ขณะที่เสียงแผดร้องดังก้องไปทั่วในอากาศ ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็สาดประกาย! เขาสัมผัสได้ถึงความบ้าคลั่ง ที่พุ่งขึ้นมาเนื่องจากเม็ดยาบำรุงปีศาจนี้ เขามองลงไปยังเม็ดยา จากนั้นก็มองไปยังสุนัขป่าชิงมู่ตัวน้อยทั้งห้า เขายื่นมือซ้ายออกไป และกดลงไปบนพื้นดิน
ขณะที่ทำเช่นนั้น เกราะป้องกันที่มองไม่เห็นก็ปรากฎขึ้น ปกคลุมอาณาเขตพื้นที่สิบกว่าจ้างรอบๆ ตัวเขา ฉับพลันนั้น มันก็ขวางกั้นปราณแปลกๆ ที่สัตว์ปีศาจสามารถสัมผัสได้ แต่ผู้ฝึกตนไม่สามารถ ออกไปในทันที
อย่างไรก็ตาม การกระทำของเขาก็ค่อนข้างช้าไปเล็กน้อย ขณะที่เกราะป้องกันปรากฎขึ้น เสียงกึกก้องเจ็ดถึงแปดเสียงก็ได้ยินมา เมื่อสัตว์ปีศาจที่ต่างชนิดกันเกือบยี่สิบตัวจู่ๆ ก็ปรากฎขึ้นใกล้ๆ บริเวณนั้น ส่งเสียงแผดร้องดังกระหึ่ม นี่เป็นสัตว์ปีศาจระดับหก พร้อมกับพลังที่เทียบเท่ากับขั้นสุดท้ายพื้นฐานลมปราณ ดวงตาพวกมันเป็นสีแดงก่ำ และเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง ขณะที่บินไปมาในท้องฟ้า
แต่พวกมันก็ไม่อาจจะค้นหาแหล่งที่มาของปราณนั้นได้ เนื่องจากเมิ่งฮ่าวได้ปิดบังไว้ นอกจากนี้ ผู้ฝึกตนที่เป็นผู้เลี้ยงสัตว์ปีศาจ ก็บินขึ้นไปเพื่อพยายามจะปลอบโยนให้พวกมันสงบลง หลังจากเวลาผ่านไปไม่นาน ในที่สุดทุกสิ่งทุกอย่างก็เริ่มสงบเงียบลงอีกครั้ง
เวลานี้ยามราตรีได้แผ่ปกคลุมไปทั่วพื้นดิน ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มมืดมิด เมิ่งฮ่าวมองออกไปยังความเงียบสงบที่ด้านนอก จากนั้นก็มองไปยังสุนัขป่าชิงมู่ตัวน้อยในบ้านไม้ของพวกมัน ดวงตาพวกมันเป็นสีแดงเจิดจ้า ถ้าประตูไม้ไม่แข็งแรงเพียงพอ ก็คงจะถูกพวกมันทำลายและพุ่งออกมาแล้ว
ดูเหมือนว่าเม็ดยาที่เขาปรุงขึ้นมานี้ เย้ายวนใจพวกมันอย่างน่าเหลือเชื่อ
“น่าสนใจนัก ตระกูลหานเสวี่ย…หรือข้าควรจะเรียกว่าชนเผ่าฉีหนาน ที่สามารถสร้างต้าซือหลงออกมาได้มากมาย ไม่ใช่เพียงแค่เนื่องมาจากวิชาลับซือหลงของพวกมัน แต่เป็นเพราะยาเม็ดนี้!”
