เสียงกระหึ่มอย่างน่าตกใจ ดังกึกก้องออกไปทั่วทุกทิศทาง ในเวลาเดียวกันนั้น ความเย็นเยียบราวน้ำแข็งก็พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว
หายใจเข้าออกสามสิบครั้งผ่านไป ตั้งแต่ที่เมิ่งฮ่าวใช้ชุดเจ้าแห่งเตาเคลื่อนย้ายตัวเองออกไปเป็นครั้งที่สอง
ก่อนที่เขาจะบินไกลออกไปมากกว่านั้น ผู้ฝึกตนหน้ากากสีฟ้าก็ไล่ตามมาอย่างเร่งร้อน ในทันใดนั้น ก็เห็นได้ชัดว่ามันยังอยู่ห่างไกลออกไป แต่แสงสีเหลืองอ่อนก็ยังกระจายออกมาจากด้านบนศีรษะของมันอย่างต่อเนื่อง ในแสงนั้น สามารถมองเห็นภาพของกระบี่อย่างเลือนลาง
มันปรากฎขึ้นราวกับภาพลวงตา แต่เมื่อชำเลืองมองมาจากที่ห่างไกลออกไป ก็ทำให้จิตใจเมิ่งฮ่าวสั่นสะท้าน ความรู้สึกถึงอันตรายอย่างรุนแรง เต็มอยู่ในจิตใจ
“คนผู้นี้ได้ฝึกฝนแกนปราณ!” เมิ่งฮ่าวคิด เขาไม่ใช่ผู้ที่เพิ่งจะเข้ามายังโลกแห่งการฝึกตนนี้อีกต่อไป ได้พบเห็นและมีประสบการณ์มากมายหลายอย่าง และได้เรียนรู้มานานแล้วถึงความน่ากลัวของเวทสร้างแกน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแกนปราณที่น่าตกใจนี้
ย้อนกลับไปในแคว้นจ้าว ไม่มีผู้ฝึกตนสร้างแกนลมปราณคนใดที่เขาเคยพบเจอ จะสามารถสร้างแกนปราณขึ้นมาได้ อาจจะยกเว้นหญิงชรานางนั้น ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่เมิ่งฮ่าวสรุปได้มาจากการอ่านบันทึกโบราณของแผนกเม็ดยาบูรพา
“แกนปราณมีรูปร่างที่เปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลา แต่มันก็ยังมีจุดศูนย์กลางที่เปลี่ยนไม่ได้ ข้าอยากรู้นักว่าแก่นแท้แกนปราณของคนผู้นี้คืออะไร…” จิตใจเขาสั่นสะท้าน แต่ก็เกิดความคิดแวบขึ้นมาในทันใด
ในเวลาเดียวกันนั้น เขาไม่ลังเลที่จะใช้ความสามารถของชุดเจ้าแห่งเตา ซึ่งส่งเขาไปยังสถานที่แห่งอื่น ทันทีที่ร่างของเขาหายไป ภาพกระบี่ก็ปรากฎขึ้น พร้อมพลังที่สะะเทือนสวรรค์สะท้านปฐพีของมัน รังสีกระบี่พุ่งขึ้นไป ผนึกเป็นพลังที่ปกคลุมไปทั่วพื้นที่บริเวณนั้น แต่ก็ไม่อาจจะตัดเฉือนภาพลวงตาของร่างเมิ่งฮ่าวได้
“ช่างเป็นนักปรุงยาที่ว่องไวและเจ้าเล่ห์นัก” ผู้ฝึกตนหน้ากากสีฟ้ากล่าวขึ้น “แต่เจ้าก็สามารถใช้ชุดนั้นได้เพียงแค่สามครั้ง และมันก็พาเจ้าไปไกลได้ไม่เกินหนึ่งร้อยหลี่ มาดูกันว่า…ครั้งหน้าเจ้าจะหลบหนีไปได้อย่างไร!” มันหลับตาลง และแกนปราณสีเหลืองอ่อนก็กระจายออกไป ภาพเลือนลางของกระบี่ส่องแสงเรืองรองและเริ่มหมุนวนไปมา หลังจากหายใจเข้าออกสามครั้งผ่านไป มันก็เริ่มส่งเสียงหึ่งๆ และชี้ไปทางทิศเหนือ
ดวงตาผู้ฝึกตนหน้ากากสีฟ้าเปิดขึ้นในทันที ร่างของมันขยับ พุ่งตรงไปทางทิศเหนือ
