วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2560

ตอนที่ 231 : งานประมูลเม็ดยา

Posted By: wuxiathai - 19:29
ในดินแดนด้านใต้ทั้งหมด มีเพียงคนผู้เดียวที่ดูเหมือนจะอยู่เหนือคนอื่นๆ ผู้ซึ่งมักจะใช้กระบี่บินถูตะไบฟันของมัน!
หลี่ฟูกุ้ย…
…ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม เจ้าอ้วน นอกจากมัน ก็ไม่มีผู้ฝึกตนคนไหนในดินแดนด้านใต้ ที่จะกล้าถูตะไบฟันของมันด้วยท่าทางเช่นนี้ ที่ห้อมล้อมอยู่รอบๆ เจ้าอ้วน เป็นกลุ่มศิษย์ของสำนักจินซวง ด้วยท่าทางระมัดระวังป้องกันอยู่บนใบหน้า การคงอยู่ของพวกมัน จริงๆ แล้วก็ทำให้เจ้าอ้วนกลายเป็นจุดสนใจมากยิ่งขึ้น
เจ้าอ้วน…อ้วนขึ้นกว่าเดิม
ผู้ฝึกตนคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ใกล้บริเวณนั้น ต่างก็มองไปที่มันด้วยสายตาแปลกๆ และแอบซุบซิบสนทนากัน เจ้าอ้วนจะไปสนใจเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร? มันหยิบเอาหินลมปราณออกมา ใส่เข้าไปในปาก และขบกัดจนเป็นชิ้นละเอียดอย่างมีความสุข
ทำให้สายตาของพวกที่มุงดูอยู่รอบๆ บริเวณนั้น ต่างก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง และจิตใจก็เต็มไปด้วยความอิจฉา
เมิ่งฮ่าวไม่ได้เห็นมันมาสี่ปีแล้ว แต่เขาก็มักจะคิดถึงมันอยู่เสมอ เช่นเดียวกับศิษย์พี่หญิงฉื่อ และเฉินฟ่าน เมื่อได้เห็นมันอยู่ที่นี้ เมิ่งฮ่าวก็ต้องยิ้มและถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้
การเป็นฟางมู่มาตลอดทั้งสี่ปี หยั่งรากฝังลึกอยู่ในสำนักจื่อยิ่น และมีชื่อเสียงโด่งดัง ทำให้เขาสามารถสอบถามข้อมูลของสหายทั้งหลายได้ เขารู้ว่าทุกคนต่างก็มีความก้าวหน้าอยู่ในสำนักต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น ศิษย์พี่หญิงฉื่อได้บรรลุขั้นพื้นฐานลมปราณไปนานแล้ว นางได้ยึดถือหานเป้ยเป็นอาจารย์ และมีตำแหน่งที่ดีขึ้นอยู่ในสำนักชิงหลัว ดีกว่าหลายปีก่อนหน้านี้มาก
สำหรับเฉินฟ่าน หลังจากผ่านไปสี่ปี ตอนนี้มันได้เป็นผู้ถูกเลือกของสำนักกูตู๋เจี้ยน
เจ้าอ้วน แน่นอนว่า ได้ศึกษาเรียนรู้วิชาต่างๆ น้อยที่สุด แต่มันก็ยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม ซึ่งมันสามารถเรียกลมเรียกฝนได้ภายในสำนีกจินซวง โชคดีที่มันมีค่าต่อสำนัก ทำให้มันบรรลุถึงขั้นพื้นฐานลมปราณด้วยเช่นกัน
นามของเมิ่งฮ่าวในตอนนี้ เกือบจะถูกลืมไปแล้วในดินแดนด้านใต้
เมิ่งฮ่าวยิ้มอย่างมีความสุข การที่ได้เห็นสหายเก่าช่วยทำให้เขามีอารมณ์ดีได้อย่างแท้จริง
