“หกแสน!” เจ้าอ้วนตะโกน กระโดดขึ้น “ใครกล้าสู้กับบิดา?! ขวดยาทั้งสามนี้เป็นของข้า!” เสียงของมันดังก้องราวเสียงฟ้าร้องกระจายออกไปทั่วทั้งสนามการประมูล
แต่เม็ดยาจู้จีเทียนทั้งสามขวดนี้ ไม่เหมือนกับเม็ดยาทำลายอุปสรรคก่อนหน้านี้ ที่การเสนอราคาของเจ้าอ้วนทำให้คนอื่นต้องยอมแพ้ แต่ขวดยาเหล่านี้เป็นตัวแทนของโอกาสที่อาจจะมาเพียงแค่ครั้งเดียวในรอบสิบปี หรืออาจจะเป็นหนึ่งในร้อยปี!
เมื่อพิจารณาถึงสถานะที่สูงส่งของแผนกเม็ดยาบูรพา พวกมันไม่จำเป็นต้องสนใจเกี่ยวกับเรื่องเช่นนั้น แต่สำนักอื่นๆ ต่างก็ไม่มีความรู้เรื่องยาที่ลึกซึ้งเหมือนแผนกเม็ดยาบูรพา จึงเห็นได้ชัดว่า มีหลายสำนักที่แสดงตัวว่า ต้องการจะเป็นผู้ชนะในครั้งนี้ เพื่อนำไปศึกษาถึงส่วนผสมที่อยู่ในยาเม็ดนั้น
ไม่ว่าสำนักใหญ่หรือสำนักเล็ก สายตาของผู้ฝึกตนทุกคู่ในสนามประมูลต่างก็แดงก่ำ เม็ดยานี้ไม่เพียงแค่สำคัญมากสำหรับผู้ฝึกตนเท่านั้น แต่มันเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับทั้งสำนัก
ด้วยการศึกษาค้นคว้าส่วนผสมของสมุนไพรที่อยู่ในเม็ดยาอย่างเต็มที่ สำนักก็จะได้ประโยชน์อย่างเด่นชัดมากมายในเต๋าแห่งการปรุงยา ด้วยเช่นนั้น การเสนอราคาในสนามประมูลก็เริ่มสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จากทั้งสามตระกูลดัง และสำนักใหญ่ต่างๆ
เมิ่งฮ่าวมองมาจากภายในศาลาด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ราวกับว่าเขาแทบไม่เข้าใจในภาพเหตุการณ์นี้ ดวงตาเริ่มสาดประกาย ขณะที่ราคาของเม็ดยาไต่สูงขึ้นไป สูงขึ้นไปเรื่อยๆ หลังจากงานประมูลเม็ดยานี้ นามลู่เทาก็จะเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งดินแดนด้านใต้อย่างแน่นอน ในไม่ช้า ผู้ฝึกตนทุกคนก็อยากจะทำความรู้จักมัน เมื่อคิดว่ามันสามารถปรุงเม็ดยาเช่นนี้ได้ ในขณะที่ยังคงเป็นแค่อาจารย์ปรุงยา ซึ่งก็หมายความว่า…มันมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะกลายเป็นเจ้าแห่งเตาในวันข้างหน้า!
มีเจ้าแห่งเตาเพียงแค่หนึ่งร้อยคนในแผนกเม็ดยาบูรพา ทุกคนสามารถสร้างความปั่นป่วนให้กับดินแดนด้านใต้ และเป็นที่ใฝ่หาเป็นอย่างมากจากผู้ฝึกตนมากมายจนนับไม่ถ้วน ตำแหน่งและศักดิ์ฐานะของพวกมันเป็นที่เคารพในลำดับที่สูงสุด
เจ้าอ้วนเสนอราคาในการประมูลเม็ดยาจู้จีเทียนต่อไป แต่ในที่สุด มันก็ยอมแพ้ขณะที่ราคาได้พุ่งสูงขึ้นไปถึงสี่ล้านหินลมปราณ!
นี่เป็นราคาที่สูงที่สุด ที่ถูกเสนอมา ในงานประมูลเม็ดยาของสำนักจื่อยิ่น ตั้งแต่อดีตหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา!
