สีหน้าเมิ่งอ่าวราบเรียบ ขณะที่เขาเริ่มใช้วิชาเวทแปรสภาพเต๋าแห่งยา เพียงชั่วพริบตา เปลวไฟบนฝ่ามือเขาก็แยกออกเป็นสองส่วน ลึกเข้าไปข้างในจิตใจ ตัวแปรของเม็ดยาที่แตกต่างกันจำนวนมากมายลอยเรียงแถวกันไปมา เขาเริ่มทำการปรับเปลี่ยน และขณะที่ทำเช่นนั้น กระถางปรุงยาก็เริ่มกลายเป็นสีแดงเจิดจ้าอย่างช้าๆ
ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขณะที่เขาใช้มือขยับร่ายเวท จากนั้นก็กดลงไปบนกระถางปรุงยาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกครั้งที่เขาแตะสัมผัสมัน กระถางปรุงยาก็สั่นไปมา และเสียงแตกร้าวก็ได้ยินมาจากด้านใน ในที่สุดกลิ่นหอมของตัวยาก็เริ่มกระจายออกมา แต่ที่แปลกมากไปกว่านั้นก็คือ เกือบจะในทันทีที่กลิ่นหอมกระจายออกมา ผู้คนพยายามจะสูดดมมันเข้าไป แต่ก็ไม่สามารถจะทำได้
กลิ่นหอมอยู่ตรงหน้าพวกมัน แต่ก็ไม่สามารถสูดดมเข้าไปได้! ปรากฎการณ์ที่แปลกประหลาดเช่นนี้ ทำให้สีหน้าผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ ทั้งหมดเปลี่ยนไป สี่ผู้อาวุโสสูงสุดจ้องมองมาด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
“เกิดอะไรขึ้น? คนผู้นี้กำลังปรุงเม็ดยาอะไร? ทำให้สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมของตัวยา แต่ก็เหมือนกับว่ามันไม่มีอยู่จริง!”
“ช่างเป็นเม็ดยาที่ประหลาดนัก นักปรุงยาผู้นี้อาจจะยังเยาว์ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าไม่อาจจะดูถูกได้”
“อา, มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอันใด มันอาจจะเป็นเวทลวงตาประเภทหนึ่งก็ได้ แค่มองดูโจวต้าซือ ก็เห็นได้ชัดว่า ท่านรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น”
จิตใจโจวเต๋อคุนกำลังงุนงง แต่โดยไม่ต้องขบคิด มันยิ้มออกมาราวกับว่าทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งในแผนการของมัน ดูเหมือนมันกำลังให้การยกย่องชมเชยต่อผู้เยาว์รุ่นหลังอยู่
มันได้ฝึกฝนแสดงสีหน้าเช่นนี้ จนมาถึงจุดสูงสุดแห่งความสมบูรณ์แบบ ในตอนนี้ ต่อให้ภูเขาไท่ซานถล่มลงมาตรงหน้าสายตามัน แม้จะเป็นเช่นนั้น มันก็จะทำให้ทุกคนเชื่อว่านี่เป็นการกระทำของมันเอง
นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่มันสามารถมีชื่อเสียงโด่งดังอยู่ในดินแดนสีดำ ด้วยการสามารถแสดงสีหน้าเช่นนี้โดยไม่ต้องขบคิด มันก็ทำให้คนที่มองมาทั้งหมดเกรงกลัวจนตัวเกร็ง
