ทันทีที่เสียงนั้นดังก้องลงมาจากยอดเขา ก็มองเห็นเงาร่างลอยลงมา บุรุษวัยกลางคนก้าวเนิบนาบตรงมา สวมใส่ชุดยาวสีดำ หน้าตาหล่อเหลา และเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม มันมาหยุดอยู่ข้างกายอูอาหลี่ ไพล่มืออยู่ด้านหลัง
กลุ่มคนเผ่าอูต๋าที่อยู่รอบๆ จดจำมันได้ในทันที
“นั่นคือมั่วฟางต้าซือ!”
อูอาหลี่สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ขณะที่ประสานมือและโค้งตัวลงให้กับบุรุษผู้นั้น ในเวลาเดียวกัน สีหน้าของกลุ่มคนเผ่าอูต๋าที่อยู่รอบๆ ก็เต็มไปด้วยความเลื่อมใสขณะที่พวกมันก็ประสานมือคารวะด้วยเช่นกัน
รอยยิ้มปกคลุมอยู่บนใบหน้าของผู้เฒ่าสูงสุดปฐพี ขณะที่มันพยักหน้าให้กับบุรุษชุดดำเล็กน้อย ข้างกายมัน รอยยิ้มบนใบหน้าของผู้เฒ่าของเผ่าก็ยิ่งกว้างมากขึ้น
บุรุษชุดดำผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเป็นซือหลงระดับห้าของเผ่าอูต๋า, มั่วฟาง ซึ่งมีตำแหน่งสูงส่งอยู่ในเผ่า มันมองมายังเมิ่งฮ่าว จากนั้นก็มองกลับไปยังผู้เฒ่าสูงสุดปฐพีและผู้เฒ่าของเผ่า
“สุนัขป่าชิงมู่กลายพันธุ์ทั้งสี่ตัวนี้ ยอดเยี่ยมยิ่ง ฝูงสัตว์ปีศาจของข้าในตอนนี้ก็ขาดแคลนตัวที่โจมตีเก่งๆ ถ้าข้าได้เลี้ยงสุนัขป่าชิงมู่เหล่านั้นสักพัก พวกมันก็น่าจะเติมเต็มความต้องการของข้าได้ ขอให้ท่านผู้เฒ่าสูงสุดปฐพีและผู้เฒ่าของเผ่าเห็นด้วยกับการตัดสินใจของข้าได้หรือไม่?”
ตลอดเวลาที่มันกล่าวออกมา เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้พูดจากับเมิ่งฮ่าวโดยตรง คำพูดอย่างเย่อหยิ่งเช่นนี้ก็เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้สนใจว่าเมิ่งฮ่าวเป็นใคร นี่เป็นความไม่นำพาของซือหลงที่อยู่ในระดับสูง
ไม่สำคัญว่าเมิ่งฮ่าวเป็นผู้ที่เลี้ยงสุนัขป่าชิงมู่กลายพันธุ์ทั้งสี่ตัวนี้หรือไม่ ในความคิดของมัน เมิ่งฮ่าวไม่มีอะไรนอกไปจากเป็นแมลงตัวเล็กๆ ท่าทางเช่นนั้นเป็นสิ่งที่เมิ่งฮ่าวเคยเห็นมาก่อนเมื่อในอดีต เขาส่งยิ้มบางๆ เพื่อตอบกลับไปยังความเมินเฉยของมั่วฟาง เป็นสีหน้าที่เหมือนกับที่เขากระทำกับอูหลิงเมื่อก่อนหน้านี้
