ไข่มุกหมุนควงกลับเข้าไปในปากของซ่างกวนซิว จากนั้นมันก็ใช้มือข้างที่ยังเหลืออยู่ ตบลงไปที่ถุงเก็บสมบัติ กระบี่บิน, ธงและของวิเศษอีกมากมาย ก็ปรากฎขึ้น ทั้งหมดพุ่งตรงออกไปในเวลาเดียวกัน จากนั้นของวิเศษแต่ละชิ้นพวกนั้น ก็ระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ ซ่างกวนซิวยกมือขึ้น และชิ้นส่วนของวิเศษหลากชนิดนั้น ก็รวมตัวกันกลายเป็นบางสิ่งที่คล้ายทะเล
เมื่อมองจากที่ห่างไกล ก็เห็นชิ้นส่วนอันมากมายพวกนั้น ส่องแสงเจิดจ้าบาดตา ทำให้ดูเหมือนราวกับว่า มีทะเลจริงๆ กำลังลอยขึ้นไปในท้องฟ้า ทะเลเริ่มหมุนคว้าง จากนั้นก็ส่งเสียงหวีดหวิวแหวกฝ่าอากาศ พุ่งตรงไปที่เมิ่งฮ่าว
นี่คือ เทียนเหอไห่ (ทะเลทางช้างเผือก) วิชาเวทซึ่งมันได้เรียนรู้มาจาก ปรมาจารย์เทียนเหอ เมื่อหลายปีมาแล้ว วิชานี้ได้มีการแบ่งออกเป็นหลายระดับ ระดับที่ต่ำสุด สามารถใช้ได้กับบางคน ที่อยู่ระดับเก้า ของการรวบรวมลมปราณ
แน่นอนว่า ใครก็ตามที่เป็นผู้ฝึกตนระดับพื้นฐานลมปราณ สามารถที่จะโบกสะบัดแขนเสื้อ และสร้างเทียนเหอไห่นี้ จากชิ้นส่วนของสิ่งต่างๆ ได้ อย่างไรก็ตาม ในขั้นรวบรวมลมปราณ มันก็เป็นวิชาที่ทรงพลังอย่างแท้จริง
เมื่อเป็นเช่นนี้ มันก็ไม่ใช่วิชาที่จะสร้างขึ้นมาได้โดยง่ายดาย มีเพียงบางคนที่อยู่ในขั้นสูงสุด ของระดับเก้า ของการรวบรวมลมปราณ และต้องเป็นผู้ที่มีพลังลมปราณ อันมากมายมหาศาลเท่านั้นถึงจะทำได้ ในเมืองเทียนเหอทั้งหมด มีเพียงซ่างกวนซิวคนเดียว ที่อยู่ในระดับเก้า ของการรวบรวมลมปราณ ที่สามารถทำได้
ณ ตอนนี้ มันต้องการที่จะยุติการต่อสู้ครั้งนี้ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ไม่เพียงแต่จะต้องการของวิเศษจากเมิ่งฮ่าวเท่านั้น มันยังต้องกลับไปยังเมืองเทียนเหอ เพื่อขจัดพิษในร่างของมัน ดังนั้นมันจึงโจมตีด้วยวิชาที่ทรงพลังของมันมากที่สุด ส่งผลให้ก้อนเมฆของชิ้นส่วนของวิเศษ พุ่งตรงไปที่เมิ่งฮ่าวอย่างรวดเร็ว เมื่อมันเข้ามาใกล้ เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจลึกๆ และตบลงไปที่ถุงเก็บสมบัติ
กระบี่บินเล่มแล้ว เล่มเล่าปรากฎออกมา กระบี่สิบเล่ม, ห้าสิบ, หนึ่งร้อย จนกระทั่งมีกระบี่บินสามร้อยเล่ม หมุนคว้างลอยไปมารอบตัวเขา เมิ่งฮ่าวยกมือขึ้น จากนั้นก็ผลักกระบี่บินพวกนั้นออกไปด้านหน้า