สีหน้าเหยียนซงตั้งอกตั้งใจจดจ่ออย่างเข้มข้น ขณะที่จ้องไปยังกระถางปรุงยาของเมิ่งฮ่าว อย่างช้าๆ ดวงตามันเริ่มเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“นั่นก็คือ…กลิ่นหอมในตัวเองของเม็ดยา! ยาเม็ดนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ดังนั้นกลิ่นหอมของมันจึงเป็นเพียงภาพลวงตา มันกระจายความต้องการในการดูดซับพลังปราณของสวรรค์และปฐพีออกมา! ทุกคนสามารถรู้สึกได้ แต่ก็ไม่อาจจะสูดดมมันได้จริงๆ! นี่เป็นอาณาจักรของการปรุงยาที่เคยมีอยู่ในตำนาน! คนผู้นี้…” ยิ่งเหยียนซงครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าใด มันก็ยิ่งตกตะลึงมากขึ้นเท่านั้น มันมองไปยังโจวเต๋อคุน เมื่อได้เห็นสีหน้าที่ลึกล้ำจนยากหยั่งถึง ก็ทำให้จิตใจมันหนักอึ้งขึ้นมา
“โจวเต๋อคุนผู้นี้มีความลึกล้ำจนถึงระดับใดกันแน่?” มันคิด
ขณะพวกที่มุงดูอยู่ถูกปกคลุมด้วยความตกตะลึงอย่างต่อเนื่อง เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดมือซ้าย หยิบเอาต้นสมุนไพรบางอย่างออกมา ครั้งนี้ เขาไม่ได้บดขยี้มันให้กลายเป็นผุยผง แต่รวบรวมยางไม้และกิ่งก้านมา จากนั้นก็ใส่เข้าไปในกระถางปรุงยา แสงสีแดงเจิดจ้าของกระถางปรุงยายิ่งเข้มข้นมากขึ้น ในที่สุด ครึ่งชั่วยามก็ผ่านไป สุดท้ายเมิ่งฮ่าวก็ตบไปที่กระถางปรุงยา
เสียงระเบิดดังก้องอยู่ในอากาศ ทำให้ทุกคนคิดว่า ในที่สุดก็ปรุงยาเม็ดนี้สำเร็จแล้ว ในตอนนี้เองที่พื้นดินเริ่มสั่นสะเทือน และทันใดนั้น ก็มีบางสิ่งที่คล้ายกับเสียงหวีดหวิวของสายลมได้ดังขึ้นมา แต่ไม่นานทุกคนก็ตระหนักว่านี่ไม่ใช่สายลม!
แต่มันเป็นพลังลมปราณ!
พลังลมปราณทั้งหมดในเมืองเซิ่งเสวี่ยเริ่มพุ่งเข้ามา ก่อตัวเป็นบางสิ่งที่ดูเหมือนกระแสน้ำวนขนาดใหญ่
แกนกลางของกระแสน้ำวนแห่งพลังลมปราณนี้ ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากเป็นกระถางปรุงยาที่อยู่ในมือเมิ่งฮ่าว
“นี่…” ผู้อาวุโสอันดับแรกก้าวเดินไปข้างหน้าช้าๆ อ้าปากค้าง มันไม่เคยได้ยินมาก่อนว่า เม็ดยาจะทำให้พลังลมปราณปั่นป่วนได้ถึงขนาดนี้
ผู้อาวุโสคนอื่นๆ มองมาอย่างงุนงง เต็มไปด้วยความตกตะลึง สมาชิกตระกูลหานเสวี่ยคนอื่นๆ ทั้งหมด รวมถึงหานเสวี่ยชาน ต่างก็มองมาด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงกันทั้งหมด รวมถึงผู้ฝึกตนนับร้อยที่มามุงดู พวกมันเริ่มหอบหายใจอย่างเร่งร้อน และในที่สุด เสียงพูดคุยก็ดังกระจายไปทั่ว
“การปรุงเม็ดยาสามารถทำให้พลังลมปราณไหลเข้ามาได้เช่นนั้นจริงๆ? นี่…นี่เป็นเม็ดยาอะไรกัน?”
“มันกำลังปรุงเม็ดยาอยู่จริงๆ? แทบไม่อยากจะเชื่อเลย!”
