วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ตอนที่ 369 : ป้อมปราการหนาม

Posted By: wuxiathai - 18:08
เมิ่งฮ่าวลืมตาขึ้นในทันใด “เอาเมล็ดป้อมปราการหนามมาให้ข้า!”
แสงแปลกๆ สาดประกายอยู่ในดวงตา ราวกับว่ามีเวลาถูกฝังอยู่ในนั้น อย่างช้าๆ มันกลายเป็นพลังที่ไม่อาจจะอธิบายออกมาได้ ราวกับเป็นวิชาเวทบางอย่าง ซึ่งทำให้การที่เขามองไปแค่แวบเดียว ก็ทำให้ผู้คนไม่อาจจะลืมเลือนเขาไปได้ตลอดกาล
จิตใจหานเสวี่ยชานสั่นสะท้าน นางเคยเห็นสายตาเช่นนี้มาก่อน ย้อนกลับไปเมื่อปรมาจารย์ตัดวิญญาณได้ตื่นขึ้นมาครั้งหนึ่ง ดวงตาของท่านก็ประกอบไปด้วยความลึกล้ำเช่นนี้ ราวกับว่ามันประกอบด้วยกาลเวลา เพียงท่านมองมาแค่แวบเดียว ก็ทำให้นางไม่อาจจะลืมเลือนไปได้ชั่วชีวิต
ขณะที่จิตใจนางหมุนคว้าง ก็ดูเหมือนว่านางสูญเสียความสามารถในการต่อต้านเขาไป โดยไม่ต้องขบคิด นางยื่นมือออก และส่งมอบมรดกศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลไป, เมล็ดป้อมปราการหนาม
ทันทีที่เมล็ดแตะสัมผัสมือเขา เมิ่งฮ่าวก็จับมันไว้ พื้นฐานฝึกตนเขาโคจรหมุนวนอย่างรวดเร็ว และแสงสีทองก็กระจายออกมาในทันที วิชาเร่งปฏิกิริยาลับของเขา, เวทแห่งกาลเวลา และวิชาลับซือหลงที่ได้มาใหม่ ถูกปลดปล่อยออกมาทั้งหมดจากภายในตัวเขา
ความสามารถในการเร่งปฏิกิริยาต้นไม้ทั้งหมด วิชาเวทที่ปลดปล่อยพลังแห่งกาลเวลา ความสามารถของซือหลงที่ควบคุมสัตว์ปีศาจได้ทั้งหมด วิชาลับทั้งสามนี้หลอมรวมเข้าด้วยกันอยู่ในตัวเมิ่งฮ่าว และขณะที่พื้นฐานฝึกตนเขาโคจรหมุนเวียน เมล็ดป้อมปราการหนามในมือเขา ทันใดนั้นก็เริ่มขยายออก มันไม่ได้แห้งเหี่ยวอีกต่อไป แต่จริงๆ แล้ว ในตอนนี้เองที่ใบอ่อนปรากฎขึ้น จากนั้นก็กลายเป็นต้นอ่อน ภายในชั่วพริบตา มันก็เริ่มเติบโตปกคลุมไปทั่วทั้งแขนของเมิ่งฮ่าว
ร่างเขาไม่ได้สาดประกายด้วยแสงสีทองอีกต่อไป อย่างน่าตกใจ กลุ่มควันที่คล้ายกับต้นไม้ก็กระจายออกมาจากตัวเขาอย่างแน่นหนา กลุ่มควันนี้ไปดึงดูดความสนใจผู้ฝึกตนทะเลทรายตะวันตกในทันที เมื่อพวกมันมองมายังเมิ่งฮ่าว ก็ไม่แน่ใจว่าทำไม แต่จิตใจพวกมันเริ่มเต้นระรัว ทันใดนั้น พวกมันก็พุ่งตรงมาที่เขา
มีเพียงคนเดียวที่อยู่ใกล้เมิ่งฮ่าวก็คือหานเสวี่ยชาน ทุกคนได้หลบหนีไปนานแล้ว กำแพงเมืองกำลังพังทลายลง และด้านบนขึ้นไป ความสิ้นหวังถูกเขียนขึ้นบนใบหน้าสี่ผู้อาวุโสสูงสุด
พวกมันจะคาดคิดได้อย่างไรว่า หลังจากช่วงเวลาสามเดือน โม่ถู่กงและทะเลทรายตะวันตกจะกลับมาโจมตีอย่างเต็มกำลังเช่นนี้? ไม่มีทางที่เมืองเซิ่งเสวี่ยจะสามารถต้านทานไว้ได้
หานเสวี่ยชานยิ้มอย่างโศกเศร้าขณะที่มองไปยังแปดผู้ฝึกตนทะเลทรายตะวันตกซึ่งกำลังเข้ามาใกล้เมิ่งฮ่าว นางไม่อาจจะต่อสู้กลับไปได้ ในตอนนี้พวกมันอยู่ห่างจากเมิ่งฮ่าวสิบจ้าง
เมิ่งฮ่าวนั่งขัดสมาธิ กำเมล็ดป้อมปราการหนามไว้ในมือ ต้นไม้และใบไม้สีเขียวปกคลุมไปทั่วแขนขวา และเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปกคลุมไปทั่วร่างกายของเขา
สิบจ้าง, แปดจ้าง, ห้าจ้าง!
