วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ตอนที่ 368 : วิชาลับซือหลง

Posted By: wuxiathai - 18:07
สนามรบทันใดนั้น ตกอยู่ในความเงียบ…
ไม่มีอะไรนอกไปจากความเงียบ นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้คนเหล่านี้ได้เห็นผู้ฝึกตนถูกกำจัดไปโดยสายฟ้า สายฟ้าทรงพลัง แต่ผู้ฝึกตนก็ไม่ใช่คนอ่อนแอ การถูกสังหารโดยสายฟ้ามักจะเป็นสิ่งที่โดนดูถูกจากคนอื่นๆ แต่ที่คนเหล่านี้ได้เห็นก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง…
อันที่จริงน้อยคนนักที่จะถูกสังหารโดยสายฟ้าจริงๆ สำหรับทัณฑ์สวรรค์ในตำนานก็ยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่
มีผู้คนไม่มากนักที่จะเคยเห็นทัณฑ์สวรรค์ มีทางเดียวที่เคยเห็น ก็เป็นเพราะว่าการปรากฎขึ้นของเม็ดยา หรือวัตถุสวรรค์ หรือของวิเศษปฐพี และนั่นก็คือทัณฑ์สวรรค์ที่ไม่ได้มุ่งเป้าโจมตีมาที่ผู้คน…
“โดนกำจัดโดยสายฟ้า…”
“มันจะเป็นไปได้อย่างไร? นั่นคือสายฟ้าอะไร?! ช่างน่ากลัวยิ่งนัก!”
“สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่สายฟ้า แต่เป็นเมิ่งต้าซือ บัดซบ แม้แต่สายฟ้าจากสวรรค์ก็ยังมาช่วยมัน หรือว่านั่นเป็นวิชาเวทบางอย่าง?”
ผู้ฝึกตนทะเลทรายตะวันตกต่างก็ตะลึงงัน การที่ถูกกำจัดไปโดยสายฟ้าเป็นสิ่งที่น่ากลัวเป็นอย่างมากสำหรับพวกมัน
ผู้ฝึกตนคงอยู่ภายใต้สวรรค์ ขณะที่สายฟ้าเป็นสิ่งของแห่งสวรรค์ ดังนั้น สายฟ้าสำหรับพวกมันแล้วก็เป็นสิ่งที่…ไม่อาจจะหลบเลี่ยงได้!
แม้แต่ผู้ฝึกตนขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งก็จ้องมองมาด้วยดวงตาที่เจิดจ้า การกระทำของเมิ่งฮ่าวเมื่อครู่นี้ เป็นสิ่งที่เกินกว่าการคาดคิดของพวกมัน ถ้ามันคือวิชาเวทที่เขาใช้ออกมา นั่นก็เป็นสิ่งที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก แต่…วิธีที่เมิ่งฮ่าวยกบุรุษผู้นั้นขึ้นไปในอากาศ ก็ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่เขาฝึกฝนอยู่เป็นประจำ
ด้วยความแตกต่างกับผู้ฝึกตนจากโม่ถู่กง และทะเลทรายตะวันตก กลุ่มคนในเมืองเซิ่งเสวี่ยได้คุ้นเคยกับสายฟ้าที่ฟาดลงมายังเมิ่งต้าซือของพวกมันทุกๆ ไม่กี่วันอยู่นานแล้ว
ทุกคนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ จริงๆ แล้ว บางครั้งที่มีใครบางคนไปร้องขอการปรุงยาจากเขา พวกมันก็จะมีโอกาสมองเห็นสายฟ้านี้ด้วย
