วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2560

ตอนที่ 87 : ข้าจะบรรลุจุดสูงสุดของระดับสิบสาม ขั้นรวบรวมลมปราณ!

Posted By: wuxiathai - 23:29
“เมิ่งฮ่าว…” ปรมาจารย์เอกะเทวะขบฟันแน่น มันรู้สึกเศร้าใจ และเสียใจมากยิ่งขึ้น ถ้ามันรู้ว่าเหตุการณ์จะกลับกลายเป็นเช่นนี้ มันก็จะพูดดีๆ กับเมิ่งฮ่าวให้มากกว่านี้
มันจะรู้ได้อย่างไรว่าเมิ่งฮ่าวโหดร้ายเช่นนี้? ถ้าไม่พูดถึงความโหดร้ายของเขา เขาก็ยังมีถุงแห่งจักรวาล! ถ้าลืมเรื่องถุงแห่งจักรวาล เขาก็ได้ก้าวไปถึงระดับสิบ ขั้นรวบรวมลมปราณ!
ภาพที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า ทำให้มันอยากจะร้องไห้ แต่ก็ไร้น้ำตา มันกัดฟันแน่น ขณะที่รู้สึกกังวลใจมากยิ่งขึ้น มันจำได้ถึงข้อกำหนดของหยกผนึกอสูร ที่สามารถถูกนำไปใช้ได้ โดยใครก็ตาม ที่อยู่ในระดับสิบสาม ขั้นรวบรวมลมปราณ ซึ่งพวกบัดซบชราเหล่านั้นได้พูดไว้ในวันนั้น ขณะที่จิตใจของมันเต็มไปด้วยการดูแคลนในตอนนั้น
มันเคยเชื่อว่า มันสามารถป้องกันสำนักผนึกอสูร ไม่ให้มีทายาทรุ่นหลังสืบต่อไปในอนาคต แต่…ตอนนี้ เมื่อมันเห็นเมิ่งฮ่าวกำลังผ่านเข้าไปในระดับสิบเอ็ด จิตใจของมันก็สั่นสะท้านเต็มไปด้วยความกังวลเป็นอย่างยิ่ง
แต่มันก็โชคร้าย ที่ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากกัดฟันแน่น และดูดซับพลังลมปราณให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ต่อไป มันจำเป็นต้องได้มากกว่าที่เมิ่งฮ่าวได้ไป และต้องเร็วกว่าด้วย มันจำเป็นต้องซ่อมแซมหลัวผาน (เข็มทิศจีน) ที่อยู่ตรงหน้าให้เรียบร้อยสมบูรณ์ และป้องกันไม่ให้เมิ่งฮ่าวประสบความสำเร็จ ก้าวหน้าไปมากกว่านี้
พลังลมปราณถูกดูดลงไปในพื้นดิน และซึมซับเข้าไปในหลัวผาน กลายเป็นสีแดงจ้า จนดูเหมือนว่า มันกำลังดูดบางสิ่งที่ผ่านลงมาจากพื้นดิน
“บัดซบ, เมิ่งฮ่าว สิ่งที่ข้าทำทั้งหมด ก็แค่ให้หินลมปราณระดับต่ำกับเจ้า และไม่ได้ขจัดพิษให้ เจ้าจะพอได้แล้วหรือไม่? ว่าอย่างไร? ยังไงข้าก็ยังคงเป็นปรมาจารย์ของเจ้านะ” ปรมาจารย์เอกะเทวะ พูดด้วยความรู้สึกที่ ไม่ได้รับความเป็นธรรมเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับเมิ่งฮ่าว เสียงกระหึ่มกึกก้องดังเต็มอยู่ภายในร่าง ด้วยพลังลมปราณของตะเกียง ยี่สิบในร้อยส่วน ถูกดูดซับเข้าไป ร่างของเขากำลังสั่นสะท้าน และรู้สึกว่าตัวเองมีการเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นกับแกนทะเลลมปราณของเขา มันขยายกว้างใหญ่มากขึ้น และขณะที่ขยายอยู่นั้น เส้นลมปราณก็หนามากยิ่งขึ้น เสียงปังดังขึ้นมาในศีรษะ และเขาก็รู้สึกถึงการทะลวงผ่านเข้าไปยังระดับอื่น
ระดับสิบเอ็ด ขั้นรวบรวมลมปราณ!