เมื่อพวกมันอยู่ห่างออกไปห้าจ้าง ดวงตาที่หลับอยู่ของเมิ่งฮ่าวก็ลืมขึ้นมาในทันที ส่องประกายเจิดจ้าขณะที่เขายื่นมือขวาออก และกดลงไปบนพื้นดิน
ขณะที่ทำเช่นนั้น ต้นไม้บนร่างเขาก็มุดลงไปในพื้นดิน ทันใดนั้น เสียงกึกก้องอย่างน่าตกใจก็ดังออกมา ขณะที่มีกิ่งหนามยาวหนึ่งจ้างแทงทะลุขึ้นมาจากพื้นดินข้างๆ กำแพงเมือง ความรวดเร็วที่มันเคลื่อนไหวยากที่จะอธิบายออกมาได้ และทำให้ผู้คนไม่อาจจะหลบเลี่ยงไปได้ เพียงชั่วพริบตา มันก็แทงทะลุหนึ่งในผู้ฝึกตนทะเลทรายตะวันตก
ต่อมา กิ่งหนามมากมายก็ระเบิดออกมารอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าว เสียงแผดร้องโหยหวนดังก้องไปทั่ว ขณะที่ผู้ฝึกตนทะเลทรายตะวันตกที่เหลืออีกเจ็ดคน ร่างถูกแทงทะลุด้วยกิ่งหนาม และถูกยกร่างขึ้นไปในอากาศ
ที่ยิ่งน่าตกใจมากไปกว่านั้นก็คือ หลังจากที่แทงผ่านร่างผู้ฝึกตน กิ่งหนามก็บิดเบี้ยวและสั่นสะท้าน ราวกับว่าพวกมันกำลังดูดซับโลหิตและพื้นฐานพลังของผู้ฝึกตนเข้าไป บุรุษทั้งแปดเริ่มแห้งเหี่ยวลงไปอย่างรวดเร็ว เสียงแผดร้องอย่างน่ากลัวดังเต็มอยู่ในอากาศ ราวกับว่าไม่ใช่เป็นเสียงของมนุษย์ ดังก้องออกไป ทำให้ผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นทั้งหมดรู้สึกตกตะลึงไปตามๆ กัน
“นั่นคืออะไร?” พวกมันคิด อ้าปากค้าง
ก่อนที่พวกมันจะมีเวลาในการกระทำสิ่งใดๆ กิ่งหนามเล็กๆ จำนวนมากมาย ระเบิดออกมาจากร่างกายที่แห้งเหี่ยวไปของผู้ฝึกตนทั้งแปด พุ่งกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง
บางส่วนก็แทงทะลุเข้าไปในพื้นดินและหายไป พวกมันปรากฎขึ้นอีกครั้งหลังจากนั้น ในสถานที่ซึ่งไม่ห่างออกไปมากนัก พวกมันแทงเข้าไปในร่างของผู้ฝึกตนคนอื่นๆ
บางส่วนก็พุ่งตรงไปยังผู้ฝึกตนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง แม้ในขณะที่พวกมันแผดร้องออกมา ร่างกายก็เริ่มแห้งเหี่ยวลง ในขณะที่มีกิ่งหนามระเบิดออกมามากขึ้น
เมิ่งฮ่าวเป็นจุดศูนย์กลางของทั้งหมด ขณะที่กิ่งหนามเริ่มแทงทะลุออกมาจากกำแพงเมืองด้วยตัวมันเอง นี่แน่นอนว่าทำให้เกิดความโกลาหลวุ่นวายไปทั่ว จริงๆ แล้ว ต้นหนามก็ไม่อาจจะแยกแยะความแตกต่างระหว่างผู้ฝึกตนเมืองเซิ่งเสวี่ย ออกมาจากโม่ถู่กงได้ ต้นหนามแทงทะลุพวกมันทุกคน ดูดซับเลือดเนื้อและพลังชีวิต จากนั้นก็ขยายตัวออกไป ภายในช่วงเวลาไม่กี่อึดใจ พื้นที่รอบๆ เมิ่งฮ่าว หนึ่งพันจ้าง ก็เป็นโลกที่เต็มไปด้วยต้นหนาม
แน่นอนว่านี่ทำให้เกิดผลกระทบกับการต่อสู้ในทันที ผู้ฝึกตนมากมายจากโม่ถู่กงล่าถอยไปที่ด้านหลังด้วยความตกใจ โชคร้ายที่พวกมันช้าเกินไป จึงถูกแทงทะลุโดยต้นหนาม ในที่สุด ทั่วทั้งเมืองก็เต็มไปด้วยต้นหนามอันแหลมคม, ดุร้ายและเปล่งแสงสีแดง ในเวลานี้ ต้นหนามได้ขยายตัวออกไปที่ด้านนอกเมืองด้วยเช่นกัน