เมื่อได้เห็นผู้ฝึกตนทะเลทรายตะวันตกถูกสายฟ้าสังหารไป ก็ทำให้จิตใจของกลุ่มคนในเมืองเซิ่งเสวี่ยเกิดความคิดอันซับซ้อนขึ้น…ความนับถือที่มีต่อเมิ่งฮ่าวก็มีมากขึ้นกว่าเดิม
“เมิ่งต้าซือได้ทำเรื่องน่ากลัวอะไรจนทำให้สวรรค์มีโทสะ? สองสามเดือนที่ผ่านมา สายฟ้านั้นพยายามที่จะกำจัดท่านไปอย่างต่อเนื่อง”
“ผู้ฝึกตนทะเลทรายตะวันตกนั้นโชคร้ายจริงๆ มีผู้คนอยู่ตั้งมากมายดันไปยั่วโทสะเมิ่งต้าซือ…เจ้ารู้หรือไม่ ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ข้ามีโอกาสได้เห็นร่างวิญญาณที่เมิ่งต้าซือยกขึ้นมากรีดร้องอย่างโหยหวน…”
เมิ่งฮ่าวกระแอมไอเบาๆ ขณะที่ยืนอยู่บนกำแพงเมือง เขาไม่สนใจสายตาที่คนทั้งหมดจ้องมองมา เขาเริ่มคุ้นเคยกับสายฟ้ามานานแล้ว และในตอนนี้ก็มาถึงจุดที่สามารถทำนายมันได้ล่วงหน้า
หลังจากเวลาผ่านไปสักครู่ การต่อสู้ในสนามรบก็เริ่มปะทะกันต่อไป การเข่นฆ่าดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แต่ขณะที่เป็นเช่นนั้น ผู้ฝึกตนก็มักจะมองขึ้นไปในท้องฟ้าเป็นระยะ เสียงระเบิดที่มักจะเกิดจากวิชาเวทดังก้องขึ้น แต่กระนั้นผู้ฝึกตนมากมายก็จะกระโดดหนีไปด้านข้าง เห็นได้ชัดว่าเกรงกลัวว่าจะมีสายฟ้าฟาดลงมากำจัดพวกมันไป
ต้องใช้เวลาถึงสามวันก่อนที่การกระทำเช่นนั้นจะจางหายไป ตลอดช่วงสามวันนั้น ผู้ฝึกตนโม่ถู่กงเปิดตัวรุกอย่างต่อเนื่อง ทำให้เสียงระเบิดดังเต็มอยู่ในอากาศ พื้นดินสั่นสะเทือน ในยามราตรีของวันที่สาม เสียงระเบิดขนาดใหญ่สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่ว ขณะที่หนึ่งในค่ายกลเวทป้องกันเมืองเซิ่งเสวี่ยพังทลายลงไป
ขณะที่ค่ายกลแตกกระจาย ผู้ฝึกตนโม่ถู่กงจำนวนมากมายพุ่งเข้ามา ติดตามด้วยสัตว์อสูรที่ดุร้ายมากมายจนนับไม่ถ้วน ผู้ฝึกตนทะเลทรายตะวันตกก็เข้ามาร่วมด้วยเช่นกัน
อากาศกระจายเป็นระลอกคลื่น ขณะที่เส้นใยเรืองแสงพุ่งออกมาจากวัตถุรูปร่างดวงดาวที่อยู่ในท้องฟ้า ถึงแม้ยามราตรีจะมืดมิด แต่สนามรบก็สว่างไสวราวกับเป็นตอนกลางวัน
ในที่สุด ช่วงเวลาวิกฤตในการสู้รบก็มาถึง สี่ผู้อาวุโสสูงสุดอยู่ที่นั่น ต่อสู้อย่างดุร้ายอยู่ที่กลางอากาศกับผู้ฝึกตนโม่ถู่กงและทะเลทรายตะวันตก