“สัตว์ปีศาจ…ในตอนนั้นที่อยู่ในดินแดนสีดำ ข้าได้ดูดซับปราณอสูรโดยการใช้วิชาผนึกความเที่ยงธรรม จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมหญิงสาวจากทะเลทรายตะวันตก ถึงคิดว่าข้าคือจ้าวอสูร จริงๆ แล้วปราณอสูรก็แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก เรื่องทั้งหมดนี้ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอน” หลังจากที่ครุ่นคิดเรื่องราวเหล่านี้สักพัก เขาก็คัดลอกเม็ดยาบำรุงปีศาจมาบางส่วน จากนั้นก็ชี้นิ้วลงไปที่พื้นในทันที
“ผนึกความเที่ยงธรรม!” ทันใดนั้น ปราณอสูรที่มองไม่เห็นก็พุ่งขึ้นมา แต่ก็ไม่มากนัก เมิ่งฮ่าวได้แต่รวบรวมปราณอสูรในรัศมีหนึ่งร้อยจ้างรอบๆ บริเวณนั้น
ปราณอสูรพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ม้วนพันไปรอบๆ นิ้วเมิ่งฮ่าว เขามองออกไปก็เห็นสีหน้าแปลกๆ ของห้าสุนัขป่าตัวน้อย แทบจะดูเหมือนว่าความเย้ายวนใจที่พวกมันรู้สึกได้ในตอนนี้ ยังมีมากกว่าเม็ดยาบำรุงปีศาจก่อนหน้านี้ พวกมันทั้งหมดจ้องมองมายังเมิ่งฮ่าวอย่างเอาเป็นเอาตาย
ดวงตาเขาสาดประกาย พึมพำกับตัวเองชั่วครู่ เก็บเม็ดยาไว้ จากนั้นก็ยกเลิกเกราะป้องกันที่ปกคลุมอยู่รอบๆ ส่งจิตสัมผัสของแกนสีทองสมบูรณ์ขั้นสูงสุดออกไปทั่วทุกทิศทางอย่างเงียบๆ ไม่มีสัตว์ปีศาจ หรือผู้ฝึกตนใดๆ จะสามารถรับรู้ได้ถึงจิตสัมผัสนี้
ด้วยจิตสัมผัสนี้ เขาสามารถมองเห็นสัตว์ปีศาจนับร้อยทั้งหมดในพื้นที่บริเวณนั้น ดูเหมือนพวกมันจะกระสับกระส่าย แต่ก็ไม่ได้คลุ้มคลั่งเหมือนก่อนหน้านี้
“น่าสนใจนัก…” เมิ่งฮ่าวครุ่นคิดอยู่สักพัก ครั้นแล้วแผนการที่บ้าบิ่นก็พุ่งขึ้นมาในจิตใจ เขาสร้างเกราะป้องกันขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นก็หยิบเม็ดยาบำรุงปีศาจออกมา ดวงตาแวววาว ทำให้ปราณอสูรหมุนวนไปมารอบๆ นิ้ว จากนั้นก็แตะลงไปบนเม็ดยา
การกระทำเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องใช้กระถางปรุงยา เปลวไฟแห่งการปรุงยาที่มองไม่เห็นของเขา ค่อยๆ หลอมปราณอสูรเข้าไปในเม็ดยา ทันทีที่มันเกิดขึ้น ความเงียบในยามราตรีก็ถูกทำลายลง เมื่อลานบ้านที่เลี้ยงสัตว์ปีศาจนับร้อยต่างก็มีเสียงแผดร้องปะทุขึ้นมา ถึงแม้จะมีเกราะป้องกันที่เมิ่งฮ่าวสร้างขึ้นมาก็ตามที
ระดับความบ้าคลั่งนี้เกินกว่าก่อนหน้านี้มากนัก เสียงแผดร้องดังก้องออกไป กระหึ่มกึกก้องจนทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างสั่นสะเทือนอย่างยากจะอธิบายออกมาได้
นี่ไม่ใช่เสียงแผดร้องของสัตว์ปีศาจจำนวนน้อยๆ แต่เป็นสัตว์ปีศาจทั้งหมด! เพียงชั่วพริบตา เสียงแผดร้องก็ดังกระหึ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ กระจายไปทั่วทั้งเผ่าอูต๋า!
เป็นเสียงที่ดังมากกว่าความวุ่นวายที่เกิดมาจากยาเม็ดแรก
อูไห่อยู่ที่นั่นท่ามกลางสหายของเผ่า สีหน้ามันเต็มไปด้วยความงุนงง ไม่แน่ใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น เช่นเดียวกับคนที่อยู่รอบๆ ตัวมัน อะไรที่ทำให้สัตว์ปีศาจทั้งหมดแผดร้องออกมาเช่นนี้?
ภายในเผ่าอูต๋า สมาชิกของเผ่าคนแล้วคนเล่าตื่นขึ้นมา และรู้สึกตกใจในทันที
“สัตว์ปีศาจทั้งหมดต่างก็กำลังแผดร้อง เกิดอะไรขึ้น?”
