เครื่องหมายนี้ไม่ได้เป็นสิ่งที่ไม่คุ้นเคยกับเมิ่งฮ่าว มันเป็นเครื่องหมายเดียวกันกับที่เคยปรากฎขึ้น เมื่อเขาบรรลุขั้นพื้นฐานลมปราณ และสร้างแกนลมปราณ!
เมื่อหญิงสาวจากตระกูลฟางเห็นเครื่องหมายนี้ สีหน้านางก็เปลี่ยนไป แทนที่จะต่อยเมิ่งฮ่าว นางก็เปลี่ยนทิศทางการต่อย
ภาพของเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ฉายซ้ำอยู่ในจิตใจเมิ่งฮ่าว
และตอนนี้…เครื่องหมายนี้ก็ปรากฎขึ้นอีกครั้ง!
เขารู้สึกว่ามีความร้อนอย่างรุนแรงกระจายออกมาจากหลังมือ กลายเป็นความเจ็บปวดที่กระจายออกไปทั่วร่าง จนกระทั่งเขาตกอยู่ในความเจ็บปวดนี้ไปโดยสิ้นเชิง สุดท้ายเขาก็ส่งเสียงกู่ร้องออกมา
ในเวลาเดียวกันนั้น พลังชีวิตที่ดูเหมือนจะไร้จุดสิ้นสุดก็ถูกปลดปล่อยออกมาจากภายในความเจ็บปวดนั้น กระจายออกไปทั่วร่าง ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของร่างกาย ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ยังสัมผัสได้ว่า มันยังเปิดโอกาสให้เขาได้รับมรดกชิ้นที่สี่ต่อไปอีกด้วย
ทันใดนั้น เสียงเก่าแก่โบราณก็ดังก้องขึ้นมาในจิตใจ เป็นเสียงโบราณที่ไร้ขอบเขต ส่งต่อมาจากหนึ่งหมื่นปีในอดีต มันไม่ได้มาจากเครื่องหมายบนมือของเขา แต่มาจากมรดกตระกูลหานเสวี่ย!
“ข้าคือต้าซือหลงรุ่นที่สามแห่งชนเผ่าหานเสวี่ย ข้ามีนามว่าฉีหนานหนิง…ข้าได้รับมรดกของรุ่นที่สองในความหนาวเย็นท่ามกลางฤดูหนาว ข้าได้รับความรู้แจ้งบนภูเขาฉีหนาน (ไม้กฤษณา) ข้าตัดเต๋าบนที่ราบสูงกลางฤดูหนาว ก่อนหน้าข้า ชนเผ่านี้ถูกเรียกว่า ฉีหนาน หลังจากข้าไปแล้ว มันก็ถูกเรียกว่า หานเสวี่ย (หิมะเยือกเย็น)…หลังจากนั้น ชนเผ่านี้ก็เริ่มอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ พวกมันไม่อาจจะช่วยเหลือตัวเองได้ จึงถูกบังคับให้ต้องออกไปจากทะเลทรายตะวันตก”
ขณะที่เสียงนี้ดังขึ้น ภาพภูเขาก็ปรากฎขึ้นในม่านตาทั้งสองข้างของเมิ่งฮ่าว!
นี่ก็คือภูเขาฉีหนาน เวลาเดียวกับที่ภาพภูเขาปรากฎขึ้น สูงขึ้นไปในท้องฟ้า ช่องโหว่ที่ถูกตัดออกไปโดยดาบสายฟ้าก็เริ่มแยกห่างออกจากกัน ภูเขาขนาดใหญ่โตมโหฬารจู่ๆ ก็เริ่มตกลงมา
ขนาดของภูเขาลูกนี้ยากที่จะอธิบายออกมาได้ กระจายพลังอย่างไร้ขอบเขตออกมา และน่าตื่นตกใจยิ่ง
บนภูเขาที่แทบจะมองไม่เห็นนี้ มีอักษรที่เรืองแสงอยู่สองตัวเขียนไว้ว่า ฉีหนาน (ไม้กฤษณา) ขณะที่ภูเขาตกลงมา พื้นดินสั่นสะเทือนและเริ่มมีรอยแตกร้าวและจมลงไป
หลุมสวรรค์หายไป และดาบสายฟ้าก็แตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ มีหลุมลึกขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นบนสนามรบ ซึ่งกลายเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ สองผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งแห่งโม่ถู่กงกระอักโลหิตออกมา หน้ากากของพวกมันแตกกระจายออกไป เผยให้เห็นสีหน้าตกใจของชายชราสองคน ทันใดนั้น พวกมันก็เริ่มหลบหนีไป
สองผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งแห่งทะเลทรายตะวันตก กระอักโลหิตออกมาด้วยเช่นกัน ขณะที่พวกมันถูกกระแทกลอยไปด้านหลัง ความตกตะลึงเต็มอยู่ในจิตใจ ซึ่งยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้
“ฉีหนานหนิง…เมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน มันเป็นหนึ่งในสามของผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุดในทะเลทรายตะวันตก มัน…มันเป็นคนของชนเผ่าหานเสวี่ยจริงๆ?! เป็นไปได้อย่างไร?! ทำไมบันทึกโบราณถึงไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย!?”