สีหน้าเมิ่งฮ่าวดูน่าเกลียด ขณะที่ยืนอยู่ด้านบนกำแพงเมือง ทันใดนั้น เขายกมือขวาขึ้น โลหิตสาดกระจายขณะที่สัตว์อสูรที่บินได้ ซึ่งกำลังพุ่งตรงเข้ามาที่เขา ตกลงไปบนพื้นตายไป
“สามเดือน” เขาคิด “ถ้าเมืองนี้พ่ายแพ้ พวกมันก็จะไม่มีทางสร้างตัวไหมหิมะเยือกเย็นออกมาได้” ไม่ว่าสุดท้ายแล้วเมืองเซิ่งเสวี่ยจะพ่ายแพ้หรือไม่ ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา แต่ก่อนที่ช่วงเวลาหกเดือนจะผ่านไป เมืองนี้ต้องไม่พ่ายแพ้
ในตอนนี้เองที่พื้นดินเริ่มสั่นสะเทือน ขณะที่ยักษ์เถื่อนสองตนปรากฎตัวขึ้นในที่ห่างไกล ติดตามพวกมันมาด้วยผู้ฝึกตนนับพันจากโม่ถู่กง และทะเลทรายตะวันตก แน่นอนว่า ยังมีสัตว์ปีศาจที่กำลังส่งเสียงแผดร้องมากมายจนดูเป็นแผ่นผืนสีดำติดตามมาด้วย
“ทำไมปรมาจารย์ตัดวิญญาณถึงไม่ปรากฎตัวขึ้น?” เมิ่งฮ่าวคิด วันที่โจวเต๋อคุนถูกนำตัวไป เมิ่งฮ่าวได้ยินเสียงแผดร้องที่ดังก้องขึ้นมาจากพื้นดิน นั่นเป็นเสียงที่ทำให้สัตว์ปีศาจและผู้ฝึกตนมากมายจนนับไม่ถ้วนที่อยู่ด้านนอกกำแพงเมืองต้องตายไป
แต่ในตอนนี้ แม้แต่ขณะที่ค่ายกลเวทถูกทำลายลง ปรมาจารย์ตัดวิญญาณแห่งเมืองเซิ่งเสวี่ยก็ยังคงไม่ปรากฎตัวขึ้น
“ดูเหมือนว่าหานเสวี่ยจ้งกล่าวถูกต้อง เช่นเดียวกับข่าวลือที่กระจายออกไปที่ด้านนอก เห็นได้ชัดว่าปรมาจารย์ตัดวิญญาณกำลังจะตายไป แต่โม่ถู่กงก็ยังคงหวาดกลัวมัน ถึงพวกมันจะโจมตีอย่างดุร้าย แต่ก็ยังคงสืบเสาะหาข้อมูลเกี่ยวกับปรมาจารย์ตัดวิญญาณอย่างต่อเนื่อง” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกาย ขณะที่เขามองออกไปยังที่ห่างไกล เห็นสองผู้ฝึกตนทะเลทรายตะวันตกกำลังพุ่งตรงมายังหานเสวี่ยชาน ภาพศักดิ์สิทธิ์ของพวกมันส่องแสงเจิดจ้า ผู้พิทักษ์ที่อยู่รอบๆ หานเสวี่ยชานกระอักโลหิตออกมา ไม่อาจจะโจมตีกลับไปได้
เมิ่งฮ่าวแค่นเสียงเย็นชาออกมา ขณะที่เขาพุ่งตรงไปด้วยวิชาระเบิดโลหิตชั่วพริบตา เพียงแวบเดียว เขาก็ไปอยู่ด้านข้างหานเสวี่ยชาน โบกสะบัดนิ้วไป และเวทผนึกอสรูรุ่นแปดก็ปรากฎขึ้น สะกดพื้นฐานฝึกตนและพลังชีวิตของผู้ฝึกตนทะเลทรายตะวันตกลงในทันที รังสีกระบี่ปรากฎขึ้น เมื่อกระบี่บินพุ่งออกมาจากถุงสมบัติเมิ่งฮ่าว ตัดศีรษะบุรุษสองคนนั้นในทันที จากนั้นก็พุ่งกลับมาหมุนวนอยู่รอบๆ เมิ่งฮ่าว
ใบหน้าหานเสวี่ยชานซีดขาว ขณะที่นางมองมายังเมิ่งฮ่าวและยิ้มให้
“ท่านช่วยชีวิตข้าไว้อีกครั้ง” นางกล่าว
