“เจ้ากำลังโวยวายเรื่องอะไร? ข้ามาแล้ว! ใครกล้ามาทำร้ายศิษย์ของข้า!?” กู่ลาสวมใส่ชุดอย่างหรูหรา เส้นผมมันลอยพริ้วไปมาในสายลม ขณะที่บินต่ำลงมาจากท้องฟ้า มีสีหน้าภาคภูมิใจและสูงส่ง ราวกับว่ามันเป็นบุคคลที่น่านับถือมากที่สุดภายใต้สวรรค์แห่งนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมือมันยืนอยู่ด้านบนของมังกรวารีที่ยาวถึงสิบจ้างเช่นนี้ ดวงตาอันดุร้ายของมังกรวารีเป็นสีขาวซีด ทำให้ถึงแม้ว่ามันจะกระจายกลิ่นอายแห่งความตายอย่างเข้มข้นออกมา ก็ยังคงดูศักดิ์สิทธิ์และยิ่งใหญ่อย่างไม่ธรรมดา กลิ่นอายที่ครอบงำนี้ทำให้ทุกคนนับถือมันอย่างเคร่งเครียดจริงจัง
กู่ลายืนอยู่ที่นั่นตรงด้านบนของมังกรวารี กระจายกลิ่นอายออกมาเป็นระลอกคลื่น ด้านข้างมัน ผู้ฝึกตนจากเผ่าอูปิงคนอื่นๆ ทั้งหมดมีพื้นฐานฝึกตนอยู่ที่ขั้นสร้างแกนลมปราณ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เป็นคนธรรมดาทั่วไปของเผ่า แต่เป็นกลุ่มคนที่มีอิทธิพลอำนาจอยู่ในเผ่า
พวกมันห้อมล้อมอยู่รอบๆ กู่ลา ขณะที่พุ่งลงมาจากท้องฟ้า กู่ลามองไปอย่างเยือกเย็นยังสถานการณ์ด้านล่าง สีหน้าท่าทางมีอำนาจ สิ่งแรกที่มันเห็นก็แน่นอนว่าต้องเป็นเงาร่างอันใหญ่โตของยักษ์เถื่อน
แต่เนื่องจากมุมที่มันมองมา ทำให้มองไม่เห็นเมิ่งฮ่าวซึ่งกำลังยืนอยู่อีกด้านของยักษ์เถื่อน สิ่งที่มันมองเห็นก็คือ ท่าทางเชื่องเชื่อของยักษ์เถื่อน ซึ่งดูเหมือนจะแปลกไปเล็กน้อย
แต่มันก็ยังไม่อาจจะเชื่อมต่อท่าทางเชื่องเชื่อของยักษ์เถื่อนกับเมิ่งฮ่าวได้ ในความคิดของมัน นี่เป็นทะเลทรายตะวันตก และมนุษย์แปลกประหลาดผู้นั้นที่อยู่ในดินแดนสีดำ ได้ลืมมันไปนานแล้ว ไม่มีทางที่เขาจะมาปรากฎตัวอยู่ที่นี่
ครึ่งปีก่อนมันไม่ค่อยมั่นใจเท่าใดนัก แต่หลังจากเวลาได้ผ่านไปด้วยความสะดวกสบายและปลอดภัย ความคิดเช่นนี้ก็ได้หยั่งรากฝังลึกลงไปในจิตใจกู่ลา
เรื่องที่สองซึ่งมันสังเกตเห็นก็คือ ต้าเหมาและค้างคาวดำ รวมถึงฝูงสัตว์ปีศาจที่เหลือ กำลังยืนอยู่ใต้เงาของยักษ์เถื่อน
สำหรับคนของเผ่าอูต๋า กู่ลาไม่สนใจพวกมันโดยสิ้นเชิง
“ราชาสัตว์ปีศาจทั้งสองตัวนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ! การที่ได้ตระเวณไปในทะเลทรายตะวันตกมาหลายปี ทำให้ข้าบอกได้เลยว่าสัตว์ปีศาจเช่นนั้นยากที่จะพบเห็นนัก” กู่ลายิ้ม ไม่สนใจศิษย์ที่กำลังวิงวอนขอร้องของมันมากนัก มันไพล่มืออยู่ด้านหลัง ยืนอยู่ที่นั่นมองลงไปยังภาพที่เบื้องหน้า
ขณะที่มันพูด ต้าเหมาก็มองขึ้นไปยังมัน ความโหดเหี้ยมดุร้ายและรังสีสังหารอันเย็นเยียบ สาดประกายอยู่ในดวงตา แม้แต่ขนสีขาวของมันก็ดูเหมือนจะกระจายความมุ่งมั่นสังหารราวกับน้ำแข็งออกมา
