วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ตอนที่ 429 : อีกาสีทองและต้นไม้ยักษ์

Posted By: wuxiathai - 18:51
เมิ่งฮ่าวมองไปรอบๆ พึมพำกับตัวเอง จากนั้นก็สำรวจพื้นที่บริเวณนั้นด้วยจิตสัมผัส แต่นอกจากต้นไม้สีทองและอีกาทองคำแล้ว ก็ไร้ร่องรอยใดๆ อื่นอีก
“มันไม่อยู่ในสถานที่แห่งนี้แล้ว?” เมิ่งฮ่าวคิด ด้วยการเป็นเจ้าโอสถของเต๋าแห่งการปรุงยา เขาเคยปรุงเม็ดยาที่สร้างความตื่นเต้นให้กับคนอื่นๆ มาก่อน เป็นเม็ดยาที่พยายามจะแย่งชิงความโชคดีไปจากสวรรค์และปฐพี เป็นเม็ดยาที่สวรรค์พยายามจะทำลายไปด้วยทัณฑ์สายฟ้า
เมิ่งฮ่าวจมอยู่ในห้วงภวังค์ความคิด พิจารณาว่าเม็ดยาโบราณเช่นนั้นอาจจะเหือดแห้งหายไปเมื่อนานมาแล้ว อาจจะกลายเป็นฝุ่นผงไปแล้วโดยไม่ต้องสงสัย “ดูเหมือนมันจะสลายกลายเป็นฝุ่นผงไปแล้ว”
เมิ่งฮ่าวไม่อาจจะจินตนาการได้ว่า เม็ดยาที่สามารถทำลายกระถางปรุงยาหลบหนีไปเช่นนั้น จะยังคงมีอยู่หลังจากที่เวลาได้ผ่านไปนานแล้วหลายปีเช่นนี้ เขาปล่อยวางเรื่องราวเหล่านี้ไว้ และหันหน้าไปมองยังต้นไม้ยักษ์
หลังจากเวลานานผ่านไป เขาก็ยื่นมือออกวางลงไปบนพื้นผิวลำต้นของมันอย่างอ่อนโยน
ทันทีที่เขาสัมผัสมัน ต้นไม้ก็เริ่มสั่นสะท้าน และค่อยๆ กระจายแสงสีทองออกมาช้าๆ ในเวลาเดียวกันนั้น รอยสักภาพศักดิ์สิทธิ์ธาตุไม้บนหน้าผากเมิ่งฮ่าว ก็เริ่มส่งแสงสีเขียวออกมา
ไม่มีการติดต่อสื่อสารหรือเกิดปฏิกิริยาใดๆ แต่เศษเสี้ยวเจตจำนงของใครบางคน ซึ่งยังคงมีอยู่ในต้นไม้ยักษ์นี้นานมาแล้ว ในตอนนี้ก็ได้รับความเป็นอิสระ มันได้เผชิญพบกับบางสิ่งที่เหมือนกับตัวมันเอง ได้อนุมัติยินยอมให้มันเป็นอิสระ และมันก็ตัดสินใจที่จะกล่าวคำอำลาเป็นครั้งสุดท้าย
เมิ่งฮ่าวมองไปยังต้นไม้ และเห็นได้ว่าไม่มีพลังชีวิตใดๆ หลงเหลืออยู่ในต้นไม้นี้ สิ่งเดียวที่ยังคงเหลืออยู่ก็คือร่องรอยแห่งกาลเวลาที่ผ่านไป
หลังจากเวลานานผ่านไป เมิ่งฮ่าวก็ถอนหายใจออกมา
“นี่ก็คือสถานที่ซึ่งเหยียนซงและคนอื่นๆ พยายามตามหาอย่างเอาเป็นเอาตาย…ไม่มีเม็ดยา มีเพียงซากศพและต้นไม้ยักษ์ที่หลงเหลืออยู่ แม้แต่สูตรยาในแผ่นหยกก็เป็นของเมื่อครั้งสมัยโบราณ ปัจจุบันนี้ ไม่อาจจะเสาะหาต้นสมุนไพรเหล่านั้นได้อีกแล้ว มีเพียงสิ่งเดียวที่ควรค่าแก่การมองดูก็คืออีกาทองคำตัวนั้น” เมิ่งฮ่าวมองขึ้นไปยังอีกาที่กำลังเกาะอยู่บนยอดของต้นไม้ด้านบน
