ์สวรรค์ และสร้างแกนปราณขึ้นมา ถ้าทั้งหมดนี้เป็นไปได้ด้วยดี เมื่อไหร่ที่ข้าออกไปจากถ้ำแห่งเซียนนี้…” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดแสงเย็นเยียบ “ข้าจะช่วยให้พวกมันรับรู้ถึงการไล่ล่าที่ถึงแก่ความตายอย่างแท้จริง!” เขาสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ จากนั้นก็หยิบกระจกทองแดงออกมา เพื่อใช้คัดลอกต้นสมุนไพรบางอย่างที่จำเป็น
ก่อนหน้านี้ เขาต้องรอบคอบเป็นอย่างมาก เมื่อคิดว่าขาดแคลนหินลมปราณ ยิ่งไปกว่านั้น การใช้หินลมปราณระดับสูงพิเศษก็ยิ่งทำให้ต้องทุกข์ใจเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้เขามีหินลมปราณมากกว่าหนึ่งล้านก้อนในถุงสมบัติ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกสบายใจที่จะใช้มันโดยไม่ต้องตระหนี่ใดๆ อีก
นอกจากนี้ เมิ่งฮ่าวยังรู้สึกเชื่อมั่นในเต๋าแห่งการปรุงยาของเขาเป็นอย่างมาก มากกว่าตอนที่ฉู่อวี้เยียนเคยปรุงเม็ดยาพื้นฐานสมบูรณ์ให้เขาในตอนนั้น การใช้วิชาลี้ลับที่สืบทอดกันมาของแผนกเม็ดยาบูรพา พร้อมกับเปลวไฟปรุงยาของเขา ทำให้เมิ่งฮ่าวมีความมั่นใจถึงเจ็ดในสิบส่วนที่เขาจะทำได้สำเร็จ
ด้านนอกถ้ำแห่งเซียน ปรมาจารย์ผมแดง, ปรมาจารย์หน้าฝีดาษ และคนที่เหลือทั้งหมดใกล้เข้ามา ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุร้าย พวกมันเห็นเมิ่งฮ่าวหายตัวเข้าไปในภูเขาเตี้ย นกแก้วที่น่าชังตัวนั้นกำลังบินไปรอบๆ ส่งเสียงพึมพำ และกลุ่มผู้ฝึกตนกำลังวิ่งเป็นรูปวงกลมไปรอบๆ ภูเขา
ทั้งหมดนี้ทำให้พวกมันอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงไปชั่วครู่ จากนั้นก็เริ่มหัวเราะกันอย่างเอิกเกริก ขณะที่มีผู้คนมาถึงมากขึ้น พวกมันมองไปยังผู้ฝึกตนที่กำลังวิ่งเป็นวงกลม และหัวเราะเสียงดังออกมา
“คนเหล่านี้กำลังทำอะไร? พวกมันเป็นบ้าไปแล้ว?!”
“พวกมันกำลังออกกำลังกายกัน?”
“พวกมันเป็นผู้ฝึกตนเช่นไรกันแน่? ช่างทำให้ดินแดนสีดำเสื่อมเสียหน้านัก!”
เสียงหัวเราะเยาะเย้ยของผู้ฝึกตนซึ่งไล่ตามเมิ่งฮ่าวมา ทำให้สีหน้าของผู้ฝึกตนที่อยู่บนพื้นมีท่าทีอึดอัดใจ แต่พวกมันก็ไม่กล้าจะหยุดวิ่ง นี่เป็นเวทเซียนเพียงอย่างเดียวที่นกแก้วสอนพวกมัน ซึ่งสามารถดึงพลังจากผู้คนที่กำลังวิ่งอยู่ออกมา
จากสิ่งที่นกแก้วได้พูดไว้ วิชานี้ช่างยอดเยี่ยม, มหัศจรรย์จนแทบไม่น่าเชื่อ จากการบอกเล่าของมัน นี่เป็นค่ายกลอันสุดยอดของสวรรค์และปฐพีนี้ทั้งหมด
“มา มา” นกแก้วร้องอย่างตื่นเต้น ขณะที่มันพุ่งทะยานขึ้นไปในอากาศ “ทุกคนตะโกนขึ้นพร้อมกัน…”
ผู้ฝึกตนมากกว่าร้อยคนลังเลชั่วขณะ แต่การฝึกฝนมาตลอดเกือบหนึ่งปีได้สร้างเป็นสัญชาตญาณเอาไว้ ทันทีที่คนผู้หนึ่งร้องออกมา ทุกคนก็ช่วยกันตะโกนออกมาพร้อมกัน
“เชื่อมั่นในอู่เหยีย, ได้รับชีวิตนิรันดร์! เมื่ออู่เหยียปรากฎตัว, ผู้ใดกล้ามาต่อกร!”
เสียงของพวกมันดังขึ้นพร้อมกัน กลายเป็นคลื่นพลังอันแข็งแกร่งกระจายออกไป ขณะที่เสียงนั้นดังขึ้น สายลมก็เกิดขึ้นเช่นกัน ยากที่จะบอกว่าสายลมนั้นเริ่มพัดขึ้นเนื่องมาจากการวิ่ง หรือเนื่องมาจากเสียงตะโกนของพวกมัน
อย่างไรก็ตาม สายลมนั้นก็ทำให้พื้นที่หนึ่งร้อยหลี่รอบๆ ถ้ำแห่งเซียน จู่ๆ ก็เริ่มเลือนลางลง ความเลือนลางนี้เจือจางบางเบามาก อันที่จริง ก็ไม่มีใครสังเกตเห็น ไม่แม้แต่ปรมาจารย์ผมแดง ผู้ซึ่งอยู่ในขั้นสุดท้ายสร้างแกนลมปราณ หรือคนอื่นๆ ที่อยู่ในขั้นเดียวกัน
“สังหารพวกมันให้หมดทุกคน!” ปรมาจารย์ผมแดงร้องตะโกนออกมา “อย่าปล่อยให้แม้แต่หญ้าสักต้นมีชีวิตอยู่!” คำพูดของมันลอยอยู่ในอากาศอย่างแผ่วเบา แต่ก็เต็มไปด้วยรังสีสังหารอันน่าตกใจ ขณะที่คำพูดนั้นดังออกมา ศิษย์สำนักฮั่นสุ่ยที่อยู่ด้านหลังมัน รวมถึงผู้ฝึกตนคนอื่นๆ มากมาย กลายเป็นลำแสง พวกมันพุ่งตรงมา ใบหน้าบิดเบี้ยวอย่างดุร้าย รังสีสังหารของพวกมันเดือดพล่าน พร้อมกับการดูถูกเยาะเย้ยอย่างที่สุด ที่พวกมันเตรียมจะระบายความเกลียดชังที่มีต่อเมิ่งฮ่าวออกมา