ด้านนอกของเกราะป้องกัน ซือหลงระดับเก้าจากสาขาแมงมุมเริ่มทำการโจมตี ฝูงสัตว์ปีศาจจำนวนมหาศาลบดบังทั่วทั้งแผ่นฟ้าและผืนดิน มีบางสิ่งที่พิเศษเป็นอย่างมากเกี่ยวกับซือหลงเหล่านี้ ฝูงสัตว์ปีศาจของพวกมันทั้งหมดประกอบด้วยสัตว์ปีศาจเพียงชนิดเดียว
หนึ่งในพวกมันได้ครอบครองฝูงนกทะเลที่ดุร้ายจำนวนมากมาย ซึ่งส่งเสียงแหลมเล็กอยู่ในอากาศ อย่างน่าแปลกใจ นกแต่ละตัวเหล่านี้มีสามกรงเล็บ และมีภาพใบหน้ามนุษย์อยู่บนหน้าอก
อย่างน่าประหลาดใจ ซือหลงอีกคนถูกห้อมล้อมด้วยมดยักษ์จำนวนมากมาย มดเหล่านี้มีความยาวถึงสองจ้าง สำหรับตัวเล็กๆ ทั่วไป มีอยู่มากมายจนไม่อาจจะนับได้ พวกมันดูน่ากลัวดุร้ายขณะที่คลืบคลานตรงไป ปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่างทำให้เต็มไปด้วยฝูงมด
ซือหลงคนสุดท้าย เป็นชายชราที่มีสีหน้าภาคภูมิใจ รังตัวต่อเก้ารังลอยอยู่ในอากาศรอบๆ ตัวมัน และมีตัวต่อพิษที่มากมายราวกลุ่มเมฆห้อมล้อมอยู่รอบๆ เกิดเป็นเสียงหึ่งๆ อย่างน่าตกใจออกมา จนทำให้ทุกคนขนลุกตั้งชี้ชัน
ฝูงสัตว์ปีศาจที่เหมือนกันเป็นมาตรฐานของซือหลงแบบดั้งเดิม คนทั้งสามเป็นซือหลงที่ได้รับมรดกตกทอดมาจากสายโลหิตของซือหลงจากหลายๆ รุ่นสืบต่อกันมา
เมื่อคิดว่าพวกมันสามารถรวบรวมฝูงสัตว์ปีศาจที่เป็นชนิดเดียวกันได้มากมายเช่นนี้ ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะเห็นความแตกต่างระหว่างพวกมันและซือหลงเถื่อน ซึ่งมีฝูงสัตว์ปีศาจที่ผสมรวมกัน
หลังจากที่ได้เห็นซือหลงทั้งสามปรากฎตัวขึ้น เมิ่งฮ่าวมีสีหน้าเยือกเย็นขณะที่เขายืนอยู่บนยักษ์เถื่อนซึ่งมีรูปร่างใหญ่โต มันส่งเสียงคำรามขณะที่พุ่งตรงออกไป ทำให้กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนที่อยู่ด้านนอกของเกราะป้องกันในทันที
การปรากฎตัวของเขา ทำให้สีหน้าของจ้าวโยวหลันเปลี่ยนไปในทันใด นางตรวจสอบเมิ่งฮ่าวโดยละเอียดอยู่ชั่วขณะ และจากนั้นก็ขมวดคิ้ว
ในเวลาเดียวกันนั้น ซือหลงระดับเก้าจากสาขาแมงมุมทั้งสาม ก็มองมายังเมิ่งฮ่าว จากนั้นก็สบสายตาที่เจิดจ้าของพวกมันกันไปมา เริ่มขยับมือร่ายเวทอาคมขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ฝูงสัตว์ปีศาจนับพันของแต่ละคน ทันใดนั้น ก็พุ่งตรงไปยังเกราะป้องกัน