หิมะเริ่มตกลงมา และเสียงหวีดหวิวก็ดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่เกล็ดหิมะเต้นรำไปมาในสายลม เป็นเสียงที่เหมือนกับเป็นบทเพลงแห่งงานศพ เสียงระเบิดได้ยินออกมา ตามติดมาด้วยเสียงของการต่อสู้อย่างเข้มข้น เมืองสั่นสะเทือน ขณะที่วัตถุรูปร่างดวงดาวที่อยู่ในท้องฟ้าแตกกระจายออกไปทีละดวง ผู้ฝึกตนโม่ถู่กงและทะเลทรายตะวันตกต่อสู้อย่างดุร้าย ท้องฟ้าเต็มไปด้วยหิมะ แต่บนพื้นดินกลับปกคลุมเต็มไปด้วยโลหิต
เมิ่งฮ่าวไม่ได้กล่าวตอบหานเสวี่ยชาน เขากระทืบเท้าลงไปบนพื้น ทำให้เส้นใยปราณอสูรมากมายจนนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นมา มีแต่เขาที่มองเห็น พวกมันรวมตัวเข้าด้วยกันที่ด้านหลังเมิ่งฮ่าว เพื่อก่อตัวเป็นกำแพงขนาดใหญ่ ป้องกันลำแสงเจิดจ้าที่เพิ่งจะพุ่งออกมาจากรถศึกที่อยู่ใกล้ๆ
อากาศเต็มไปด้วยเสียงดังกึกก้อง ปราณอสูรป้องกันลำแสงที่พุ่งเข้ามาไว้ได้ แต่พลังการโจมตีก็ยังคงมีอยู่ กระจายออกไปในบริเวณนั้น เมิ่งฮ่าวสอดแขนไปโอบรอบเอวหานเสวี่ยชาน จากนั้นก็พุ่งตรงออกไปจากกำแพงเมืองเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตี
หานเสวี่ยชานมองขึ้นไปยังวัตถุรูปร่างดวงดาวที่กำลังแตกกระจาย และเห็นผู้ฝึกตนทะเลทรายตะวันตก ปรากฎตัวขึ้นในทิศทางต่างๆ ของกำแพงเมือง อาวุธเวทเรืองแสงอยู่เต็มท้องฟ้า นางกล่าวด้วยน้ำเสียงอันขมขื่น “ท่านควรจากไปได้แล้ว พวกมันต้องการสังหารตระกูลหานเสวี่ย ไม่ใช่ท่าน ด้วยพื้นฐานฝึกตนของท่าน น่าจะเป็นเรื่องง่ายที่จะหลบหนีออกไปจากที่นี่ในตอนนี้”
ที่ห่างไกลออกไป หญิงชราผู้อาวุโสอันดับสาม กระอักโลหิตออกมา จากนั้นก็กัดฟันแน่น และต่อสู้ต่อไป
“มันไร้ประโยชน์” หานเสวี่ยชานกล่าว ความสิ้นหวังเต็มอยู่ในดวงตา “ถึงแม้ข้าจะใช้ทุกอย่างที่มีทั้งหมดออกไป และใช้ป้อมปราการหนามหิมะเยือกเย็น ท่านปรมาจารย์ก็จะค่อยๆ เหี่ยวแห้งลง และหมดสติไป ไม่มีทางที่จะใช้วิชาลับซือหลงเพื่อเร่งปฏิกิริยาต้นหนามเหล่านั้น…” เสียงกึกก้องดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่กำแพงเมืองพังทลายลง และผู้ฝึกตนทะเลทรายตะวันตกที่หน้าตาดุร้ายก็พุ่งเข้ามาในเมือง
“อะไรคือป้อมปราการหนาม?” เมิ่งฮ่าวถาม ขมวดคิ้ว