มันยากที่จะใช้คำพูดเพื่อบอกเล่าเกี่ยวกับราคาเช่นนั้น ผู้ร่วมงานประมูลทุกคนต่างก็เหนื่อยหอบอย่างหนักหน่วง และความเงียบก็ปกคลุมไปทั่วบริเวณนั้น
ผู้ชนะการประมูลเม็ดยานี้เป็นหนึ่งในตระกูลใหญ่, ตระกูลหลี่!
มีเพียงแค่สามคนที่มาจากตระกูลหลี่ หนึ่งเป็นผู้อาวุโสของตระกูล และอีกสองคนเป็นผู้ถูกเลือก แน่นอนว่า แต่ละตระกูลใหญ่ต่างก็มีเต๋าแห่งการปรุงยาของพวกมัน ถึงแม้จะแตกต่างจากแผนกเม็ดยาบูรพา แต่เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว มันก็คล้ายคลึงกันมาก เม็ดยาจู้จีเทียนสามขวดนี้จะถูกนำไปให้พวกมัน เพื่อเพิ่มโอกาสในการค้นพบส่วนผสมของต้นสมุนไพร
ในอดีตพันปีก่อน ในช่วงที่มีงานประมูลเม็ดยาของสำนักจื่อยิ่น, สำนักจื่อยิ่นไม่เคยซื้อเม็ดยาของตัวเองที่นำขึ้นประมูลมาก่อน แผนกเม็ดยาบูรพาไม่เคยระงับยับยั้งเม็ดยาที่นำมาประมูล หรือป้องกันไม่ให้เกิดการซื้อขาย เรื่องเช่นนี้ไม่เคยได้ยินในประวัติศาสตร์การประมูลตลอดทั้งหนึ่งพันปีที่ผ่านมา
อันที่จริง ศิษย์สำนักจื่อยิ่นถูกห้ามไม่ให้ซื้อเม็ดยาจากการประมูล ไม่ว่าจะเป็นเม็ดยาที่หายากแค่ไหน ก็ไม่ยอมให้เสนอราคาประมูลแข่งกับบุคคลภายนอก
เป็นกฎที่มีมานับพันปี ซึ่งไม่เคยเปลี่ยนแปลงมาก่อน!
หลังจากเม็ดยาจู้จีเทียนสามขวดถูกขายให้แก่ตระกูลหลี่ ผู้อาวุโสตระกูลหลี่ก็เริ่มเชื้อเชิญให้ลี่เทาไปเยี่ยมเยียนที่ตระกูลหลี่ในทันที ทำให้ลี่เทารู้สึกว่าได้รับเกียรติเป็นอย่างสูง
เสียงพูดคุยที่เกี่ยวกับลี่เทาได้กระจายออกไปทั่วทั้งสนามการประมูล อาจารย์ปรุงยาที่นั่งอยู่รอบๆ เมิ่งฮ่าวในศาลาต่างก็ประหลาดใจไปตามๆ กัน และเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับลี่เทาด้วยความยอมรับและอิจฉา
ในตอนนี้ งานประมูลได้ดำเนินมาถึงสองวันแล้ว ผู้จัดรายการได้หยิบเอาเม็ดยาอื่นๆ ออกมา แต่เมื่อพิจารณาว่าเพิ่งจะมีอะไรเกิดขึ้น ก็เป็นไปไม่ได้ที่มันจะเพิ่มอารมณ์ของผู้ประมูลให้สูงขึ้นไปอีก
มีเพียงส่วนน้อยที่ให้ความสนใจ และการเสนอราคาก็ไม่น่าสนใจอีกต่อไป เม็ดยารายการต่อๆ มาก็ถูกขายออกไปภายในเวลาเพียงแค่ไม่กี่อึดใจ สินค้าถูกขายไปอย่างรวดเร็ว จนดูเหมือนแทบจะไม่มีอะไรจะเอาออกมาขายได้อีก…
หลังจากเหตุการณ์อันน่าประหลาดใจของการประมูลเม็ดยาจู้จีเทียนผ่านไป ผู้ฝึกตนนับแสนที่เข้าร่วมงานประมูล ก็ดูเหมือนจะได้ข้อสรุปว่าคงไม่มีเม็ดยาที่น่าอัศจรรย์ใจเช่นนั้นเกิดขึ้นอีกแล้ว คงไม่มีเม็ดยาใดๆ ที่จะสามารถมาเทียบกับเม็ดยาจู้จีเทียนที่น่าประหลาดใจนี้ได้อีก
สำหรับผู้คนส่วนใหญ่ การเสนอซื้อด้วยหินลมปราณสี่ล้านก้อน เป็นเรื่องที่อาจจะไม่ได้เห็นอีกแล้วในอีกหนึ่งร้อยปีข้างหน้า เม็ดยาจู้จีเทียนทั้งสามขวดนั้นไม่ต่างจากความมหัศจรรย์อย่างแท้จริง