แกนทะเลลมปราณ กระจายออกเติมเต็มไปทั่วร่างกาย แกนทะเลลมปราณเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้นกับขั้นรวบรวมลมปราณ พลังอำนาจของมันประกันถึงอนาคตอันไร้ขอบเขต และพลังการต่อสู้อันไร้ที่สิ้นสุด
เมิ่งฮ่าวจะบรรลุขั้นพื้นฐานลมปราณยากขึ้นกว่าเดิม ด้วยแกนทะเลลมปราณเช่นนี้ แต่…ถ้าเขาบรรลุได้ เขาก็จะมีความแข็งแกร่งเป็นสองเท่า ของผู้ที่อยู่ในขั้นเดียวกัน!
ระดับสิบเอ็ด ขั้นรวบรวมลมปราณ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนร่างกาย แต่ปรับแต่งแกนทะเลลมปราณ!
การขยายของแกนทะเลลมปราณ ทำให้ร่างกายของเมิ่งฮ่าว เต็มไปด้วยเสียงกระหึ่มกึกก้องราว เสียงฟ้าผ่า พลังลมปราณไร้ขอบเขต ราวกับทะเลเต็มอยู่ภายใน คลื่นของแกนทะเลลมปราณ สาดกระแทก และปั่นป่วนเดือดพล่านโดยไร้ข้อจำกัด
เมิ่งฮ่าวลืมตาขึ้น และสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เกิดเป็นเสียงดังราวสายฟ้าฟาด เขายืนขึ้น ดวงตาสาดประกายความดื้อรั้นยืนกราน เดินไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว สองก้าว สามเก้า!
ตอนนี้เขายืนอยู่ตรงหน้าตะเกียงน้ำมันทั้งเจ็ดดวงนั้น ใกล้พอที่จะเอื้อมมือไปแตะสัมผัสมันได้ เขาได้ดูดซับพลังลมปราณจากตะเกียงไปสามสิบในร้อยส่วนแล้วตอนนี้
สามสิบในร้อยส่วน อาจจะฟังดูแล้วไม่มากเท่าไหร่ แต่มันก็อาจจะเป็นไปไม่ได้สำหรับเมิ่งฮ่าว ที่จะดูดซับลมปราณได้มากขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะความสามารถของระดับสิบ ขั้นรวบรวมลมปราณ ซึ่งเป็นขั้นที่สามารถขโมยโชคชะตาจากสวรรค์มาได้
“เมิ่งฮ่าว, เจ้ายังไม่เลิกอีก…” ปรมาจารย์เอกะเทวะ เห็นเมิ่งฮ่าวก้าวตรงไปข้างหน้าสามก้าว ความกระวนกระวายของมันก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ถ้าเมิ่งฮ่าวบรรลุระดับสิบสอง, เขาก็จะเหลือเพียงแค่ระดับเดียว ที่จะสามารถใช้หยกผนึกอสูรได้
“ขอบคุณมากสำหรับการช่วยเหลือ, ท่านปรมาจารย์” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ “ข้าใกล้จะเสร็จอีกในไม่ช้า” เขาปิดตา และเริ่มดูดซับพลังลมปราณเข้าไปในร่างมากยิ่งขึ้น ร่างของเขาสั่นสะท้าน เมื่อก้าวเข้าไปยังระดับสิบสอง ขั้นรวบรวมลมปราณ
ตั้งแต่ครั้งโบราณกาล ไม่มีใครเคยผ่านเข้าไปยัง…ระดับสิบสอง ขั้นรวบรวมลมปราณ
ทันทีที่เขาบรรลุระดับสิบสอง เมิ่งฮ่าวก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส อยู่ภายในจิตใจ จิตสัมผัสของเขาไม่ได้หายไปไหน แต่เขาก็รู้สึกราวกับว่า จิตใจของเขากำลังแยกออกเป็นสองส่วน ตอนนี้เขารู้สึกว่า…มีบางอย่างที่คล้ายกระแสลมปราณอยู่ภายในจิตใจ
นี่คือ…การรับรู้แห่งทะเลลมปราณ!