ในที่สุด เขาก็ส่ายหน้า และกำลังจะดึงมือกลับมา แต่ทันใดนั้น แรงสั่นสะเทือนก็วิ่งผ่านไปทั่วร่าง อีกาทองคำที่ก่อนหน้านี้หลับตาอยู่ ก็ลืมตาขึ้นมาในทันที พลังชีวิตอันแข็งแกร่งไหลเชี่ยวออกมา ผ่านเข้าไปในต้นไม้ยักษ์ ฉับพลันนั้น มีพลังที่ดูเหมือนจะกระจายออกมาจากต้นไม้ราวกับว่ามัน…ยังคงมีชีวิตอยู่
เนื่องจากมือของเมิ่งฮ่าวกำลังแตะสัมผัสอยู่ที่ต้นไม้ ทำให้เขารับรู้ได้ถึงพลังชีวิตของมัน ทันใดนั้น ดวงตาเขาก็เบิกกว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ มองขึ้นไปยังอีกาทองคำอีกครั้งด้วยจิตใจที่งุนงง มันเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์โบราณของชนเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ เป็นสิ่งที่คงอยู่มานานมากแล้ว และทรงพลังเพียงพอที่จะให้กำเนิดไปทั่วทั้งเผ่า
ทุกวันนี้ ชนเผ่าที่เคยแข็งแกร่งในครั้งหนึ่งได้จางหายไป และเริ่มกระจัดกระจายแยกกันออกไป
“พลังชีวิตนี้…” เมิ่งฮ่าวตกตะลึงอยู่นาน ในที่สุด เขาก็สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ในฐานะที่เป็นเจ้าโอสถของเต๋าแห่งการปรุงยา ทำให้เขาคุ้นเคยกับเม็ดยาเป็นอย่างยิ่ง เมื่อครู่นี้ เขารับรู้ได้ว่าพลังชีวิตที่กระจายออกมาจากอีกาทองคำ จริงๆ แล้วก็ประกอบไปด้วย…กลิ่นอายของตัวยา!
มันไม่ได้กระจายพลังชีวิตออกมา แต่เป็นพลังของตัวยา!
“เป็นเพราะว่ามันได้กลืนเม็ดยาลงไป หรือว่า…มันก็คือเม็ดยา?!” ความเป็นไปได้ของความคิดที่สอง ทำให้จิตใจเมิ่งฮ่าวหมุนคว้าง ก่อนที่จะมายังสถานที่แห่งนี้ เขาไม่เคยคาดคิดว่าอีกาทองคำของชนเผ่าที่เคยแข็งแกร่งมากครั้งหนึ่งในอดีต…เดิมทีก็คือเม็ดยา
เขายอมรับได้ว่าทั้งทะเลสาบและภูเขา สามารถกลายเป็นอสูรได้ แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยฐานะการเป็นเจ้าโอสถของเต๋าแห่งการปรุงยา ทำให้บางทีความรู้อันลึกล้ำในเรื่องการปรุงยาของเขา ได้ปิดบังสายตาตัวเองไว้ ไม่ให้เข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเดียวกันกับยาเม็ดนี้
เขาเริ่มสูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนักหน่วง ตอนนี้เขาเกือบจะมั่นใจถึงความเป็นไปได้ของสิ่งที่แตกต่างกันทั้งสองอย่างนี้ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับความคิดแรกที่จะถูกต้อง หลังจากที่กลืนเม็ดยาลงไป กลิ่นอายของตัวยาจะไม่คงอยู่มาเป็นเวลานานเช่นนี้
ข้อสรุปที่ถูกต้องเพียงอย่างเดียวก็คือ ยาเม็ดนั้นได้กลายเป็นอสูร ซึ่งจากนั้นก็จะคงอยู่ได้ตลอดกาลนาน!