เมื่อมองเห็นเมิ่งฮ่าวมองไปยังเจ้าอ้วน ไป๋หยุนหลายก็เอนตัวมา และกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา “นั่นคือหลี่ฟูกุ้ย แห่งสำนักจินซวง ข้าจำข่าวที่ได้ยินมาเมื่อปีก่อนได้ว่า มันได้แต่งงานกับคนรักคนที่สามของมัน…จากข่าวลือที่เล่าต่อๆ กันมา สำนักจินซวงมักจะไปเสาะหาผู้ฝึกตนหญิงสาวที่เหมาะสม มาเป็นคนรักของมัน ด้วยความหวังว่า จะช่วยสืบสายโลหิตของมันต่อไป…”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เมิ่งฮ่าวก็อ้าปากค้างอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็หัวเราะ และส่ายหน้าโดยไม่พูดอะไรออกมา
เขาถอนหายใจ คิดว่า “ข้าไม่เคยคิดเลยว่าในกลุ่มของพวกเรา จากสำนักเอกะเทวะ ในแคว้นจ้าว เจ้าอ้วนจะได้อยู่ในตำแหน่งที่สะดวกสบายมากที่สุดเช่นนี้” แม้แต่เขาก็ยังรู้สึกอิจฉาต่อตำแหน่งพิเศษของเจ้าอ้วน บนเส้นทางแห่งการฝึกตนของมันอย่างช่วยไม่ได้
ทันใดนั้น เขาก็คิดกลับไปเมื่อพวกเขาได้เข้าสังกัดสำนักเอกะเทวะในตอนแรก เจ้าอ้วนมักจะร้องไห้คร่ำครวญอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับความต้องการกลับบ้านและไปแต่งงาน เมิ่งฮ่าวได้แต่ยิ้มกับความทรงจำนั้นอย่างช่วยไม่ได้ แสงอันอ่อนโยนเต็มอยู่ในดวงตา
การประมูลดำเนินไปตามวิถีทางของมันอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่า เม็ดยาแต่ละเม็ดที่นำมาประมูล ต้องมีการขูดผงยาออกมาเล็กน้อย และมอบให้หนึ่งในผู้ฝึกตน ผู้ที่ฝึกวิชาลมปราณม่วงแห่งประจิม หลังจากที่กลืนผงยานั้นลงไป ร่างของผู้ฝึกตนนั้นก็จะเริ่มโปร่งแสง ดังนั้นผู้ที่มุงดูทุกคน ก็สามารถมองเห็นประสิทธิภาพของเม็ดยานั้นได้
นี่เป็นประเพณีในการประมูลเม็ดยาของสำนักจื่อยิ่น ซึ่งคงอยู่มานานหลายพันปีจนไม่อาจนับได้ เป็นวิธีการรับประกันคุณภาพของเม็ดยาเหล่านั้น
เวลาผ่านไป และในที่สุดก็เป็นเวลาเที่ยง
“รายการนี้คือเม็ดยาทำลายอุปสรรค สหายเต๋าทั้งหลาย ข้ามั่นใจว่าทุกท่านต่างก็รู้ดีถึงสรรพคุณของเม็ดยานี้…” ขณะที่มันพูด ศิษย์ที่ฝึกวิชาลมปราณม่วงแห่งประจิม ก็กลืนผงยาบางส่วนเข้าไป ให้ทุกคนเห็นผลลัพธ์ของยานี้ได้อย่างชัดเจน
“สองหมื่นหินลมปราณ!” เจ้าอ้วนร้องออกมา เสียงของมันชวนให้รู้สึกอึดอัดใจ ซึ่งเข้ากับรูปร่างที่อ้วนเตี้ยของมัน
“สามหมื่นหินลมปราณ!”
“ท่านย่ามันเถอะ!” เจ้าอ้วนตะโกนด้วยความหยาบคาย มันลุกขึ้นยืน “ก็ได้, เจ้าเด็กน้อย, ห้าหมื่นหินลมปราณ!”
“หกหมื่นหินลมปราณ!”
