วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ตอนที่ 427 : บรรพบุรุษต้นชิงมู่กำลังตื่นขึ้นมา

Posted By: wuxiathai - 18:51
“ไม่สำคัญว่าเจ้ากำลังพูดถึงความรักของครอบครัว หรืออารมณ์ของใคร” บุรุษหนุ่มกล่าวเสียงแผ่วเบา ยิ้มน้อยๆ ออกมา “ทุกสิ่งทุกอย่างก็คือกรรม ไม่ช้าก็เร็ว ทั้งหมดก็จะกลายเป็นความว่างเปล่า หลังจากที่มันถูกตัดและถูกทำลายไป” ด้วยเช่นนั้น มันโบกสะบัดมือขวา ทำให้เวลาดูเหมือนจะไหลย้อนกลับ ขณะที่ประตูหนานเทียนที่พังทลายลงไปรวมตัวขึ้นมาใหม่ในทันที เหมือนเป็นประตูที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่
แน่นอนว่า บุรุษหนุ่มผู้นั้นรู้ว่าถึงแม้ประตูจะสามารถซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ได้ แต่การพังทลายลงมาก่อนหน้านี้ของมัน ได้ทำให้พื้นฐานฝึกตนของทุกคนในตระกูลจี้ที่มีการเชื่อมต่อกับมันต้องสูญเสียพลังไป ซึ่งการสูญเสียเช่นนี้ไม่อาจจะฟื้นฟูกลับคืนมาได้อย่างง่ายดาย
นั่นเป็นความสำคัญอย่างแท้จริงของประตูนี้ มันยอมให้ผู้ฝึกตนทุกคนที่เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลจี้ สามารถใช้พลังของสวรรค์แห่งจี้เพื่อทะลวงผ่านพื้นฐานฝึกตนได้สำเร็จ
ในเวลาเดียวกันนั้น ย้อนกลับไปยังทะเลทรายตะวันตก ด้านนอกของดินแดนสักการะอีกาศักดิ์สิทธิ์ ความสงบนิ่งซึ่งปกคลุมไปทั่วบริเวณนั้นได้หายไป เนื่องจากเกิดความผิดพลาดในการตัดกรรม กลุ่มคนทั้งห้าชนเผ่าก็ได้ความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับเมิ่งฮ่าวกลับคืนมา
อย่างไรก็ตาม พวกมันก็ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นเกี่ยวกับความสงบนิ่งนั้น สิ่งสุดท้ายที่พวกมันจดจำได้ก็คือ จู่ๆ เมิ่งฮ่าวก็บินผ่านเข้าไปในประตูที่ส่องแสงสีทองเจิดจ้านั้น
หัวหน้าเผ่าอูต๋า ส่ายหน้าและหัวเราะเสียงดังออกมา “เมิ่งต้าซือช่างใจร้อนจริงๆ แต่ก็ไม่เป็นไร พวกเราก็เข้าไปกันเถอะ” ด้วยเช่นนั้น ร่างของมันก็แวบขึ้น ผ่านเข้าไปในประตูแสงสีทอง ตามมาด้วยผู้เฒ่าสูงสุด, ผู้เฒ่าของเผ่าและคนอื่นๆ รวมถึงบุรุษที่แปลงร่างมาจากสัตว์อสูรเทียมสวรรค์ ใบหน้าของมันเคร่งเครียด ดวงตาสาดประกายด้วยโทสะและความอัปยศ
ในตอนที่นกแก้วได้ครอบครองร่างกายนี้ มันจดจำได้ถึงเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น และเข้าใจถึงความเป็นจริง ทำให้โทสะของมันพุ่งขึ้นไป ขณะที่พุ่งผ่านเข้าไปในแสงสีทองอย่างเร่งรีบ