“มีอะไรเกิดขึ้นที่เขตเลี้ยงสัตว์ปีศาจ?”
“ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น นี่เป็นไปไม่ได้! นี่คือ…สัตว์ปีศาจทั้งหมดหลายร้อยตัวกำลังแผดร้องขึ้นพร้อมกัน!”
อย่างไรก็ตาม ในท่ามกลางความตกใจนี้…
ตรงภูเขาสูงที่แบ่งแยกอาณาเขตด้านหน้าของชนเผ่า ออกมาจากเขตเลี้ยงสัตว์ปีศาจที่ด้านหลัง ฉับพลันนั้น ก็แยกออกจากกันโดยเสียงแผดร้องอันทรงพลังอย่างน่าตกใจเสียงแล้วเสียงเล่า
ทั้งหมดมีห้าเสียง เสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ในอากาศ และดังก้องออกมาขณะที่ลำแสงห้าลำพุ่งขึ้นไป ภายในแต่ละลำแสงเป็นสัตว์ปีศาจที่มีความยาวสิบกว่าจ้าง สามลำแสงเป็นสุนัขป่าชิงมู่ หนึ่งเป็นเต่าดำ และสุดท้ายเป็นพยัคฆ้ขียวที่ดุร้าย
พลังที่กระจายออกมาจากสัตว์ปีศาจทั้งห้านี้น่าตกใจยิ่ง เทียบได้กับขั้นสุดท้ายสร้างแกนลมปราณ นี่เป็นสัตว์ปีศาจระดับเก้า! เสียงแผดร้องที่พวกมันเปล่งออกมา รวมเข้าด้วยกันกับสัตว์ปีศาจตัวอื่นๆ อีกนับร้อย เกิดเป็นเสียงดังมากมายจนพุ่งขึ้นไปถึงสวรรค์
ถ้าทั้งหมดนี้มีอยู่แค่นี้ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอันใด แต่ขณะที่เสียงแผดร้องอย่างน่าตกใจพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า ภายในกลุ่มคนนับพันของเผ่าอูต๋า ใบหน้าของหลายๆ คน จู่ๆ ก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ในตอนนี้เองที่รอยสักศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บนร่างพวกมันเริ่มร้อนขึ้นมา สัตว์ปีศาจที่มีการผูกมัดไว้กับพวกมัน ทันใดนั้นก็ปรากฎขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ ส่งเสียงแผดร้องขึ้นไปในท้องฟ้า ขณะที่พวกมันพุ่งออกไป
ภาพที่เห็นนี้แปลกประหลาดอย่างถึงที่สุด สมาชิกของชนเผ่าเกือบห้าร้อยคนมองไป ขณะที่รอยสักภาพศักดิ์สิทธิ์ของพวกมันเริ่มเรืองแสงขึ้น จากนั้นสัตว์ปีศาจก็กระโดดออกมา ส่งเสียงคำรามแผดร้อง
“ข้าควบคุมสุนัขป่าชิงมู่ของข้าไม่ได้!!”
“บัดซบ, เหยี่ยวหงส์ของข้ากำลังคลุ้มคลั่ง!!”
“เกิดอะไรขึ้น!? สัตว์ปีศาจเหล่านี้กำลังคิดกบฎ!?”
เสียงพูดคุยดังเต็มไปทั่วในอากาศ ทีละคน ทีละคน ผู้ฝึกตนที่ได้ผูกมัดกับสัตว์ปีศาจบินขึ้นไปในอากาศ
ขณะที่เป็นเช่นนั้น เงาร่างอันทรงพลังสิบกว่าร่าง ก็พุ่งออกมาจากภูเขาตรงไปยังสัตว์ปีศาจ
“นั่นก็คือท่านผู้เฒ่า! แม้แต่พวกท่านก็ยังต้องแสดงตัวออกมา!”
“ท่านผู้เฒ่ามักจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องงานของชนเผ่า พวกท่านยากที่จะออกมา แต่ก็มาอยู่ที่นี่แล้ว!”