“เจ็ดหมื่นหินลมปราณ…” ใครบางคนกล่าว
อันที่จริง ราคาของเม็ดยาทำลายอุปสรรคนี้ขึ้นกับสถานการณ์ของแต่ละคน ด้วยผู้ฝึกตนหนึ่งแสนคนในที่นี้ จำนวนคนที่ติดอยู่ที่จุดตีบตันในตอนนี้ หรือคนที่อาจจะติดในไม่ช้าซึ่งยากที่จะบอกได้ ถ้าความต้องการในการทะลวงผ่านจุดตีบตันมีมาก ราคาก็สูงมากขึ้นเช่นกัน
“หนึ่งแสนหินลมปราณ!” เจ้าอ้วนแผดเสียง “ข้ามีหินลมปราณเหลือเฟือ, เจ้าเด็กน้อย! พวกมันไม่ใช่ของข้า! เจ้ากล้ามาแข่งกับข้าจริงๆ?” มันหยิบเอาหินลมปราณออกมา ใส่เข้าไปในปากและขบกัดลงไป ศิษย์สำนักจินซวงที่อยู่รอบๆ ทำได้แค่ยิ้มแห้งๆ ออกมา
คำพูดของเจ้าอ้วน ดูเหมือนจะได้ผล ถึงแม้เม็ดยาทำลายอุปสรรคจะดี แต่ก็ไม่รับรองว่าจะได้ผลเต็มที่ หนึ่งแสนหินลมปราณเป็นราคาที่น่าเหลือเชื่อ ทำให้ไม่มีใครยินดีจะเสนอราคาที่สูงกว่านี้
เมิ่งฮ่าวมีสีหน้าแปลกๆ เม็ดยาทำลายอุปสรรคไม่ได้ถูกปรุงขึ้นมาโดยเขา จากระยะที่ห่างไกลนี้ เขามองเห็นประสิทธิภาพของเม็ดยา บนร่างที่โปร่งแสงของศิษย์ลมปราณม่วงแห่งประจิมได้อย่างชัดเจน รวมถึงความเข้มข้นของตัวยา ด้วยทักษะในเต๋าแห่งการปรุงยาของเขา ก็เห็นได้ว่า ใครก็ตามที่ปรุงเม็ดยานี้ สามารถดึงความเข้มข้นของตัวยา ออกมาจากต้นสมุนไพรที่ใช้เป็นส่วนผสมได้เพียงแค่สามในสิบส่วนเท่านั้น
“ดูเหมือนว่าราคาที่ข้าคิดกับติงหย่งสำหรับเม็ดยานี้…น้อยยิ่งนัก…” เขาคิด แน่นอนว่า จริงๆ แล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบราคาภายในสำนักกับด้านนอก นี่ยิ่งเป็นความจริงโดยเฉพาะเม็ดยานั้นเป็นการขายให้กับสมาชิกในสำนัก ในขณะที่อีกเม็ดยาเอามาขายในงานประมูล
การประมูลดำเนินต่อไป ขณะที่เม็ดยาปรากฎมากขึ้น บรรยากาศในสนามประมูลก็พุ่งทะยานขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเม็ดยาที่ถูกปรุงโดยเจ้าแห่งเตาปรากฎขึ้น ราคาสำหรับเม็ดยานั้นก็ทะลุไปถึงหนึ่งแสนหินลมปราณ ทำให้เมิ่งฮ่าวต้องหอบหายใจออกมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นกำไรที่อาจารย์ปรุงยาสามารถทำได้ มันช่างน่าตกใจจริงๆ