“ป้อมปราการหนามหิมะเยือกเย็นยากที่จะทำลายลงได้ และสามารถป้องกันเมืองไว้ได้ตลอดหนึ่งเดือน” นางกล่าวเสียงแผ่วเบา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความขมขื่น “มันเป็นมรดกศักดิ์สิทธิ์ที่ตระกูลหานเสวี่ยนำมาด้วยเมื่อหลายปีมาแล้ว เมื่อพวกเราย้ายมาจากทะเลทรายตะวันตกมายังที่นี่ หลังจากหลายปีที่ผ่านมา มันแห้งเหี่ยวไปจนเกือบหมด มีเพียงวิชาลับเฉพาะเท่านั้นที่จะใช้ชุบชีวิตมันกลับมาได้”
“วิชานั้นมีเพียงผู้อาวุโส และคนอื่นๆ ที่มีสายโลหิตที่ถูกต้องถึงจะใช้มันได้ ตอนนี้ ไม่มีใครสามารถเร่งปฏิกิริยาต้นหนามได้ มีเพียงปรมาจารย์ที่มีพื้นฐานฝึกตนเพียงพอที่จะทำได้” นางตบไปที่ถุงสมบัติหยิบเอาเมล็ดที่เหี่ยวแห้งออกมา
“นี่คือหนึ่งในเมล็ดทั้งแปด ผู้อาวุโสทั้งหมดต่างก็มีอยู่หนึ่งเมล็ด และที่เหลือก็อยู่กับท่านปรมาจารย์ ไม่มีใครในพวกเราที่จะเคยทำได้สำเร็จ”
“เร่งปฏิกิริยา?” เมิ่งฮ่าวกล่าว ดวงตาสาดประกาย เขากำลังจะกล่าวต่อ แต่ทันใดนั้นเสียงระเบิดก็ดังเต็มอยู่ในอากาศ และกำแพงเมืองก็สั่นสะเทือน สีหน้าเมิ่งฮ่าวเปลี่ยนไป เขาโอบหานเสวี่ยชาน พุ่งถอยไปอีกครั้ง ที่ห่างไกลออกไป ผู้ฝึกตนทะเลทรายตะวันตกกลุ่มใหญ่กำลังเข้ามาใกล้
ขณะที่กำแพงเมืองแตกสลายไป เสียงแผดร้องโหยหวนก็ดังก้องไปทั่ว เมิ่งฮ่าวหลบหนีไปพร้อมกับหานเสวี่ยชานในอ้อมกอดอย่างต่อเนื่อง กล่าวอย่างรีบเร่งว่า “บอกข้าถึงวิธีเร่งปฏิกิริยานั้น ข้าเป็นนักปรุงยา และมีวิธีเร่งปฏิกิริยาของตัวเอง บางทีด้วยวิธีนั้น ข้าอาจจะสามารถเข้าใจถึงวิธีการเร่งปฏิกิริยาของเจ้า”
หานเสวี่ยชานอ้าปากค้างมองเขาชั่วครู่ หากอยู่ภายใต้สถานการณ์ปกติ นางไม่มีทางที่จะเปิดเผยวิชาลับของตระกูลอย่างแน่นอน แม้แต่จะใช้วิชาควานหาวิญญาณก็ไม่มีประโยชน์ที่จะได้ข้อมูลไปจากนาง นี่เป็นวิชาเวทมรดกที่ประทับอยู่ในโลหิตของนาง แต่หลังจากที่ครุ่นคิดไม่กี่อึดใจ นางก็ตัดสินใจได้ เมื่อตระกูลหานเสวี่ยคงอยู่ในทะเลทรายตะวันตกด้วยความแข็งแกร่งสูงสุด นี่เป็นวิชาลับที่ถูกใช้โดยรุ่นต้าซือหลงของพวกนาง! นางเริ่มอธิบายวิชานั้นกับเมิ่งฮ่าวด้วยเสียงแผ่วเบา
วิชาลับนี้ไม่ได้ยาวมากนัก มีตัวอักษรเพียงแค่หนึ่งพันตัว ขณะที่คำพูดไหลเข้าไปในหูเมิ่งฮ่าว จิตใจเขาก็เริ่มสั่นสะท้าน ราวกับว่าภาพและเสียงทั้งหมดในสนามรบรอบๆ ตัวเขาหายไป มีเพียงสิ่งเดียวที่หลงเหลืออยู่ก็คือหนึ่งพันตัวอักษรซึ่งประกอบขึ้นเป็นวิชาลับ!