“ฉีหนานหนิง…” สีหน้าผู้ฝึกตนชุดดำเปลี่ยนไป ด้านหลังมัน หานเสวี่ยจ้งจ้องมองไปอย่างเงียบๆ ทันใดนั้น มันก็กระอักโลหิตออกมา แววตาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ทำไมมันถึงไม่เคยคาดคิดว่า ปรมาจารย์ของสายโลหิตมันจริงๆ แล้ว ก็เป็นคนของชนเผ่าฉีหนานอันโด่งดังเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน!
“ทำไมถึงได้เปลี่ยนชื่อของตระกูล?” หานเสวี่ยจ้งไม่มีเวลาที่จะขบคิดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป ผู้ฝึกตนชุดดำดวงตาสาดประกายด้วยความมุ่งมั่น ยกมือขวาขึ้นมาและกำลังจะโบกสะบัด แต่ทันใดนั้นเองที่สีหน้ามันก็ต้องเปลี่ยนไปอีกครั้ง
“บัดซบ! ทำไมเจ้าเด็กผู้นี้ถึงได้มีพรสวรรค์มากมายเช่นนี้? มันยังได้รับการสืบทอดมรดกไม่หมดอีก…”
พื้นดินส่งเสียงกึกก้องขณะที่ภูเขาฉีเหนียอันใหญ่โตมโหฬารตกลงมา เมิ่งฮ่าวลอยตัวอยู่ที่นั่น ดวงตาสาดประกายเจิดจ้า ในตอนนี้เขารู้แล้วว่า เขากำลังได้รับความโชคดีอย่างน่าเหลือเชื่ออยู่จริงๆ
ตราประทับตัดวิญญาณยังคงมีอยู่ในจิตใจ เขาไม่อาจจะใช้มันได้ในช่วงขั้นตอนการประทับนี้ แต่…เมื่อถึงเวลาที่เขามีการตัดวิญญาณของตัวเอง มันก็จะช่วยให้เรื่องราวง่ายขึ้นอย่างมากมาย
ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่เขาบรรลุขั้นตัดวิญญาณ พลังที่เขาสามารถใช้ก็จะมากมายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และเขาก็จะสามารถใช้รอยประทับที่มีอยู่ในจิตใจได้ทั้งหมด
โชคเช่นนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อน มีแต่ผู้ฝึกตนขั้นตัดวิญญาณเท่านั้นที่จะสามารถได้ครอบครองสิ่งของเช่นนี้ได้
แต่เนื่องจากความบังเอิญ ที่มีความโชคดีตกลงมาใส่เขา ด้วยเช่นนั้น เขาจึงสามารถทำสิ่งใดๆ ด้วยพลังที่ได้รับมากยิ่งขึ้น!