แปดสิบหลี่ที่ห่างไกลออกไป เมิ่งฮ่าวปรากฎกายขึ้นอีกครั้ง ทันใดนั้น โลหิตก็เริ่มไหลซึมออกมาจากมุมปาก มีรอยแผลกระบี่อยู่บนหน้าอก ซึ่งมีโลหิตไหลพุ่งออกมา ถ้าเขาหลบหนีช้ากว่านี้เพียงแค่น้อยนิด กระบี่เมื่อครู่นี้ก็จะผ่าเขาออกเป็นสองส่วนในทันที
เขาไม่ได้ใช้เวลาในการปาดเช็ดโลหิตออกจากมุมปาก ร่างแวบขึ้นราวสายฟ้าขณะที่พุ่งตัวออกไป
“กระบี่ภาพหลอน ข้าคิดว่าแกนปราณของคนผู้นี้ก็คือกระบี่…” สีหน้าอันน่ากลัวปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเมิ่งฮ่าว ผู้ฝึกตนสร้างแกนลมปราณผู้ซึ่งไม่ได้ฝึกฝนแกนปราณ ไม่อาจทำให้เมิ่งฮ่าวต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ได้ แต่แกนปราณเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมากที่สุดของผู้ฝึกตนสร้างแกนลมปราณ เมิ่งฮ่าวรู้ว่าสำหรับ ผู้ฝึกตนหน้ากากสีฟ้าที่มีวิชาแกนปราณในขั้นต้นของสร้างแกนลมปราณ บ่งชี้ให้เห็นว่ามันเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์อย่างสูงส่ง
หลังจากที่กลายมาเป็นเจ้าแห่งเตา เมิ่งฮ่าวได้ทำการค้นคว้าข้อมูลในบันทึกโบราณ ที่เกี่ยวกับขั้นสร้างแกนลมปราณมาบ้างเล็กน้อย ดังนั้น เขาจึงค่อนข้างจะคุ้นเคยกับสิ่งที่เรียกว่าแกนปราณ กล่าวโดยทั่วไป แกนปราณจะถูกฝึกโดยขั้นสุดท้ายสร้างแกนลมปราณ หรือขั้นกลางของสร้างแกนลมปราณบ้าง มีเพียงผู้ถูกเลือกกลุ่มเล็กๆ ที่สามารถฝึกฝนแกนปราณในขั้นต้นของสร้างแกนลมปราณ
ผู้ฝึกตนเช่นนั้นค่อนข้างหายาก ที่หายากมากที่สุดของทั้งหมดก็คือ ผู้ที่มีแกนปราณตั้งแต่ตอนแรกที่พวกมันก้าวเท้าเข้าไปในขั้นต้นของขั้นสร้างแกนลมปราณ
ภายในรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาของแกนปราณก็คือ รูปแบบที่ไม่อาจเปลี่ยนได้ นี่เป็นรูปแบบส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับผู้ฝึกตนแต่ละคน ซึ่งแตกต่างกันไปสำหรับผู้ฝึกตนทุกคน
ใบหน้าเมิ่งฮ่าวหมองคล้ำลงขณะที่เขาพุ่งตรงไป หย่อนเม็ดยาเข้าไปในปาก เมื่อมันละลาย ความอบอุ่นก็กระจายเต็มไปทั่วร่าง และความเร็วก็เพิ่มขึ้น
“เหลือลมหายใจอีกสามสิบครั้ง…” เครื่องรางนำโชคในมือถูกกระตุ้นขึ้น ในตอนที่เขาเริ่มต่อสู้กับบุรุษชุดดำ ขณะที่ในตอนนี้ ยังคงเหลือเวลาหายใจเข้าออกอีกสามสิบครั้ง ก่อนที่เขาจะสามารถใช้งานมันได้
เมื่อถึงตอนนั้น เมิ่งฮ่าวก็จะหายตัวไป และผู้ฝึกตนหน้ากากสีฟ้า ก็ไม่มีทางที่จะไล่ตามร่องรอยของเขาได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากหายใจเข้าออกสิบแปดครั้งผ่านไป แสงของแกนปราณสีเหลืองอ่อนก็เต็มอยู่ในท้องฟ้า ความเย็นเยียบปรากฎขึ้นอีกครั้ง ในที่ห่างไกลออกไป มองเห็นเป็นเงาร่างผอมแห้งของผู้ฝึกตนหน้ากากสีฟ้าอยู่ในกลางอากาศ รอบๆ บริเวณนั้นดูเหมือนจะสั่นสะเทือนตกอยู่ในความปั่นป่วน ขณะที่มันใกล้เข้ามาอย่างไม่ลดละ
