วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560

ตอนที่ 338 : ร่างเซียนอันสมบูรณ์แบบ!

Posted By: wuxiathai - 00:30
“ไม่!!”
ภาพที่เมิ่งฮ่าวกลืนเม็ดยาลงไป ทำให้ผู้ฝึกตนทุกคน แม้แต่ปรมาจารย์ของสามสำนักใหญ่ต้องตกอยู่ในความคลุ้มคลั่ง จิตใจหมุนเคว้งคว้าง และไม่อาจจะควบคุมตัวเองได้ พวกมันพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าวอย่างบ้าคลั่ง
เมิ่งฮ่าวสงบเยือกเย็นขณะที่เขาหย่อนเม็ดยาลงไปในปาก แต่ดวงตาสาดประกายด้วยแสงแปลกๆ เส้นผมพริ้วไปมาในอากาศขณะที่ทัณฑ์สวรรค์พลุ่งพล่านปั่นป่วนอยู่ด้านบน เขานั่งตัวตรงอยู่ที่จุดกึ่งกลางของทะเลสาบสีทอง เต็มไปด้วยท่าทางสง่างาม
เม็ดยาไม่ได้ละลายไป แต่ไหลลงไปในกระเพาะเขาทันที เมื่อมันเกิดขึ้น สายฟ้าที่ฟาดลงมาก็หยุดอยู่กลางอากาศในทันทีและระเบิดออก ประจุไฟฟ้านับไม่ถ้วนสาดกระจายราวกับห่าฝน ก่อตัวเป็นบางสิ่งที่ดูคล้ายกับเป็นใบหน้า
ดวงตาบนใบหน้านั้นปิดอยู่ แต่ก็ราวกับว่ามันสามารถมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ได้ และกำลังเพ่งมองมายังเมิ่งฮ่าว
ใบหน้านั้นจางหายไป และเมฆลงทัณฑ์บนท้องฟ้าก็เดือดพล่านรุนแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ก้อนเมฆที่ปกคลุมในรัศมีหนึ่งร้อยหลี่ แต่ตอนนี้ก็ขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ห้าร้อยหลี่, หนึ่งพันหลี่, สามพันหลี่…เพียงไม่นานก็ปกคลุมไปถึงหนึ่งหมื่นหลี่
ทั่วทุกทิศทางในรัศมีหนึ่งหมื่นหลี่ กลุ่มเมฆสีดำปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่างไว้ เสียงฟ้าร้องดังก้องออกมา และสายฟ้าก็แลบแปลบปลาบ แสงเจิดจ้าจากสวรรค์ดูเหมือนกำลังเตรียมจะฉีกกระชากพื้นดินให้กลายเป็นชิ้นๆ!
ห่างออกไปจากเมิ่งฮ่าวไม่กี่ร้อยหลี่ ในสนามของเศษซากศิลา เสียงหอบหายใจอย่างรุนแรงได้ยินออกมา ชายชราซึ่งถูกผนึกไว้กำลังสังเกตเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้จากกลุ่มหมอกสีดำของมัน ไม่มีใครสามารถมองเห็นมันได้ แต่ขณะที่มันมองขึ้นไป ก็เห็นเป็นสายฟ้า ซึ่งทำให้มันหัวเราะออกมา เป็นเสียงหัวเราะที่ดังก้องและเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและพึงพอใจ
“ร่างกายเซียนอันสมบูรณ์แบบ!” ชายชราหัวเราะ “หนึ่งในสามของร่างเซียนอันยิ่งใหญ่ ร่างกายเซียนอันสมบูรณ์แบบ! เจ้าเด็กผู้นี้คงจะบรรลุถึงขั้นเซียนอมตะในไม่ช้า!”