สำหรับเผ่าที่เหลืออื่นๆ พวกมันไม่ค่อยสนใจมากนักในการที่เมิ่งต้าซือรีบเร่งบุกเข้าไป และพวกมันก็ไม่พูดจาใดๆ ออกมา จริงๆ แล้ว ถ้าพวกมันเป็นคนของเผ่าอูต๋า พวกมันก็ไม่อาจจะกระทำการใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้เช่นกัน นอกจากนั้น…เมิ่งต้าซือก็ยังได้แสดงให้เห็นถึงพลังของต้าซือหลง ซึ่งบุคคลเช่นนี้มักจะถูกปฏิบัติราวกับเป็นแขกผู้ทรงเกียรติอยู่ในเผ่าต่างๆ
กลุ่มคนของเผ่าอูต๋าผ่านทะลุประตูสีทอง และเข้าไปในดินแดนสักการะซึ่งมีภูเขาไฟอยู่เจ็ดลูก ในตอนนี้ เมิ่งฮ่าวได้พันธนาการจี้สือจิ่วไว้อย่างแน่นหนา กระบี่ไม้ทั้งสี่เล่มดูดซับพื้นฐานฝึกตนของมันอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นเรื่องยากที่มันจะฟื้นฟูร่างกายกลับมาได้
อันที่จริง เนื่องจากเกรงกลัวในพื้นฐานฝึกตนที่สูงเป็นอย่างยิ่งของมัน เมิ่งฮ่าวจึงได้ตัดสินใจใช้วิธีการบางอย่างเพิ่มขึ้นด้วย จากภายในถุงสมบัติเขาได้หยิบเอาเม็ดยาพิษจำนวนมากมายที่เคยปรุงไว้ออกมา พลังของพิษเหล่านี้ช่างน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง โดยไม่ต้องพูดถึงปฏิกิริยาที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ เมิ่งฮ่าวรู้ว่าแม้แต่ตนเองก็คงจะขจัดพิษเหล่านี้ได้อย่างยากลำบาก โดยไม่ลังเลเขานำยาพิษเหล่านั้นมาป้อนให้กับจี้สือจิ่ว
ดวงตาจี้สือจิ่วเบิกโพลง ขณะที่มันถูกบังคับให้กลืนยาพิษลงไปมากมาย ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีม่วง แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่างมันเจ็ดครั้ง แต่ละครั้งที่เกิดขึ้น มันก็เหี่ยวแห้งลงเล็กน้อย จนกระทั่งกลิ่นอายของมันดูเหมือนจะเต็มไปด้วยพิษ ดวงตามันเป็นสีเขียว และเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“เจ้า…บัดซบ! เจ้ามียาพิษอยู่มากมายเท่าใดกันแน่? เจ้าให้ข้ากินลงไปมากเท่าไหร่!?!?”
เมิ่งฮ่าวแค่นเสียงอย่างเย็นชา
“พวกเรามาจบความทุกข์ทรมานของเจ้าในวันนี้กัน เมื่อไหร่ที่พิษร้ายหลอมรวมเข้าไปในร่างเจ้าโดยสิ้นเชิง ข้าก็จะปรุงยาพิษให้เจ้าเพิ่มอีก” ด้วยเช่นนั้น เมิ่งฮ่าวก็โบกสะบัดมือ จี้สือจิ่วที่ถูกธวัชสามแฉกพันธนาการไว้อย่างแน่นหนาก็ถูกดูดเข้าไปในหน้ากากสีโลหิต
มีแต่จับมันมัดไว้เช่นนั้น ถึงจะทำให้เมิ่งฮ่าวรู้สึกสบายใจขึ้น มิเช่นนั้น เขาจะปลอดภัยได้อย่างไร เมื่อคิดไปถึงพลังอันน่าเหลือเชื่อของจี้สือจิ่ว?