“มรดกของรุ่นที่หก, ห้า, สี่ และสาม…ยังไม่พอ” เมิ่งฮ่าวคิด “ข้าต้องได้ครอบครองมรดกของรุ่นสองด้วย ข้าจะไม่ยอมใช้ความโชคดีอย่างสิ้นเปลืองเช่นนี้ ข้าจะใช้มันช่วยให้ข้ามีชื่อเสียงโด่งดังต่อไปในอนาคต! ข้าไม่แน่ใจว่าทำไมเครื่องหมายถึงได้ปรากฎขึ้นบนหลังมือข้าอีกครั้งเมื่อครู่นี้ แต่ตอนนี้ข้าก็หวังว่า จะสามารถครอบครองสิ่งที่ต้องการได้ทั้งหมด ดังนั้น ข้าจะเปิดความสามารถทั้งหมดของมรดกเหล่านี้! ไม่สำคัญว่ารุ่นที่สองจะเป็นตระกูลหานเสวี่ย หรือชนเผ่าฉีหนาน มรดกรุ่นที่สอง, จงออกมา!” เมิ่งฮ่าวเงยหน้าขึ้นไป ส่งเสียงกู่ร้อง แสงเจิดจ้าสาดประกายอยู่ในดวงตา ขณะที่เขาลอยอยู่ที่นั่นกลางอากาศ เส่นผมพริ้วไสวไปมา ภาพที่เห็นนี้ดูน่าตกตะลึงและสวยงามอย่างแปลกๆ!
ภายในจิตใจ เกิดเสียงดังก้องอยู่ตลอดเวลา เป็นเสียงที่ดังเกินกว่าความวุ่นวายของรุ่นหก, ดังกว่าเสียงคำรามของหมื่นมังกรรุ่นห้า, ดังกว่าเสียงบดขยี้ของนรกอเวจีรุ่นสี่ และดังกว่าเสียงแตกกระจายของภูเขาฉีหนานรุ่นสาม กลายเป็นเสียงที่ดังจนถึงที่สุดอย่างเห็นได้ชัดเจน
เสียงนี้ดูเหมือนจะดังก้องออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของเมิ่งฮ่าว
“ข้าคือฉีหนานเทียน, ต้าซือหลงรุ่นสองแห่งชนเผ่าฉีหนาน ด้วยพลังมรดกของท่านปรมาจารย์ ทำให้ข้าสามารถควบคุมพลังของฤดูกาลทั้งสี่ได้ ข้าไม่ใช่เซียนอมตะ แต่ด้วยการควบคุมฤดูกาลทั้งสี่ได้ ทำให้ทะเลทรายตะวันตกมีแต่ความเงียบสงบ ข้าก็คือ…สวรรค์แห่งทะเลทรายตะวันตก!”
เป็นเสียงที่ธรรมดา แต่ก็ดังก้องเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความทะเยอทะยานเอาแต่ใจ พลังอำนาจกระจายออกมาจากเมิ่งฮ่าว เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างไป ท้องฟ้าที่อยู่เหนือภูเขาฉีหนาน ทันใดนั้น ก็ดูแปลกๆ ขึ้นมา
ภายในท้องฟ้าแถบนั้น สามารถมองเห็นดอกไม้ของฤดูใบไม้ผลิอันเรืองรอง, แสงของสายฝนฤดูร้อน, ใบไม้ที่มีหยาดน้ำค้างแข็งเกาะอยู่เต้นไปมาในฤดูใบไม้ร่วง และหิมะอันขมขื่นของฤดูหนาว!
ท้องฟ้าบริเวณนี้ประกอบไปด้วยสี่ฤดูกาลทั้งหมด และพลังของมันก็กระจายไปปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่าง ทำให้กลายเป็นพื้นดิน ทั้งหมดสั่นสะท้าน สองผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งแห่งโม่ถู่กง กระอักโลหิตออกมา ร่างกายพวกมันเริ่มแห้งเหี่ยวลง ขณะที่พวกมันหมดสติไป
สีหน้าว่างเปล่าปกคลุมใบหน้าสองผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งแห่งทะเลทรายตะวันตก พวกมันไม่รู้สึกหรือสัมผัสได้ถึงสิ่งใดๆ พลังชีวิตของพวกมันค่อยๆ เลือนหายไป
ร่างกายหานเสวี่ยจ้งสั่นสะท้าน จิตใจมันหมุนเคว้งคว้าง กระอักโลหิตออกมา ขณะที่ร่างมันเริ่มแก่ชราลงไปในทันใด ที่ด้านบนขึ้นไปของมัน ม่านตาผู้ฝึกตนชุดดำหดเล็กลง และแววตาของมันก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและแปลกใจ
โดยไม่ต้องขบคิดใดๆ มันถอยไปด้านหลัง หอบหายใจขณะที่จ้องไปยังฤดูกาลทั้งสี่บนท้องฟ้าเหนือภูเขาฉีหนาน
“นั่นไม่ใช่ตราประทับของตัดวิญญาณ นั่นคือ…ตราประทับค้นหาเต๋า!! บัดซบ, ตระกูลหานเสวี่ยจริงๆ แล้วก็มีผู้เชี่ยวชาญขั้นค้นหาเต๋า! เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? ผู้เชี่ยวชาญขั้นค้นหาเต๋าในทะเลทรายตะวันตก…ฉีหนาน…ฉีหนาน…” สีหน้าผู้ฝึกตนชุดดำสลดลง ขณะที่มันจู่ๆ ก็สูญเสียความมั่นใจที่จะสามารถไขว่คว้ามรดกขึ้นในทันใด “ถ้าข้าไม่อาจฉกฉวยมรดกเหล่านี้ไปได้ในตอนนี้ มันก็จะไม่มีทางเป็นของข้าอีกต่อไป ถึงแม้ข้าจะสังหารเจ้าเด็กเวรนั่นในภายหลัง ข้าก็ไม่อาจจะนำมรดกเหล่านี้ไปได้ บัดซบ! เจ้าเด็กผู้นี้ทำไมถึงได้น่ารำคาญเช่นนี้!?!?”