ผู้เฒ่าของเผ่าอูต๋าส่งรอยยิ้มน้อยๆ ตอบกลับไปยังคำพูดของมั่วฟาง แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา มันแค่มองไปยังผู้เฒ่าสูงสุดปฐพี
ผู้เฒ่าสูงสุดปฐพีมีทีท่าครุ่นคิด จากกฎของเผ่า สัตว์ปีศาจมักจะมีผู้เลี้ยงเพียงคนเดียว จนกว่าพวกมันจะถูกนำไปโดยคนของเผ่า
คำร้องขอของมั่วฟางทำให้มันตกอยู่ในที่นั่งลำบาก ถ้ามั่วฟางเป็นซือหลงอื่นๆ มันก็คงจะปฏิเสธคำร้องนี้ไปอย่างแนบเนียนได้ แต่มั่วฟางแตกต่างจากคนอื่นๆ ถึงมันจะอยู่แค่ระดับห้า แต่บิดาของมันเป็นผู้ติดตามหมายเลขหนึ่งของเผ่า เป็นซือหลงระดับเจ็ด มั่วจื่อ
เนื่องจากเช่นนั้น ผู้เฒ่าสูงสุดปฐพีก็ไม่มีทางเลือก นอกจากต้องหาทางประนีประนอมบางอย่าง
แต่เมื่อมันมองไปยังเมิ่งฮ่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงมือขวาของเขา มันก็ยิ้มออกมา
“ข้าไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจเช่นนั้น สัตว์ปีศาจทั้งสี่ตัวนี้ถูกเลี้ยงมาโดยอาจารย์ท่านนั้น คงต้องดูว่ามันมีเจตนาเช่นไร”
คำพูดของผู้เฒ่าสูงสุดปฐพี ทำให้ดวงตาผู้เฒ่าของเผ่าสาดประกาย และหดเล็กลงในทันที มันมองไปยังเมิ่งฮ่าว มั่วฟางหันหน้าเพื่อมองมายังเมิ่งฮ่าวเป็นครั้งแรก และสีหน้าของมันก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง
คำพูดของผู้เฒ่าสูงสุดปฐพี ทำให้ผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ คิดกันไปต่างๆ นาๆ ดวงตาพวกมันสาดประกายขณะที่ทุกคนมองไปยังเมิ่งฮ่าว
เมิ่งฮ่าวยิ้ม “ถ้าท่านสามารถทำให้สุนัขป่าชิงมู่เหล่านี้ติดตามท่านไปได้ ข้าก็จะไม่รั้งพวกมันไว้ แต่ถ้าท่านทำไม่ได้ จากกฎของเผ่า ข้า, เมิ่งฮ่าว ก็จะต้องเลือกสัตว์ปีศาจจากฝูงที่ท่านเลี้ยงไว้มาบางตัว” เท่าที่เมิ่งฮ่าวสนใจ นี่เป็นโอกาสของเขาที่จะสร้างความทรงจำให้กับเผ่าอูต๋า มั่วฟางได้ปรากฎกายขึ้น กำลังรนหาที่สร้างความอับอายให้กับตัวเอง เป็นธรรมดาที่เมิ่งฮ่าวจะช่วยสงเคราะห์ให้
มั่วฟางชำเลืองมองมายังเมิ่งฮ่าวด้วยความทะนงตัว และกล่าวว่า “เจ้าคงไม่มีโอกาสได้เลือกสัตว์ปีศาจของข้าแม้แต่ตัวเดียว ในฐานะของซือหลง ข้าจะช่วยให้เจ้าเข้าใจถึงความหมายของการควบคุมสัตว์ปีศาจ!”