“เมื่อไหร่ที่มันอ่อนแอลง ข้าก็จะนำโลหิตของมันมาสร้างเป็นวิญญาณโลหิต และข้าก็สามารถใช้วิญญาณของมันมาสร้างเป็นวิญญาณสายฟ้า ที่เหมือนกับปรมาจารย์ตระกูลหลี่ได้เช่นกัน ถ้าข้าใช้วิธีการพิเศษเฉพาะบางอย่าง ก็สามารถเปลี่ยนร่างของมันให้กลายเป็นหุ่นเชิด ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงเช่นมันก็เหมือนกับเป็นของวิเศษในของวิเศษ ข้าต้องไม่ปล่อยให้ส่วนใดๆ ของมันสูญเสียไปอย่างง่ายดาย แต่ที่น่าเศร้าก็คือ มันไม่มีถุงสมบัติ…” หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานาน เขาก็สรุปได้ว่าต้องไม่ปล่อยให้โอกาสอันดีเช่นนี้สูญเสียไป ในที่สุด ก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
โชคดีที่จี้สือจิ่วไม่ได้ยินข้อสรุปของเขา มิเช่นนั้นโลหิตก็คงจะกระจายออกมาจากปากของมัน เมื่อคิดว่าการถูกสุ่ยตงหลิวสังหารไป น่าจะดีกว่าตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้
“ข้าได้ผลประโยชน์มากมายจากความโชคร้ายครั้งนี้จริงๆ” เขามองลงไปยังถุงแห่งจักรวาล และจิตใจก็เริ่มกระตุกด้วยความตื่นเต้น ตลอดเส้นทางที่มายังที่แห่งนี้ เขาได้ใช้ประโยชน์จากพลังของสายเบ็ดตกปลา เพื่อรวบรวมฝูงสัตว์ปีศาจที่ดุร้ายได้มากมาย ซึ่งถ้ากล่าวกันโดยทั่วไปแล้ว คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะได้ครอบครองสัตว์ปีศาจเช่นนั้นด้วยตัวเอง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับฝูงสัตว์ปีศาจที่ได้มานี้ ในความคิดของเขา ช่างเป็นความโชคดีอย่างน่าเหลือเชื่อนัก
“ยังมีกระบี่เล่มนั้นอีก!” เขาเริ่มสูดลมหายใจอย่างหนักหน่วง ขณะที่คิดไปถึงกระบี่ไม้เล่มที่สี่ ซึ่งแทงอยู่ในร่างของจี้สือจิ่วตอนนี้ กล่าวในอีกแง่หนึ่งก็คือ เป็นกระบี่ไม้เล่มที่สามที่เขาพบเจอ
ตอนนี้เมิ่งฮ่าวรู้แล้วว่า กระบี่ไม้นี้ต้องมีความลึกลับอย่างน่าเหลือเชื่อซุกซ่อนอยู่ ถ้าเขาได้ครอบครองกระบี่ไม้มากกว่านี้ ก็คงสามารถแก้ปริศนานี้ออกมาได้
“กระบี่สังหารเซียน, หือ? จากนั้นก็ยังมีธวัชสามแฉก ซึ่งจี้สือจิ่วได้เรียกมันแตกต่างไปจากนามที่ผีโต้งเคยพูดขึ้น ธวัชของราชันแห่งขุนเขาทะเล” หลังจากครุ่นคิดมากขึ้น เมิ่งฮ่าวก็ตบไปที่ถุงสมบัติ หยิบเอาคันเบ็ดตกปลาสีเขียวออกมา เมื่อถือมันอยู่ในมือ ดวงตาเขาก็เริ่มสาดประกายด้วยแสงเจิดจ้า