เหตุการณ์ของคืนนี้ คงจะจารึกฝังแน่นอยู่ในจิตใจของคนเผ่าอูต๋าไปจวบชั่วชีวิตของพวกมัน ผู้คนเริ่มส่งเสียงร้องด้วยความตกใจออกมา ขณะที่เสียงคำราม ฉับพลันนั้น ก็ดังออกมาจากยอดเขา เป็นเสียงที่พวกมันหลายคนไม่เคยได้ยินมานาน, นานมากแล้ว
ขณะที่เสียงคำรามนั้นดังก้องออกมา ภูเขาสั่นสะเทือน พื้นดินรอบๆ บริเวณนั้นสั่นไหว ทันใดนั้น กิ่งก้านต้นไม้ก็ลอยออกมา เป็นกิ่งที่เก่าแก่และแห้งเหี่ยว กระจายปราณอันโบราณลึกล้ำออกมา กิ่งไม้ที่ลอยออกมานี้ เปล่งแสงสีเขียวเจิดจ้า จากนั้นก็กลายเป็นมนุษย์ต้นไม้ที่มีความสูงประมาณสามจ้าง! (1 จ้าง ประมาณ 3 เมตร)
ใบหน้าของมนุษย์ต้นไม้ดูเก่าแก่โบราณ และร่างกายของมันก็ก่อตัวขึ้นมาจากกิ่งก้านต้นไม้อย่างแน่นหนา ซึ่งปกคลุมไปด้วยใบไม้แห้งจำนวนมากมาย ดูเหมือนว่ามันจะอยู่ในช่วงที่มีพลังลดน้อยลง มันลอยอยู่ที่นั่นในกลางอากาศ และจากนั้นก็ส่งเสียงคำรามดังก้องออกมา
ทันทีที่เสียงคำรามนี้เริ่มดังขึ้นมา ใบหน้าของคนเผ่าอูต๋าทั้งหมด ก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจและไม่อยากจะเชื่อ อ้าปากค้าง พวกมันคุกเข่าลงไป
นอกจากทั้งหมดนี้แล้ว ก็ยังมีอีกสามเงาร่าง ที่ฉับพลันนั้น ก็บินออกมาจากเขตภูเขา แต่ละเงาร่างมีพื้นฐานฝึกตนอยู่ที่ขั้นวิญญาณแรกก่อตั้ง และหนึ่งในนั้นอยู่ในขั้นกลางวิญญาณแรกก่อตั้ง พวกมันพุ่งตรงไปยังมนุษย์ต้นไม้ในทันที ขณะที่ทำเช่นนั้น คนเผ่าอูต๋าที่อยู่ด้านล่างก็จดจำพวกมันได้ หนึ่งเป็นหัวหน้าเผ่า และอีกสองคนเป็นผู้เฒ่าสูงสุด!
ผู้เฒ่าสูงสุด และหัวหน้าเผ่า เป็นผู้ที่ทรงพลังมากที่สุดของเผ่า!
“ขอคารวะ ท่านบรรพบุรุษชิงมู่!” หัวหน้าเผ่าผู้ชรากล่าว สำหรับสองผู้เฒ่าสูงสุด พวกมันสวมใส่ชุดยาวสีเขียวห่อหุ้มปิดซ่อนรูปลักษณ์ของพวกมันไว้ แม้คนทั้งสามจะกระจายปราณอันแข็งแกร่งออกมา แต่ก็ยังมองเห็นความหวาดกลัวและเกรงขามอยู่ในดวงตาพวกมัน เกือบจะผ่านวงจรหกสิบปีไปสองรอบแล้ว ที่พวกมันเคยเห็นบรรพบุรุษชิงมู่ ด้วยความตกใจ พวกมันประสานมือและโค้งตัวลงให้กับมนุษย์ต้นไม้
“อสูร, ข้าสัมผัสได้ถึงอสูร…” มนุษย์ต้นไม้ยักษ์พูดขึ้น ส่งเสียงคำรามดังก้องออกไป กระตุ้นให้สัตว์ปีศาจของเผ่าอูต๋าส่งเสียงแผดร้องดังออกมามากขึ้น
ห้าชนเผ่าที่ครั้งหนึ่งเคยรวมกันเป็นเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ ได้กระจายไปอยู่รอบๆ อาณาเขตจากจุดศูนย์กลางของพวกมันทั้งหมด เหมือนกับนิ้วทั้งห้าบนฝ่ามือ ในตอนนี้เองที่เผ่าถัดไป, เผ่าอูปิง สัตว์ปีศาจของพวกมันทั้งหมด เงยหน้าขึ้นส่งเสียงคำรามแผดร้องออกมา