ด้วยเช่นนั้น มันก็โบกสะบัดชายแขนเสื้อ และเดินเนิบนามตรงมายังเมิ่งฮ่าว เมิ่งฮ่าวยิ้มออกมา ถอยไปด้านหลังสองสามก้าว ปล่อยให้มันกระทำการอย่างเต็มที่กับสุนัขป่าชิงมู่
มั่วฟางรู้สึกตื่นเต้น ด้วยการเป็นซือหลงระดับห้า มันมีวิธีที่แตกต่างกันเพื่อใช้ในการควบคุมสัตว์ปีศาจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยสายโลหิตที่พิเศษเฉพาะของมัน ที่เคยสร้างซือหลงระดับเก้ามาแล้วในอดีต ซึ่งอีกเพียงก้าวเดียวก็จะเป็นต้าซือหลง แต่สุดท้าย มันก็ตกตายไป แต่ก่อนจะเป็นเช่นนั้น มันก็ได้ส่งต่อวิชาลับเป็นมรดกตกทอดมาให้กับทายาทรุ่นหลังต่อไป
มันอาจจะไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับมรดกของซือหลงจากทะเลทรายตะวันตกคนอื่นๆ แต่ในชนเผ่าทั้งห้าของเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์นี้ มันค่อนข้างจะโดดเด่นมากที่สุด
“สุนัขป่าชิงมู่เป็นสัตว์ปีศาจธาตุไม้ ซึ่งเกิดมาก็อยู่ในระดับหนึ่ง และสามารถเติบโตไปถึงระดับเจ็ด ภายในรายชื่อของสัตว์ปีศาจทะเลทรายตะวันตก พวกมันอยู่ในลำดับที่ 891 บรรพบุรุษของพวกมันเกิดอยู่ใต้ต้นไม้สีเขียวชอุ่มโบราณ ด้วยเช่นนั้นพวกมันจึงถูกเรียกว่าสุนัขป่าชิงมู่ (ต้นไม้เขียว)”
“พวกมันเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว และมีกรงเล็บที่แหลมคม พวกมันยังชอบกลิ่นหอมของใบไม้ในป่า การกลั่นสกัดธูปเขียวสามครั้งของซือหลงระดับห้า สามารถทำให้สุนัขป่าชิงมู่ที่อยู่ต่ำกว่าระดับห้าซึ่งไร้เจ้านายทั้งหมดยอมจำนน” สายตาของผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ เต็มไปด้วยความเลื่อมใส ขณะที่มั่วฟางอธิบายกับตัวเองอย่างเย่อหยิ่ง
ใบหน้าเมิ่งฮ่าวปกคลุมด้วยรอยยิ้มน้อยๆ เหมือนเช่นเคย เขาไม่กล่าวอะไรออกมา แค่มองไปขณะที่มั่วฟางหยิบธูปสีเขียวออกมา ธูปนั้นดูเหมือนจะสร่างขึ้นมาจากต้นไม้และสมุนไพรหลายชนิด ทันทีที่มันปรากฎขึ้น กลิ่นหอมก็ลอยออกมา
อย่างไรก็ตาม กลิ่นหอมนั้นก็ดูเหมือนจะไม่มีผลใดๆ ต่อสุนัขป่าชิงมู่ทั้งห้า พวกมันนอนอย่างเกียจคร้านบนพื้นต่อไป ไม่สนใจกลิ่นหอมนั้นแม้แต่น้อยนิด
“ไม่เลว” มั่วฟางกล่าว “การที่พวกมันสามารถทนต่อธูปเขียวระดับสูงนี้ได้ ก็แสดงว่าสัตว์ปีศาจเหล่านี้ไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง แต่เรื่องราวก็คงจะแตกต่างกันออกไป หลังจากที่ข้าจุดธูปด้วยเวทจุดไฟลับของซือหลง! สหายเต๋าทั้งหลาย, โปรดดู!” มันเชิดหน้าขึ้น ใช้มือขวาร่ายเวทอาคมอย่างรวดเร็ว ในที่สุด ก็มองเห็นระลอกคลื่นของเวทอาคม กระจายตรงไปยังธูปสีเขียว ที่มันถืออยู่ในมือซ้าย