เมื่อเขาทำเช่นนี้ กระบี่บินสามร้อยเล่ม ก็กลายเป็นพิรุณกระบี่อันมากมาย จากนั้นก็รวมกันเป็นร่างของมังกรปีกวารี เขาเดินไปข้างหน้า และเส้นใยของแสงสีทองสองเส้น ก็ปรากฎขึ้นในมือ กระบี่ไม้สองเล่ม ร่างของเขากลายเป็นลำแสง เมื่อเขาบินเข้าไปในพิรุณกระบี่ของมังกรปีกวารี
มันเหมือนราวกับว่า เขาได้กลายเป็นจิตวิญญาณของ กระบี่บินมังกรปีกวารี มันชูศีรษะขึ้นไปในท้องฟ้า และส่งเสียงคำรามออกมา จากนั้นก็พุ่งตรงไปที่เทียนเหอไห่ (ทะเลทางช้างเผือก)
เสียงระเบิด ดังกระหึ่มก้องออกมา สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสวรรค์และปฐพี ทะเลทางช้างเผือก ที่ประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนของวิเศษ ปะทะกับกระบี่บินของเมิ่งฮ่าว เสียงปะทุดังออกมา เมื่อกระบี่เล่มแล้วเล่มเล่า แตกกระจายออกเป็นชิ้นๆ แต่เมื่อเทียนเหอไห่ ปะทะกับกระบี่สิบเล่ม เมิ่งฮ่าวก็ผลักดันอีกสิบเล่มเข้าไปแทนที่
ตอนนี้ กระบี่บินที่เขาสามารถควบคุมได้พร้อมกัน มากที่สุดก็คือสามร้อยเล่ม ภายในถุงเก็บสมบัติของเขาตอนนี้ มีอยู่ทั้งหมดเจ็ดร้อยเล่ม ซึ่งเขาได้ค่อยๆ ผลิตมันขึ้นมาตั้งแต่เมื่อปีก่อน หลังจากการต่อสู้อันดุร้ายกับติงซิ่น และระหว่างช่วงการทะลวงผ่านระดับเก้า ของการรวบรวมลมปราณ เขาได้เตรียมตัวอย่างเต็มที่
เมื่อได้เห็นกระบี่บินมามายปานนี้ สีหน้าของซ่างกวนซิวเปลี่ยนไป มือซ้ายของมันขยับเป็นรูปแบบ การสร้างเวทอาคม จากนั้นก็มีอาวุธเวทอีกมากมาย รวมเข้าไปในเทียนเหอไห่ (ทะเลทางช้างเผือก)
กระบี่บินของเมิ่งฮ่าว ส่งเสียงกรีดร้อง เมื่อพวกมันพุ่งเข้าไปปะทะกับเทียนเหอไห่ อย่างต่อเนื่อง เสียงของมันดังกระหึ่มออกมาในทุกทิศทาง และพลังของเทียนเหอไห่ก็ช่างน่ากลัวเป็นยิ่งนัก ณ ขณะนี้ เขาไม่สามารุถจะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้อย่างง่ายดาย
ทันใดนั้น เขาก็หมุนตัว ทำให้กระบี่บินที่วนอยู่รอบๆ ตัวเขา ก็เริ่มหมุนตาม พวกมันหมุนวนเร็วขึ้น และเร็วยิ่งขึ้น จนกระทั่งกลายเป็นลมหมุน ซึ่งมีเมิ่งฮ่าวเป็นจุดศูนย์กลาง เขาหยุดการเคลื่อนไหว แต่กระบี่บินลมหมุน ก็ยังคงหมุนวนเร็วขึ้น และเร็วขึ้นต่อไป
จากที่ห่างไกล มันดูราวกับว่า กำลังมีพายุที่หมุนวนอย่างรวดเร็ว ได้พุ่งตัดเข้าไปยังตรงกลางของเทียนเหอไห่ (ทะเลทางช้างเผือก) ชิ้นส่วนของวิเศษในเทียนเหอไห่ ก็ชนปะทะกับกระบี่บินอย่างต่อเนื่อง หลังจากหายใจผ่านไปไม่กี่ครั้ง กระบี่บินก็เคลื่อนไปข้างหน้า ตัดผ่านทะเลเทียนเหอออกไป