ความบ้าคลั่งเต้นไปมาอยู่ในดวงตาของมัน มันได้เตรียมการสำหรับเรื่องราวในวันนี้มาเป็นเวลานาน และต้องการความโชคดีของมรดกตระกูลหานเสวี่ย สำหรับการตัดครั้งที่สามของมัน ด้วยเช่นนั้น มันจึงไม่ยินดีที่จะยอมแพ้อย่างง่ายดาย
“ห้ารุ่น เจ้าสามารถรองรับมรดกได้ถึงห้ารุ่น บัดซบ, ทั้งหมดมีเพียงแค่หกเท่านั้น อย่าบอกข้านะว่ามันกำลังจะได้ครอบครองทั้งหมด! ความโลภของเจ้าเด็กผู้นี้เป็นสิ่งที่ยากจะพบเห็นในโลกนี้จริงๆ! ใครที่โลภมากเช่นนี้ต้องตาย! ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าทำต่อไปอีกแล้ว!!” จิตใจผู้ฝึกตนชุดดำหมุนคว้าง ในตอนนี้มันไม่ได้ดูถูกเมิ่งฮ่าวอีกต่อไป แต่เชื่อว่าเขาสามารถจะครอบครองมรดกได้ทั้งหมด ถึงแม้ดูเหมือนว่ามันไม่อยากจะเชื่อก็ตามที มันไม่มีเวลาในการขบคิดเรื่องนี้มากนัก ดวงตาสาดประกายด้วยรังสีสังหาร ร่างกายมันแวบขึ้น รวบรวมพลังทั้งหมดของพื้นฐานฝึกตนขั้นตัดวิญญาณ พุ่งตรงไปยังทิศทางของเมิ่งฮ่าว
“ข้าไม่สนใจว่าต้องจ่ายค่าตอบแทนไปมากมายเท่าใด ข้าต้องหยุดเจ้าให้ได้!” ความมุ่งมั่นเต็มอยู่ในดวงตา ขณะที่มันกระแทกเข้าไปในท้องฟ้าสี่ฤดูกาล และภูเขาฉีหนาน
แรงกดดันที่ยากจะอธิบายออกมาได้กดทับลงมาทั่วร่างของมัน ทำให้ผู้ฝึกตนชุดดำสั่นสะท้าน ผิวกายของมันเริ่มระเหยกลายเป็นไอ
“ทำลาย!” มันแผดร้อง การระเหยของร่างกายมัน ทันใดนั้น ก็เกิดขึ้นช้าลง มันกัดฟันแน่น และพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว เพียงชั่วพริบตา มันก็อยู่ห่างจากเขาหนึ่งร้อยจ้าง!