เปลวไฟที่มองไม่เห็นปรากฎขึ้น ทำให้ธูปสีเขียวเริ่มเกิดเป็นควันลอยขึ้นมาช้าๆ ทันใดนั้นกลิ่นหอมของมันก็เข้มข้นขึ้นเป็นสิบเท่าของก่อนหน้านี้ ขณะที่มันกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง ผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ ซึ่งมีรอยสักภาพศักดิ์สิทธิ์ของสุนัขป่าชิงมู่ ต่างก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่า ภาพศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บนร่างของพวกมันกำลังพลุ่งพล่านขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ผู้ฝึกตนเหล่านั้นถอยไปด้านหลังอยู่ให้ห่างไกลจากกลิ่นหอมอันน่ากลัวนี้
อย่างไรก็ตาม สุนัขป่าชิงมู่ทั้งห้า ซึ่งนอนอยู่ท่ามกลางกลิ่นหอมนั้น ก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆ แม้แต่น้อย ยกเว้นอู่เหมา ที่เงยหน้าขึ้น และอ้าปากหาวอย่างเกียจคร้านออกมา
ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบสงบ มีเพียงไม่กี่คนที่กำลังมองไปยังมั่วฟาง ซึ่งสีหน้ากำลังเปลี่ยนไปทีละน้อย มันไม่เคยคิดเลยว่าจะมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น พร้อมกับเสียงแค่นอย่างเย็นชา มันกำมือในทันที ทำให้ธูปสีเขียวแตกออก กลิ่นหอมของธูปเริ่มเข้มข้นและหนาแน่นมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ขณะที่มันแตกกระจายออก
แต่…ต้าเหมาและเอ้อร์เหมา แม้แต่เปลือกตาของพวกมันก็ไม่ขยับแม้แต่น้อย สำหรับอู่เหมา มันสะกิดซื่อเหมาให้มาเล่นด้วย ไม่สนใจมั่วฟางโดยสิ้นเชิง
เมิ่งฮ่าวไอแห้งๆ ออกมา กลิ่นหอมนี้ไม่มีผลใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากการกลายพันธุ์ของพวกมัน ข้อบกพร่องก่อนหน้านี้ที่เคยมีอยู่ภายในตัวสุนัขป่าชิงมู่หายไปหมดแล้วในตอนนี้
“ไม่เลว” มั่วฟางกล่าว กระแอมไอออกมา “สุนัขป่าชิงมู่เหล่านี้เก่งมากที่ต่อต้านธูปนี้ได้ แต่ก็ไม่เป็นไร ข้า, มั่วฟาง ยังมีอีกหลายวิธี ถ้าวิธีที่ง่ายสุดไม่ได้ผลก็ไม่เป็นไร” ทันใดนั้น มันก็โบกสะบัดมือขวา ทำให้แสงสีแดงปรากฎขึ้นที่เบื้องหน้ามัน มองเห็นก้อนเนื้อขนาดใหญ่อยู่ภายใน