“เมื่อจี้สือจิ่วใช้วิชาตัดกรรม มันได้ใช้สายเบ็ดตกปลา ข้าคาดว่าคันเบ็ดที่มันใช้คงจะเป็นลักษณะเดียวกันกับคันเบ็ดนี้!” เขามองไปยังคันเบ็ดอย่างครุ่นคิด ทันใดนั้น เสียงแห่งชีวิตมากมายที่เคยได้ยินมาก่อน ก็เริ่มดังขึ้นมาในจิตใจอีกครั้ง เป็นเสียงเด็กทารกร้องไห้, ชายชราหายใจอย่างเหนื่อยหอบ, เสียงหัวเราะของบุรุษสตรี และเสียงโต้เถียงด่าทอ
เขาปล่อยคันเบ็ดที่จับไว้อย่างรวดเร็ว ดวงตาสาดประกายขณะที่พึมพำกับตัวเองอยู่ชั่วขณะ จากนั้นก็เก็บคันเบ็ดกลับเข้าไปในถุงสมบัติ
“ข้าอยากรู้นักว่าจะใช้ของสิ่งนี้ได้อย่างไร? บางทีข้าอาจจะได้คำตอบจากจี้สือจิ่ว” เมิ่งฮ่าวชำเลืองมองไปยังปากปล่องภูเขาไฟ จากนั้นก็มองไปยังสระน้ำแห่งโชคชะตา
จิตใจเขาทันใดนั้นก็เต้นรัว ก่อนหน้านี้ เขาได้ก้าวเท้าลงไปในสระน้ำเพราะเส้นใยกรรม ด้วยเช่นนั้น ทำให้เขาไม่ได้สังเกตเห็นถึงความแปลกพิเศษของมัน ตอนนี้ ดวงตาเขาสาดประกายขณะที่พุ่งกลับลงไปในสระน้ำอีกครั้ง เมื่อลงไปอยู่ในสระน้ำ เขาหลับตาลงเป็นเวลานาน เมื่อลืมขึ้นมา สองตาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“มันประกอบไปด้วยพลังของการแปลงร่างเป็นภาพศักดิ์สิทธิ์…ถ้าฝึกฝนอยู่ที่นี่ ภาพศักดิ์สิทธิ์ต้นชิงมู่ของข้าก็จะเติบโตแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ด้วยพลังที่เพียงพอ ข้าก็จะสามารถแปลงภาพศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วยตัวเอง! ซึ่งก็น่าจะมีประโยชน์ต่อดักแด้ไร้ตาด้วยเช่นกัน มันน่าจะสามารถทำให้ดักแด้ไร้ตากลายเป็นภาพศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงได้ โดยที่ข้าไม่จำเป็นต้องใช้วิชาเวทของหลีเทียนมาปิดบังมันไว้!” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายเจิดจ้า ภาพศักดิ์สิทธิ์ต้นชิงมู่ธาตุไม้เป็นมรดกที่ถูกส่งต่อมาให้เขาจากต้นชิงมู่โบราณแห่งเผ่าอูต๋า เมิ่งฮ่าวไม่แน่ใจว่ามันจะกลายเป็นอะไร ถ้าเขาแปลงร่างมันอีกครั้ง
เขายืนครุ่นคิดอยู่ที่นั่นชั่วขณะ ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น จากนั้นก็นั่งลงขัดสมาธิอยู่ในน้ำเพื่อเข้าฌาณ เมื่อหลับตาลง รอยสักภาพศักดิ์สิทธิ์ต้นชิงมู่ที่อยู่บนหน้าผาก และรอยสักภาพศักดิ์สิทธิ์ดักแด้ไร้ตาบนมือของเขาก็ปรากฎขึ้นมาในทันที
น้ำในสระเริ่มพลุ่งพล่านขึ้นราวกับว่าพวกมันกำลังเดือดจัด ก่อตัวเป็นกระแสน้ำวน โดยมีเมิ่งฮ่าวเป็นจุดศูนย์กลาง และกระแสน้ำก็วนไปรอบๆ ตัวเขาอย่างรวดเร็ว