เวลาเดียวกันนั้น ร่างเมิ่งฮ่าวก็เริ่มสั่นสะท้าน ขณะที่เม็ดยาแกนสีทองสมบูรณ์ไหลลงไปในกระเพาะ สีหน้าอันดุร้ายปกคลุมใบหน้าเขา และเส้นโลหิตก็โป่งพองอยู่บนหน้าผาก รู้สึกราวกับว่าร่างกายกำลังจะถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ
เป็นความเจ็บปวดที่ยากจะอธิบายออกมาได้ หลังจากก่อตั้งแกนสีม่วง ม่านตาเขาก็เปลี่ยนเป็นสีม่วง แต่ตอนนี้สีม่วงนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยสีทองไปแล้ว
ภายในร่าง แกนสีม่วงสั่นสะเทือน และเสียงแตกร้าวก็ได้ยินออกมา ขณะที่มีรอยร้าวกระจายออกไปทั่วทั้งพื้นผิว ดูเหมือนมันจะแตกหักออกเป็นชิ้นๆ ได้ทุกเมื่อ
ในเวลาเดียวกันนั้น ผู้ฝึกตนนับร้อยที่อยู่ในบริเวณนั้น ก็เริ่มพุ่งลงมาที่เขา ดวงตาลุกไหม้เป็นสีแดง ดูเหมือนพวกมันจะสูญเสียจิตใจไป มีเพียงสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ก็คือความโลภและความบ้าคลั่ง เมิ่งฮ่าวได้กลืนเม็ดยาสีทองลงไป ดังนั้นพวกมันจึงต้องการจะกลืนเขาลงไป!
ดูเหมือนพวกมันจะคิดว่า แม้แต่การได้กัดเนื้อเขาแค่หนึ่งคำ ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกมันบ้าคลั่งอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
แต่ในขณะที่พวกมันเข้ามาใกล้ เมิ่งฮ่าวก็เงยหน้าขึ้นไปยังท้องฟ้าและแผดเสียงกู่ร้องออกมา เสียงนั้นกระแทกเข้าไปยังผู้ฝึกตนที่ใกล้เข้ามาราวกับเป็นคลื่นพลัง โลหิตกระจายออกมาจากปากขณะที่พวกมันถอยไปด้านหลังตัวสั่นสะท้าน
แม้แต่ปรมาจารย์จากสามสำนักใหญ่ก็ลอยคว้างกลับไปด้วยเช่นกัน ร่างสั่นไปมาและโลหิตก็พุ่งออกมาจากปากพวกมัน
ขณะที่พวกมันหมุนคว้างไปด้านหลังอย่างไม่อาจควบคุมตัวเองได้ แกนสีม่วงของเมิ่งฮ่าวก็แตกกระจายออกเป็นชิ้นๆ ความเจ็บปวดจากการแตกหักนี้ทำให้เสียงแผดร้องของเมิ่งฮ่าวเริ่มน่าตกใจมากยิ่งขึ้น ม่านตาเขาในตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีทองมากกว่าครึ่ง และแสงสีทองก็กระจายไปทั่วร่างเขาทั้งหมด
ที่ด้านใน ซึ่งมีแกนสีม่วงเคยปรากฎอยู่ แกนสีทองทันใดนั้นก็ปรากฎขึ้น หลังจากที่มันกวาดเศษส่วนที่เหลืออยู่ของแกนสีม่วงออกไปในบัดดล
แสงสีทองมากมายมหาศาลไหลออกมาจากแกนสีทอง กระจายไปทั่วทั้งเส้นลมปราณของเมิ่งฮ่าว ร่างกายเขาทั้งหมดเต็มไปด้วยสีของทองคำ