ฝูงสัตว์ปีศาจที่แตกต่างกันทั้งสามชนิดนี้ รวมเข้าด้วยกันกลายเป็นฝูงสัตว์ปีศาจที่มีจำนวนเกือบหนึ่งหมื่นตัว เสียงแผดร้องอันน่าตกใจของพวกมันพุ่งขึ้นไปจนถึงสวรรค์ ขณะที่มุ่งหน้าตรงไป เมิ่งฮ่าวแค่นเสียงอย่างเย็นชาออกมา ยักษ์เถื่อนที่กำลังคำรามอยู่ ทันใดนั้นก็กระโจนขึ้นไปในอากาศ พุ่งตัวออกไปจากเกราะป้องกัน ดวงตาเต็มไปด้วยความกระหายเลือด ขณะที่มันพุ่งเข้าไปยังฝูงสัตว์ปีศาจที่ใกล้เข้ามา
ในกลางอากาศ เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดมือขวา ทำให้รอยสักภาพศักดิ์สิทธิ์บนแขนขวาของเขาเริ่มเรืองแสงออกมา ทันใดนั้น แสงอันเข้มข้นก็พุ่งออกไป แวบขึ้นจนกลายเป็นฝูงอีกาดำ
ทันทีที่อีกาดำปรากฎขึ้น พวกมันก็ส่งเสียงร้องแหลมเล็กออกมา ทันใดนั้น ซากศพทั้งหมดที่อยู่ในสนามรบก็เริ่มกระจายกลุ่มควันสีดำออกมา ซึ่งจากนั้นก็ถูกอีกาดำดูดเข้าไป จนคล้ายกับเป็นกลุ่มหมอกสีดำที่หมุนวนไปรอบๆ ฝูงอีกา และจากนั้นก็พุ่งตรงไปยังกลุ่มสัตว์ปีศาจที่ใกล้เข้ามา
ในเวลาเดียวกันนั้น ลำแสงสีเขียวก็เริ่มแวบขึ้นอยู่รอบๆ กายเมิ่งฮ่าว ต้าเหมาและฝูงสุนัขป่าชิงมู่ปรากฎขึ้น ตามมาด้วยค้างคาวดำ พวกมันพุ่งตรงไปโจมตีด้วยเช่นกัน
สำหรับค้างคาวดำ ดูเหมือนว่าเมิ่งฮ่าวแทบจะไม่ได้สนใจมัน แต่ในความเป็นจริง เขาได้ให้ความสำคัญกับมันเป็นอย่างมาก มันเป็นสัตว์ปีศาจที่ถูกกระบี่ไม้สะกดไว้ เขาค่อนข้างแน่ใจว่าพลังที่มันเผยให้เห็นในตอนนี้ ยังไม่ใช่พลังที่แท้จริงของมัน มันกำลังตั้งใจปกปิดไว้ หรืออาจจะต้องใช้เวลามากกว่านี้เพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บสาหัสของมัน
ถ้าเป็นเหตุผลหลัง ก็หมายความว่าตอนนี้มันยังอ่อนแออยู่ แม้จะเป็นเช่นนั้น ก็ยังทำให้มันมีพื้นฐานฝึกตนอยู่ที่ระดับเจ็ดโดยคร่าวๆ
เสียงระเบิดอย่างน่าตกใจดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่ฝูงสัตว์ปีศาจสองกลุ่มกระแทกเข้าหากัน และจากนั้นก็เริ่มต่อสู้กันอย่างโหดเหี้ยมดุร้าย
ตัวของเมิ่งฮ่าวเองได้ดึงดูดความสนใจในสนามรบอยู่ไม่น้อย การต่อสู้ของซือหลงเป็นบรรยากาศที่ทรงพลังและขยายออกเป็นวงกว้าง เพียงชั่วพริบตา การแสดงออกของซือหลงก็ได้ทำให้เกิดการต่อสู้อันยิ่งใหญ่เป็นกลุ่มที่สี่ขึ้น
หนึ่งในสามของซือหลงสาขาแมงมุม ส่งเสียงแค่นอันเย็นชาออกมา และกล่าวว่า “เจ้าซือหลงเถื่อนเล็กกระจ้อยร่อย เจ้าสังหารโจวเยี่ยได้โดยบังเอิญเท่านั้น! ฝูงสัตว์ปีศาจที่รวมกันหลายชนิดของเจ้าอาจจะมีสัตว์ปีศาจที่เก่งกาจอยู่บ้าง แต่เจ้าไม่อาจจะต่อสู้กับพวกเราทั้งสามได้อย่างแน่นอน!”