ในยุคใหม่นี้ ผู้ฝึกตนที่ทะลวงจากขั้นรวบรวมลมปราณ เข้าไปในขั้น พื้นฐานลมปราณ จะสร้างการรับรู้แห่งทะเลลมปราณจากความว่างเปล่า ปกติแล้ว การรับรู้แห่งทะเลลมปราณเช่นนี้มักจะไม่กว้างใหญ่มากนัก ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับพรสวรรค์ แต่เกี่ยวกับวิธีการที่ใช้สร้าง
เห็นได้ชัดว่าการรับรู้แห่งทะเลลมปราณ ยิ่งกว้างใหญ่มาก พลังที่ปลดปล่อยออกมาก็ยิ่งมีมากขึ้น และทำให้ผู้ฝึกตนนั้นมีจิตสัมผัสอันไร้ขอบเขตมากยิ่งขึ้น
ครั้งสมัยโบราณกาล ผู้ฝึกตนมักจะพอใจ ที่จะทะลวงขั้นพื้นฐานลมปราณ เมื่ออยู่ในระดับสิบสอง ขั้นรวบรวมลมปราณ นี่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องจาก การรับรู้แห่งทะเลลมปราณที่เปิดขึ้นมา ของระดับสิบสอง จะมีความแข็งแกร่งมากยิ่งกว่าใคร ที่อยู่ในขั้นพื้นฐานลมปราณ
ในโลกแห่งการฝึกตนยุคใหม่ เมิ่งฮ่าวเป็นผู้ฝึกตนคนแรก ที่บรรลุถึงระดับสิบสอง ขั้นรวบรวมลมปราณ ถ้าข่าวนี้แพร่กระจายออกไป มันคงสร้างความสั่นสะเทือน ไปทั่วทั้งโลกแห่งการฝึกตนนี้อย่างแน่นอน
ณ ตอนนี้ ปรมาจารย์เอกะเทวะสั่นสะท้านไปทั้งร่าง มันจ้องไปที่เมิ่งฮ่าวอย่างซึมเซา เมื่อเห็นความสำเร็จอันไร้ขีดจำกัดของเขา ตั้งแต่ระดับเก้า ขั้นรวบรวมลมปราณในก่อนหน้านี้ จนกระทั่งตอนนี้ได้ทะยานขึ้นไปถึงระดับสิบสอง มันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาดี
“…ในสมัยโบราณ” มันพึมพำ “ตำนานกล่าวว่า ขั้นรวบรวมลมปราณอันยิ่งใหญ่ จะครบถ้วนสมบูรณ์ที่ระดับสิบสาม แต่ถึงจะอยู่ในช่วงเวลานั้น เรื่องเช่นนี้ก็ยากที่จะพบเห็น มันยังบอกอีกว่าระดับสิบสาม ขั้นรวบรวมลมปราณ เป็นระดับที่เกี่ยวข้องกับโชคชะตาแห่งสวรรค์”
“และ…สามารถเปลี่ยนแปลงความสามารถซ่อนเร้น ของผู้ฝึกตนที่บรรลุถึงระดับนี้ได้! มันอาจจะเปลี่ยนไปไม่มาก เนื่องจากความสามารถซ่อนเร้น เป็นสิ่งที่กำเนิดมาจากสวรรค์ ดังนั้นแม้แต่การเปลี่ยนแปลงที่เล็กน้อย ก็จะเป็นการต่อต้านสวรรค์อย่างแน่นอน”
“ข้าจำไม่ได้ว่ากี่ปีมาแล้ว ที่เหล่าตัวบัดซบชรา จากสำนักผนึกอสูร โอ้อวดว่า ข้าเป็นผู้ที่มีโชคอย่างน่าเหลือเชื่อ…แต่เมื่อเปรียบเทียบกับข้าแล้ว เจ้าเด็กผู้นี้ก็เป็นผู้ที่มีโชคเช่นกัน บัดซบ, มันโชคดีเกินไป! ข้าจะไปคิดถึงเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาทำไมกัน!”