ทันทีที่เมิ่งฮ่าวสัมผัสได้ว่ามันเข้ามาใกล้ เขาก็ตบไปที่ถุงสมบัติ หยิบจี้หยกออกมา ซึ่งเขาก็ใช้นิ้วทำให้มันแตกหักลง
“ข้า, หยาง บอกแล้วว่าเจ้าไม่อาจหนีรอด” ผู้ฝึกตนหน้ากากสีฟ้ากล่าวเสียงราบเรียบ “เจ้าเป็นผู้ฝึกตนพื้นฐานลมปราณที่น่ากลัว เจ้าควรจะภาคภูมิใจได้แล้ว ที่สามารถหลบหนีข้าได้นานขนาดนี้” ภาพกระบี่ในแกนปราณโผล่ออกมาด้วยเสียงแหลมเล็กเสียดแก้วหู กระจายความเย็นเยียบราวน้ำแข็ง พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว
ความเร็วของมันช่างน่าเหลือเชื่อนัก ภายในเพียงชั่วพริบตา…ก็ตรงมาอยู่ที่เบื้องหน้าเขา
มันตรงมาที่หน้าผากเขาอย่างรวดเร็ว และกำลังจะแทงทะลุเข้าไป ไม่มีเวลาให้เมิ่งฮ่าวหลบหลีก ความแตกต่างระหว่างพื้นฐานฝึกตนของคนทั้งสองช่างห่างกันไกลนัก ความตายใกล้เข้ามา
แต่ในตอนนี้เอง มีลำแสงพุ่งออกมาจากฝ่ามือเมิ่งฮ่าว แสงที่คล้ายสายน้ำกระจายเป็นระลอกคลื่น ปกคลุมร่างเมิ่งฮ่าวไว้ มันขยายตัวออกไป ก่อตัวเป็นเกราะป้องกันสีฟ้าอมเขียว ซึ่งกระบี่ภาพหลอนแกนปราณกระแทกเข้ามาในทันที
ดวงตาผู้ฝึกตนหน้ากากสีฟ้าเบิกกว้างอยู่ภายใต้หน้ากาก เมื่อมันเห็นเกราะป้องกันนั้น ม่านตามันหดแคบลง และความไม่อยากจะเชื่อก็ปรากฎขึ้นในดวงตา มันกำลังจะเรียกกระบี่ภาพหลอนแกนปราณให้กลับมา แต่ก็สายเกินไป
กระบี่ภาพหลอนแกนปราณ ดูเหมือนจะมีความคมกล้าเป็นอย่างยิ่ง กระแทกเข้าไปในเกราะป้องกันสีฟ้าอมเขียวโดยไร้เสียง ทันใดนั้นมันก็อ่อนตัวลง จากนั้นก็เริ่มแตกสลายกลายเป็นชิ้นๆ เพียงชั่วพริบตา มันก็กลายเป็นฝุ่นผง
เมื่อได้เห็นกระบี่ภาพหลอนแกนปราณหายไปกลายเป็นฝุ่นผง ก็ทำให้ผู้ฝึกตนหน้ากากสีฟ้าส่งเสียงแค่นอย่างฉุนเฉียวออกมา ภายใต้หน้ากาก โลหิตไหลซึมออกมาจากปากของมัน ดวงตาเต็มไปด้วยโทสะ มันเป็นผู้ฝึกตนสร้างแกนลมปราณผู้ฝึกฝนแกนปราณ อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงเวลาที่มันพยายามที่จะเล่นกับผู้ฝึกตนพื้นฐานลมปราณอันต่ำต้อยนี้ แกนปราณของมันก็ถูกทำลายลงเป็นเสี่ยงๆ ทำให้มันได้รับบาดเจ็บ
“โลหิตวิญญาณแรกก่อตั้ง…มาดูกันว่าเจ้าจะใช้มันได้อีกกี่ครั้ง!” รังสีสังหารในดวงตาของผู้ฝึกตนหน้ากากสีฟ้าเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม มันพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว มือขวาขยับร่ายเวทอาคม พลังเวทกระจายออก กลายเป็นสิบหงส์ สิบมังกร พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว
ในเวลาเดียวกันนั้น เกราะป้องกันสีฟ้าอมเขียวก็เริ่มหดตัว กลับคืนเข้าไปในฝ่ามือเมิ่งฮ่าว และกลายเป็นจี้หยกเหมือนเดิม นี่เป็นจี้หยกซึ่งเขาได้มาจากชัยชนะในสำนักกูตู๋เจี้ยน มันเป็นของวิเศษช่วยชีวิตซึ่งประกอบด้วยโลหิตจากพื้นฐานฝึกตนของอาจารย์เฉินฟ่าน, โจวเหยียนหยุน และสามารถต่อต้านการโจมตีจากผู้ฝึกตนขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งได้
มันสามารถต่อต้านการโจมตีจากผู้ฝึกตนขั้นวิญญาณแรกก่อตั้ง แต่ก็สามารถใช้ได้ทีละครั้งในช่วงเวลาหนึ่ง การต่อต้านการโจมตีจากผู้ฝึกตนขั้นสร้างแกนลมปราณ ทำให้มันเริ่มอ่อนแอลง แต่ก็ยังคงใช้ได้อีกครั้ง แต่ก็ไม่ใช่ในตอนนี้
โลหิตไหลซึมออกมาจากปากของผู้ฝึกตนหน้ากากสีฟ้า มันได้รับบาดเจ็บ และแกนปราณที่อยู่ด้านบนศีรษะของมันก็ไม่คงที่ แต่มันยังคงพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว สิบมังกรสิบหงส์ ส่งเสียงคำรามขณะที่พวกมันพุ่งฝ่าอากาศมา ทันใดนั้น รังสีสังหารอันเข้มข้นก็ปรากฎขึ้นในดวงตาเมิ่งฮ่าว
เขาไม่ได้หลบหนี แต่ยกมือขึ้นมา และชี้ตรงไปยังผู้ฝึกตนหน้ากากสีฟ้าแทน
“เวทผนึกอสูรรุ่นแปด!” ดวงตาเขาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย ขณะที่ชี้นิ้วออกไป สวรรค์และปฐพีสั่นสะเทือน ร่างกายเมิ่งฮ่าวเคลื่อนไหว, ทุกสิ่งทุกอย่างขยับเคลื่อนไหว แม้แต่สิบมังกรและสิบหงส์ก็ขยับเคลื่อนไหว ภาพภูติผีปรากฎขึ้น และพุ่งลงไปยังผู้ฝึกตนหน้ากากสีฟ้า
สีหน้าผู้ฝึกตนหน้ากากสีฟ้าเปลี่ยนไป สิบมังกรและสิบหงส์เริ่มสั่นสะท้าน ราวกับว่าพวกมันกำลังถูกสะกดไว้ โลกก็ดูเหมือนจะพลิกคว่ำ ทุกสิ่งทุกอย่างในพื้นที่บริเวณนั้นถูกผนึกไว้
ผนึกนี้ทำให้ผู้ฝึกตนหน้ากากสีฟ้าไม่อาจจะควบคุมพื้นฐานฝึกตนของมันได้
“นี่มันเป็นวิชาเวทอันใด?!” มันกล่าวด้วยจิตใจที่เต้นรัว
เส้นเลือดฝอยเต็มอยู่ในดวงตาเมิ่งฮ่าว และเขาก็กระอักโลหิตออกมา การใช้เวทผนึกกับผู้ฝึกตนขั้นสร้างแกนลมปราณเป็นสิ่งที่หนักหนาสาหัส เส้นโลหิตทั้งหมดในร่างของเขาดูเหมือนกำลังจะระเบิดออกมา รังสีสังหารของเมิ่งฮ่าวทะยานพุ่งขึ้น เขาโบกสะบัดแขนเสื้อ และฝุ่นสีแดงก็กระจายออกไป ปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณนั้น กลายเป็นหมอกสีแดง กลุ่มหมอกพลุ่งพล่านปั่นป่วน และขณะที่เมิ่งฮ่าวขยับร่าง พุ่งตรงไปยังผู้ฝึกตนหน้ากากสีฟ้า
ในเวลาเดียวกันนั้น เมิ่งฮ่าวก็เอาจี้หยกช่วยชีวิตเก็บเข้าไปในเสื้อ มือซ้ายเขายกชูขึ้น และกรีดนิ้วที่หนึ่ง, นิ้วที่สอง, นิ้วที่สาม…ทั้งหมดห้านิ้ว! โลหิตไหลออกมาจากนิ้วทั้งห้า ก่อตัวเป็น…ฝ่ามือโลหิต!