ดวงตาอันลี้ลับของค้างคาวสีดำหดเล็กลง มันสัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันเข้มข้น กระจายออกมาจากกู่ลา ทำให้มันจ้องมองไป อ้าปากเผยให้เห็นฟันอันแหลมคม
สำหรับฝูงสัตว์ปีศาจที่เหลือ พวกมันสั่นสะท้านอยู่ภายใต้แรงกดดันอันมหาศาล ที่กระจายออกมาจากมังกรวารีซึ่งลอยอยู่ด้านบนพวกมัน
สำหรับอูเฉินและคนอื่นๆ จากเผ่าอูต๋า ใบหน้าพวกมันซีดขาว เมื่อได้เห็นกลุ่มคนจากเผ่าอูปิงมาถึง รวมทั้งมังกรวารีอันน่ากลัวและกู่ลา พวกมันทั้งหมดเริ่มหายใจอย่างหนักหน่วง
“นั่นคือ…นั่นคือซือหลงระดับเจ็ด กู่ลาต้าซือจากเผ่าอูปิง!!” อูเฉินโพล่งออกมา มองไปยังเมิ่งฮ่าว และเมื่อได้เห็นสีหน้าสงบนิ่งของเขา ทันใดนั้นมันก็รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย
ในเวลาเดียวกันนั้น สูงขึ้นไปในกลางอากาศ กลุ่มคนอื่นๆ จากเผ่าอูปิง ก็เริ่มส่งเสียงหัวเราะต่อคำพูดของกู่ลาที่เพิ่งจะกล่าวไปเมื่อครู่นี้
“สัตว์ปีศาจทั้งสองตัวนั้นดูท่าทางไม่ธรรมดาจริงๆ ฮา ฮา ฮา! ยินดีด้วยกู่ต้าซือ ที่ท่านจะได้ครอบครองราชาสัตว์ปีศาจถึงสองตัวในวันนี้ ท่านจะยิ่งมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมแล้ว”
“ยอดเยี่ยม! ท่านมีโชคอย่างน่าเหลือเชื่อนัก กู่ต้าซือ ทั้งสองตัวนั่นเป็นสัตว์ปีศาจที่หายากอย่างแท้จริง!”
จากเสียงหัวเราะด้วยความยินดี ก็เห็นได้ชัดว่าพวกมันหมายความถึงสิ่งที่พูดมา ราชาสัตว์ปีศาจสองตัวนี้เป็นสิ่งที่หายากจริงๆ เมื่อได้ยินคำพูดและเสียงหัวเราะของพวกมัน ใบหน้ากู่ลาก็เต็มไปด้วยความพึงพอใจและความสุข มันรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เมื่อได้เห็นต้าเหมาและค้างคาวดำ
“ศิษย์ขอคารวะท่านอาจารย์!” เด็กหนุ่มที่อยู่บนพื้นด้านล่างกล่าว เมื่อได้เห็นกู่ลามาถึง มันก็แอบถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมา จู่ๆ ความรู้สึกว่าสูงส่งและเย่อหยิ่งก็พุ่งขึ้นมา
“ท่านอาจารย์” มันถอยหลังไปอย่างต่อเนื่องในขณะที่ตะโกนออกมา “ข้าได้มาพบกับราชาสัตว์ปีศาจทั้งสองตัวนี้โดยบังเอิญ ตอนที่ข้าพยายามจะจับพวกมันเพื่อนำมามอบให้ท่านเป็นของกำนัล คนผู้นี้ก็ปรากฎตัวขึ้น มันได้โจมตีข้าและพยายามจะนำพวกมันไป! ท่านอาจารย์โปรดให้ความยุติธรรมกับข้าด้วย!” มันจ้องไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยความดุร้ายเกลียดชังอยู่ตลอดเวลา รอยยิ้มอันเย็นชาปรากฎขึ้นบนริมฝีปาก
“ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะเป็นใครในเผ่าอูต๋า” มันกล่าวต่อไป อดที่จะแสดงท่าทางความอิ่มเอมใจออกมาไม่ได้ “เจ้ากล้าบังอาจมาลอบทำร้ายข้า เพื่อจะนำสัตว์ปีศาจที่ท่านอาจารย์ชื่นชอบไป เจ้าต้องตายอย่างแน่นอน!”