เมิ่งฮ่าวเป็นแค่ศัตรูของมัน และภารกิจหลักของพวกมันก็คือจัดการและสังหารเขาไป
เมื่อได้เห็นเขากำลังต่อสู้กลับมา คนทั้งสามก็สบสายตากัน จากนั้นก็เริ่มขยับมือร่ายเวทอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้น สัตว์ปีศาจที่เหลือซึ่งอยู่รอบๆ พวกมัน ก็เงยหน้าขึ้นส่งเสียงแผดร้องออกมาและพุ่งตรงไป
จากภาพที่เห็นและเสียงแผดร้องราวกับสายฟ้าฟาดนี้ ทำให้พวกที่กำลังต่อสู้กันอยู่รอบๆ บริเวณนั้น จู่ๆ ก็กวาดตามองมายังส่วนการต่อสู้นี้
ด้วยเสียงหัวเราะอย่างเย็นชา ซือหลงสาขาแมงมุมทั้งสาม ร่ายเวทอาคมอื่นขึ้นมาอีก ทำให้ภาพศักดิ์สิทธิ์บนร่างพวกมันเริ่มเรืองแสงขึ้น ทันใดนั้น สัตว์ปีศาจระดับสิบนับร้อยตัว ก็ปรากฎขึ้นอยู่ในอากาศรอบๆ พวกมันอย่างน่ามหัศจรรย์ พวกมันพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าวโดยพร้อมเพรียงกัน
“พวกเราจะช่วยให้เจ้าเข้าใจถึงพลังบดขยี้ของซือหลงที่แท้จริง!” ขณะที่คำพูดหลุดออกมาจากปากของพวกมัน ฝูงสัตว์ปีศาจเกือบสามหมื่นตัวของพวกมัน ก็เข้ามาใกล้กับเมิ่งฮ่าว ดูเหมือนว่าฝูงสัตว์ปีศาจของเขายากที่จะต่อสู้กลับไปได้ พวกมันคงต้องถูกกลืนกินลงไปจนหมดสิ้นอย่างแน่นอน
สีหน้าเขาเยือกเย็นเหมือนเช่นเคย ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดแสงเย็นเยียบจ้องมองไปยังสัตว์ปีศาจที่กำลังพุ่งเข้ามา ด้วยเช่นนั้น แขนและขาของเขาก็สั่นเป็นระยะ ทันใดนั้น แสงของภาพศักดิ์สิทธิ์ก็เริ่มกระจายออกมา ภายในแสงเจิดจ้านั้น สุนัขป่าชิงมู่นับพันที่กำลังส่งเสียงแผดร้อง รวมถึงวิหคเพลิงและมนุษย์ศิลา และยังมีฝูงสัตว์ปีศาจมากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งร่างของพวกมันถูกห้อมล้อมไว้ด้วยเกราะป้องกันน้ำที่กำลังกระเพื่อมไปมาอยู่
จากนั้นเสียงแผดร้องคำรามอย่างน่าตกใจก็เต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่จรเข้แดงที่ดุร้ายคลานออกไปในสนามรบ
ต่อมาเสียงแหลมเล็กก็ได้ยินมา ขณะที่กลุ่มหมอกสีดำแผ่ขยายออกไป ภายในกลุ่มหมอกสีดำนั้นมีจิ้งเหรนสีดำคลานออกมา ดูคล้ายกับว่าพวกมันเพิ่งจะโผล่ออกมาจากขุมนรกอเวจี การปรากฎขึ้นของพวกมัน ทันใดนั้นก็ทำให้อากาศสั่นสะเทือนไปมา
จากนั้น เสียงหึ่งๆ ก็ได้ยินมา ขณะที่ฝูงยุงสีเขียวอันดุร้ายปรากฎขึ้นอยู่รอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าว
