วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2560

ตอนที่ 32 : มันคือเจ้า!

Posted By: wuxiathai - 22:33
กระบี่บินของเมิ่งฮ่าว และวิชาเวทที่พิเศษเฉพาะของหวังเถิงเฟย สร้างความตกใจกลัวให้กับศิษย์สายนอกที่มุงดูอยู่รอบๆ ทั้งหมด พวกมันไม่ได้ดูถูกเมิ่งฮ่าวอีกต่อไป มีแต่ความตะลึงงันในอาวุธเวทอันมากมายของเขา
ไม่เพียงแต่พวกมันเท่านั้น ซ่างกวนซิว, ผู้อาวุโสโอวหยาง และแม้แต่เจ้าสำนัก เฮ่อหลัวฮว่า ก็ยังจ้องมองดูด้วยความประหลาดใจ
หวังเถิงเฟย มีความแข็งแกร่ง สามารถที่จะสร้างความเกรงกลัวให้กับศิษย์สายนอกคนอื่นๆ ทุกคนทราบดีในเรื่องนี้ แต่เมื่อได้เห็นเมิ่งฮ่าวสามารถที่จะต่อสู้ได้อย่างสูสีกับหวังเถิงเฟยเช่นนี้ ก็ทำให้ทุกคนที่ดูอยู่รู้สึกประหลาดใจไปตามๆ กัน
ณ ตอนนี้ กระบี่บินสี่สิบเล่มตกลงมาที่หวังเถิงเฟยจากทั่วทุกทิศทาง พายุแห่งกระบี่ดูราวกับว่าสามารถที่จะเชือดเฉือนสิ่งมีชีวิตทุกๆ อย่างที่ยืนขวางทางมันให้แหลกเป็นชิ้นๆ ใครก็ตามที่มีพลังการฝึกตนอยู่ในระดับขั้นหกของการรวบรวมลมปราณแบบพื้นๆ ทั่วไป ก็คงยากที่จะยืนหยัดต่อต้านมันได้
เมิ่งฮ่าวกระอักโลหิตออกมาอีกครั้ง วิธีเดียวที่จะบังคับให้ตัวเองยังคงยืนหยัดต่อไปได้ ก็คือการกินแกนอสูรเข้าไปอย่างต่อเนื่อง
เสียงระเบิดดังกึกก้องเมื่อกระบี่บินสี่สิบเล่มของเมิ่งฮ่าว ปะทะเข้ากับพลังดรรชนีที่สองของหวังเถิงเฟย มากกว่าครึ่งของกระบี่บินได้ถูกทำลายไป แต่การโจมตีของพลังดรรชนี ก็ไม่สามารถทำอะไรเมิ่งฮ่าวได้ นอกจากทำให้เขาต้องกระอักโลหิตออกมาอีกเล็กน้อย
ไม่ว่าใครก็ตามอาจจะต้องระมัดระวังตัว เมื่อต้องต่อสู้กับเมิ่งฮ่าว แต่หวังเถิงเฟยก็ยังคงไม่สนใจไยดีเช่นเคย มันก้าวเท้าไปข้างหน้าและโบกสะบัดนิ้วเป็นครั้งที่สาม
พลังลมปราณของเมิ่งฮ่าวใกล้จะถูกใช้ไปจนเกือบหมด แต่เขาก็ยังมีแกนอสูรอีกมากมาย ในการช่วยเขาฟื้นฟูพลังลมปราณ ตลอดช่วงเวลานี้ เขาได้พยายามที่จะรักษาระดับของพลังลมปราณไว้ให้คงที่ เมื่อเขาเห็นหวังเถิงเฟยเคลื่อนไหวขยับตัวเป็นครั้งที่สาม เขาก็นึกไปถึงพลังดรรชนีที่โจมตีเขา เพื่อเอาขวดน้ำเต้าหยกไปอย่างช่วยไม่ได้
รังสีอำมหิตเพิ่มรุนแรงขึ้นในดวงตาของเขา เขาไม่ยอมหลบหนี แต่ก้าวเท้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ขยับนิ้วประสานกันเป็นเวทอาคม ถุงเก็บสมบัติสามถึงสี่ถุงของเขาเริ่มสั่นกระเพื่อม ทันใดนั้นรังสีกระบี่ก็ปรากฎขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนที่มุงดูอยู่
เขาโบกสะบัดชายแขนเสื้อ ส่งระลอกคลื่นที่หนึ่ง, คลื่นที่สอง, คลื่นที่สามของกระบี่บิน พวกมันกลายเป็นพิรุณกระบี่ที่ส่องแสงวูบวาบระยิบตา หนึ่งกระบี่, สิบ, ยี่สิบ, สามสิบกระบี่…เจ็ดสิบกระบี่ ในคลื่นกระบี่ทั้งสี่คลื่น เปล่งประกายออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ พุ่งตรงไปที่หวังเถิงเฟย
เมิ่งฮ่าวกระอักโลหิตออกมา และกลืนเม็ดยาลงเหมือนเช่นเคย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเส้นเลือด แต่ความต้องการสังหารในนั้นก็รุนแรงมากขึ้นกว่าที่เคย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีพลังลมปราณเหลืออยู่เลย เขาไม่ได้ออมมันไว้แม้แต่น้อย!