ดังนั้น ความสนใจต่อรายการประมูลที่เหลืออยู่จึงลดน้อยลง ผู้ดำเนินรายการประมูลก็ตระหนักดีถึงเรื่องนี้ แต่มันก็ยังคงมีความตื่นเต้นอยู่เล็กน้อย การได้ทำหน้าที่ในการขายเม็ดยาด้วยราคาที่น่าประหลาดใจเช่นนั้น เป็นสิ่งที่มันไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต
แม้แต่ตัวมันเองก็คิดว่า รายการประมูลที่เหลืออยู่ คงไม่อาจจะเทียบได้กับเม็ดยาจู้จีเทียนอีกแล้ว ด้วยเช่นนั้น มันจึงเข้าใจความรู้สึกของผู้ฝึกตนนับแสนคนที่เหลือ และยินดีที่จะปิดการประมูลของเม็ดนานับร้อยที่เหลืออยู่อย่างรวดเร็ว
การประมูลดำเนินไปเช่นนี้อย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเม็ดยาแปลงปีศาจของเมิ่งฮ่าวได้ถูกนำมาประมูล ในช่วงตอนเย็นของวันที่สาม มีผู้ฝึกตนน้อยคนมากในที่นั้นที่ให้ความสนใจ ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงตกอยู่ในความเศร้าเสียใจ เมื่อคิดไปถึงเหตุการณ์ในการประมูลเม็ดยาจู้จีเทียน และกำลังส่งข้อความเกี่ยวกับเรื่องนั้นกลับไปยังสำนักต่างๆ ของพวกมัน
เสียงของผู้ดำเนินรายการประมูลดังออกมา “นี่เป็นเม็ดยาที่ถูกปรุงโดยอาจารย์ปรุงยาไร้นาม ของแผนกเม็ดยาบูรพา ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่าบุคคลผู้นี้คือใคร แต่นามของเม็ดยานี้ก็คือ…เม็ดยาแปลงปีศาจ ซึ่งเป็นยาพิษ” มันวางขวดยาไปตรงหน้า
จิตใจเมิ่งฮ่าวฟูฟ่องขึ้นในทันที และสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เขาจ้องไปยังขวดยา ซึ่งแน่นอนว่าบรรจุไว้ด้วยเม็ดยาที่เขาได้ปรุงขึ้นมา
เมื่อขวดยาปรากฎขึ้น ผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นส่วนใหญ่ก็ยังคงพูดคุยถึงเรื่องเม็ดยาจู้จีเทียนกันอย่างเงียบๆ มีเพียงไม่กี่คนที่มองลงไป ส่วนใหญ่ก็เนื่องจากคำว่า “ยาพิษ” จึงทำให้เกิดความสนใจขึ้นมาบ้างเล็กน้อย
ผู้ดำเนินรายการประมูลพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว ในความคิดของมัน ถึงแม้เม็ดยานี้จะเป็นยาพิษ แต่มันก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยดึงดูดความสนใจได้เท่าไหร่นัก นอกจากเม็ดยาจู้จีเทียนแล้ว ก็ไม่มีเม็ดยาใดที่จะสามารถสร้างบรรยากาศการเสนอราคาที่น่าตื่นเต้นเช่นนั้นได้อีก ถึงแม้จะเห็นได้ชัดว่าเม็ดยาที่อยู่ตรงหน้ามัน จะถูกสร้างขึ้นมาจากความพยายามในการต่อต้านสวรรค์ มันก็ยังคงคิดว่าเม็ดยานี้คงขายได้มากที่สุดก็แค่หนึ่งหมื่นหินลมปราณเท่านั้น