ความเจ็บปวดถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกปลาบปลื้มใจในทันที เส้นผมของเขาพริ้วไปมาขณะที่รู้สึกถึงพลังที่พุ่งขึ้นมาในร่างกาย จิตใจเริ่มหนักอึ้ง ทุกครั้งที่พื้นฐานฝึกตนของเขาหมุนวนไปมา ก็ส่งผลให้เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องไปทั่วทุกทิศทาง
ผิวหนังเขาค่อนข้างซีดขาวเล็กน้อย และบรรยากาศอันน่ากลัวก็ดูเหมือนจะซึมเข้าไปในรูปลักษณ์ของเขา เขาหล่อเหลามากขึ้นกว่าเดิม ร่างกายสูงมากขึ้น ล้อมรอบไปด้วยแสงสีทอง
พลัง! เขารู้สึกถึงบางสิ่งที่เหมือนกับตอนที่รู้สึก เมื่อย้อนกลับไปยังสถานที่ใกล้กับถ้ำกำเนิดใหม่ เมื่อเขาบรรลุขั้นสร้างแกนลมปราณ หลังจากนั้น ความแตกต่างระหว่างพื้นฐานลมปราณ และสร้างแกนลมปราณก็เห็นได้อย่างชัดเจน นั่นเป็นความรู้สึกเดียวกันกับที่เขามีอยู่ในตอนนี้
จิตสัมผัสของเขาเติบโตมากขึ้น ร่างกายภายนอกก็เริ่มแข็งแรงมากขึ้น กระดูกเหนียวแน่นมากขึ้น แม้แต่สติปัญญาก็รวดเร็วว่องไวกว่าก่อนหน้านี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขาได้เปลี่ยนไป ราวกับว่าเขากำลังผ่านเข้าไปในขั้นการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่
การเปลี่ยนแปลงนี้เทียบได้กับการก้าวเท้าไปบนเส้นทางเต๋าอันยิ่งใหญ่
เต๋าอันยิ่งใหญ่แห่งแกนสีทอง!
เมิ่งฮ่าวลืมตาขึ้นมา และเมื่อทำเช่นนั้น แสงสีทองอันเจิดจ้าก็พุ่งออกมา แสงสีทองกระจายไปทั่วชุดยาวสีเขียวของเขา ทำให้ตลอดทั้งร่างดูเหมือนราวกับบางสิ่งที่เป็นนักรบเซียน!
ที่ห่างไกลออกไป นกแก้วและผีโต้งกำลังสังเกตดูด้วยความระมัดระวัง ดวงตานกแก้วเบิกกว้างและเต็มไปด้วยความตกตะลึง มันได้อยู่กับเมิ่งฮ่าวมาหลายปี แต่ช่วงเวลาเกือบทั้งหมดก็อยู่ในกระจกทองแดง จริงๆ แล้ว เมิ่งฮ่าวก็มีความลับอยู่มากมายซึ่งมันไม่เคยรับรู้มาก่อน
สำหรับผีโต้ง จริงๆ แล้ว มันก็ไม่รู้ว่าเมิ่งฮ่าวอยู่ที่ระดับไหนกันแน่ มันรู้แต่เพียงว่าดูเหมือนเขาจะค่อนข้างแข็งแกร่ง
ตอนนี้ ทั้งคู่ต่างก็มองมาขณะที่เขากำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลง
“น่าประหลาดนัก!” ผีโต้งพึมพำ “มันคือร่างเซียนอันสมบูรณ์! ข้าไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อนเลย!”
“ไม่ใช่มนุษย์!” นกแก้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเจ็บใจ “ช่างเป็นความโชคดีอย่างน่าเหลือเชื่อนัก! ช่างเป็นโชคชะตาอันน่ามหัศจรรย์ยิ่ง! มีเพียง ไท่หลิงซุนเจ่อ (ท่านสุดยอดวิญญาณ) เท่านั้นถึงจะมีร่างเซียนสมบูรณ์แบบ แต่มันก็มีด้วยเช่นกัน! มีแต่ผู้ยิ่งใหญ่เช่นอู่เหยียเท่านั้น ถึงจะมีร่างเซียนสมบูรณ์แบบได้!”