พลังของภาพศักดิ์สิทธิ์พรั่งพรูออกมาจากภายในสระน้ำ ขณะที่มันหมุนเป็นวงกลมรอบๆ ตัวเขา ก็หลอมรวมเข้าไปในร่างของเมิ่งฮ่าว และจากนั้น ก็เข้าไปในภาพศักดิ์สิทธิ์ต้นชิงมู่ และภาพศักดิ์สิทธิ์ดักแด้ไร้ตา
หลังจากที่การหลอมรวมเริ่มขึ้น สระน้ำก็เริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด ต่อมาไม่นาน กลุ่มหมอกก็เริ่มกระจายออกมาจากผิวน้ำที่พลุ่งพล่านปั่นป่วนนั้น กลุ่มหมอกพุ่งขึ้นมาอยู่รอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าว และจากนั้นก็กระจายเต็มไปทั่วทั้งปล่องภูเขาไฟ
ในเวลาเดียวกับที่เมิ่งฮ่าวทำการหลอมรวม กลุ่มคนจากเผ่าอูต๋าก็เข้ามาในเขตภูเขาไฟด้วยความระมัดระวัง
หัวหน้าเผ่า, ผู้เฒ่าสูงสุดท้องฟ้า และผู้เฒ่าของเผ่า ต่างก็มีท่าทางสงสัย ขณะที่ผ่านเข้ามายังดินแดนสักการะ สิ่งที่เห็นไม่เหมือนกับที่พวกมันเคยจำได้จากครั้งก่อนหน้านี้ ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะว่างเปล่า
“แปลกจริงๆ ข้าจำได้ว่าครั้งที่แล้วยังมีฝูงอีกาปีศาจอยู่ในบริเวณนี้ ถ้าใช้วิธีการพิเศษเฉพาะ ก็มีโอกาสสูงที่จะได้ครอบครองพวกมันบ้างเล็กน้อย”
“นั่นก็ถูกแล้ว และข้าก็จำได้ว่าตรงนั้นมีฝูงยุงเขียวปีศาจ ซึ่งดูน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง ในปีนั้น กลุ่มที่ข้าเป็นผู้นำ ได้เห็นใครบางคนจากเผ่าอูโต้วบังเอิญไปกระตุ้นพวกมัน คนผู้นั้นก็ถูกสูบเลือดออกไป และกลายเป็นซากศพที่แห้งเหี่ยวภายในชั่วพริบตา”
“แปลกมากๆ ครั้งนี้มันเงียบจนผิดปกติ…”
พวกมันไม่ได้เผชิญพบกับสัตว์ปีศาจใดๆ ตลอดเส้นทาง ทำให้พวกมันไม่จำเป็นต้องใช้วิชาเวทใดๆ ออกมา แค่บินมุ่งหน้าตรงไปยังจุดศูนย์กลางของภูเขาไฟทั้งเจ็ด
จากบันทึกของเผ่า ที่ภูเขาไฟตรงกลางมีสระน้ำอยู่ ถ้าน้ำในสระแห่งโชคชะตาของภูเขาไฟตรงกลางลดลง น้ำในสระของภูเขาไฟอื่นๆ ก็จะลดลงด้วยเช่นกัน
ทันทีที่กลุ่มคนเผ่าอูต๋าเข้าไปใกล้ปากปล่องภูเขาไฟ พวกมันก็มองเห็นกลุ่มหมอกอยู่ภายใน และได้ยินเสียงแผดร้องดังก้องออกมาจากภายในปล่องภูเขาไฟด้วยเช่นกัน
ไม่ใช่อะไรอื่นแต่เป็นเสียงของเมิ่งฮ่าว เขาส่งเสียงแผดร้องออกมา ขณะที่ภาพของต้นชิงมู่ขนาดใหญ่ ทันใดนั้นก็โผล่ออกมาจากภายในกลุ่มหมอก
ในเวลาเดียวกันนั้น กลุ่มหมอกที่อยู่ภายในปล่องภูเขาไฟก็เริ่มจมกลับลงไป ถูกดูดซับไป ในที่สุด ก็เริ่มมองเห็นเมิ่งฮ่าว นั่งขัดสมาธิอยู่ภายในสระน้ำ ดูดกลืนกลุ่มหมอกทั้งหมดเข้าไป