ขณะที่ปรมาจารย์เอกะเทวะพึมพำกับตัวเอง เมิ่งฮ่าวก็ลืมตาขึ้น ส่องประกายด้วยแสงอันลึกล้ำ เขารู้สึกเจ็บปวดราวถูกแยกเป็นสองส่วน อยู่ภายในศีรษะ แต่ในความเจ็บปวดนั้น เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงความชัดเจนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
โลกดูเหมือนจะแตกต่างไปจากเดิม เมื่อเขามองไปที่มัน ถึงแม้เขาจะไม่สามารถบอกได้ว่า อะไรที่ไม่เหมือนเดิม มันดูเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างในตอนนี้ ได้ส่องประกายรังสีออกมา อย่างที่เขาไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน
ณ ตอนนี้ พลังดึงดูดอันมหาศาล ก็ดูเหมือนว่าเกือบจะหายไป เหมือนกับร่างของเขารู้ว่า เขาได้มาถึงข้อจำกัดของการดูดซับแล้ว
ในไม่ช้า จำนวนพลังลมปราณที่เขาได้ดูดซับ จากตะเกียงพวกนั้น ก็ลดลงจากสามสิบส่วน เป็นยี่สิบ และจากนั้นก็สิบส่วนในร้อยส่วน
ทำให้เมิ่งฮ่าวต้องขมวดคิ้ว เขารู้ว่าพลังฝึกตนของเขาไม่ได้ไปถึงจุดสูงสุด…รู้สึกว่ายังมีระดับชั้นอื่นๆ นอกเหนือจากระดับชั้นปัจจุบันในตอนนี้ เขาสามารถรู้สึกได้ถึงวงจรอันยิ่งใหญ่ของขั้นรวบรวมลมปราณ
มันเป็นความรู้สึกอันแข็งแกร่ง แต่ขณะที่พลังดึงดูดเริ่มอ่อนลง และอ่อนลงไปเรื่อยๆ ก็ดูเหมือนว่าระดับขั้นต่อไปของเขา กำลังจะปิดลงไปตลอดกาล
“ฮา ฮา, มันก็เหมือนที่ข้าพูด” ปรมาจารย์เอกะเทวะหัวเราะขึ้นมา ดวงตาสาดประกาย “ระดับสิบสาม ขั้นรวบรวมลมปราณ แม้แต่ในสมัยโบราณก็ยังหายากยิ่ง มันเป็นเพียงแค่ในตำนาน ที่พูดได้เลยว่า ไม่มีอยู่จริง จำกัดอยู่แค่ระดับสิบสองเท่านั้น”
“เมิ่งฮ่าว, ไม่จำเป็นต้องพยายามให้มากไปกว่านี้อีกแล้ว เร็วเข้า, รีบออกไป อย่ามาขวางแผนการใหญ่ของข้า มิเช่นนั้น ถ้าข้าออกไปได้เมื่อไหร่ ข้าจะจัดการเจ้าให้สาสม เจ้าสารเลวน้อย!”