เมิ่งฮ่าวหอบหายใจ มองขึ้นไปยังอีกาทองคำและต้นไม้ยักษ์ ทันใดนั้นภาพก็ปรากฎขึ้นในจิตใจ ภายในภาพนั้นเป็นเจ้าโอสถของเต๋าแห่งการปรุงยาโบราณ กำลังนั่งอยู่ใต้ต้นชิงมู่ เตรียมตัวแตกดับไปด้วยการเข้าฌาณ ขณะที่ความตายใกล้เข้ามา มันก็ได้ปรุงเม็ดยาที่มีค่ามากที่สุดเท่าที่มันเคยปรุงมาก่อน
แต่โชคร้าย ในตอนที่เม็ดยาโผล่ออกมา เจ้าโอสถท่านนั้นก็หมดลมหายใจสุดท้ายไปแล้ว
หลายปีหลังจากนั้น เมื่อยาเม็ดนั้นมาถึงจุดอิ่มตัว มันก็ทะลวงออกมาจากกระถางปรุงยา ราวกับว่าการกระทำนี้ได้เกี่ยวข้องกับต้นชิงมู่ ในตอนที่มันปรากฎขึ้นมาอยู่ในโลกนี้ สหายเพียงหนึ่งเดียวของมันก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากต้นชิงมู่
ปีแล้วปีเล่าผ่านไป หลังจากที่กาลเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไปจนนับไม่ถ้วน เมื่อเม็ดยาเริ่มมีอายุมากขึ้น มันก็ได้พบกับชนเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ เวลาอีกหลายๆ ปีได้ผ่านไป จนในที่สุด ชีวิตของต้นชิงมู่ก็เริ่มลดน้อยลง และตายไป
เม็ดยาไม่อาจจะยอมรับได้ว่าต้นชิงมู่ได้ตายไปแล้ว จึงใช้พลังของมันเปลี่ยนสีของต้นชิงมู่ และเวลาเดียวกันนั้นก็ยอมเสียสละพลังชีวิตบางส่วนของมันไปหล่อเลี้ยงต้นชิงมู่
อย่างไรก็ตาม…ต้นชิงมู่ก็ได้ตายไปแล้วจริงๆ ไม่ว่าจะทำอย่างไร สิ่งที่ได้กลับคืนมาก็คือความว่างเปล่า คือสิ่งที่มันคิดว่ายังมีชีวิตอยู่
ถึงแม้ว่า…เม็ดยาจะเข้าใจในเรื่องนี้ แต่มันก็ปฏิเสธที่จะยอมแพ้
เมิ่งฮ่าวพิจารณาถึงเรื่องราวทั้งหมดนี้เป็นเวลานาน จากนั้นก็ถอนหายใจอย่างแผ่วเบาออกมา ลดมือลงมาอยู่ข้างลำตัวขณะที่เขาถอยหลังออกไปสองสามก้าว เขาประสานมือและโค้งตัวลงให้กับต้นไม้ยักษ์และอีกาสีทอง
เขาเห็นได้ว่าอีกาสีทองในตอนนี้กำลังอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ ในที่สุด พลังชีวิตของมันก็จะเหือดแห้งหายไป และจะกลายเป็นผงธุลีปลิวไปตามสายลม เมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้น ต้นไม้ยักษ์ก็จะไม่มีใครคอยช่วยค้ำจุนความว่างเปล่าที่ดูคล้ายกับยังมีชีวิตอยู่ของมัน และจะกลายเป็นเถ้าธุลีไปเช่นเดียวกัน
อาจบางทีทั้งต้นไม้และอีกาสีทองต่างก็รอคอยเวลานั้น เมื่อพวกมันทั้งคู่กลายเป็นเถ้าธุลี ลอยไปตามสายลมเข้าสู่ท้องฟ้าที่ว่างเปล่าด้วยกัน
เมิ่งฮ่าวมองไปยังอีกาสีทองและต้นไม้ยักษ์ เขาไม่แน่ใจว่าทำไม แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง จากแววตาของอีกาสีทอง ทำให้เขารำลึกไปถึงตานกุ่ยต้าซือที่เขาเคารพนับถือเป็นอย่างมาก อีกายืนอยู่บนยอดต้นไม้ยักษ์ ตานกุ่ยยืนอยู่บนยอดภูเขาเตี้ย อีกาจ้องมองลงมาจากต้นไม้ ตานกุ่ยจ้องมองลงไปยังรูปปั้นของจื่อตง
เป็นความรู้สึกแปลกๆ จนทำให้เมิ่งฮ่าวต้องยืนอยู่ที่นั่นด้วยความครุ่นคิดชั่วขณะ ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา
“เมื่อข้ามาอยู่ที่นี่แล้ว ก็คงต้องใช้พลังของข้า…” เขายกมือขวาชูขึ้นไปในอากาศ และร่ายเวทอาคม จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และชี้ไปยังต้นไม้
“ด้วยคำสั่งของข้าในฐานะผู้ผนึกอสูรรุ่นที่เก้า ข้าจะมอบผนึกความเที่ยงธรรมให้กับเจ้า!” ทันใดนั้น แรงสั่นสะเทือนก็วิ่งผ่านไปทั่วร่างเมิ่งฮ่าว และเขาก็พ่นโลหิตออกมา เมื่อมันตกกระทบไปที่ต้นไม้ แสงแปลกๆ ก็เริ่มสาดประกายอยู่ในดวงตาของอีกาสีทอง และมันก็จ้องมายังเมิ่งฮ่าว
“ผนึกความเที่ยงธรรม จะมอบเส้นทางในการกลายเป็นอสูรมาให้เจ้า!”
“ผนึกความเที่ยงธรรม จะทำให้เต๋าของเจ้าคงอยู่ชั่วนิรันดร์!”
“ผนึกความเที่ยงธรรม จะช่วยให้วิญญาณที่ว่างเปล่าของเจ้ากลายเป็นอสูร!”