ขณะที่เสียงพูดคุยดังเต็มอยู่ในอากาศ โจวเต๋อคุนก็มองมาด้วยความภาคภูมิใจต่อไป มันยังได้ยกมือขึ้นมาลูบไปที่เคราของมันอย่างช้าๆ ค่อยๆ แสดงท่าทีชื่นชม ราวกับว่าสิ่งที่น่าเหลือเชื่อซึ่งกำลังเกิดขึ้นทั้งหมดนี้ เป็นแผนการอันสุดยอดของมันเอง
แน่นอนว่าด้านใน จิตใจมันไม่เคยหยุดเต้นอย่างรวดเร็วเลย และมันก็แทบอยากจะแผดร้องออกมาดังๆ
“ไม่ใช่มนุษย์” มันคิด “สัตว์ประหลาด! ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่า นอกจากฟางมู่แล้ว จะมีใครที่แปลกประหลาดในเรื่องของเต๋าแห่งการปรุงยาได้เช่นนี้ จริงๆ แล้วมันกำลังทำอะไรกันแน่? มันกำลังปรุงเม็ดยาอะไร…?” ขณะที่มันเริ่มกังวลใจมากขึ้น สีหน้าภาคภูมิใจและอิ่มเอมใจ ก็กระจายออกมาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อผู้คนมองเห็นสีหน้าของมัน รวมถึงเหยียนซง ก็ยิ่งเพิ่มความโดดเด่นของมันขึ้นในสายตากลุ่มคนเหล่านั้น
“ไม่มีทัณฑ์เม็ดยา” เหยียนซงคิด มองขึ้นไปในท้องฟ้า “ยาเม็ดนี้ดูเหมือนจะน่าตกใจยิ่ง แต่ก็ไม่ได้มหัศจรรย์อย่างแท้จริง” มันรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยเพราะเรื่องนี้
ในตอนนี้เองที่เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นมา “ท่านทั้งหลาย ข้าเกรงว่าพวกท่านคงต้องรอนานขึ้นอีกเล็กน้อย ยาเม็ดนี้ยังขาดส่วนผสมสุดท้ายที่สำคัญอยู่” กระถางปรุงยาเป็นสีแดงเข้มเจิดจ้า และอากาศรอบๆ กระถางก็บิดเบี้ยวไปมา พลังลมปราณจำนวนมากมายมหาศาลยังคงไหลเข้ามาจากทุกทิศทางอย่างต่อเนื่อง ถูกดูดซับเข้าไปในกระถางปรุงยา ซึ่งส่องแสงเจิดจ้าราวกับว่าเมิ่งฮ่าวกำลังถือตะวันดวงน้อยๆ อยู่ในมือ
ในตอนนี้ เมิ่งฮ่าวดูน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง
พวกที่มุงดูเริ่มประหลาดใจขึ้นมาในทันที
“ขาดส่วนผสมหลักสุดท้าย? มันหมายความว่าอย่างไร? ทำไมมันไม่ใส่ส่วนผสมสุดท้ายตอนนี้เลย?”
“มีบางอย่างไม่ถูกต้อง ใช่หรือไม่ว่ามันกำลังรอใครบางคนนำส่วนผสมสุดท้ายมาส่งให้?”