มันยิ่งน่าประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเมิ่งฮ่าวรู้ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นสำหรับเม็ดยาเป็นอย่างดี ซึ่งก็เพียงแค่หนึ่งหมื่นหินลมปราณเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น ความเข้มข้นของตัวยาก็มีแค่ห้าในสิบส่วน เมิ่งฮ่าวสามารถผลิตเม็ดยาเช่นเดียวกันนี้ โดยแทบไม่ต้องตั้งใจปรุงเลยด้วยซ้ำ
เจ้าอ้วนแข่งประมูลในเกือบจะทุกเม็ดยา และได้มาครอบครองบ้างเล็กน้อย มันกลายเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในสนามการประมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันส่งสายตาที่มีเลศนัยไปยังผู้ฝึกตนหญิงสาวที่อยู่บริเวณใกล้เคียง เมื่อมันประสานสบตากับใคร มันก็จะวางท่าเรียบเฉยสบายๆ มากที่สุดเท่าที่มันจะทำได้
บุคคลอื่นๆ จากสำนักจินซวงได้แต่ถอนหายใจออกมา คนทั้งหมดไม่ทำอะไรเพื่อหยุดเจ้าอ้วน นอกจากนั้น มันยังมี “เหตุผลอันชอบธรรม” ซึ่ง “เหตุผลอันชอบธรรม” นี้ แน่นอนว่า เป็นการเสาะหาภรรยา ซึ่งเป็นคำสั่งที่ส่งต่อลงมาจากตัวเจ้าสำนักเอง
ผู้ดำเนินรายการประมูล บุรุษวัยกลางคนยิ้มออกมา และโบกสะบัดแขนเสื้อ “รายการต่อไป คือเม็ดยาที่ถูกปรุงโดย ลี่เทาตานชือ” มันตะโกนออกมา “เม็ดยานี้ถูกเรียกว่า จู้จีเทียน (สร้างพื้นฐานสวรรค์) สามารถนำไปใช้กับขั้นกลางพื้นฐานลมปราณ และบางครั้งก็สามารถใช้ได้กับขั้นสุดท้ายของพื้นฐานลมปราณ มีทั้งหมดสามขวด แต่ละขวดมีหกเม็ด ทุกขวดจะถูกขายพร้อมกัน” ขวดยาสามขวดปรากฎขึ้น เมื่อศิษย์ลมปราณม่วงแห่งประจิมได้ผงยาตัวอย่างจากหนึ่งในเม็ดยานั้น ทั่วทั้งสนามการประมูลก็เงียบลงในทันที แต่เป็นความเงียบที่อยู่ได้เพียงชั่วครู่ เมื่อเสียงพูดคุยได้ดังอยู่เต็มในอากาศ
“ยานั่น…”
“มันมีความเข้มข้นของตัวยาถึงสี่สิบห้าในร้อยส่วน!!”
“นี่ไม่ใช่เม็ดยาจู้จีเทียนธรรมดา! ลี่เทาตานชือผู้นี้คือใคร? เม็ดยานี้เป็นรองก็เพียงแค่เม็ดยาที่ถูกปรุงโดยเจ้าแห่งเตาเท่านั้น!”
“ส่วนผสมของพืชสมุนไพรในเม็ดยานี้พิเศษเป็นอย่างยิ่ง!!”