“สามคัมภีร์สวรรค์ – สุดยอดวิญญาณ, เต๋าศักดิ์สิทธิ์, ตัดสวรรค์ คัมภีร์แต่ละเล่มประกอบไปด้วยความลับของสวรรค์แห่งขุนเขาทะเล การเรียนรู้พวกมัน ก็ทำให้ฝึกร่างเซียนอันยิ่งใหญ่ทั้งสามขึ้นมาได้ จากสมัยโบราณจนกระทั่งถึงตอนนี้ มีเพียงคัมภีร์สุดยอดวิญญาณ และคัมภีร์เต๋าศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่ปรากฎขึ้น คัมภีร์ตัดสวรรค์ไม่เคยถูกพบเห็นมาก่อน”
“เจ้าเด็กผู้นี้จริงๆ แล้วก็มีดวงชะตาในการต่อต้านสวรรค์ ร่างเซียนสมบูรณ์แบบ…อา, ด้วยร่างกายเช่นนั้น ถ้ามันบรรลุขั้นเซียนอมตะ มันก็จะกลายเป็นศิษย์ผู้สืบทอดของไท่หลิงซุนเจ่อ”
“อา, ซุนเจ่อ, ผู้เชี่ยวชาญอันแข็งแกร่งอย่างแท้จริงในเก้าขุนเขาทะล ผู้ฝึกตนซึ่งสามารถต่อต้านผู้ครอบครองเก้าขุนเขาทะเล อู่เหยียไม่ได้สนใจพวกมันมากนัก แต่ตอนนี้…อู่เหยียก็อยู่ในช่วงอ่อนแอ บัดซบ, ดังนั้นมันถึงได้พึ่งพาการช่วยเหลือของพวกมัน”
นกแก้วเริ่มกระปรี้กระเปร่ามากยิ่งขึ้น “จากนั้นก็ยังมีตำนานบัดซบนั่นอีก ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ข้าต้องพบกับภัยพิบัติเช่นนั้น…จากตำนานนั้น ถ้าคัมภีร์ทั้งสามเล่มถูกรวบรวมเข้าด้วยกัน พวกมันก็จะก่อตัวกันเป็นคัมภีร์ขุนเขาทะเล! คัมภีร์นั่น…” ขณะที่มันเริ่มรำลึกไปถึงตำนานของคัมภีร์ขุนเขาทะเลอันน่ากลัวนั้น ก็ดูเหมือนมันใกล้จะเริ่มคลุ้มคลั่งขึ้นมา
ขณะที่เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ขณะที่รู้สึกว่าพื้นฐานฝึกตนกำลังหมุนวนไปพร้อมกับแกนสีทอง คลื่นพลังอันยิ่งใหญ่กระจายไปทั่วร่าง ทำให้เขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
“นี่คือพลังของแกนสีทองสมบูรณ์…?” เขาพึมพำ ดวงตาสาดประกายด้วยแสงสีทอง ตลอดทั้งร่างเปล่งรัศมีอันสง่างามออกมา เขาโบกแขนขวา และพลังก็ระเบิดออกมาจากพื้นฐานฝึกตนของเขา
ขณะที่เป็นเช่นนั้น คลื่นน้ำวนของสายลมสีทองก็พุ่งขึ้นมารอบๆ ตัว กวาดผ่านทุกสิ่งทุกอย่างไป
ผู้ฝึกตนนับร้อยจ้องมองมาด้วยความตกตะลึง ความคลุ้มคลั่งยังคงมองเห็นได้บนใบหน้าพวกมัน แต่ก็ไม่อาจจะหยุดตัวเองให้ถอยไปด้านหลังได้ ถูกผลักออกไปโดยพลังที่มองไม่เห็นของสายลมสีทองซึ่งถูกสร้างขึ้นมาจากเมิ่งฮ่าว