หวังเถิงเฟยแค่นเสียงเย็นชาออกมา ด้วยการที่ทุกคนมองดูอยู่ มันไม่ต้องการที่จะหลบเลี่ยงการโจมตี แต่ก็มีกระบี่มากมายยิ่งนัก พวกมันพุ่งใกล้เข้ามาเป็นเส้นตรง และมีบางสิ่งเกี่ยวกับการโจมตีนี้ดูไม่ธรรมดา มันมีความสังหรณ์ใจว่า ถ้ามันพยายามที่จะหลบการโจมตีครั้งนี้ มันก็ยังคงที่จะเดินเข้าไปสู่ความตายได้เช่นเดียวกัน
นี่เป็นครั้งแรก ที่มีบางสิ่งส่องประกายในดวงตาของหวังเถิงเฟย มันยกนิ้วขึ้นมา ขยับเคลื่อนไหวเพื่อโจมตีเป็นดรรชนีที่สี่ในทันที ระลอกคลื่นปรากฎอยู่ที่เบื้องหน้าของมัน ในขณะที่เริ่มกระจายออกไป นิ้วมือของเมิ่งฮ๋าวก็หยุดการขยับ และเขาก็ประสานฝ่ามือเข้าด้วยกันวางอยู่ตรงหน้า
“สายลมกำเนิดกระบี่!” เมื่อคำพูดหลุดออกมาจากปากของเมิ่งฮ่าว ทันใดนั้น กระบี่บินทั้งเจ็ดสิบเล่มก็เริ่มที่จะรวมตัวเข้าด้วยกัน
พวกที่มุงดูก็ต้องอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เมื่อคลื่นแห่งกระบี่บินลูกที่สี่เพิ่มความเร็วขึ้น กระแทกเข้าไปที่คลื่นลูกที่สาม จากนั้นก็กวาดเข้าไปในพิรุณกระบี่ของคลื่นลูกที่สอง และในที่สุดก็พุ่งเข้าไปที่ด้านหลังของคลื่นกระบี่ลูกแรก จากนั้นกระแสลมอันรุนแรงก็ม้วนกวาดไปทั่วทุกทิศทาง ก่อตัวเป็นรูปร่างที่สมบูรณ์ เมื่อมองจากที่ห่างไกล ดูเหมือนว่ามันได้ประกอบกันเป็นกระบี่บินเล่มใหญ่มหึมา
นี่เป็นบ่อเกิดกระบี่บินของเมิ่งฮ๋าว ซึ่งสร้างมาจากพลังของมีดสายลม มันเป็นวิชาที่เขาได้คิดค้นขึ้นมาหลังจากมีประสบการณ์บนภูเขาสีดำ มันพุ่งตรงไปที่หวังเถิงเฟยด้วยพลังที่ยากจะต้านทาน เสียงแตกปะทุดังขึ้นไปทั่วในอากาศ เมื่อคลื่นพลังที่อยู่เบื้องหน้าของหวังเถิงเฟย เริ่มจะบิดเบี้ยวโค้งงอ ราวกับว่ามันได้ถูกพลังอันมากมายมหาศาลโจมตีเข้าใส่ นี่เป็นครั้งแรกที่ทำให้หวังเถิงเฟยต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าว
“เจ้าควรจะภาคภูมิใจได้แล้ว ที่บังคับให้ข้าต้องถอยไปหนึ่งก้าว” นี่เป็นครั้งแรกที่มันได้พูดกับเมิ่งฮ่าวตั้งแต่การต่อสู้ได่เริ่มขึ้น มือซ้ายของมันตบไปที่ถุงเก็บสมบัติ และรูปปั้นผลึกก็ปรากฎขึ้นส่องประกายวาววับ มันเป็นรูปปั้นของอาชา ดูสดใสร่างเริงและหมือนมีชีวิต ดูเหมือนว่าจะเต็มไปด้วยพลังและจิตวิญญาณ