แน่นอนว่า ผู้ฝึกตนเกือบทั้งหนึ่งแสนคนในสนามการประมูล เข้าใจเกี่ยวกับเต๋าแห่งการปรุงยาเพียงเล็กน้อย แต่ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น ภายในร่างกายที่โปร่งแสงของศิษย์ลมปราณม่วงแห่งประจิมนั้น ก็แสดงให้เห็นถึงร่องรอยที่เป็นธรรมชาติอันน่าอัศจรรย์ใจของเม็ดยาออกมา
ผู้ดำเนินรายการประมูลก็จ้องไปด้วยความประหลาดใจเช่นเดียวกัน จากนั้นก็มองกลับลงไปยังขวดทั้งสามใบที่ถืออยู่ในมือ
สายตาเมิ่งฮ่าวตกกระทบไปบนขวดนั้นด้วยเช่นกัน หลังจากนั้นสักครู่ เขาก็ยิ้มออกมา เขาเป็นสหายกับลี่เทา และด้วยเช่นนั้น ลี่เทาได้มาหาเขาก่อนที่จะปรุงเม็ดยาจู้จีเทียน ในช่วงของการพูดคุยเกี่ยวกับเต๋าแห่งการปรุงยา เมิ่งฮ่าวได้ชี้ให้เห็นถึงส่วนผสมบางอย่างที่แตกต่างกันของต้นสมุนไพร สามารถกล่าวได้ว่า ด้วยการช่วยเหลือของเมิ่งฮ่าว จึงทำให้ลี่เทาได้รับการรู้แจ้งในวันนั้น และสามารถปรุงเม็ดยาเหล่านี้ออกมาได้ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในการบรรลุถึงการปรุงยาในตอนนี้ของมัน
“ข้าไม่ได้ถามมันเกี่ยวกับรายการเม็ดยาจู้จีเทียนนี้” เมิ่งฮ่าวคิด “แต่อย่างไรก็ตาม ตัวแปรที่ข้าพูดในวันนั้น ก็สามารถดึงความเข้มข้นของตัวยาออกมาจากต้นสมุนไพรได้แค่สี่สิบในร้อยส่วนเท่านั้น ห้าส่วนที่เหลือเป็นความสำเร็จของการรู้แจ้ง และทักษะโดยส่วนตัวของลี่เทาเอง” เมื่อได้เห็นปฏิกิริยาอันแรงกล้าของผู้คนที่อยู่รอบๆ เขา เมิ่งฮ่าวก็ยิ้มออกมา
ภายในถุงสมบัติ เขายังคงมีเม็ดยาจู้จีเทียนซึ่งเขาปรุงด้วยตัวเองอยู่หลายเม็ด เม็ดยาเหล่านี้มีความเข้มข้นของตัวยาถึงเก้าสิบในร้อยส่วน ถ้าเขาเอาเม็ดยานี้ไปแข่งประมูล มันก็จะทำให้เกิดคลื่นความปั่นป่วนขึ้นอย่างแน่นอน
“ข้าอยากรู้นักว่า การประมูลเม็ดยาแปลงปีศาจของข้าจะเป็นอย่างไรบ้าง…” เขาคิด จิตใจเต็มไปด้วยความมุ่งหวัง พลังงานที่เขาใช้ในการปรุงเม็ดยาแปลงปีศาจ มากเกินว่า ที่เขาใช้ในการปรุงเม็ดยาจู้จีเทียนถึงสองเท่า, สามเท่า หรือบางทีก็มากกว่านั้น
การปรุงเม็ดยาแปลงปีศาจเกิดจากเจตจำนงที่แท้จริง และเป็นจุดสูงสุดในเต๋าแห่งการปรุงยาของเขา
พร้อมรอยยิ้ม ผู้ดำเนินรายการกล่าว “อีกครั้งที่เม็ดยาทั้งสามขวดนี้ไม่แยกประมูล แต่ประมูลพร้อมกัน ราคาเริ่มต้นสำหรับขวดยาทั้งสามนี้คือ สองแสนห้าหมื่นหินลมปราณ” ในความคิดโดยประมาณของมัน ราคาของเม็ดยาเหล่านี้ต้องพุ่งขึ้นไปสูงจนน่าเหลือเชื่ออย่างแน่นอน
ในความเป็นจริง มันอาจจะเป็นจุดสำคัญของงานประมูลทั้งหมดนี้ และคงทำให้นามของ ลี่เทา โด่งดังอยู่ในดินแดนด้านใต้อย่างแน่นอน