สีหน้าซ่างกวนซิวบิดเบี้ยว พลังการฝึกตนของเมิ่งฮ่าว และจำนวนของวิเศษที่เขามี ช่างน่าตกใจเป็นยิ่งนัก สิ่งที่น่าตกใจมากที่สุด ก็คือ ประสบการณ์การต่อสู้ของเขา ความสามารถในการเปลี่ยนวิธีต่อสู้ด้วยเวทอาคมอย่างรวดเร็ว ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ซ่างกวนซิวยากจะเชื่อเป็นที่สุด
ท่ามกลางเสียงร้องคำรามดังกระหึ่ม เมิ่งฮ่าวและพิรุณกระบี่ของเขาก็ ทะลวงผ่านเทียนเหอไห่ (ทะเลทางช้างเผือก) ส่งผลให้ชิ้นส่วนของมันกระจัดกระจายออกไป
ทันใดนั้น เมิ่งฮ่าวก็กระโดดไปข้างหน้า เส้นใยสีทองสองเส้น ซึ่งคือสองกระบี่ไม้ ก็ส่งเสียงหวีดร้องแหลมเล็ก เมื่อพวกมันพุ่งผ่านอากาศออกไปพร้อมกับเขา ความตกใจปกคลุมใบหน้าของซ่างกวนซิว
“เมิ่งฮ่าว!” มันร้องออกมา พุ่งหลบไปด้านหลัง ด้วยความรวดเร็วเท่าที่จะทำได้ ด้วยสีหน้าตกใจกลัวอย่างที่สุด ในทางตรงข้ามกัน เมื่อเมิ่งฮ่าวโจมตี เขาจะไม่พูดแม้แต่คำเดียว สีหน้าของเขาสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย เขาเพิ่มความเร็วขึ้นไปอีก เล็งกระบี่ไม้ทั้งสองเล่ม หนึ่งแทงตรงไปที่หัวใจ และอีกเล่ม ที่หน้าผาก
ซ่างกวนซิวตกอยู่ในสถานการณ์ที่เดือดร้อนเป็นอย่างมาก ในตอนแรกมันเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่หลังจากถูกพิษ ทุกสิ่งทุกอย่างก็ตกต่ำลง มันไม่สามารถขจัดพิษออกไปได้ ซึ่งก็หมายความว่า มันไม่สามารถใช้พลังการฝึกตนของมันได้อย่างเต็มที่ มันจำเป็นต้องใช้พลังบางส่วนมาสะกดพิษไม่ให้กำเริบ ตอนนี้มันถูกบังคับให้ต้องถอยหลังไป หนึ่งก้าวในเวลานี้
ซ่างกวนซิวยกมือขึ้นมา ทุบไปที่หน้าอกของมันอย่างรวดเร็ว กระอักโลหิตออกมา ท่ามกลางละอองโลหิต ไข่มุกที่เคยปรากฎขึ้นเมื่อครู่นี้ ก็แวบเป็นแสงโค้งพุ่งตรงไปป้องกันกระบี่ไม้ทั้งสองเล่มไว้ เกราะป้องกันก็เริ่มสั่นในทันที และจากนั้นก็เริ่มแตกร้าวออกมา ผลักดันให้ซ่างกวนซิวถอยไปด้านหลังรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
เมื่อได้เห็นเกราะป้องกันเริ่มแตกร้าว ซ่างกวนซิวก็รีบพูดขึ้นมา
“เมิ่งฮ่าว พวกเราหยุดกันแค่นี้เถอะ สามสำนักใหญ่กำลังค้นหาเจ้า และการต่อสู้ครั้งนี้ ต้องกระตุ้นความสนใจของพวกมันเป็นแน่ พวกมันอาจจะมาถึงได้ทุกเมื่อ ข้าไม่ต้องการทำอันตรายชาวบ้านในสามเมืองนี้ เรามาเลิกเป็นศัตรูต่อกัน เจ้าคิดว่าอย่างไร?”