สี่ผู้อาวุโสสูงสุดขมวดคิ้วด้วยความสับสน จากนั้นก็มองไปยังโจวเต๋อคุน
ไม่เพียงแต่พวกมันเท่านั้น เหยียนซงก็มองไปที่โจวเต๋อคุนความความงุนงงด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ หานเสวี่ยจ้ง รวมถึงผู้ฝึกตนขั้นสุดท้ายวิญญาณแรกก่อตั้ง ผู้ซึ่งไม่ได้พูดจาแม้แต่คำเดียวมาก่อน ทั้งคู่ต่างก็กำลังมองไปยังโจวเต๋อคุน
โจวเต๋อคุนยิ้มอย่างไม่แยแสขณะที่มันลูบเคราอย่างต่อเนื่อง มีท่าทางเยือกเย็นและดูลึกลับ ราวกับว่ามันกำลังดูสิ่งที่เกิดขึ้นตามแผนการที่มันวางไว้อย่างมีความสุข ความสามารถในการแสดงท่าทางเป็นผู้สูงส่งของมันดูเหมือนจะงามพร้อมจนไร้ที่ติอย่างแท้จริง
ด้านในลึกๆ มันกำลังก่นด่าสาปแช่งทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความวิตก รวมถึงสวรรค์, ปฐพี และแม้แต่พวกที่มุงดูอยู่ทั้งหมด สองนักปรุงยาได้ปรากฎขึ้น แต่ละคนก็ดูเหมือนจะเก่งเกินกว่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไป แต่ทุกคนที่มุงดูกลับคิดว่ามันเป็นผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุด
มีแต่คนที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงเท่านั้น ที่จะพยายามป้องกันไม่ให้ตัวเองพังทลายลง โจวเต๋อคุนกระแอมไอ ทุกคนที่กำลังมองมา รอคอยคำอธิบายจากมัน
“โจวต้าซือ, ได้โปรดช่วยให้พวกเราหายสงสัยด้วย”
“ใช่แล้ว! โจวต้าซือ, อะไรคือส่วนผสมหลักสุดท้าย ที่บุรุษผู้นี้ต้องใช้ในการปรุงยาของมัน? ใช่จะมาถึงที่แห่งนี้ในไม่ช้าหรือไม่?”
แม้แต่เหยียนซง ก็ประสานมือต่อโจวเต๋อคุน และกล่าวอย่างจริงจัง “โจวต้าซือ, ได้โปรดคลายความสับสนนี้ด้วย”
“ข้าจะคลายความสับสนให้กับน้องสาวของเจ้า! ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรว่าส่วนผสมสุดท้ายคืออะไร!” แน่นอนว่านี่เป็นแค่สิ่งที่โจวเต๋อคุนกล่าวอยู่ภายในใจ ใบหน้ามันยังคงมีท่าทางเย่อหยิ่งเหมือนเช่นเคย ยิ้มน้อยๆ ออกมา ขณะที่มองขึ้นไปบนท้องฟ้า
“ในความคิดของข้า” มันกล่าว “ส่วนผสมสุดท้ายเป็นสิ่งของที่พิเศษเป็นอย่างมาก มันเป็นสิ่งทีเรียบง่าย และลึกลับ มันเป็นสิ่งที่มีความพิเศษอยู่ในความธรรมดา เต๋าแห่งการปรุงยาที่ต้องใช้ส่วนผสมเช่นนี้ ไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าจะสามารถเข้าใจได้ เมื่อไม่เข้าใจแล้วจะเรียกร้องขอคำอธิบายทำไม?” โจวเต๋อคุนยังคงรักษาท่าทีสูงส่งไว้ ขณะที่มันอธิบายอย่างคลุมเครือ ถ้าไม่ใช่ทุกคนคิดว่ามันเป็นเจ้าโอสถแล้วละก็ พวกมันก็ต้องคิดว่าคำอธิบายเช่นนี้เป็นคำพูดที่เหลวไหลอย่างแน่นอน