เนื้อสดนั้นมีโลหิตไหลหยดลงมา กลิ่นกระจายไปทั่วบริเวณนั้น อู่เหมามองขึ้นไปในทันที ซื่อเหมาและซานเหมาก็มองไปเช่นกัน พวกที่มุงดูอยู่รอบๆ ซึ่งมีรอยสักภาพศักดิ์สิทธิ์เป็นสุนัขป่าชิงมู่ถอยไปด้านหลัง สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว พวกมันรู้สึกว่าภาพศักดิ์สิทธิ์สุนัขป่าชิงมู่ที่อยู่ในตัวพวกมันกำลังขยับตัวอย่างวุ่นวาย จนดูเหมือนไม่อาจจะควบคุมได้ และจะพุ่งออกมาได้ทุกเมื่อ
มั่วฟางหัวเราะ “เลือดเนื้อของกวางดาว ดึงดูดใจจนสุนัขป่าชิงมู่ไม่อาจจะต้านทานได้ โดยเฉพาะเนื้อสดนี้ ซึ่งข้า, มั่วฟาง ได้กลั่นสกัดมาถึงแปดเดือน!” อู่เหมามีสีหน้าแปลกๆ ขณะที่มองไป มันทำท่าสูดดมไปสองสามครั้ง จากนั้นก็หันกลับไปเล่นกับซื่อเหมาต่อไป ซานเหมาดูเนื้อสดนั้นสักพัก จากนั้นก็ดูเหมือนจะรู้สึกเบื่อหน่ายและมองไปยังที่อื่น
เมิ่งฮ่าวหัวเราะหึๆ ในช่วงที่เขาฝึกสอนสุนัขป่าเหล่านี้ ได้เคยให้เนื้อเช่นนี้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ในตอนเริ่มต้นใหม่ๆ ครั้งแรก หลังจากนั้น เขาให้เนื้อเป็นอาหารแก่มันในตอนที่เขาแอบนำพวกมันออกไปในภูเขา และปล่อยให้พวกมันสังหารและกัดกินเนื้อสัตว์ป่าสดๆ สำหรับพวกมัน นี่เป็นเหมือนกับความเคยชิน เมื่อพบว่าเนื้อนั้นไม่มีความสดใหม่ พวกมันก็ไม่ค่อยสนใจนัก เหตุผลที่อู่เหมามองดูในตอนแรกก็เนื่องมาจากความอยากรู้อยากเห็นเท่านั้น
ดวงตามั่วฟางเบิกกว้าง แต่กลุ่มคนเผ่าอูต๋าที่อยู่รอบๆ ต่างก็มองมาที่มัน ดังนั้นมันได้แต่กระแอมไอออกมาเบาๆ และแกล้งทำสีหน้าชื่นชม
“ดูเหมือนข้าคงต้องใช้สิ่งที่ทรงพลังจริงๆ แล้ว!” มันกล่าวผ่านร่องฟัน โบกสะบัดมือ ทำให้ของเหลวสีเขียวปรากฎขึ้น แต่ก็ไม่ได้กระตุ้นปฏิกิริยาใดๆ จากต้าเหมา และตัวอื่นๆ
มั่วฟางเริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจ มันรีบร่ายเวทอย่างรวดเร็วด้วยสองมือ เกิดเป็นวิชาเวทที่ทำให้แสงของตราประทับอันเจิดจ้า พุ่งตรงไปยังสุนัขป่าชิงมู่ทั้งห้า อย่างไรก็ตาม สุนัขป่าก็ไม่ได้มองไปยังตราประทับเรืองแสงนั้นมากนัก พวกมันยังคงเล่นกันต่อไป นอกจากต้าเหมาที่หลับตาลงงีบหลับต่อไป
กลุ่มคนเผ่าอูต๋าที่อยู่รอบๆ มีสีหน้าแปลกๆ ขึ้น พวกมันได้เห็นมั่วฟางใช้ธูป, เนื้อ, น้ำ และแม้แต่เวทอาคม มันได้ใช้วิธีการมากมายจนเหงื่อมันเริ่มไหลรินลงมา…แต่ก็ไม่มีสิ่งใดที่จะไปกระตุ้นปฏิกิริยาของสุนัขป่าชิงมู่ได้แม้แต่น้อย พวกมันยังคงไม่สนใจมั่วฟางต่อไป