เมิ่งฮ่าวไม่ตอบ พลังลมปราณของเขาเพิ่มสูงขึ้น และกระบี่ไม้ก็ส่องประกายออกมา เคลื่อนผ่านเกราะป้องกันไป ตอนนี้ ซ่างกวนซิวตกใจเป็นอย่างยิ่ง พร้อมเสียงกู่ร้อง มันโบกสะบัดมือ ชี้ลงไปที่ด้านล่างของภูเขา
“ถ้าเจ้ายังขืนโจมตีต่อ ข้าจะกำจัดผู้คนทั้งสามเมืองนี้ให้หมด!”
“เสียวหู่! (พยัคฆ์น้อย)” เมิ่งฮ่าวตะโกน นี่เป็นครั้งที่สอง ที่เขาได้พูดระหว่างการต่อสู้
เมื่อเสียงตะโกนของเขาดังออกมา แสงระยิบระยับสีแดงเลือด ก็มองเห็นได้ ที่ด้านล่างของภูเขา โลหิตรูปทรงกลมปรากฎขึ้น มันเริ่มขยายตัวออก ราวกับว่ามันกำลังจะระเบิดออกมา เงาร่างผอมแห้งก็ปรากฎขึ้น มันไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก เสียวหู่ มันกัดฟันแน่น ไข่มุกในมือยื่นออกไปข้างหน้า
ไข่มุกพุ่งตรงไปยังเซี่ยฉิว (โลหิตลูกกลมๆ) หมุนวนอยู่รอบๆ มัน ก่อตัวเป็นม่านกั้น ครอบไปที่เซี่ยฉิวอย่างรวดเร็ว ทำให้โลหิตลูกกลมๆ นั้นหยุดการขยายตัวในทันที
“เมิ่งฮ่าว, ข้าควบคุมมันได้แค่ชั่วธูปไหม้หมดหนึ่งดอกเท่านั้น!” ขณะที่พูด เสียวหู่ก็กระอักโลหิตออกมา จากนั้นก็นั่งลงขัดสมาธิเข้าฌาณไป
เมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ก็ทำให้ใบหน้าของซ่างกวนซิวเปลี่ยนไปหลายรูปแบบ แต่มันก็ไม่มีเวลาที่จะทำอะไรไปมากกว่านี้ ด้วยเสียงระเบิดที่ดังออกมา เกราะป้องกันก็แตกออกเป็นชิ้นๆ และไข่มุกของมันก็แหลกสลายเป็นเสี่ยงๆ กระบี่ไม้สองเล่มพุ่งไปข้างหน้าอีกครั้ง เมิ่งฮ่าวอยู่ด้านหลัง รังสีสังหารของเขา พุ่งขึ้นไปจนถึงสวรรค์
โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากของซ่างกวนซิว และมันก็ไม่สามารถควบคุมพิษในร่างได้อีกต่อไป มันระเบิดออกมา ส่งผลให้ร่างกายมันชาด้านไร้ความรู้สึก มันล่าถอยอย่างต่อเนื่อง รอยยิ้มเศร้าโศกปรากฎขึ้นบนใบหน้าของมัน
“สวรรค์ไม่ยอมช่วยข้า…” มันกล่าวพร้อมเสียงหัวเราะอันขมขื่น “เมิ่งฮ่าว, ข้าจะไม่แพ้ในการต่อสู้ครั้งนี้ และเจ้า…ข้าขอสาบานว่า ข้าจะทำลายเส้นลมปราณของเจ้า!” รอยยิ้มของมันดูเหมือนว่าจะมี ความไม่พอใจอย่างรุนแรง ตามมาด้วยความรู้สึก ที่ไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ไม่มีความสิ้นหวังรวมอยู่ในนั้น