แต่เนื่องจากพวกมันถูกความคิดของตัวเองครอบงำ จึงทำให้ดูเหมือนว่าเป็นคำพูดที่ลึกซึ้งและลี้ลับอย่างแท้จริง
อันที่จริง เหตุผลที่โจวเต๋อคุนมองขึ้นไปในท้องฟ้า ขณะที่มันทำการอธิบายก็เป็นเพราะ มันรู้สึกว่าไม่ว่าส่วนผสมหลักสุดท้ายนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม ถ้ามันขาดหายไป ก็หมายความว่าต้องมีใครบางคนนำมันมาส่งให้ และถ้าใครคนนั้นจะนำมาส่ง ก็ต้องบินมาอย่างแน่นอน
ถึงแม้มันจะไม่ได้ถูกนำมาส่งโดยใครบางคนที่บินมา มันก็ยังมีเหตุผลอื่นที่จะมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ต้นสมุนไพรถูกสร้างขึ้นมาจากสวรรค์และปฐพี ดังนั้น การมองขึ้นไปยังสวรรค์ ก็ไม่ใช่เป็นกลยุทธ์ที่ผิดพลาดแต่อย่างใด
เมิ่งฮ่าวสังเกตเห็นสิ่งที่โจวเต๋อคุนกำลังกระทำอยู่ และทันใดนั้นก็เกิดความรู้สึกแปลกๆ ขึ้น ที่จู่ๆ เขาก็ตระหนักว่าเมื่ออยู่ในดินแดนสีดำ โจวเต๋อคุนช่างน่าตลกกว่าตอนที่อยู่ในสำนักจื่อยิ่นมากนัก
เมิ่งฮ่าวก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้าเช่นเดียวกัน และจากนั้นก็คิดว่า “ข้ามาอยู่ที่นี่ได้เจ็ดถึงแปดวันแล้ว จากการคิดคำนวนของข้า เวลาน่าจะใกล้เข้ามาแล้ว ข้าควรจะรออีกไม่นานนัก” แม้ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิด ทันใดนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไป โดยไม่ลังเลเขาตบไปที่ถุงสมบัติ ปรมาจารย์ตระกูลหลี่ จู่ๆ ก็ปรากฎขึ้น ถูกเหวี่ยงจนสูงขึ้นไปในอากาศ
เสียงระเบิดดังก้องออกมา ขณะที่สายฟ้าอันน่าตกใจปรากฎขึ้นในท่ามกลางท้องฟ้าสีครามอันไร้ขอบเขต เสียงกระหึ่มกึกก้องนี้ดังมากไปกว่าเสียงที่เกิดจากทัณฑ์เม็ดยามากนัก มันกระแทกลงมาบนร่างของปรมาจารย์ตระกูลหลี่ ซึ่งส่งเสียงแผดร้องอย่างโหยหวนออกมาในทันที สายฟ้าเริ่มอ่อนจางลงไปในทันใด และก่อนที่ปรมาจารย์ตระกูลหลี่จะทันได้เริ่มส่งเสียงก่นด่าสาปแช่ง เมิ่งฮ่าวก็เก็บมันกลับเข้าไปในถุงสมบัติ จากนั้น เขาก็ชักนำสายฟ้าที่อ่อนจางนั้นตรงเข้าไปในกระถางปรุงยา
ส่วนผสมหลักสุดท้ายที่เมิ่งฮ่าวรอคอย ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากทัณฑ์สายฟ้านี่เอง!
เสียงระเบิดดังก้องออกมาจากกระถางปรุงยา สายฟ้าเต้นระริกไปมา ส่งผลให้เกิดเป็นเสียงฟ้าร้องดังกระหึ่มกึกก้องอย่างน่าตกใจออกมา กระถางปรุงยาเริ่มสั่นสะท้าน และจากนั้นฝากระถางก็ลอยขึ้น เม็ดยาซึ่งล้อมรอบไปด้วยสายฟ้าพุ่งออกมา