เพียงชั่วพริบตา สายลมสีทองที่หมุนวนไปรอบๆ เมิ่งฮ่าวก็เปลี่ยนเป็นลมพายุอันน่ากลัว ขณะที่มันหมุนไปมาในอากาศ ก็มีใบหน้าปรากฎขึ้นภายในลมพายุนั้น ซึ่งก็คือเมิ่งฮ่าว
“ในตอนนี้” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ “ข้าไม่จำเป็นต้องปิดบังพื้นฐานฝึกตนของข้าอีกต่อไปแล้ว ถึงเวลาที่จะเข้าไปยังขั้นกลางของแกนสีทองสมบูรณ์!” แกนสีทองภายในร่างเขาเริ่มหมุนวนอย่างรวดเร็ว และพลังของพื้นฐานฝึกตนก็พลุ่งพล่านขึ้นมา ขณะที่มันเริ่มแข็งแกร่งขึ้น ลมพายุนั้นก็ทำให้ผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ นับร้อยกระเด็นออกไปด้านหลัง
ความประหลาดใจเต็มอยู่บนใบหน้าของพวกมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปรมาจารย์จากสามสำนักใหญ่ ซึ่งมีดวงตาที่สาดประกายด้วยความไม่อยากจะเชื่อ รู้สึกราวกับว่าเมิ่งฮ่าวสามารถที่จะบดขยี้พวกมันได้ทุกเมื่อ แกนปราณภายในร่างกายของพวกมันเริ่มแสดงสัญญาณไม่คงที่ขึ้นมา
คำถามเดียวกันกำลังหมุนคว้างอยู่ในจิตใจของทุกคน “นั่น…นั่นคือเม็ดยาอะไรที่คนผู้นั้นเพิ่งจะกลืนลงไป?!”
ในเวลานี้เองที่พื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าว ได้บรรลุถึงจุดสูงสุดและเสียงกระหึ่มกึกก้องก็ดังเต็มอยู่ในจิตใจ ราวกับว่าพื้นฐานฝึกตนของเขาได้มาถึงจุดตีบตัน และอีกไม่นาน ก็จะพุ่งทะลวงผ่านไปได้
ลมพายุสีทองที่อยู่รอบๆ เมิ่งฮ่าว มีรัศมีประมาณหนึ่งร้อยหลี่ เขารู้สึกในทันทีว่า ได้ทะลวงผ่านขั้นต้นแกนสีทองไปยังขั้นกลางแกนสีทอง!
เขารู้สึกว่าร่างกายมีความเหนียวแน่นแข็งแรงมากขึ้น และจิตสัมผัสก็แข็งแกร่งมากขึ้น แกนสีทองหลอมรวมเข้ากับเขา ก่อตัวเป็นสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นวิญญาณดวงที่สอง
แกนสีทองประกอบไปด้วยความทรงจำ, วิญญาณ และชีวิตของเขา ราวกับว่าพลังชีวิตของเขาและชีวิตตัวเองของมันได้คงอยู่ภายใน จริงๆ แล้วก็รู้สึกราวกับว่ามันเป็นเมล็ด
เป็นเมล็ดของเต๋าอันยิ่งใหญ่!