เมื่อฝ่ามือโลหิตปรากฎขึ้น กลุ่มหมอกสีแดงรอบๆ ตัวเขาก็เดือดพล่านอย่างรุนแรงมากขึ้น ดูเหมือนจะกลายเป็นกลุ่มหมอกแห่งโลหิต กลุ่มหมอกเริ่มกรัดกร่อนทุกสิ่งทุกอย่างในบริเวณนั้น ดูเหมือนมันจะเป็นพิษที่รุนแรง ทำให้พลังการโจมตีของเมิ่งฮ่าวเพิ่มขึ้นอีกสามในสิบส่วน
ทั้งหมดนี้ใช้เวลานานในการอธิบาย แต่จริงๆ แล้วก็เกิดขึ้นในทันใด ขณะที่การโจมตีถึงตายหลายอย่างของเมิ่งฮ่าวตกลงไปบนร่างของผู้ฝึกตนหน้ากากสีฟ้า ดวงตาของมันก็เบิกกว้าง ทันใดนั้น มันก็สามารถขยับเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง นอกจากนั้น มันเป็นผู้ฝึกตนขั้นสร้างแกนลมปราณ ถึงเวทรุ่นแปดจะไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่อาจผนึกมันได้เกินกว่าสองลมหายใจ
“ความสามารถอันต่ำต้อย! ตาย!” ผู้ฝึกตนหน้ากากสีฟ้าแผดร้องออกมา มือขวาขยับร่ายเวทอาคม จากนั้นก็ผลักตรงมายังเมิ่งฮ่าว ทันใดนั้น เสียงกระหึ่มก็ดังก้องออกไปทั่ว และภาพลวงตาของมังกรสิบหัวก็ปรากฎขึ้น คำรามออกมาอย่างดุร้าย พุ่งมายังเวทโจมตีของเมิ่งฮ่าว เสียงระเบิดดังกึกก้องออกไป
หมอกสีแดงสลายลง ฝ่ามือโลหิตจางหายไป โลหิตกระจายออกมาจากปากเมิ่งฮ่าว ขณะที่เขาลอยไปด้านหลังราวกับว่าวที่ถูกตัดสายป่าน ผู้ฝึกตนหน้ากากสีฟ้ากำลังจะพุ่งไล่ตามเขาไป แต่ดวงตาของมันก็เบิกกว้าง ขณะที่เมิ่งฮ่าว แม้จะตกอยู่ท่ามกลางการได้รับบาดเจ็บสาหัส และลอยไปด้านหลัง ทันใดนั้น เขาก็ตบไปที่ถุงสมบัติ โบกสะบัดแขนเสื้อ ส่งผลให้มีฝุ่นมากมายกระจายไปทั่วในอากาศ มันเป็นฝุ่นบางๆ แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้ฝึกตนหน้ากากสีฟ้าต้องหยุดชะงักลงชั่วครู่
ก่อนหน้านี้ มันได้ป้องกันหมอกโลหิตไม่ให้เข้ามาอยู่ในปอดของมัน แต่มันก็ยังคงสามารถรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของหมอกนั้น นั่นเป็นเพราะมันได้ตัดนิ้วก้อยที่มือด้านขวาซึ่งถูกพิษนั้นออกไปเล็กน้อย บาดแผลนั้นทำให้มันรู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรง
ขณะที่โลหิตกระจายออกมาจากปากเมิ่งฮ่าว และเขาก็ล้มไปด้านหลัง ม่านตาก็เริ่มเรืองแสงสีม่วงออกมา ผิวกายและเส้นลมปราณก็เริ่มเปล่งแสงสีม่วงด้วยเช่นกัน ทำให้ทั่วทั้งร่างกายของเขาเรืองแสงออกมา
นี่คือวิชาแปลงม่านตาม่วง!
ภายใต้วิชาแปลงม่านตาม่วง ร่างกายเมิ่งฮ่าวเริ่มฟื้นฟูกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว ล้อมรอบไปด้วยหมอกพิษ เขามองไปยังผู้ฝึกตนหน้ากากสีฟ้า และแกนปราณซึ่งกระจายออกมาจากศีรษะของมัน บุรุษผู้นั้นก็ฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน ภายในช่วงหายใจเข้าออกสิบครั้งเป็นอย่างมาก มันก็จะสามารถปลดปล่อยแกนปราณได้อีกครั้ง
เมิ่งฮ่าวไม่ลังเลอีกแล้วในตอนนี้ เขากดลงไปบนเครื่องรางนำโชคในทันที กระตุ้นความสามารถของการเคลื่อนย้ายทางไกลของมัน
ทันใดนั้น หลุมดำก็ปรากฎขึ้น เกิดเป็นปากขนาดใหญ่กลืนเมิ่งฮ่าวเข้าไป เหตุการณ์ที่กลับกลายเป็นเช่นนี้ ทำให้ผู้ฝึกตนหน้ากากสีฟ้าประหลาดใจ สีหน้ามันเปลี่ยนไป และมันก็รีบพุ่งตรงมาเพื่อไล่ตาม
แต่มันก็สายเกินไปแล้ว