ขณะที่ฝูงสัตว์ปีศาจฝูงแล้วฝูงเล่าปรากฎกายขึ้น สีหน้าของซือหลงสาขาแมงมุมทั้งสามก็สลดลงในทันที ในเวลาเดียวกันนั้น เมิ่งฮ่าวก็เริ่มก้าวเดินเนิบนาบตรงไป ขณะที่ทำเช่นนั้น อากาศที่อยู่รอบๆ ตัวก็กระจายเป็นระลอกคลื่น ขณะที่แมงมุมยักษ์ขนาดหนึ่งร้อยจ้างปรากฎขึ้น ตามมาด้วยแมงมุมขนาดเล็กกว่าถึงหนึ่งหมื่นกว่าตัว พวกมันแหวกฝ่าอากาศเป็นเสียงแหลมเล็ก ฝูงสัตว์ปีศาจจำนวนมากมายเกือบสามหมื่นตัว ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างสั่นสะเทือน พวกมันพุ่งตรงไปยังสามซือหลงในทันใด
ทันทีที่ฝูงสัตว์ปีศาจของเมิ่งฮ่าวกระแทกเข้าไปที่ฝูงสัตว์ปีศาจจากสาขาแมงมุม เสียงแผดร้องโหยหวนก็ดังเต็มอยู่ในอากาศ ฝูงสัตว์ปีศาจของสามซือหลงไม่อาจจะขวางกั้นเมิ่งฮ่าวไว้ได้โดยสิ้นเชิง พวกมันถูกสังหารและได้รับบาดเจ็บ พยายามจะล่าถอยหลบหนีไปด้านหลัง แต่โชคร้ายที่สัตว์ปีศาจของเมิ่งฮ่าวรีบมาห้อมล้อมพวกมันไว้อย่างรวดเร็ว
สีหน้าของสามซือหลงสลดลงและซีดขาวราวกระดาษ ในเวลาเดียวกันนั้น ดวงตาจ้าวโยวหลันก็เบิกกว้าง และเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ จากนั้นเสียงอันอ่อนหวานของนางก็ได้ยินขึ้นอีกครั้ง
“ผู้เฒ่าสูงสุด ดูเหมือนว่าถ้าพวกเราต้องการจะสังหารคนผู้นี้ พวกเราจำเป็นต้องหลอกล่อผู้แข็งแกร่งมากที่สุดของพวกมันซึ่งก็คือหัวหน้าเผ่าอูต๋าออกมาให้ได้ก่อน ข้าถึงจะสามารถดำเนินตามแผนการที่วางไว้ เพื่อกำจัดทั้งห้าเผ่านี้ให้หมดสิ้นลงได้ ผู้เฒ่าสูงสุด โปรดลงมือด้วย!”
ผู้เฒ่าสูงสุดสาขาแมงมุม ซึ่งเป็นชายชราในชุดยาวสีเขียว ยิ้มตอบคำพูดของนาง โบกสะบัดไม้เท้าของมัน และทันใดนั้นก็ใช้การเคลื่อนย้ายทางไกลย่อยออกมา เมื่อมันปรากฎตัวขึ้นอีกครั้ง ก็ไปอยู่ที่ตรงหน้าเมิ่งฮ่าว ทันทีที่มันมาถึง ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็แวบแสงขึ้น รับรู้ได้ว่ามีคนกำลังเข้ามาใกล้ เมิ่งฮ่าวเตรียมตัวรับมือ พุ่งถอยไปด้านหลังพร้อมดวงตาที่เย็นเยียบ
ย้อนกลับเข้าไปในเกราะป้องกัน ผู้เฒ่าสูงสุดเผ่าอูอ้านรู้สึกว่ากำลังมีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้น แต่ก็ไม่แน่ใจว่าคืออะไร โชคร้ายที่ไม่มีเวลาจะวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ เพื่อค้นหาแหล่งที่มาของความรู้สึกแปลกๆ นี้ได้
กัดฟันแน่น มันกล่าว “หัวหน้าเผ่าอูต๋า โปรดไปขัดขวางผู้เฒ่าสูงสุดนั้นเพื่อซื้อเวลาให้กับเมิ่งต้าซือ!”