“…ทำให้เวลาจมลง, สายน้ำลดต่ำ และจันทราหมุนเวียน ไขว่คว้าเจตจำนงแห่งดวงตะวันที่เจิดจ้า สิ่งมีชีวิตทั้งมวลประกอบไปด้วยเจตจำนงแห่งชีวิตนิจนิรันดร์…” หานเสวี่ยชานพูดออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา ถ้าคำพูดเหล่านี้ถูกเปิดเผยออกไปในทะเลทรายตะวันตกจริงๆ แล้ว ก็อาจจะเป็นเหตุให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายขึ้นมาได้ เมื่อหานเสวี่ยจ้งผู้เป็นขบถของตระกูลได้ถูกไว้ชีวิตโดยบิดาของมัน ความทรงจำทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับวิชาลับนี้ก็ถูกลบออกไปจากจิตใจของมัน นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่มันกลับมา เพื่อชำระความแค้นเก่าและกำจัดตระกูลหานเสวี่ยไป ไม่มีทางที่มันจะได้ครอบครองวิชานี้อีกครั้ง นอกจากมีสมาชิกของตระกูลได้บอกมันเป็นการส่วนตัว!
จิตใจเมิ่งฮ่าวหมุนคว้างไปมา หลับตาลง ปล่อยให้ข้อความหลากหลายของวิชานั้นดังก้องอยู่ในจิตใจ ทันใดนั้น เขาก็คิดไปถึงวิชาเร่งปฏิกิริยาของสำนักจื่อยิ่น รวมถึงแผ่นหยกกลั่นสกัดกาลเวลา ที่เขาใช้สร้างอาวุธเวทกาลเวลา
ด้วยความทรงจำที่แตกต่างกันทั้งสองอย่างนี้ วิชาเร่งปฏิกิริยาเป็นลำดับขั้นแรก เวทกาลเวลาเป็นลำดับขั้นที่สอง และตอนนี้…จิตใจเมิ่งฮ่าวก็หมุนคว้าง หลังจากที่ได้ยินวิชาลับของตระกูลหานเสวี่ย เขาก็ตระหนักว่านี่เป็นลำดับขั้นที่สาม!
วิชาลับซือหลง!
การใช้วิชาเหล่านี้แยกออกจากกัน ก็จะทำให้ประสบความสำเร็จระดับปานกลาง แต่ถ้าใครได้ครอบครองทั้งสามวิชานี้ ก็จะทำให้มีความรู้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและพลังของวิชาทั้งสามให้เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย
เพราะเขารู้วิธีการเร่งปฏิกิริยาลับ และเข้าใจถึงเวทลับกาลเวลาด้วยเช่นกัน เมื่อได้ยินวิชาลับซือ หลง เขาก็เข้าใจมัน และประทับวิชานี้เข้าไปในจิตใจทันที

About wuxiathai

Organic Theme is officially developed by Templatezy Team. We published High quality Blogger Templates with Awesome Design for blogspot lovers.The very first Blogger Templates Company where you will find Responsive Design Templates.

Copyright © 2015 ผนึกสวรรค์ สยบมาร สะท้านเทพ

Designed by Templatezy | Distributed By Gooyaabi Templates