เสียงม้าร้องก้องไปทั่วบริเวณนั้น และรูปปั้นผลึกก็ดูเหมือนว่าจะเริ่มมีชีวิต ลอยออกไปจากฝ่ามือของหวังเถิงเฟย และบินตรงไปที่กระบี่ยักษ์ของเมิ่งฮ่าว เมื่อพวกมันได้ปะทะกัน กระบี่ยักษ์ก็เริ่มพังทลายลง เริ่มจากส่วนปลายกระเทาะลอกออกไปเป็นชั้นๆ ฉีกขาดเป็นชิ้นๆ ด้วยอาชาผลึก ในชั่วอึดใจเดียว กระบี่ยักษ์ที่มีขนาดใหญ่โตมหาศาล ก็ถูกทำลายลง และมีเพียงสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ ก็คือ ด้ามกระบี่ กระบี่บินพุ่งกระจัดกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง
เมื่อมองเห็นเช่นนี้ จิตใจของพวกที่มุงดูก็เต้นไม่เป็นจังหวะ และพวกมันก็มีเวลาแค่น้อยนิดที่จะเริ่มกระบวนการคิดในหัวสมองว่ามันได้เกิดอะไรขึ่น พวกมันแสดงอาการตกใจเกินกว่าจะเชื่อได้
หลังจากที่กระบี่ยักษ์ได้ถูกทำลายลง จนเหลือแต่ด้ามจับ กระบี่เล่มใหม่ก็ลอยออกมาจากท่ามกลางกลุ่มกระบี่พวกนั้น กระบี่ที่ทำขึ้นมาจากไม้  มันพุ่งตรงไปที่อาชาผลึก และเมื่ออาวุธเวททั้งสองปะทะกัน เสียงระเบิดก็ดังกึกก้อง ดังยิ่งกว่าเสียงใดๆ ที่เคยได้ยินมาในช่วงการต่อสู้ครั้งนี้ มันส่งเสียงดังก้องไปทั่วหลายๆ ครั้ง
ณ ตอนนี้ กระบี่ไม้ เป็นกระบี่เพียงเล่มเดียวที่อยู่ใต้การควบคุมของเมิ่งฮ่าว ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นจนกระทั่งถึงจุดนี้ เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ปกปิดกระบี่ไม้เล่มนี้ไว้ เพื่อที่จะใช้มันโจมตีอย่างคาดไม่ถึง
กระบี่ ที่ครั้งหนึ่งเคยมีความหมายสำหรับหวังเถิงเฟยเป็นอย่างยิ่ง ณ ตอนนี้อยู่ในมือของเมิ่งฮ่าว สำหรับหวังเถิงเฟย มันคือของวิเศษ แต่สำหรับเมิ่งฮ่าว มันมีค่าเท่ากับหินลมปราณสองพันก้อน โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่ามันจะมีพลังมากสักเพียงไร แต่มันก็เป็นอาวุธเวทที่มีพลังมากที่สุดเท่าที่เขามีอยู่ตอนนี้ ดังนั้นแน่นอนว่าเขาต้องใช้มัน
ท่ามกลางเสียงระเบิดดังกึกก้อง อาชาผลึกเริ่มสั่นไปมา และรอยร้าวมากมายก็เกิดขึ้นบนผิวผลึกของมัน จากนั้นมันก็แตกกระจายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่างง่ายดาย
สีหน้าของหวังเถิงเฟยเปลี่ยนไปในทันใด กระบี่บินที่ยังคงเหลืออยู่ พร้อมกับกระบี่ไม้ ก็พุ่งตรงมาที่มัน เมื่อใกล้ถึงตัว มันก็ยกแขนซ้ายขึ้นโดยสัญชาตญาณ เพ่งสมาธิไปที่พลังลมปราณบนนิ้วของมัน และพุ่งพลังระเบิดออกไป พลังดรรชนีของมันทำให้กระบี่บินทั้งหมดหมุนคว้างลอยออกไป แต่ไม่ใช่กระบี่ไม้ มันยังคงพุ่งต่อไป แทงเข้าไปในนิ้วของมัน และเฉือนมันออกมาเป็นชิ้นๆ พร้อมโลหิตที่สาดพุ่งกระจาย จากนั้นก็หมุนคว้างกลับไปลอยอยู่ใกล้ๆ กับเมิ่งฮ่าว