นี่ก็เป็นเพราะว่า ถึงแม้ลี่เทาจะไม่ได้เป็นเจ้าแห่งเตา แต่มันก็ได้ปรุงเม็ดยาที่เกือบจะมีคุณภาพเทียบเท่ากับเม็ดยาของเจ้าแห่งเตา ด้วยเช่นนั้น เม็ดยาต้องมีส่วนผสมของต้นสมุนไพรที่มันปรุงขึ้นมาด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงความแตกต่างระหว่าง อาจารย์ปรุงยาและเจ้าแห่งเตา
อาจารย์ปรุงยาใดๆ ก็ตามที่ต้องการจะกลายเป็นเจ้าแห่งเตา ต้องสามารถสร้างส่วนผสมของต้นสมุนไพร ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของตัวมันเอง ด้วยการอยู่เหนืออาจารย์ปรุงยาคนอื่นๆ เช่นนั้น ในที่สุด มันก็จะก้าวหน้าเป็นเจ้าแห่งเตา
เนื่องจากส่วนผสมเช่นนั้น ราคาของเม็ดยานั้นก็จะสูงเกินกว่าราคาของเม็ดยาธรรมดา การปรากฎขึ้นของเม็ดยานี้ในงานประมูล ก็จะทำให้เกิดความปั่นป่วนขึ้นมาในทันที ผู้คนมากมายยินดีที่จะจ่ายด้วยราคาที่สูงลิ่ว เพื่อให้ได้ยานี้มาครอบครองเพื่อทำการค้นคว้าวิจัย
นอกจากนั้น เมื่อไหร่ที่อาจารย์ปรุงยาได้กลายเป็นเจ้าแห่งเตา มันก็จะสามารถใช้วิชาปรุงยาที่เร้นลับ เพื่อแอบซ่อนส่วนผสมของต้นสมุนไพรไว้ ด้วยวิธีการเช่นนี้ ก็เป็นเรื่องยากที่คนอื่นๆ จะถอดความลับของเม็ดยาออกมาได้
แต่การผลิตเม็ดยาโดยอาจารย์ปรุงยา จะไม่มีการปรุงแบบเร้นลับเช่นนั้น และเป็นเรื่องง่ายที่จะแกะรอยและค้นคว้าวิจัย แผนกเม็ดยาบูรพาตระหนักถึงเรื่องนี้ดี แน่นอนว่า จริงๆ แล้วก็ไม่มีหนทางในการควบคุมมัน ทักษะที่ปรากฎออกมาในเม็ดยา เป็นเรื่องที่มีการค้นคว้าวิจัยกันมานานแล้ว
การรั่วไหลเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตลอดงานประมูลทั้งหมดที่ผ่านมา แต่บางทีอาจจะมีแค่หนึ่งในสิบ ด้วยเช่นนั้น ก็สามารถจินตนาการได้ถึงความตื่นเต้นที่เกิดขึ้นเนื่องจากการปรากฎของเม็ดยาเหล่านี้
แผนกเม็ดยาบูรพาปกติจะมีระดับของความอดกลั้นอยู่ เมื่อเม็ดยาได้ถูกนำขึ้นมาประมูล แผนกเม็ดยาบูรพาก็จะไม่พยายามจะเปิดเผยธรรมชาติที่แท้จริงของพวกมันออกมา หรือพยายามที่จะป้องกันไม่ให้ผู้คนศึกษาค้นคว้าเม็ดยาเหล่านั้น
ในทันที ผู้คนเริ่มตะโกนเสนอราคาออกมา
“สามแสนหินลมปราณ!”
“ห้าแสนหินลมปราณ ข้าต้องได้ครอบครองเม็ดยาจู้จีเทียนทั้งสามขวดนี้ให้ได้!”
ดวงตาเมิ่งฮ่าวส่องประกาย เม็ดยาจู้จีเทียนที่มีความเข้มข้นสี่สิบห้าในร้อยส่วน ได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย ทำให้เขาอยากรู้ว่าเมื่อเม็ดยาของเขาปรากฎขึ้น ผู้คนจะมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง

About wuxiathai

Organic Theme is officially developed by Templatezy Team. We published High quality Blogger Templates with Awesome Design for blogspot lovers.The very first Blogger Templates Company where you will find Responsive Design Templates.

Copyright © 2015 ผนึกสวรรค์ สยบมาร สะท้านเทพ

Designed by Templatezy | Distributed By Gooyaabi Templates