ข้างกายมัน ดวงตาหัวหน้าเผ่าอูต๋าสาดประกายด้วยแสงอันเย็นเยียบ ร่างของมันหายไปด้วยการเคลื่อนย้ายทางไกลย่อย เมื่อปรากฎขึ้นอีกครั้ง มันก็มาอยู่เบื้องหน้าผู้เฒ่าสูงสุดสาขาแมงมุม ป้องกันไม่ให้เข้าไปใกล้เมิ่งฮ่าว คนทั้งสองจ้องมองซึ่งกันและกัน โดยไม่พูดจา พวกมันก็ใช้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์โจมตีกันในทันที เสียงระเบิดดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่การต่อสู้หลักส่วนที่ห้าได้เริ่มต้นขึ้นในสนามรบ
สำหรับเมิ่งฮ่าว เขาก็รู้สึกเช่นกันว่ามีบางสิ่งแปลกๆ กำลังเกิดขึ้น เขาเคยเข้าร่วมกับสงครามผู้ฝึกตนเช่นเดียวกันนี้ในดินแดนสีดำ จากสงครามที่ดำเนินไปเช่นนี้ ก็สามารถกล่าวได้ว่า เป็นสงครามที่ไม่อาจจะจบสิ้นลงในช่วงเวลาสั้นๆ และมักจะดำเนินติดต่อกันไปอีกหลายวัน ก่อนที่สถานการณ์จะเริ่มเห็นได้ชัดว่าใครได้เปรียบใครเสียเปรียบ
นอกจากว่าอีกฝ่ายมีความแข็งแกร่งกว่ามากอย่างเห็นได้ชัด สามารถบดขยี้อีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย มิเช่นนั้นก็มีเพียงทางเลือกเดียวคือพยายามทำให้อีกฝ่ายอ่อนแอลงไปอย่างช้าๆ
อย่างไรก็ตาม ก็เห็นได้ชัดว่าสาขาแมงมุมยังไม่อยู่ในสถานะที่จะบดขยี้ทั้งห้าเผ่าได้ หลังจากที่ทำการต่อสู้กันมายังไม่ถึงหนึ่งวัน พวกมันก็ใช้กลยุทธ์ที่แปลกๆ เพื่อบังคับให้ห้าเผ่าหงายไพ่ไม้ตายออกมา
ราวกับว่าสาขาแมงมุมกำลังทุ่มกำลังออกมาสุดตัว เพื่อมุ่งมั่นจะเอาชนะให้ได้ การโจมตีที่หุนหันพลันแล่นเช่นนี้ ต้องเป็นส่วนหนึ่งในแผนการใหญ่ของพวกมันอย่างแน่นอน
“ต้องมีท่าไม้ตายบางอย่างรอคอยอยู่ ถ้าข้าเป็นพวกมัน จะใช้กลยุทธ์อะไรดี?” เมิ่งฮ่าวควบคุมสัตว์ปีศาจให้ไปห้อมล้อมฝูงสัตว์ปีศาจของสามซือหลง และในเวลาเดียวกันนั้นก็ชำเลืองมองไปยังสนามต่อสู้ที่อยู่รอบๆ สิ่งแรกที่เขามองเห็นก็คือภาพของระลอกคลื่นที่อยู่ด้านบน นั่นเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของห้าชนเผ่าพยายามจะปรากฎตัวออกมา ในขณะที่กำลังต่อสู้กับแมงมุมปีศาจที่น่ากลัว
“ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับพวกมัน…สิ่งศักดิ์สิทธิ์โบราณไม่ใช่ผู้ฝึกตน แต่แข็งแกร่งกว่าสัตว์ปีศาจซึ่งสามารถกลายมาเป็นภาพศักดิ์สิทธิ์ได้ การต่อสู้ของพวกมันเกินกว่าที่ข้าจะเข้าใจได้” เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้ว มองไปยังการต่อสู้ของผู้ฝึกตนนับพัน จากนั้นก็มองกลับเข้าไปในเกราะป้องกัน ในที่สุด เขาก็มองขึ้นไปยังการต่อสู้ของผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้ง