“นิ้วนั่นนำความอัปยศมาให้ข้า” เมิ่งฮ่าวพูดช้าๆ “วันนี้ ข้าตัดมันออกไป!” เขาพ่นโลหิตมากมายออกมา โซเซถอยหลังไปหลายก้าว โลหิตหยดลงมาจากมุมปาก
หวังเถิงเฟยถอยหลังไปหลายก้าวอย่างรุนแรง ไม่สนใจความเจ็บปวดจากนิ้วของมัน ดวงตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ มันจ้องไปที่กระบี่ไม้ซึ่งลอยอยู่ข้างกายของเมิ่งฮ่าว คำพูดของเมิ่งฮ่าว เพิ่งจะดังขึ้นในหูของมัน ความโกรธที่ไม่สามารถจะพูดออกมาได้ก็พลุ่งพล่านขึ้นมาภายในใจ
มันจำกระบี่เล่มนี้ได้!
ขณะที่นิ้วของหวังเถิงเฟยถูกเฉือนออกไปเป็นชิ้นๆ ศิษย์สายนอกทุกคนที่อยู่ในเขตสี่เหลี่ยมจัตุรัสก็รู้สึกตื่นตระหนกตกใจกันไปตามๆ กัน เสียงพูดจาก็เริ่มดังกระหึ่มขึ้นมาอีกครั้ง
“เมิ่งฮ่าวตัดนิ้วของศิษย์พี่หวัง นี่…นี่ไม่น่าเป็นไปได้!”
“ศิษย์พี่หวังบาดเจ็บแล้ว เขาเป็นผู้ที่ถูกเลือก แต่เมิ่งฮ่าวก็ทำลายนิ้วของเขาไป…เมิ่งฮ่าว…”
“มันน่ากลัวเป็นอย่างยิ่งที่มันมีกระบี่บินตั้งมากมาย และมันก็ได้ใช้กระบี่บินตั้งเจ็ดสิบเล่ม เพื่อสร้างเป็นกระบี่ยักษ์ ช่างน่าตกใจยิ่งนัก!”
ซ่างกวนซิวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ ไม่ใช่มันคนเดียวที่แปลกใจ ผู้อาวุโสโอวหยาง ได้ลุกขึ้นยืน และมองไปที่เมิ่งฮ่าว ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยการยอมรับและความมุ่งหวังที่เข้มข้น
แม้แต่เฮ่อหลัวฮว่า ซึ่งยืนอยู่บนยอดเขาทิศตะวันออก ก็จ้องมองลงมาที่เมิ่งฮ่าวด้วยสายตาที่ส่องประกายวาววับ
เสียงพูดหลากหลายลอยเข้ามาถึงหูของหวังเถิงเฟย แต่มันก็ไม่นำพา ราวกับว่ามันไม่ได้ยินแม้แต่น้อย ความโกรธแค้นลุกไหม้อยู่ในดวงตาของมัน และมันก็จ้องมองไปที่กระบี่ไม้ซึ่งกำลังหมุนวนอยู่รอบตัวของเมิ่งฮ่าวอย่างเคียดแค้น
“มันคือเจ้า!” หวังเถิงเฟยไม่แม้แต่จะทำการห้ามโลหิต ที่ได้ไหลพุ่งออกมาจากนิ้วที่ขาดไป มันมีความโกรธเกรี้ยวอย่างบ้าคลั่ง เพียงแค่ครั้งเดียวก่อนหน้านี้ในชีวิตของมัน และนั่นคือวันที่อยู่ในถ้ำ เมื่อมันพบว่าของวิเศษที่มันได้ตามล่าหามาเป็นเวลานานหลายปีได้ถูกแย่งชิงไป ความอัปยศอดสูและความบ้าคลั่งได้เกิดขึ้นภายในใจของมัน และมันก็มีความเกลียดชังต่อบุคคล ที่มันไม่รู้ว่าเป็นใครผู้นั้นลึกลงไปถึงกระดูกทุกชิ้นของมัน