ถึงแม้ว่าเมิ่งฮ่าวจะดูดซับพลังลมปราณมาได้บางส่วน แต่จริงๆ แล้ว ก็ไม่ได้มากมายนัก ยังคงมีเหลืออยู่อย่างเพียงพอ เพื่อให้มันสำเร็จแผนการใหญ่ และถ้าเมิ่งฮ่าวไม่บรรลุถึงระดับสิบสาม ก็ไม่มีทางที่เขาจะมีพรสวรรค์เพื่อจะใช้หยกผนึกอสูรนั้นได้
“ดูเหมือนว่า โชคของเจ้าเด็กผู้นี้ ไม่น่าตื่นเต้นมากเท่าไหร่” ปรมาจารย์เอกะเทวะ กล่าวด้วยความพึงพอใจ แต่หลังจากนั้น ดวงตาของเมิ่งฮ่าวก็สาดประกาย เขาเป็นคนที่ดื้อรั้นยืนกราน ตอนนี้ได้บรรลุระดับสิบสอง ขั้นรวบรวมลมปราณ และอีกนิดเดียวก็จะถึงระดับต่อไป เขาจะทำทุกอย่างที่เป็นไปได้ เพื่อทะลวงไปให้ถึง
“พลังดึงดูดกำลังอ่อนแรงลง…ข้าจะเพิ่มพลังลมปราณเข้าไปต่อได้อย่างไร…” สมองเมิ่งฮ่าวหมุนติ้วคิดถึงความเป็นไปได้ร้อยแปดพันอย่าง จนกระทั่งในที่สุดดวงตาของเขาก็เริ่มสาดประกายจ้า และตบลงไปที่ถุงเก็บสมบัติ กระบี่ไม้สองเล่มก็ปรากฎออกมา
เขามองไปที่กระบี่ไม้นั้น กัดฟันแน่น และบังคับให้หนึ่งในสองเล่มนั้น บินตรงมาที่เขา ปรมาจารย์เอกะเทวะ มองด้วยความแปลกประหลาดใจ เมื่อกระบี่เฉือนไปที่เมิ่งฮ่าว ไม่นาน บาดแผลมากกว่าสิบแห่งก็เปิดกว้างอยู่บนร่างของเขา
เมิ่งฮ่าวกัดฟันแน่น ขณะที่กระบี่กรีดไปบนร่าง โลหิตไหลพุ่งออกมา ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เมื่อโลหิตพุ่งออกมาจากบาดแผล เขาก็รู้สึกว่า พลังลมปราณในร่างก็ไหลออกมาด้วยเช่นเดียวกัน
นี่เป็นสิ่งที่เขาต้องการอย่างแท้จริง!
เมื่อพลังลมปราณไหลออกมาจากร่าง พลังดึงดูดภายในก็สั่นสะท้านในทันที จากนั้นก็มีแรงดึงดูดเพิ่มมากขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ จิตใจเมิ่งฮ่าวก็คงมั่น บังคับกระบี่บินเล่มที่สอง และเล่มแรก ให้บินไปมารอบๆ ตัว กรีดเฉือนร่างกายเกิดเป็นรอยแผลแล้วแผลเล่า เพียงชั่วพริบตา ก็มีรอยแผลเกือบร้อยบนร่างของเขา
รอยแผลพวกนี้ส่งผลให้พลังในร่างกายของเขาเกิดการทำงานขึ้น และในเวลาเดียวกันก็ทำให้พลังดึงดูดภายใน มีความแข็งแกร่งมากขึ้น และมากยิ่งๆ ขึ้น
ปรมาจารย์เอกะเทวะ ตกตะลึง มันไม่เคยนึกฝันเลยว่า เมิ่งฮ่าวจะใช้วิธีการเช่นนี้ เมื่อมันเห็นรอยแผลโลหิตมากมาย และความมุ่งมั่นในดวงตาของเมิ่งฮ่าว ก็ทำให้มันรู้สึกลึกๆ ถึงความเหี้ยมเกรียมของเขา ถ้าเมิ่งฮ่าวปฏิบัติต่อตัวเองด้วยความโหดร้ายเช่นนี้ เขาจะโหดร้ายต่อผู้อื่นถึงเพียงไหน?!