กู่ลามองไปยังยักษ์เถื่อน และสังเกตเห็นท่าทางเชื่องเชื่อแปลกๆ ของมัน แต่สายตาของมันก็โดนบดบัง และยังคงมองไม่เห็นเมิ่งฮ่าว จากนั้นก็คิดเกี่ยวกับศักดิ์ฐานะของมันในเผ่าอูปิง และกล่าวอย่างราบเรียบ “นี่เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องจริงๆ ศิษย์ข้า สหายเต๋าเหล่านี้มาจากเผ่าอูต๋า เจ้าไม่ควรจะกล่าวคำพูดที่ไม่ดีเช่นนั้นออกมาเลยจริงๆ”
“ข้าทราบความผิดแล้ว ท่านอาจารย์” เด็กหนุ่มกล่าว ก้มศีรษะลงและแสดงสีหน้าที่ถูกกระทำออกมา “แต่คนผู้นี้ก็แข็งแกร่งอย่างแท้จริง ถ้าท่านมาไม่ทันเวลา ข้าก็คงจะกลายเป็นซากศพไปแล้วอย่างแน่นอน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เมิ่งฮ่าวก็หัวเราะหึๆ ออกมา จากนั้นก็ค่อยๆ ก้าวเท้าตรงไป โผล่ออกมาจากการบดบังของยักษ์เถื่อน ตอนนี้ ทุกคนที่ด้านบนสามารถมองเห็นเขาได้อย่างชัดเจน เขามองขึ้นไปยังกู่ลาที่ดูท่าทางภาคภูมิใจและสง่างาม
ในขณะที่เมิ่งฮ่าวเริ่มก้าวเท้าออกไป กู่ลาก็ได้ยินคำพูดของศิษย์มัน และเริ่มกล่าวตอบด้วยท่าทางสง่างาม เชิดหน้าขึ้น “ก็ดี ถ้าเช่นนั้นก็มาดูกันว่า ใครกันที่กล้ามายุ่งกับศิษย์ของกู่ลา…หือ? อะไร?! ฮื่อออ!!”
ดวงตากู่ลาเบิกกว้าง คำแรกในตอนท้ายของประโยคคำพูดมัน “หือ?” แสดงให้เห็นถึงความตกใจ
คำที่สอง “อะไร?!” แสดงให้เห็นถึงความไม่อยากจะเชื่อ
คำที่สาม “ฮื่อออ!!” …เป็นการหอบหายใจอย่างรุนแรง
ทันใดนั้น มันก็หายใจไม่ออก ใบหน้าบิดเบี้ยวขึ้นในทันที ราวกับว่าจู่ๆ มันก็มองเห็นวิญญาณอันชั่วร้ายเพิ่งจะโผล่ขึ้นมาจากขุมนรกอเวจี ขณะที่มันจ้องมองลงไป จิตใจก็เต็มไปด้วยเสียงกระหึ่มกึกก้อง ราวกับว่าสายฟ้าได้ฟาดลงมาอยู่ภายใน
เสียงกระหึ่มในจิตใจมัน จริงๆ แล้วก็เหมือนกับอาชานับหมื่นตัวกำลังมาวิ่งควบอยู่ในกระโหลกศีรษะ สติของมันกระเจิดกระเจิงแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ขณะที่จู่ๆ มันก็ตระหนักได้ว่าทำไมยักษ์เถื่อนถึงได้แสดงท่าทีเชื่องเชื่อปานนั้น
“เจ้ายักษ์เถื่อนบัดซบ” มันคิด หลั่งน้ำตาอยู่ในใจ “ข้าดูแลเจ้ามาตลอดเวลาโดยเปล่าประโยชน์ เจ้า, เจ้า, เจ้า…เจ้าวิ่งมาเจออมนุษย์ที่โชคร้ายนั่นก่อน แล้วทำไมเจ้าถึงไม่ยอมแจ้งให้ข้ารู้แม้แต่น้อย?”