“คำรับรองของข้า เป็นตัวแทนคำรับรองแห่งพันธมิตรผู้ผนึกอสูร…นี่คือผนึกความเที่ยงธรรม ซึ่งเป็นพรที่แท้จริง”
ด้วยการใช้วิชาผนึกความเที่ยงธรรมที่แท้จริงเช่นนั้น หลังจากที่ได้รับการรู้แจ้งเกี่ยวกับมันมา เมิ่งฮ่าวไม่เคยใช้วิชานี้อย่างเต็มพลังกับอสูรใดๆ มาก่อน อย่างมากที่สุด เขาก็ใช้เพียงแค่พลังผนึกบางส่วนเท่านั้น
ผนึกความเที่ยงธรรมเป็นวิชาที่ใช้ในการรับรอง อสูรใดๆ ก็ตามในสวรรค์และปฐพีแห่งนี้ที่ได้คำรับรองจากผู้ผนึกอสูร จะสามารถดูดซับแก่นแท้ของจิ่วซานเหอ (เก้าขุนเขาทะเล) ได้ชั่วคราว แม้แต่อสูรที่ตายไปแล้ว วิญญาณของมันก็จะไม่แตกกระจายไป
อีกาสีทองตัวนี้ไม่ได้ทำสิ่งใดๆ ให้เมิ่งฮ่าวพึงพอใจ แต่ความรู้สึกและความคิดของมันได้ทำให้เขาตื้นตันใจ พวกมันได้สอนเขาถึงวิถีที่ทำให้เขาเชื่อว่า การให้ความช่วยเหลือพวกมันด้วยวิชาผนึกความเที่ยงธรรม…เป็นสิ่งถูกต้องที่สมควรกระทำ
หลังจากได้สำแดงพลังของผนึกความเที่ยงธรรมออกมา เมิ่งฮ่าวก็สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ มองไปยังต้นไม้ยักษ์และอีกาสีทอง จากนั้นก็หันหลังและจากไป ในตอนนี้เองที่จู่ๆ อีกาสีทองก็ส่งเสียงร้องออกมา นี่เป็นเสียงแรกที่มันร้องขึ้นมา ตั้งแต่เมิ่งฮ่าวเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ เป็นเสียงร้องแหลมเล็ก
เสียงร้องนี้คล้ายกับเป็นเสียงของโลหะเสียดสีกัน เมิ่งฮ่าวมองกลับไปเห็นอีกาสีทองกำลังตัวสั่นสะท้าน ขณะที่สั่นอยู่นั้น ภาพภูติผีก็พุ่งขึ้นมา และแสงสีทองก็พลุ่งพล่านปั่นป่วน แสงนั้นกระแทกเข้าไปในตัวเมิ่งฮ่าว กลายเป็นตราประทับสีทอง
มันเป็นรอยสักภาพศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งค่อนข้างจะเหมือนกับรอยสักภาพศักดิ์สิทธิ์ต้นชิงมู่ก่อนหน้านี้ เป็นภาพของอีกาสีทอง นี่เป็นภาพศักดิ์สิทธิ์ธาตุทอง ซึ่งถ้าเมิ่งฮ่าวโชคดีและบรรลุถึงการตื่นขึ้นมาของบรรพบุรุษ ก็จะสามารถเปลี่ยนให้มันกลายเป็นตัวอักษรโบราณของคำว่าทองได้ในที่สุด!
หลังจากที่ส่งภาพศักดิ์สิทธิ์ออกไป อีกาสีทองก็ดูเหมือนจะอ่อนแอลงไปอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง ร่างของมันสั่นไปมาจนแทบจะพังทลายลงไปได้ทุกเมื่อ ก่อนที่มันจะรวบรวมพลังมองลงมายังเมิ่งฮ่าว
เมิ่งฮ่าวอ้าปากจะกล่าวบางอย่างออกมา แต่ก็ไม่แน่ใจว่าควรจะพูดอะไรดี อย่างไรก็ตามในตอนนี้เอง ที่ภายในโลกสีเทาแห่งนี้ เสียงระเบิดก็ดังก้องออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟลูกที่เจ็ด เริ่มมองเห็นเงาร่างสี่สายขึ้นในทันใด
“ฮา ฮา ฮา! พวกเรามาอยู่ในที่แห่งนี้แล้ว!”

About wuxiathai

Organic Theme is officially developed by Templatezy Team. We published High quality Blogger Templates with Awesome Design for blogspot lovers.The very first Blogger Templates Company where you will find Responsive Design Templates.

Copyright © 2015 ผนึกสวรรค์ สยบมาร สะท้านเทพ

Designed by Templatezy | Distributed By Gooyaabi Templates