ย้อนกลับไปด้านในเมือง ผู้ฝึกตนทั้งหมดของเมืองเซิ่งเสวี่ยยืนนิ่งด้วยใบหน้าซีดขาว ไม่กล้าขยับตัวเคลื่อนไหว ทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆ ตัวพวกมันถูกล้อมรอบไปด้วยต้นหนามมากมายจนนับไม่ถ้วน พวกมันมองออกไปยังผู้ฝึกตนโม่ถู่กง และสัตว์อสูรที่นอกเมือง ซึ่งกำลังแผดร้องอย่างปวดร้าว และล่าถอยออกไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ต้นหนามระเบิดออกมาจากพื้นดินรอบๆ พวกมัน
แม้แต่ในท้องฟ้าก็ไม่ปลอดภัยด้วยเช่นกัน ต้นหนามพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า แทงทะลุสิ่งมีชีวิตทุกอย่างที่ลอยอยู่ด้านบน
ตอนนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะถูกปกคลุมด้วยต้นหนาม ด้านนอกเมือง มีผู้ฝึกตนโม่ถู่กงและทะเลทรายตะวันตกเพียงไม่กี่ร้อยคนที่หลบหนีออกไปได้โดยไม่ได้รับผลกระทบใดๆ พวกมันจ้องมองกลับมายังภาพที่ด้านหลังด้วยความตกใจและประหลาดใจ
ด้านบนขึ้นไป สี่ผู้อาวุโสสูงสุด และผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งจากโม่ถู่กงและทะเลทรายตะวันตก ไม่อาจจะต่อสู้กันได้อีกต่อไป พวกมันแยกย้ายออกจากกัน และกำลังถูกปิดกั้นโดยต้นหนามที่พุ่งขึ้นไปในทันที
ในตอนนี้ สายตาทุกคู่ในสนามรบต่างก็จ้องนิ่งมายังเมิ่งฮ่าว เบื้องหน้าเขามีต้นหนามยักษ์ท่าทางดุร้าย กำลังพุ่งตรงขึ้นไปในท้องฟ้า กระจายปราณโลหิตออกมา และถูกปกคลุมด้วยต้นหนามเล็กๆ จำนวนมากมายจนนับไม่ถ้วน เป็นภาพที่ดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก
ดูเหมือนเมิ่งฮ่าวจะเป็นจุดศูนย์กลางของเรื่องราวทั้งหมดนี้ และเป็นสถานที่แห่งเดียวที่ไม่มีต้นหนามใดๆ ดูเหมือนเขาจะเป็นจุดกำเนิดของต้นหนามทั้งหมด และขณะที่เขาค่อยๆ ลุกขึ้นมายืน ทุกคนต่างก็อ้าปากค้าง
รอบๆ มือขวาของเขาถูกพันไว้ด้วยใบไม้จำนวนมากมาย แต่ละใบก็ปกคลุมไปด้วยต้นหนาม ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะเชื่อว่า เมิ่งฮ่าวไม่ใช้ต้นกำเนิดของต้นหนามที่มีอยู่ทุกที่ทั้งหมดนี้
เขาสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเมล็ดป้อมปราการหนามจะน่าประหลาดใจได้ถึงเพียงนี้ อันที่จริงมันไม่อาจจะบอกได้ถึงความแตกต่างระหว่างสหายและศัตรู ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่อาจจะทำอะไรกับมันได้ มันต้องใช้พลังการเร่งปฏิกิริยาของเขาในการเติบโต แต่เมื่อมันดูดซับชีวิตและโลหิตจากผู้ฝึกตน เมิ่งฮ่าวก็ไม่อาจจะควบคุมอะไรมันได้ ถึงแม้เขาจะรู้สึกถึงมันได้
“เมิ่งต้าซือ…” ผู้ฝึกตนเมืองเซิ่งเสวี่ยที่อยู่ใกล้ๆ กล่าว ขาซ้ายของมันถูกต้นหนามแทงทะลุ ทันทีที่คำพูดหลุดออกมาจากปากมัน กิ่งหนามทันใดนั้นก็ลอยขึ้นไป และมันก็ปิดปากลง กิ่งหนามหยุดห่างจากหน้าผากมันไม่กี่ชุ่น ลอยอยู่ที่นั่นราวกับอสรพิษร้ายสักพักก่อนที่จะเคลื่อนที่ห่างออกไป
ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบสงบ ผู้ฝึกตนทั้งหมดในบริเวณนั้นที่ถูกต้นหนามแทงทะลุ พวกมันมาจากทะเลทรายตะวันตก หรือโม่ถู่กง นิ่งเงียบราวเป็นใบ้ ไม่กล้าแม้แต่จะระบายลมหายใจออกมาแรงๆ
สูงขึ้นไปกลางอากาศ สีหน้าผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งเปลี่ยนไป และพวกมันก็หยุดเคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน ไม่กล้าที่จะบินออกไปหรือพูดจา เหตุผลก็เพราะพวกมันถูกล้อมรอบด้วยกิ่งหนามหมื่นเส้น จากที่มองเห็น ถ้าพวกมันเคลื่อนไหวแม้เพียงเล็กน้อย กิ่งหนามพวกนั้นก็จะแทงทะลุร่างและสังหารพวกมันไปในทันที
เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และดวงตาก็สาดประกายเจิดจ้า
บนกำแพงเมือง และด้านนอกเมือง ผู้ฝึกตนและสัตว์อสูรจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน ถูกต้นหนามแทงทะลุร่าง ใบหน้าพวกมันซีดขาวและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ขณะที่มองมายังเมิ่งฮ่าว
กลุ่มคนไม่กี่ร้อยคนที่หลบหนีจากอันตรายนี้ไปได้ก็มองมายังเมิ่งฮ่าว เงียบสงบราวกับจั๊กจั่นในช่วงฤดูหนาว ในตอนนี้ ทุกคนในสนามรบ ทันใดนั้น ก็ตระหนักว่าผลแพ้ชนะในการทำสงครามครั้งนี้ขึ้นอยู่กับมือของคนเพียงผู้เดียว
คนผู้นั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเมิ่งฮ่าว
เมิ่งฮ่าวเป็นเพียงบุคคลเดียวในท่ามกลางพวกมันที่รู้ว่า อันที่จริงการตัดสินใจนี้ไม่ได้เกิดจากเขา ป้อมปราการหนามนี้จริงๆ แล้วก็ไม่ได้ตอบสนองต่อคำสั่งของเขาแต่ประการใด…
เขาครุ่นคิดอย่างเงียบๆ ขณะที่มองไปรอบๆ ต้นหนามที่ยังคงแทงทะลุเข้าไปยังร่างผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ ซึ่งได้แต่ยืนอยู่ที่นั่นด้วยสีหน้าสิ้นหวัง
ในตอนนี้เองที่ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังเข้ามาในหูของเมิ่งฮ่าว ซึ่งไม่มีใครสามารถได้ยิน เป็นเสียงที่โบราณเก่าแก่ อ่อนแอราวกับดังออกมาจากปากของใครบางคนที่กำลังจะตายไป
“ป้อมปราการหนามที่อันตรายนี้ สามารถกำจัดทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ภายใต้ขั้นตัดวิญญาณ เมื่อไหร่ที่มันงอกรากออกมา มันก็ไม่อาจจะเคลื่อนไหวได้ และจะมีชีวิตอยู่ได้หนึ่งเดือน…ไม่ว่าเจ้าจะปลุกเรียกมันอย่างไร มันก็จะไม่ตื่นขึ้นมา ตอนนี้เจ้าต้องทำจิตใจให้มั่นคง และหยดโลหิตที่ประกอบด้วยเจตจำนงของตัวเจ้าเอง ลงไปบนต้นป้อมปราการหนามที่อยู่ตรงหน้าเจ้า จดจำไว้…หยดโลหิตนั้นต้องประกอบด้วยเจตจำนงของเจ้า ซึ่งจะทำให้เจ้าสามารถออกคำสั่งต้นหนามนี้ได้” เสียงนั้นไม่รู้ว่าดังออกมาจากที่แห่งไหน แต่ทันทีที่เมิ่งฮ่าวได้ยินมัน ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่าเป็นเสียงที่เขาเคยได้ยินเมื่อสามเดือนก่อน ตอนที่โจวเต๋อคุนถูกนำตัวไป