ในเวลาเดียวกันนั้น ขณะที่เรื่องนี้กำลังเกิดขึ้น กลุ่มคนเผ่าอูปิงที่อยู่รอบๆ ได้มองเห็นเมิ่งฮ่าว สีหน้าพวกมันดูไม่แยแสสนใจ ขณะที่เริ่มส่งเสียงตะโกนออกมา
“สหายเต๋าจากเผ่าอูต๋า การกระทำของเจ้าดูไม่ค่อยเหมาะสมนัก ศิษย์ของกู่ลาต้าซือได้เห็นสัตว์ปีศาจเหล่านี้ก่อน ซึ่งก็หมายความว่ามันมีสิทธิ์ที่จะจับพวกมัน การที่เจ้ามาขโมยพวกมันไปเช่นนี้ เป็นการเอาเปรียบเผ่าอูปิงมากเกินไป!”
“กลายเป็นว่าเผ่าอูต๋าอันกระจ้อยร่อยเต็มไปด้วยโจรผู้ร้าย! ข้าพนันได้เลยว่าคนผู้นี้เป็นผู้รับใช้, ผู้รับใช้ที่ไม่สำคัญ เจ้ากล้าที่จะกระทำการอุกอาจเช่นนั้นจริงๆ? ข้าอยากเห็นนักว่าเจ้าจะหยิ่งผยองจนสังหารคนของเผ่าอูปิงได้อย่างไรเมื่อพวกเรามาอยู่ที่นี่แล้ว?!”
แน่นอนว่าผู้ฝึกตนที่มาพร้อมกับกู่ลาไม่รู้ว่าเมิ่งฮ่าวคือใคร ถึงแม้ว่าเขาทำให้คนของเผ่าอูต๋าปั่นป่วนวุ่นวาย แต่หัวหน้าเผ่าและผู้ที่แข็งแกร่งคนอื่นๆ ของเผ่า ก็ระงับข่าวคราวไม่ให้แพร่กระจายออกไป ทำให้ตัวตนที่แท้จริงของเมิ่งฮ่าวยังคงเป็นความลับ บุคคลภายนอกไม่มีทางรับรู้ถึงรายละเอียดใดๆ
แม้แต่ข่าวที่เขาต่อสู้กับมั่วฟางก็ได้ถูกปิดบังไว้ จากคำสั่งอย่างเข้มงวดของหัวหน้าเผ่า ไม่มีข้อมูลรั่วไหลออกไปแม้แต่น้อย
กู่ลาตัวสั่นสะท้านกล่าวขึ้นในทันที “ฮา ฮา ฮา! อันที่จริง วันนี้ข้ารู้สึกเหนื่อยอยู่เล็กน้อย ทุกคนดูแลตัวเองด้วย ข้าจะกลับแล้ว” มันเริ่มถอยไปด้านหลังในทันที กำลังจะหันหลังและกลายเป็นลำแสงหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว แต่มันก็ถูกขวางกั้นไว้ด้วยคนเผ่าอูปิงที่อยู่ใกล้
“กู่ต้าซือ, เกิดอะไรขึ้น?”
“ใช่แล้ว, เกิดอะไรขึ้น กู่ต้าซือ? ราชาสัตว์ปีศาจทั้งสองตัวนี้มีความศักดิ์สิทธิ์และยิ่งใหญ่อย่างไร้ที่เปรียบ เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นเรื่องเข้าใจผิด เป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง พวกมันเป็นราชาสัตว์ปีศาจอย่างแน่นอน!”
“โอ, ไม่เป็นไร” กู่ลาพรั่งพรูออกมาด้วยจิตใจสั่นสะท้าน “ข้าเพิ่งจะนึกได้ว่าลืมให้อาหารฝูงสัตว์ปีศาจ นั่นก็…อืม, ไว้เจอกันใหม่…” มันผลักมือของคนเผ่าอูปิงออก ไม่สนใจใครและกำลังจะจากไป
แต่เด็กหนุ่มศิษย์ของมัน เมื่อเห็นกู่ลากำลังจะจากไป ทันใดนั้น ก็พุ่งขึ้นไปในอากาศเพื่อขวางกั้นมันไว้ “อาจารย์ คนผู้นั้นไม่เพียงแต่โจมตีข้า เมื่อข้าพูดถึงนามของท่าน มันก็วางท่าเย่อหยิ่ง แม้แต่ท่าน มันก็ยังดูถูกเหยียดหยาม อาจารย์ นี่มันมากเกินไปแล้ว!”