มือซ้ายของมัน ตบไปที่ถุงเก็บสมบัติ ไม่สนใจกระบี่ไม้ที่พุ่งเข้ามา มันถือเม็ดยาขึ้นมา เมื่อเม็ดยาปรากฎขึ้น พลังลมปราณที่อยู่บริเวณนั้น ก็ดูเหมือนว่าจะพลุ่งพล่านขึ้นมา และกลิ่นหอมของตัวยาก็เต็มอยู่ในอากาศ ด้วยเสียงหัวเราะอันขมขื่น มันกลืนเม็ดยาลงไป
เมื่อเมิ่งฮ่าวได้เห็นยาเม็ดนี้ ดวงตาของเขาก็หดแคบลง มันมีสีเหลืองอำพัน และไม่ใช่เม็ดยาไหนอื่น แต่เป็นเม็ดยาพื้นฐานลมปราณ บนผิวของมันจารึกไว้ด้วยเครื่องหมาย นี่เป็นเม็ดยาพื้นฐานลมปราณ ซึ่งเป็นเม็ดเดียวกับที่เขาได้ขายไปที่เมืองเทียนเหอ
“ข้า ซ่างกวนซิว บรรลุระดับแรก ของการรวบรวมลมปราณ เมื่ออายุสิบเจ็ดปี” มันพึมพำกับตัวเอง “ตอนอายุสามสิบ ข้าก็อยู่ระดับหก, สามสิบเก้า ข้าอยู่ระดับเก้า วันนี้ ข้าอายุ เก้าสิบเก้าปี…”
มันไม่มองเมิ่งฮ่าวแม้แต่น้อย แต่จ้องมองไปบนท้องฟ้าแทน ในทันใดนั้น พลังลมปราณในร่างกายของมันก็ประดังพรั่งพรูขึ้นมา มันไม่ขยับตัว แน่นอนว่า มันไม่สามารถขยับได้ จนกระทั่งเม็ดยาพื้นฐานลมปราณได้ถูกดูดซับเข้าไปจนหมดสิ้น
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ามันจะอยู่ในช่วงอ่อนแอ แต่พลังลมปราณในร่างของมันก็มากมายมหาศาล มากกว่าระดับเก้า ของการรวบรวมลมปราณอีกมากนัก เมื่อลมปราณของมันทะยานตรงไปที่ขั้นพื้นฐานลมปราณ กระบี่ไม้สองเล่ม ก็ตรงเข้ามาช้าๆ หยุดห่างจากร่างของมันประมาณหนึ่งคืบ
สีหน้าของเมิ่งฮ่าวเปลี่ยนไป เขาสัมผัสได้ถึงพลังลมปราณในร่างของซ่างกวนซิว เข้มข้นมากขึ้น และมากขึ้น มันกำลังจะบรรลุขั้นพื้นฐานลมปราณในตอนนี้บนภูเขาต้าชิง ถ้าสีหน้าของเมิ่งฮ่าวเปลี่ยนไป สีหน้าของเสียวหู่ก็ยิ่งเปลี่ยนไปมากกว่า
“ข้าสามารถที่จะบรรลุถึงขั้นพื้นฐาน เมื่อห้าสิบปีที่แล้ว” ซ่างกวนซิวกล่าว สีหน้ามันหมองคล้ำลง ดูป่าเถื่อนมากขึ้น
“แต่ข้าไม่ต้องการ ข้าไม่ต้องการพื้นฐานไร้ตำหนิ ข้าวางแผนมาห้าสิบปี เพื่อบรรลุขั้นพื้นฐานที่สร้างความสั่นสะเทือนให้โลกนี้ได้ มันเป็นขั้นที่ดีกว่าพื้นฐานไร้ตำหนิ! ข้าต้องการบรรลุขั้นพื้นฐานสมบูรณ์แบบ แต่วันนี้…โชคร้าย ที่วันนี้ข้าได้รับบาดเจ็บ และถูกพิษ ถ้าข้าไม่บรรลุถึงขั้นพื้นฐานลมปราณ ข้าก็ต้องตายอย่างแน่นอน ห้าสิบปีของการเตรียมตัว และในขั้นตอนสุดท้าย…ถูกทำลายโดยเจ้า! เมิ่งฮ่าว รู้หรือไม่ว่าข้าเกลียดเจ้ามากเท่าไหร่!?”