ยิ่งมีรอยแผลบนร่างมากเท่าไหร่ ความรุนแรงของพลังดึงดูดก็มากขึ้นเท่านั้น จำนวนพลังลมปราณที่เขาดูดมาจากตะเกียง กระโดดจากสิบเป็นสี่สิบในร้อยส่วน แต่ถึงแม้ว่าพลังลมปราณไหลเข้าไปในร่างเขามากมาย แต่ก็ยังไม่สามารถทะลวงผ่านเข้าในระดับต่อไปได้
หลังจากเวลาผ่านไป เมิ่งฮ่าวก็หัวเราะออกมา ด้วยรอยยิ้มเย็นชา เขายกมือขวาขึ้นมา บังคับให้หนึ่งในกระบี่ไม้ ส่งเสียงร้องแหวกฝ่าอากาศไปรอบๆ จากนั้นก็ลอยตรงมาที่หน้าอก แทงเข้าไปจนทะลุร่างเขา ส่งผลให้น้ำพุโลหิตพุ่งกระจาย รวมถึงปากก็มีโลหิตพ่นออกมา ในทันใดนั้น พลังลมปราณในร่างก็ลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้พลังดึงดูดไต่สูงขึ้นไปอีกหลายส่วน
ตอนนี้ เขากำลังดูดซับพลังลมปราณได้ถึงห้าสิบในร้อยส่วน จากตะเกียงทั้งเจ็ดดวงนั้น
เสียงระเบิดดังออกมา เต็มไปด้วยพลังลมปราณอันไร้ขอบเขต เมิ่งฮ่าวทำทุกอย่างเพื่อทำลายอุปสรรคระหว่างการเลื่อนระดับขั้นนี้ โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก และกระบี่ไม้ก็กรีดไปบนร่างอีกครั้ง พลังลมปราณจากตะเกียงทั้งเจ็ดดวงก็พรั่งพรูออกมา ณ ตอนนี้ เมิ่งฮ่าวกำลังดูดพวกมันเข้าไปถึงเจ็ดสิบส่วน
เวลาลื่นไหลไป บาดแผลปรากฎมากขึ่นบนร่างของเขา ซึ่งเป็นผลมาจากความโหดเหี้ยมของเมิ่งฮ่าว ในไม่ช้า ร่างกายก็เริ่มสั่นสะท้าน และม่านตาก็พล่าเลือน ตอนนี้เขาดูดซับพลังลมปราณ จากตะเกียงทั้งเจ็ด ได้มากถึงเก้าสิบส่วน ราวกับว่าเขากำลังอาบน้ำจากพลังลมปราณ ที่หนาแน่นและบริสุทธิ์อยู่
“เจ้ากำลังจะสังหารตัวเอง…” ปรมาจารย์เอกะเทวะ มองฉากตรงหน้า หายใจด้วยความตื่นเต้น ความดื้อรั้นยืนกรานของเมิ่งฮ่าว ทำให้มันหน้ามืดมึนงง
“ข้าจะกลายเป็นผู้แข็งแกร่ง! ไม่ต้องมีเหตุผล ข้าต้องเป็นผู้แข็งแกร่งเท่านั้น!” เมิ่งฮ่าวเริ่มสูญเสียสติสัมปชัญญะ แต่ความดื้อรั้นไม่ยอมให้เขาหมดสติไป ถึงแม้ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาก็ไม่แม้แต่จะคิดยอมแพ้ ยังคงพึมพำกับตัวเองต่อไป ซึ่งก็คือ เขา ต้อง กลายเป็น ผู้แข็งแกร่ง!
เมิ่งฮ่าวต้องทะลวงผ่านไปให้ถึงระดับสิบสาม ขั้นรวบรวมลมปราณ
“นี่คือเต๋าของมัน…” ปรมาจารย์เอกะเทวะ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ในที่สุดก็เข้าใจ

About wuxiathai

Organic Theme is officially developed by Templatezy Team. We published High quality Blogger Templates with Awesome Design for blogspot lovers.The very first Blogger Templates Company where you will find Responsive Design Templates.

Copyright © 2015 ผนึกสวรรค์ สยบมาร สะท้านเทพ

Designed by Templatezy | Distributed By Gooyaabi Templates