ภาพของต้นชิงมู่ปรากฎขึ้นที่ด้านบนเขาโดยตรง
“นั่นคือเมิ่งต้าซือ!” กลุ่มคนเผ่าอูต๋าร้องออกมา ทันทีที่จดจำเขาได้ จิตใจพวกมันก็สั่นสะท้าน ขณะที่ดวงตาเมิ่งฮ่าวฉับพลันนั้นก็เปิดขึ้น เขาสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ น้ำที่วนอยู่รอบๆ ตัวเขาเริ่มลดน้อยลงไป กลุ่มควันของปราณสีขาวพุ่งขึ้นมา ถูกดูดซับเข้าไปโดยเมิ่งฮ่าวและภาพต้นชิงมู่ ทำให้ต้นไม้เริ่มดูมีชีวิตชีวาขึ้นมามากขึ้นกว่าเดิม ราวกับว่ามันมีอยู่จริงตรงนั้น
ในตอนนี้เองที่เสียงกระหึ่มกึกก้องได้ยินออกมาจากภูเขาไฟลูกที่หก ปราณสีขาวพุ่งขึ้นมา และมุ่งหน้าตรงมายังกลุ่มคนของเผ่าอูต๋า พุ่งตรงเข้าไปในปากปล่องภูเขาไฟ และมุ่งหน้าตรงไปยังเมิ่งฮ่าว
ต้นชิงมู่ที่อยู่ด้านบนเขา ทันใดนั้นก็เริ่มสั่นไปมา และขยายขนาดออกไป เปลือกของมันเริ่มดูเก่าแก่มากขึ้นไปเรื่อยๆ ราวกับว่าเวลาหลายปีกำลังผ่านไป จนดูเหมือนว่าในตอนนี้ ต้นไม้กำลังสูงขึ้นไปจนแทบจะทะลุขึ้นไปถึงสวรรค์
อันที่จริง สำหรับคนที่กำลังมองมา ก็ดูเหมือนว่า…ต้นไม้นี้ไม่ได้เพียงแค่เติบโตสูงใหญ่ขึ้นเท่านั้น รอยแผลและเครื่องหมายที่เก่าแก่โบราณบนพื้นผิวของต้นไม้ ดูเหมือนจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่าต้นชิงมู่…
ผู้เฒ่าสูงสุดท้องฟ้าหอบหายใจ “บรรพบุรุษกำลังตื่นขึ้นมา!” นางกล่าวเสียงแผ่วเบา “ภาพศักดิ์สิทธิ์ต้นชิงมู่ของเมิ่งต้าซือ กำลังตื่นขึ้นมาจากการหลับใหล!!”
“บรรพบุรุษต้นชิงมู่กำลังตื่นขึ้นมา!” หัวหน้าเผ่าร้องออกมาด้วยความตกตะลึง มันเริ่มหอบหายใจ ดวงตาเบิกกว้าง
ลงไปในสระน้ำด้านล่าง ดวงตาเมิ่งฮ่าวลืมขึ้นมาในทันทีอีกครั้ง แม้เขาไม่เคยจะคาดคิดว่าการดูดซับพลังภาพศักดิ์สิทธิ์ของสระน้ำ และหลอมรวมมันเข้าไปในภาพศักดิ์สิทธิ์ต้นชิงมู่ จริงๆ แล้วจะเป็นการให้กำเนิด…พลังของการปลุกบรรพบุรุษ!
เมิ่งฮ่าวแปลกประหลาดใจ “อะไรจะตื่นขึ้นมาในท้ายที่สุด? ต้นชิงมู่โบราณ?”

About wuxiathai

Organic Theme is officially developed by Templatezy Team. We published High quality Blogger Templates with Awesome Design for blogspot lovers.The very first Blogger Templates Company where you will find Responsive Design Templates.

Copyright © 2015 ผนึกสวรรค์ สยบมาร สะท้านเทพ

Designed by Templatezy | Distributed By Gooyaabi Templates