ซ่างกวนซิวก้มหน้าลง จ้องไปที่เมิ่งฮ่าว มันไม่ได้กัดฟันหรือกู่ร้อง ใบหน้าของมันเยือกเย็น และดวงตาของมัน ก็เต็มไปด้วยความเกลียดชังอันรุนแรง ซึ่งเห็นได้ชัดว่า ได้สลักลึกลงไปถึงกระดูก และจิตใจของมัน
หัวใจของเมิ่งฮ่าวเริ่มเต้นแรงขึ้น และรู้สึกถึงเงาแห่งความตายได้ปกคลุมลงมา แต่เขาไม่ยอมถอย ประกายตาวาบขึ้น เขาคิดย้อนกลับไป ช่วงที่เขาได้กลืนเม็ดยาพื้นฐานลมปราณลงไป เขาไม่สามารถขยับเคลื่อนไหวได้นานถึงสองเดือน
“ตอนนั้นข้าอยู่ระดับแปดของการรวบรวมลมปราณ ดังนั้นมันจึงใช้เวลาสองเดือน” เมิ่งฮ่าวคิด
“ซ่างกวนซิวอยู่ในขั้นสูงสุดของระดับเก้ามาห้าสิบปี มันอาจจะดูดซับพลังของเม็ดยาได้เร็วขึ้น แต่มันต้องมีวิธี!”
ดวงตาของเขาส่องประกาย เขาหยิบชงไถตาน (เม็ดยาประจุไต้ฝุ่น) ออกมา และใส่เข้าไปในปากกลืนลงไป เมื่อพลังลมปราณกระจายออกไปทั่วร่าง เขาก็โบกมือไปที่กระบี่ไม้ทั้งสองเล่ม
ด้วยเสียงดังก้อง กระบี่ไม้สองเล่มสั่นไปมา จากนั้นก็เริ่มเปล่งอานุภาพออกมา มันค่อยๆ เคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ ใกล้เข้าไปยังซ่างกวนซิวเรื่อยๆ เมื่อกระบี่ไม้ทั้งสองเล่มห่างจากมันสามชุ่น (1 ชุ่น = 2.3 เซนติเมตร) กระบี่ไม้ทั้งสองก็เริ่มหยุดลง นี่เป็นข้อจำกัดของเมิ่งฮ่าว เขามีพลังลมปราณไม่เพียงพอ และไม่สามารถทำให้กระบี่ขยับเคลื่อนออกไปได้อีกแม้แต่น้อย
“เจ้าช่างไม่ประมาณตนนัก” ซ่างกวนซิวพูดพร้อมหัวเราะอย่างเย็นชา
“ข้าสามารถที่จะบรรลุถึงขั้นพื้นฐานลมปราณได้ ตั้งแต่เมื่อห้าสิบปีที่แล้ว ด้วยความลึกซึ้งของพลังการฝึกตนของข้า ข้าสามารถที่จะดูดซับเม็ดยาพื้นฐานลมปราณในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยาม เจ้าน่าจะรีบหนีไปในตอนนี้ แต่ถึงเจ้าจะหนีไปถึงสุดขอบโลก ข้าก็บอกได้เลยว่า เจ้าต้องตายแน่นอน”
มันจ้องไปที่เมิ่งฮ่าว ด้วยความเกลียดชังที่สามารถปลุกความคิดได้เป็นร้อยวิธี ที่จะสังหารเมิ่งฮ่าว