เมิ่งฮ่าวมองสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทั้งหมดพร้อมกับยิ้มน้อยๆ ออกมา ตบไปที่ยักษ์เถื่อนที่ข้างกาย ทันใดนั้น เขาก็คิดว่ากู่ล่าในรูปแบบใหม่นี้ ช่างน่าสนุกสนานกว่าก่อนหน้านี้มากนัก
อูเฉินและคนอื่นๆ จากเผ่าอูต๋าทั้งหมด จ้องมองไปยังภาพที่เห็นเบื้องหน้าด้วยความตกตะลึง สีหน้าสับสนปกคลุมอยู่บนใบหน้า พวกมันไม่เข้าใจว่าทำไมกู่ลาต้าซือที่มาอย่างรีบร้อน แต่จากนั้นก็แสดงท่าทางเช่นนี้ โดยไม่ต้องขบคิด พวกมันมองไปยังเมิ่งฮ่าว
ไม่เพียงแต่พวกมัน กลุ่มคนของเผ่าอูปิงก็คิดได้ว่ากำลังมีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้น
“หุบปาก!!” กู่ลาแผดร้องออกมา ยกมือขึ้นมา และกำลังจะผลักเด็กหนุ่มให้ออกไปจากเส้นทางของมัน แต่เสียงเมิ่งฮ่าวก็ดังขึ้นให้ได้ยินมาอีกครั้ง
“เมื่อเจ้ามาที่นี่แล้ว” เมิ่งฮ่าวกล่าวพร้อมกับหัวเราะไปด้วย “ก็ไม่จำเป็นต้องรีบจากไป”
คำพูดเหล่านี้ ทันใดนั้น ก็ทำให้ร่างกายกู่ลาเริ่มสั่นเทิ้ม มันค่อยๆ หันหน้ามา การพยายามฝืนยิ้มของมันทำให้ดูคล้ายกับกำลังร้องไห้อยู่ ร่างกายเริ่มสั่นอย่างรุนแรง และจิตใจก็เริ่มกระหึ่มกึกก้อง เป็นเสียงกระหึ่มของความขุ่นมัวและโทสะ ดังก้องออกมาจากภายในจิตใจ
“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร…?” มันคิด “ที่นี่คือทะเลทรายตะวันตก…ไม่ใช่ดินแดนสีดำ…มันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร…? ข้า, ข้า, ข้า…” ภาพเริ่มแวบขึ้นมาในจิตใจของมัน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มันได้พบกับเมิ่งฮ่าว การวิเคราะห์ค้นคว้าทั้งหมดที่เขาได้ยัดเยียดให้กับมัน และในที่สุดก็มาถึงวันที่มันมีความสุขอยู่ในตอนนี้ แต่ช่วงเวลาดีๆ ของมันก็ได้เหือดแห้งลง กลายเป็นฝันร้ายซึ่งไม่มีทางจางหายไป
“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร…?” กู่ลารู้สึกโศกเศร้าและไม่พอใจ แต่ก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องหันไปมองยังเมิ่งฮ่าว และแสร้งทำท่าว่ามันเพิ่งจะสังเกตเห็นเขา มีสีหน้ายินดี ถึงแม้ว่าความสามารถในการคิดหรือแม้แต่การพูดคุยก็ได้มลายหายไป
ก่อนที่มันจะมีโอกาสได้กล่าวอันใดกับเมิ่งฮ่าว ศิษย์อันดับสามของกู่ลาก็สังเกตเห็นว่าอาจารย์ของมันกำลังหันร่างกลับมา และจากนั้นมันก็แอบถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมา มันหันไปจ้องยังเมิ่งฮ่าวอย่างดุร้าย
“เจ้าต้องตาย! เจ้ามาหาเรื่องกับซือหลงระดับเจ็ด ถึงแม้เจ้าจะมาจากเผ่าอูต๋า แต่ตอนนี้พวกมันก็ไม่อาจจะช่วยเหลือเจ้าได้!” เด็กหนุ่มยิ่งมีความก้าวร้าวมากขึ้น ในตอนนี้ มันไม่ได้ให้ความสนใจกับสองสัตว์ปีศาจที่อยู่ข้างกายเมิ่งฮ่าว ในจิตใจของมัน น้อยคนนักในห้าชนเผ่าของอีกาศักดิ์สิทธิ์จะกล้ามาทำให้อาจารย์ของมันมีโทสะ
สีหน้ากู่ลาเปลี่ยนไป และจิตใจของมันก็เริ่มหนักอึ้ง