ดังนั้น มันจึงไม่ได้ใช้เวลามากนักในการแนะนำเม็ดยานี้ เมื่อมองออกไป มันก็เห็นว่าผู้ฝึกตนนับแสนไม่ได้ให้ความสนใจมากเท่าใดนัก มันกระแอมไอเบาๆ และคิดว่าเวลาใกล้สิ้นสุดการประมูลกำลังจะมาถึง ดูเหมือนว่าการประมูลครั้งนี้คงจัดไม่ถึงเจ็ดวัน มากที่สุดก็คงเป็นสี่วัน มันไม่มีทางเลือกจริงๆ หลังจากที่เม็ดยาจู้จีเทียนสร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วแล้ว รายการประมูลอื่นๆ ทั้งหมดต่างก็จืดจางลง
เมื่อตัดสินใจที่จะจบด้วยความรวดเร็ว ผู้ดำเนินรายการประมูลวัยกลางคนนั้น ก็เรียกหนึ่งในศิษย์ลมปราณม่วงแห่งประจิมออกมา มันเทเม็ดยาสีดำออกมาจากขวด และไม่ได้ดูว่ามีสิ่งแปลกๆ เกี่ยวกับยาเม็ดนั้น มันขูดยาออกมาเป็นผงเล็กน้อยอย่างรวดเร็ว และส่งยื่นให้ศิษย์ลมปราณม่วงแห่งประจิมนั้นในทันที
ผู้ฝึกตนส่วนน้อยที่กำลังให้ความสนใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทั้งหมด อันที่จริง มีกลุ่มคนแค่หยิบมือที่ดูเหมือนจะสนใจซื้อเม็ดยานี้ นอกจากนั้น จริงๆ แล้วก็มีผู้ฝึกตนเพียงไม่กี่คนที่ศึกษาเกี่ยวกับเต๋าแห่งยาพิษเท่านั้น ที่สนใจเม็ดยานี้
เมิ่งฮ่าวสังเกตเห็นเรื่องราวทั้งหมดนี้ แต่ก็ยังคงรักษาความเยือกเย็นไว้
มีเพียงไป๋หยุนหลายที่ดูเหมือนจะเป็นกังวล มันถอนหายใจออกมา เห็นได้ชัดว่ามันรู้สึกว่าสถานการณ์ทั้งหมดนี้ไม่ค่อยยุติธรรมนัก ในความคิดของมัน เต๋าแห่งการปรุงยาของเมิ่งฮ่าวเหนือกว่าลี่เทามาก คนทั้งสองไม่แม้แต่จะอยู่ในระดับเดียวกัน
ซึ่งก็เห็นได้ชัดเจนจากการแข่งขันช่วงชิงอย่างร้อนแรง จากศิษย์สายในของแผนกลมปราณม่วง ซึ่งขอให้ฟางมู่ตานชือช่วยปรุงเม็ดยาให้
สำหรับศิษย์ลมปราณม่วงแห่งประจิมนั้น เป็นบุรุษหนุ่มอายุประมาณสามสิบปี มีใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก มันไม่แม้แต่จะสนใจกลุ่มของผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น มันรับผงยามาอย่างเคร่งเครียด จากนั้นก็กลืนลงไปโดยไม่ลังเล พื้นฐานฝึกตนของมันโคจรหมุนเวียน ทำให้ผงยาละลายเข้าไปในร่าง มันเริ่มโปร่งใส ทำให้ทุกคนมองเห็นผลลัพธ์ที่อยู่ภายในร่างของมัน
ถึงแม้จะเป็นความจริงที่ว่านี่คือเม็ดยาพิษ แต่บุรุษผู้นั้นก็ไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
ทันทีที่มันกลืนผงยาลงไป ร่างกายของมันก็เริ่มเปลี่ยนเป็นโปร่งใส
เมื่อเป็นเช่นนั้น เมิ่งฮ่าวก็มองไปยังมันอย่างรวดเร็ว และพึมพำ “ทะลวงผ่านเส้นลมปราณไปตลอดทั้งร่าง สับพวกมันราวกับเนื้อสับ เปลี่ยนร่างกายให้กลายเป็นของวิเศษ ผ่าอก บดขยี้จิตใจ รวบรวมจิตของฆาตกร ระเบิดเสาแห่งเต๋าภายในแกนทะเลลมปราณ รังสีสังหารที่สามารถกำจัดวิญญาณ ใช้วิญญาณของมนุษย์ธรรมดาให้หลอมรวมเข้ากับจิตวิญญาณ ใช้พลังของการสังหารทำลายสติสัมปชัญญะ จิตใจและแกนทะเลลมปราณ หลอมรวมเข้าด้วยกันในชั่วพริบตา เจตจำนงอันชั่วร้ายนี้จะกลายเป็นหัวใจของการฆ่าตัวตาย ซึ่งทำให้พื้นฐานฝึกตนพุ่งทะยานขึ้นไปในท้องฟ้า!”