หนึ่งร้อยจ้างสุดท้ายนี้เป็นการก้าวข้ามที่ยากเย็นแสนเข็ญ
อันที่จริง มันรู้ว่าวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการสถานการณ์ในตอนนี้ก็คือ รอคอยจนกระทั่งเมิ่งฮ่าวไม่อาจจะทนทานได้อีกต่อไป ทำให้ร่างกายระเบิดขึ้นเอง การสอดแทรกเข้าไปในขั้นตอนการประทับตรานี้ ทางที่ดีที่สุดก็คือกระทำการใดๆ อยู่ในที่ห่างไกล วิธีที่โง่เขลาที่สุดก็คือสิ่งที่มันกำลังกระทำอยู่ในตอนนี้ ซึ่งก็คือเข้ามาใกล้กับเมิ่งฮ่าวด้วยตัวเอง
โชคร้ายที่มันไม่มีทางเลือกอื่น การแทรกแซงจากที่ห่างไกลไม่ใช่เรื่องที่ดีพอ และการรอคอยให้ร่างกายเมิ่งฮ่าวระเบิดขึ้นมาเอง ก็เป็นไปไม่ได้ ดังนั้น มันจึงจำเป็นต้องเคลื่อนไหวเช่นในตอนนี้
ขณะที่เสียงกระหึ่มกึกก้องยังคงดังเต็มอยู่ในอากาศอย่างต่อเนื่อง เมิ่งฮ่าวไม่สนใจผู้ฝึกตนชุดดำที่กำลังใกล้เข้ามาโดยสิ้นเชิง สูดลมหายใจอย่างหนักหน่วง มองขึ้นไปในท้องฟ้า ดวงตาสาดประกายด้วยความมุ่งมั่นอย่างเข้มข้น มันได้ยอมรับมรดกของผู้เชี่ยวชาญอันแข็งแกร่งทั้งห้ารุ่น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นและพลังที่เพิ่มขึ้นซึ่งแสดงให้เห็นในตอนนี้ ทำให้เมิ่งฮ่าวตัดสินใจที่จะได้รับมรดกจากรุ่นที่หนึ่งมากยิ่งขึ้น
“ชนเผ่านฉีหนาน, มรดกรุ่นที่หนึ่ง!!” เขาแผดร้องออกมา
เสียงนั้นดังก้องเข้าไปในหูของผู้ฝึกตนชุดดำ ทำให้จิตใจมันเริ่มหนักอึ้ง ความรู้สึกไม่สบายใจพุ่งขึ้นมา ขณะที่มันมองไปยังเมิ่งฮ่าว ซึ่งเงยหน้าขึ้นไปด้วยความมุ่งมั่น ผู้ฝึกตนชุดดำกัดฟันแน่น จากนั้นก็ยื่นแขนตรงไปยังหานเสวี่ยจ้งที่มีสีหน้าว่างเปล่าด้านหลังมัน
“ละลายโลหิตและเจตจำนง!” มันร้องออกมา ชี้ไปยังหานเสวี่ยจ้ง ร่างกายหานเสวี่ยจ้งเริ่มสั่นสะท้าน และส่งเสียงแผดร้องอย่างน่ากลัวออกมา ร่างกายมันเหี่ยวแห้งลงไปอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วพริบตา มันก็กลายเป็นซากศพที่แห้งเหี่ยว โลหิตทั้งหมดในร่างมันกระจายออก และพุ่งตรงไปยังผู้ฝึกตนชุดดำ หมุนวนไปรอบๆ ร่างมันสักพัก จากนั้นก็พุ่งออกไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ
ระยะห่างหนึ่งร้อยจ้างเริ่มใกล้มากขึ้น แต่แรงกดดันของตราประทับจากมรดกทั้งห้าก็กดลงไปบนร่างผู้ฝึกตนชุดดำซึ่งกำลังกระจายโลหิตของตระกูลหานเสวี่ยออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้มันมีความเร็วเพิ่มขึ้น เมื่อไหร่ที่โลหิตหายไปโดยสิ้นเชิง มันก็จะตกอยู่ในอันตรายอย่างใหญ่หลวง
“ตาย!” มันร้องออกมา ตอนนี้มันอยู่ห่างจากเมิ่งฮ่าวน้อยกว่าสิบจ้าง ยกมือขึ้นมา และดาบสายฟ้าที่บิดเบี้ยว ก็ฟันลงมาที่เมิ่งฮ่าว
ในจิตใจ เมิ่งฮ่าวใช้จิตสัมผัสส่งข้อความออกไป “สายโลหิตแห่งฉีหนานมาจากทะเลทรายตะวันตก ภาพศักดิ์สิทธิ์ทะเลทรายตะวันตกมาจากสัตว์อสูร สำหรับข้า, ข้า…ข้าคือผู้ผนึกอสูรรุ่นที่เก้า มรดกแห่งชนเผ่าฉีหนานจงยอมจำนนต่อข้าแต่โดยดี!”