ทันทีที่เม็ดยาปรากฎขึ้น ท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยกลุ่มเมฆสีดำอย่างแน่นหนา นี่ไม่ใช่เมฆลงทัณฑ์ แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ราวกับว่าเม็ดยาไปดึงดูดความสนใจของฟ้าแลบและฟ้าร้องตามธรรมชาติขึ้นมา ด้านบนขึ้นไป กลุ่มเมฆม้วนตัวไปมา ทำให้พื้นดินสั่นสะเทือนไปทั่ว
กลิ่นหอมของตัวยาที่กระจายออกมา ทันใดนั้น ก็พลุ่งพล่านปั่นป่วนและถูกดูดซับเข้าไปในเม็ดยา ถูกทำให้แข็งตัวอยู่ด้านใน เม็ดยาเปลี่ยนเป็นโปร่งใสขึ้นในทันที และเริ่มกระจายแสงเจิดจ้าออกมา เห็นได้ชัดว่าเป็นเม็ดยาที่ไม่ธรรมดาเป็นอย่างมาก
ในเวลาเดียวกันนั้น พลังปราณทั้งหมดในบริเวณนั้น ก็พรั่งพรูประดังเข้ามาเหมือนกับน้ำที่ไหลเชี่ยวจนเอ่อล้น ดูเหมือนว่าทันใดนั้น เม็ดยาก็ทำให้เกิดเป็นกระแสน้ำวนขนาดใหญ่ ซึ่งดูดซับพลังปราณทั้งหมดเข้ามา เสียงฟ้าร้องที่อยู่ด้านบนก็เริ่มดังกระหึ่มมากยิ่งขึ้น
ในขณะที่ดูเหมือนว่าสายฟ้ากำลังจะฟาดลงมา เมิ่งฮ่าวก็ยื่นมือออกไปและคว้าจับเม็ดยาที่ถูกปกคลุมด้วยสายฟ้าเอาไว้ มองดูมันอย่างละเอียดและจากนั้นก็พยักหน้า
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำการปรุงยาเช่นนี้ หลังจากที่ได้เห็นเหยียนซงใช้วิชาการปรุงยาด้วยห้าธาตุ เขาก็เกิดแรงบันดาลใจนำวิธีนั้นมาหลอมรวมเข้ากับวิธีการของตัวเอง ถึงแม้มันจะไม่สมบูรณ์แบบเต็มที่ แต่ก็ได้ทำให้จิตใจเขามีความคิดใหม่ๆ เกิดขึ้น
“การใช้วิธีปรุงเม็ดยาเช่นนี้จริงๆ แล้วก็ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า” เขาคิด “ยิ่งไปกว่านั้น ตัวแปรที่อยู่ภายในห้าธาตุก็ทำให้สามารถปรุงเม็ดยาที่สอดคล้องกับแนวคิด การสร้างบางสิ่งขึ้นมาจากความว่างเปล่า…” ด้วยการชำเลืองมองไปยังเม็ดยาเป็นครั้งสุดท้าย เขามองไปยังเหยียนซงอย่างเรียบเฉย
ทุกคนที่มุงดูอยู่กำลังหอบหายใจ อ้าปากค้าง รวมถึงสี่ผู้อาวุโสสูงสุด พวกมันจ้องเม็ดยาที่ถูกล้อมรอบด้วยสายฟ้า เช่นเดียวกับผู้ฝึกตนนับร้อยที่อยู่ในลานสี่เหลี่ยมทั้งหมด
เหยียนซงก็กำลังมองมาด้วยความงุนงง เมื่อเมิ่งฮ่าวเริ่มปรุงยา เหยียนซงก็ดูถูกเขา แต่ขณะที่ดำเนินการปรุงยาอยู่นั้น ท่าทีของมันก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป เมื่อกลิ่นหอมภาพลวงตาของเม็ดยาปรากฎขึ้น ความแปลกใจก็เริ่มก่อตัวอยู่ในจิตใจมัน เมื่อพลังปราณของสวรรค์และปฐพีเริ่มพรั่งพรูตรงเข้าไปที่ตัวยา มันก็สั่นไปทั้งร่าง เมื่อสายฟ้าปรากฎขึ้น มันก็ตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง
ลมหายใจมันเร่งร้อน และดวงตาก็เบิกกว้าง ขณะที่จ้องไปยังเม็ดยา และตระหนักว่าวิธีที่ใช้ในการปรุงยานี้เป็นสิ่งที่เหนือกว่าวิชาการปรุงยาด้วยห้าธาตุของมัน วิธีใหม่นี้เป็นการหลอมรวมที่แท้จริง