“มันไม่เพียงแต่จะเผาไหม้จิตวิญญาณ แต่มันจะมาแทนที่! เม็ดยานี้…จะถูกเรียกว่า เม็ดยาแปลงปีศาจ! ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า เจตจำนงนี้เป็นของปีศาจเพียงเท่านั้น!” ด้วยทุกประโยคที่เมิ่งฮ่าวเปล่งออกมา ร่างของผู้ฝึกตนนั้นก็เปลี่ยนไป ราวกับว่ามันกำลังอยู่ภายใต้การควบคุมของเมิ่งฮ่าว
สีหน้าที่ไร้ความรู้สึกของมันเปลี่ยนไปในทันที หยาดเหงื่อเริ่มไหลรินลงมาจากหน้าผาก และตลอดทั้งร่างของมันก็สั่นสะท้าน เส้นเลือดโผล่ขึ้นบนหน้าผากของมัน
มันรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า ผงยาที่มันกลืนลงไป ได้ถูกร่างกายดูดซับในทันใด และจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นพลังกระตุ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ ร่างของมันเต็มไปด้วยความเจ็บปวด และพลังลมปราณก็ระเบิดออกมา รู้สึกราวกับว่าเส้นลมปราณของมันกำลังถูกเฉือนออกเป็นชิ้นๆ โดยกระบี่มากมายจนนับไม่ถ้วน!
ขณะที่เกิดขึ้นเช่นนี้ เสียงกระหึ่มกึกก้องก็ดังอยู่ด้านในของมัน ราวกับว่าพลังชีวิตที่กำลังเดือดพล่านของมันกำลังจะพุ่งออกมา ความรุนแรงของพลังระเบิดออกมาจากหน้าอกของมัน กลายเป็นความบ้าคลั่งราวฆาตรกร ซึ่งทำให้เสาแห่งเต๋าทั้งสามต้นของมันแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
ขณะที่เสาแห่งเต๋าของมันแตกออกเป็นชิ้นๆ แกนทะเลลมปราณของมันก็ระเหยแห้งไป และพื้นฐานฝึกตนก็ถูกทำลายลง พลังไหลท่วมเข้าไปในจิตใจ บดขยี้วิญญาณ ลบล้างจิตใจของมัน แทนที่ด้วยเจตจำนงแห่งปีศาจ ซึ่งจะคงอยู่ไปชั่วชีวิตของมัน!!
ดูเหมือนว่าสติสัมปชัญญะของมันทั้งหมดได้หายไป และเปลี่ยนเป็นบ้าคลั่งโดยสมบูรณ์ มันเงยหน้าขึ้นไปในท้องฟ้า และส่งเสียงกู่ร้องอย่างน่าตกใจออกมา เสียงกู่นั้นดังก้องออกไป เต็มไปด้วยความต้องการสังหาร ซึ่งจากนั้นก็กลายเป็นรังสีสังหารที่กระจายออกมาจากมันด้วยคลื่นพลังที่ระเบิดออกมา
ทะเลเปลวเพลิงที่ไร้รูปร่างห่อหุ้มร่างมันไว้ เผาไหม้มัน, เผาไหม้วิญญาณของมัน ทำให้มันเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งอย่างยิ่งยวด ลมหายใจของมันเริ่มเร่งร้อน และพื้นฐานฝึกตนของมัน…ทันใดนั้นก็ระเบิดขึ้นไป มันไม่มีเสาแห่งเต๋า แต่มันก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายอันทรงพลังของขั้นสุดท้ายพื้นฐานลมปราณ!!
เสียงกู่ร้องของมัน เต็มไปด้วยความต้องการสังหาร กระแทกลงมายังผู้ฝึกตนนับแสนซึ่งกำลังพูดคุยเรื่องเม็ดยาจู้จีเทียน ทันใดนั้น สายตาของพวกมันทั้งหมด ต่างก็ตกกระทบไปบนร่างของศิษย์ลมปราณม่วงแห่งประจิม
เมิ่งฮ่าวยืนอยู่ที่นั่นด้วยสีหน้าราบเรียบ ดวงตาสงบเย็น เขาดูเหมือน…นักปรุงยาปีศาจ! (ตานโม๋)