เป็นเสียงเดียวกันกับตอนนั้น
ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขณะที่เขาครุ่นคิด เนื่องจากวิธีการที่เพิ่งจะอธิบายมา เขากรีดนิ้วไปบนหน้าผาก หยดโลหิตปรากฎขึ้น ซึ่งประกอบไปด้วยพื้นฐานฝึกตนและเจตจำนงของเขา ขณะที่มันลอยออกมา เมิ่งฮ่าวก็รู้สึกถึงคลื่นแห่งความอ่อนแอกระจายไปทั่วร่าง เขารู้ว่าในตลอดช่วงชีวิตของเขานี้ ต้องไม่เอาหยดโลหิตเช่นนี้ออกมาเกินห้าครั้ง
ถ้าเกินห้าครั้งเมื่อไหร่ ก็จะเป็นการสูญเสียมากเกินไปจนเขารับไม่ได้
จากความเงียบที่ปกคลุมอยู่ เมิ่งฮ่าวกัดฟันแน่น โลหิตนี้มีค่ามากเป็นอย่างยิ่ง แต่เพื่อตัวไหมหิมะเยือกเย็น…เขาบังคับให้หยดโลหิตลอยตรงไป หยดลงที่ต้นป้อมปราการหนาม ดวงตาแวบแสงขึ้น
ไม่มีอะไรมากีดขวางขั้นตอนนี้ หยดโลหิตหลอมรวมเข้าไปในต้นป้อมปราการหนาม จากนั้นมันก็เริ่มสั่นสะท้าน
ทันใดนั้น กิ่งหนามที่แทงเข้าไปในร่างผู้ฝึกตนเมืองเซิ่งเสวี่ยก็หายไปจากสายตา บาดแผลของพวกมันปิดสนิท อันที่จริง กิ่งหนามยังคงอยู่ภายในร่างกายพวกมัน ช่วยรักษาบาดแผลให้
ขณะที่กิ่งหนามหายไป ผู้ฝึกตนโม่ถู่กงและทะเลทรายตะวันตกที่อยู่ด้านนอกของเมืองก็ส่งเสียงแผดร้องอย่างน่ากลัวออกมา ร่างกายพวกมันเริ่มแห้งเหี่ยวลงในทันที เสียงระเบิดดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่ผู้ฝึกตนบางคนที่กำลังจะตาย เลือกที่จะระเบิดตัวเองไป
การระเบิดนี้ทำให้จิตใจเมิ่งฮ่าว รู้สึกราวกับว่ามันกำลังแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เหมือนกับว่าเขาได้กลายเป็นหนึ่งเดียวกับต้นป้อมปราการหนาม และต้นหนามที่กระจายออกไปทั้งหมดนี้ ก็เป็นเจตจำนงของเขาที่ยืดขยายออกไป
เพียงแค่ความคิด เขาก็สามารถสังหารทุกคนได้
ในเวลาเดียวกันนั้น จิตสัมผัสของเขาก็รู้สึกราวกับว่ามันกำลังอ่อนแอลง จิตสัมผัสของเมิ่งฮ่าวเพียงเป็นรองจากผู้ฝึกตนขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งเท่านั้น มีพลังเหนือผู้ใดที่อยู่ในขั้นเดียวกันกับเขา ถ้าไม่ใช่ จิตสัมผัสของเขาก็คงจะแห้งเหือดหายไปโดยสิ้นเชิง
ทันใดนั้น เจตจำนงของเมิ่งฮ่าวก็สัมผัสได้ถึงสิ่งใหม่ๆ ด้านนอกของเมือง ในตำแหน่งที่มีต้นหนามแทงทะลุขึ้นไปมากมาย มีบางคนพูดขึ้นมาด้วยเสียงแผ่วเบา
“เมิ่งต้าซือ, เป็นท่านหรือไม่?”

About wuxiathai

Organic Theme is officially developed by Templatezy Team. We published High quality Blogger Templates with Awesome Design for blogspot lovers.The very first Blogger Templates Company where you will find Responsive Design Templates.

Copyright © 2015 ผนึกสวรรค์ สยบมาร สะท้านเทพ

Designed by Templatezy | Distributed By Gooyaabi Templates