อูเฉิน, อูหลิง และคนอื่นๆ ทั้งหมดมองไปด้วยสีหน้าแปลกๆ แม้แต่ผู้เฒ่าของเผ่าก็ขมวดคิ้ว สำหรับผู้เฒ่าสูงสุดปฐพี มีรอยยิ้มอย่างครุ่นคิดอยู่บนใบหน้า ขณะที่มันมองไปยังมือขวาของเมิ่งฮ่าวอีกครั้ง
“ในตอนนี้ ข้าคิดว่าน่าจะสามารถยืนยันตัวตนของมันได้แล้ว” ผู้เฒ่าสูงสุดปฐพีคิดอยู่ในใจ มันเริ่มรู้สึกยินดีมากยิ่งขึ้น
มั่วฟางมองไปยังสุนัขป่าชิงมู่ทั้งห้า ดวงตาเริ่มแดงก่ำเล็กน้อย กัดฟันแน่น ตบไปที่ถุงสมบัติ ทำให้แสงสีโลหิตโผล่ขึ้น มาหยุดอยู่บนมือของมันในรูปแบบของเม็ดยาสีโลหิต
ทันทีที่เม็ดยาปรากฎขึ้น ใบหน้าของกลุ่มคนเผ่าอูต๋าที่อยู่รอบๆ ก็แสดงความตกตะลึงขึ้น รอยสักภาพศักดิ์สิทธิ์ของพวกมันเริ่มเรืองแสง ขณะที่สัตว์ปีศาจตัวแล้วตัวเล่าปรากฎขึ้น พวกมันเงยหน้าขึ้นไปในท้องฟ้าและคำรามแผดร้องออกมา จากนั้นก็จ้องเขม็งไปยังเม็ดยาสีโลหิตในมือมั่วฟาง ถ้าเจ้านายของพวกมันไม่ฉุดดึงพวกมันไว้ ก็ดูเหมือนสัตว์ปีศาจเหล่านี้จะพุ่งตรงไปโจมตีในทันที
ดวงตาผู้เฒ่าชนเผ่าหดเล็กลง “นั่นก็คือ…”
แม้แต่ดวงตาของผู้เฒ่าสูงสุดปฐพีก็หดแคบลง
เมื่อหยิบเม็ดยาออกมา มั่วฟางก็กล่าวเสียงเย่อหยิ่งออกมา “ข้าได้กลั่นสกัดยาเม็ดนี้ ตั้งแต่วันที่ข้ากลายเป็นซือหลงระดับหนึ่ง นี่ก็คือเม็ดยาบำรุงปีศาจ!”
นี่เป็นไพ่ไม้ตายของซือหลง เป็นวิธีพิเศษเฉพาะสำหรับสัตว์ปีศาจที่ตกเป็นเป้าหมาย
“เม็ดยาบำรุงปีศาจ!!”
“มันคือเม็ดยาบำรุงปีศาจในตำนาน! กล่าวกันว่ายาชนิดนี้ได้หายสาบสูญไปนานแล้วจากโลกแห่งนี้ แต่มั่วต้าซือกำลังถือมันอยู่ในมือแล้วตอนนี้”
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงโดยสิ้นเชิง
เสียงของมันเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ มั่วฟางกล่าว “ถึงแม้ว่านี่ไม่ใช่เม็ดยาบำรุงปีศาจจริงๆ ในตำนาน แต่มันก็ถูกถ่ายทอดลงมาจากบรรพบุรุษของข้า จริงๆ แล้วสูตรยาของมันยังมีข้อบกพร่องอยู่ ทำให้มันไม่อาจจะเทียบได้กับเม็ดยาของตระกูลหานเสวี่ย แต่ยาเม็ดนี้ของข้าก็ดีกว่าเม็ดยาอื่นๆ ในทะเลทรายตะวันตกแห่งนี้ มันสามารถทำให้สัตว์ปีศาจทั้งหมด ภายในรัศมีหนึ่งร้อยจ้างเริ่มคลุ้มคลั่ง!!”
เท่าที่มั่วฟางคิด ตอนนี้มันได้แสดงยาเม็ดนี้ออกมา ทำให้ไม่ต้องกังวลอะไรอีกต่อไป ถ้าไม่ใช่ว่ามันถูกบังคับ และทุกคนกำลังมองดูความล้มเหลวของมันอยู่ มันก็ไม่มีทางจะกล้าหยิบยาเม็ดนี้ออกมา
สัตว์ปีศาจทั้งหมดในบริเวณนั้นต่างก็ส่งเสียงคำรามแผดร้อง สุนัขป่าชิงมู่ของเมิ่งฮ่าวมองไปยังเม็ดยา แสงแปลกๆ ปรากฎขึ่นในดวงตาพวกมัน