“ถ้าเช่นนั้นก็คงเป็นข้า, ข้าถือเป็นหนึ่งในส่วนหลักของการต่อสู้ครั้งนี้ แต่ถ้าพวกมันต้องการจะสังหารข้าโดยเฉพาะ พวกมันก็คงต้องกระทำด้วยความเด็ดขาด ถ้าเป็นเช่นนั้น…” สีหน้าเมิ่งฮ่าวทันใดนั้นก็เปลี่ยนไป โดยไม่ลังเล เขาพุ่งถอยไปด้านหลัง สองมือขยับร่ายเวทอย่างรวดเร็ว เกราะป้องกันแวบปรากฎขึ้นอยู่รอบๆ ร่างเขาในทันที
แทบจะในเวลาเดียวกับที่เมิ่งฮ่าวเริ่มล่าถอยออกไป ดวงตาจ้าวโยวหลันก็เริ่มสาดประกายด้วยแสงเย็นเยียบ นางสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ขณะที่ยกมือขวาขึ้นมาเปิดกล่องไม้ออกอย่างระมัดระวัง
เมื่อกล่องไม้ถูกเปิดออก แสงสีดำก็พุ่งขึ้นมาในทันที ในเวลาเดียวกันนั้น แรงสั่นสะเทือนก็วิ่งผ่านไปทั่วร่างจ้าวโยวหลัน นางกัดปลายลิ้นด้วยฟันที่สวยงามของนาง จากนั้นก็คุกเข่าลง ถือกล่องอยู่เหนือศีรษะด้วยสองมือ
ทันทีที่นางชูกล่องไม้ขึ้น แสงสีดำก็กระจายออกไปอย่างน่าตกใจ กลิ่นอายอันน่ากลัวปรากฎขึ้น ซึ่งดูเหมือนจะสามารถดูดกลืนและแทนที่แสงอื่นๆ ได้ทั้งหมด
ผู้ฝึกตนสาขาแมงมุมทั้งหมด ทันใดนั้นก็ถอยไปด้านหลัง หยิบเม็ดยาออกมากลืนกินลงไป หลังจากที่ทำเช่นนั้น ดวงตาพวกมันจู่ๆ ก็กลายเป็นสีดำโดยสิ้นเชิง
ผู้ฝึกตนจากห้าเผ่า ทันใดนั้นก็รู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังฉุดดึงพวกมันไว้ ทำให้ต้องมองออกไปโดยไม่รู้ตัว
ทันทีที่พวกมันกระทำเช่นนั้น จิตใจของคนทั้งหมดก็เริ่มสั่นสะท้าน
สีหน้าของกลุ่มคนซึ่งอยู่ภายในเกราะป้องกันเปลี่ยนไป พวกมันไม่ได้รู้สึกถึงสิ่งใดๆ มีแต่พวกที่อยู่ด้านนอกเกราะป้องกันเท่านั้น ที่รู้สึกว่ามีพลังฉุดดึงกระจายออกมาจากแสงสีดำนั้น แต่ความเป็นจริงเช่นนั้นก็ทำให้ใบหน้าของผู้เฒ่าสูงสุดเผ่าอูอ้านเปลี่ยนเป็นสีขาวซีดในทันใด
เสียงของมันแหบแห้งกล่าวว่า “ดอกจิตปีศาจพิสดาร!!”
ม่านตาเมิ่งฮ่าวหดเล็กลง แต่เขาก็เตรียมการป้องกันไว้เรียบร้อยแล้ว โลหิตเริ่มห้อมล้อมไปรอบๆ ตัว ขณะที่เขาใช้วิชาสังหารโลหิตเพื่อต่อต้านเสียงเรียกร้องจากแสงสีดำ
ในตอนนี้เองที่สีหน้าเมิ่งฮ่าวเปลี่ยนไป นี่เป็นเพราะว่าแทบจะในเวลาเดียวกันนั้น…ดอกปี่อ้านก็เลือกที่จะระเบิดพลังของมันออกมา
เมิ่งฮ่าวส่งเจตจำนงออกไปเรียกสัตว์ปีศาจของเขาทั้งหมดกลับมาในทันที พวกมันเริ่มพุ่งตรงกลับมาที่เขาในทันใด