ทันทีที่เขาเข้าไปในขั้นกลางแกนสีทอง แสงเจิดจ้าสีทองรอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าวก็ทวีความเข้มข้นมากขึ้น จนกระทั่งดูเหมือนกับดวงตะวันสีทองที่ลอยอยู่เหนือศีรษะของเขา ส่องแสงกระจายไปทั่วทั้งพื้นดิน เปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างให้กลายเป็นสีแห่งทองคำ
“ถึงเวลาที่จะก่อตั้งแกนปราณของข้าแล้ว ข้าอยากรู้นักว่าแก่นแท้ของแกนปราณข้าจะเป็น…” เขาหลับตาลง ขณะที่ลมพายุสีทองหมุนไปรอบๆ ตัว จิตใจปรากฎเป็นภาพ…จากตอนที่เขายังเยาว์จนกระทั่งถึงตอนนี้ เจดีย์แห่งถัง, เมืองหยุนเจี๋ย, ภูเขาต้าชิง, สำนักเอกะเทวะ, แคว้นจ้าว, ดินแดนด้านใต้, สำนักจื่อยิ่น…เหตุการณ์ทั้งหมดที่ถ้ำกำเนิดใหม่
“แก่นแท้ของแกนปราณสามารถเป็นนามธรรมหรือตัวอักษร…” เขาคิด ทันใดนั้น เขาก็หวนนึกไปถึงท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ซึ่งเขาได้เห็นก่อนที่จะพบกับโฉ่วเหมินไถ
ในดินแดนแห่งนั้น…เขามองขึ้นไปและเห็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวในสมัยโบราณ
เมิ่งฮ่าวยังจำได้ว่าแกนปราณของจี้หงตงมีรูปร่างเป็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวด้วยเช่นกัน แต่เป็นท้องฟ้าของตระกูลจี้
“ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวในสมัยโบราณ ก็คือแก่นแท้แห่งแกนปราณของข้า” เขาลืมตาขึ้นมา และขณะที่ทำเช่นนั้น ดวงตะวันสีทองก็ระเบิดออก แกนปราณสีทองจำนวนมากมายมหาศาลกระจายออกไป ในเวลาเดียวกันนั้น ลมพายุสีทองที่อยู่รอบๆ ตัวเขาก็หดตัวลงในทันที เพียงชั่วพริบตามันก็หลอมรวมเข้ากับร่างกายของเมิ่งฮ่าว ทำให้แสงสีทองซึ่งอาบไล้ไปรอบๆ บริเวณนั้นหายไปด้วยเช่นกัน
มีเพียงสิ่งเดียวที่ยังเหลืออยู่ก็คือแกนปราณสีทองที่กำลังหมุนวนไปมา ซึ่งมีรูปร่างเป็น…สนามแห่งดวงดาว!
มันไม่ใช่เป็นสนามแห่งดวงดาวสีทอง แต่เป็นสีดำ อย่างไรก็ตาม ภายในสีดำนั้นก็ดวงดาวสีทองนับไม่ถ้วน ดวงดาวเหล่านั้นมีน้อยคนนักที่จะเคยเห็นมาก่อน…มันเป็นดวงดาวในท้องฟ้าสมัยโบราณ!
สนามแห่งดวงดาวส่องแสงเจิดจ้า ลอยอยู่เหนือศีรษะเมิ่งฮ่าวเริ่มกระจายแรงกดดันอันน่าตกใจอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในทันที ผู้ฝึกตนนับร้อยที่อยู่รอบๆ ต่างก็ตัวสั่นสะท้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปรมาจารย์จากสามสำนักใหญ่ ทันทีที่พวกมันมองเห็น ก็อ้าปากค้างด้วยความแปลกใจ
“แกนปราณของมัน…แก่นแท้ของมันก็คือ…สนามแห่งดวงดาว!!”
“พลังของแกนปราณถูกสำแดงโดยแก่นแท้อันสำคัญของมัน จะมีอะไรสำคัญไปกว่าดวงดาวได้อีก?”
“จากสมัยโบราณมาจนกระทั่งถึงตอนนี้ มีเพียงผู้ถูกเลือกอย่างแท้จริงของสวรรค์และปฐพีเท่านั้น ถึงจะมีแกนปราณเป็นสนามแห่งดวงดาวได้ คนผู้นี้…” พวกมันทั้งสามเริ่มหอบหายใจ ความหวาดกลัวปรากฎขึ้นบนใบหน้า ขณะที่ค่อยๆ ถอยไปด้านหลังช้าๆ

About wuxiathai

Organic Theme is officially developed by Templatezy Team. We published High quality Blogger Templates with Awesome Design for blogspot lovers.The very first Blogger Templates Company where you will find Responsive Design Templates.

Copyright © 2015 ผนึกสวรรค์ สยบมาร สะท้านเทพ

Designed by Templatezy | Distributed By Gooyaabi Templates