นี่เป็นเรื่องที่สร้างความเศร้าเสียใจอย่างใหญ่หลวงให้กับมัน เสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนในวันนั้นดูเหมือนจะยังคงดังก้องอยู่ในหูของมัน บ่อยครั้ง ที่มันได้สะดุ้งขึ้นมาจากการนั่งทำสมาธิในระดับลึก  ในช่วงที่เงียบสงัดตอนกลางคืน หัวใจของมันหลั่งโลหิตออกมา มีความรู้สึกเหมือนเป็นคนโง่ ทุกครั้งที่มันคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันต้องต่อสู้กับการที่ถูกกระตุ้นจนแทบบ้า
วันนี้เป็นครั้งที่สองในชีวิตของมันที่รู้สึกโกรธเกรี้ยวอย่างบ้าคลั่ง มันจำกระบี่เล่มนี้ได้ ในสายตาของมัน กระบี่เล่มนี้เป็นของมัน ของวิเศษของมันซึ่งสามารถควบคุมสวรรค์และพื้นดิน และวันนี้…มันไปอยู่ในมือของเมิ่งฮ่าว
“มันคือเจ้า!” ดวงตาของหวังเถิงเฟยเอ่อล้นไปด้วยความอาฆาตแค้น ความต้องการที่จะสังหารเมิ่งฮ่าวของมันเข้มข้นรุนแรงยิ่งนัก ซึ่งดูเหมือนว่าจะแตกต่างจากใบหน้าตามปกติของมัน ที่มีแต่ความสงบเยือกเย็น จนทำให้ศิษย์สายนอกที่มุงดูอยู่รอบๆ ต้องพูดพึมพำกันไปมาด้วยกันเองเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างช่วยไม่ได้
“มันเป็นเจ้าที่ขโมยของวิเศษของข้าไป!” หวังเถิงเฟยจ้องไปที่กระบี่ไม้ ดวงตาเต็มไปด้วยแรงอาฆาต มันมีความรู้สึกบ้าระห่ำอย่างแรงกล้าทึ่จะฉีกเมิ่งฮ่าวออกเป็นชิ้นๆ ทันใดนั้น เมิ่งฮ่าว ก็หัวเราะออกมา และเมื่อเสียงหัวเราะดังกระจายไปทั่วพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสนั้น เขาก็ดูเหมือนจะยิ่งมีความน่าเกรงขามเพิ่มขึ้น
“ข้าไม่ทราบว่าศิษย์พี่หวังกำลังพูดถึงเรื่องอะไร” เมิ่งฮ่าวพูดเสียงเย็นชา พร้อมกับเช็ดโลหิตออกจากปาก “กระบี่เล่มนี้เป็นของท่าน? แน่ใจนะว่าท่านไม่ได้จำผิด?” เขากลืนแกนอสูรเข้าไปจำนวนหนึ่ง
“ข้าวางแผนมาเป็นเวลานานหลายปี เพื่อจะได้ครอบครองกระบี่เล่มนี้ มันมีเพียงเล่มเดียวในโลกนี้ที่เป็นเช่นนั้น ลายสีทองที่อยู่บนพื้นผิวของมันได้ถูกสลักจากสวรรค์ แน่นอนว่าข้าไม่ได้จำผิด” หวังเถิงเฟยมองไปบนฟ้าและหัวเราะออกมา มันเป็นเสียงหัวเราะที่น่ากลัว เสียงหัวเราะที่ดูเหมือนว่าจะทำให้ห้ทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆ ตัวมัน ตกอยู่ในความหนาวเหน็บ

About wuxiathai

Organic Theme is officially developed by Templatezy Team. We published High quality Blogger Templates with Awesome Design for blogspot lovers.The very first Blogger Templates Company where you will find Responsive Design Templates.

Copyright © 2015 ผนึกสวรรค์ สยบมาร สะท้านเทพ

Designed by Templatezy | Distributed By Gooyaabi Templates