เผ่าอูปิงเป็นเผ่าธาตุโลหะ ดังนั้นสัตว์ปีศาจหลักๆ ของพวกมันก็ถูกสร้างขึ้นมาจากโลหะเช่นกัน เช่น กระบี่บิน, อาวุธเวท และแม้แต่ยักษ์โลหะ ทันใดนั้น พวกมันทั้งหมดก็หลุดจากการควบคุมบินออกมา ขณะที่สัตว์อสูรอื่นๆ ที่สมาชิกของเผ่าได้ประทับตราไว้ก็หลุดออกมาเช่นกัน ทีละตัว ทีละตัว พวกมันบินขึ้นไปในอากาศ
ที่น่าตกใจมากไปกว่านั้นก็คือ แสงสีทองปรากฎขึ้นบนยอดเขาของเผ่าอูปิง กลายเป็นสามง่ามสีทองขนาดยักษ์ ส่องแสงสีทองเจิดจ้าออกมา พร้อมกับปราณอันน่าตกใจ
“ปราณอสูร…ข้าสัมผัสได้ถึงปราณอสูร!!”
ลมปราณได้ระเบิดออกมาพร้อมเพรียงกัน ขณะที่สัตว์ปีศาจของเผ่าอูโต้ว, เผ่าอูเหยียน และเผ่าอูอ้านเริ่มส่งเสียงแผดร้องออกมาในเวลาเดียวกัน ในชนเผ่าอูโต้ว ระลอกคลื่นของธาตุดินปรากฎขึ้น ทันใดนั้น น้ำพุโคลนก็พุ่งขึ้นมาราวกับเป็นภูเขาไฟ มันลอยอยู่ที่นั่นในกลางอากาศ กลายเป็นทะเลสาบโคลนที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางสามสิบกว่าจ้าง
ภายในเผ่าอูเหยียน ทะเลเปลวไฟพุ่งกระจายไปทั่วในอากาศ ภายในเปลวไฟเป็นอาชาเปลวไฟสีดำขนาดใหญ่ ดวงตาสีแดงเข้มของมันจ้องมองตรงไปยังเผ่าอูต๋า
ภายในเผ่าอูอ้าน ไอน้ำกระจายออกมา กลายเป็นกลุ่มเมฆและสายฝน!
ในตอนนี้ สมาชิกทั้งหมดของชนเผ่าทั้งห้า, ผู้เฒ่า, ผู้เฒ่าสูงสุด, หัวหน้าเผ่า คนทั้งหมดยืนอยู่ที่นั่น จิตใจสั่นสะท้านอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ปรมาจารย์วิญญาณแรกก่อตั้ง ซึ่งได้แฝงตัวเข้าไปอยู่ในเผ่าอื่นๆ ก็ยืนตกตะลึงอยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน คาดเดาไปต่างๆ นาๆ ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
ในขณะที่ความตกใจแผ่กระจายออกไปทั่วทั้งเผ่าต่างๆ สีหน้าเมิ่งฮ่าวก็มีท่าทีแปลกใจด้วยเช่นเดียวกัน เขาสัมผัสได้ถึงปราณอันน่าตกใจนี้ด้วยเช่นกัน
“คราวนี้ได้ผลลัพธ์อันยิ่งใหญ่แล้ว…” เขาได้เริ่มพยายามจะปิดผนึกเม็ดยาไว้นานแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ว่าเขาจะใส่มันเก็บเข้าไปในถุงสมบัติก็ตามที ดูเหมือนว่าเกราะป้องกันเกือบจะไม่ได้มีอยู่ เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีเวลามากที่สุดแค่ยี่สิบลมหายใจ ก่อนที่สิ่งแปลกๆ ทั้งหมดที่ด้านนอกจะสามารถรับรู้ได้ว่าเขาอยู่ที่ไหนกันแน่
ในตอนนี้ถึงแม้จะมีผลลัพธ์อันยิ่งใหญ่เกิดขึ้นมา แต่แรงกดดันอย่างน่าเหลือเชื่อก็ปรากฎขึ้นในฉับพลัน!