กระบี่ไม้ทั้งสองเล่มหมุนวนเป็นวงกลมไปรอบๆ ส่งประกายรังสีกระบี่อันน่าตกใจออกมา พุ่งตรงไปที่ศีรษะของซ่างกวนซิวอย่างรวดเร็ว หนึ่งอยู่ด้านขวา หนึ่งอยู่ทางซ้าย นำพารังสีสังหารของเมิ่งฮ่าวไปกับพวกมันด้วย ครั้งนี้ เห็นได้ชัดว่าซ่างกวนซิวไม่มีทางที่จะหลบเลี่ยง
“มีบางอย่างที่ล้ำค่ากว่าพื้นฐานไร้ตำหนิ” ซ่างกวนซิวกรีดร้องเสียงแหลมเล็ก “เป็นบางอย่างที่ในดินแดนด้านใต้ จริงๆ แล้ว ทั่วทั้งหมดในสี่ทวีป หายากยิ่งกว่าระดับสิบ ขั้นรวบรวมลมปราณของเจ้าเป็นแสนเท่า ข้ากำลังพูดถึงพื้นฐานสมบูรณ์แบบ!! เมิ่งฮ่าว เจ้า…”
จากนั้นกระบี่ไม้ทั้งสองเล่มก็แทงเข้าไปในศีรษะของมัน ส่งผลให้น้ำพุโลหิตกระจายออกไปทุกทิศทาง
ซ่างกวนซิวตายในทันที มันไม่สามารถมีชีวิตถึงหนึ่งร้อยปี แต่ตายด้วยความรู้สึกที่คับข้องใจ อย่างไร้ที่สิ้นสุด
มันไม่เคยคิดว่าจะตายอย่างง่ายดายเช่นนี้ เนื่องจากแผนการใหญ่ของมัน และเนื่องจากความจริงที่ว่า มันได้อยู่ในระหว่างการสร้างขั้นพื้นฐานลมปราณ แต่ศีรษะของมันก็ได้ระเบิดออก และร่างก็ตกลงไปจากภูเขาต้าชิง และกระแทกลงไปในแม่น้ำด้านล่าง ความทะเยอทะยาน และร่างของมัน ลอยออกไปยังที่ห่างไกล
เมิ่งฮ่าวคว้าจับถุงเก็บสมบัติสีเขียวเข้ม ขณะที่ร่างของมันกำลังตกลงไป เขาไม่มองไปที่ถุงใบนั้น แต่เก็บเข้าไปในชุดยาวแทน
เขาหอบหายใจ ถึงแม้ว่าเพิ่งจะบรรลุระดับสิบ ขั้นรวบรวมลมปราณ เพิ่งจะควงกระบี่ไม้สองเล่ม สังหารบุคคลที่เกือบจะบรรลุขั้นพื้นฐานลมปราณ ตอนนี้เขาก็รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างยิ่ง
เขามองร่างของซ่างกวนซิวหายลับตาไป จากนั้นก็หันหลังกลับ และกระโดดขึ้นไปยืนบนกระบี่ไม้ ร่างกลายเป็นลำแสง พุ่งลงจากภูเขาตรงไปที่เสียวหู่ซึ่งกำลังนอนหมดสติอยู่
สีหน้าของเด็กหนุ่มซีดขาวราวคนตาย และดวงตาของมันก็ปิดสนิทแน่น พลังลมปราณราวกับเส้นใยบัว และพลังแห่งชีวิตก็ส่องประกายเหมือนเปลวไฟเล็กๆ ที่สามารถจะดับลงไปได้ทุกเมื่อ
เมิ่งฮ่าวมองไปที่เสียวหู่อย่างครุ่นคิด จากนั้นก็จ้องไปที่ไข่มุกซึ่งลอยอยู่ในอากาศข้างกายมัน พลังของไข่มุกลูกนี้ช่างน่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง และเป็นของวิเศษอย่างแท้จริง พลังของมันน่าจะเทียบได้กับกระจกทองแดงเป็นอย่างน้อย
“การจะคัดลอกมัน คงต้องใช้หินลมปราณจำนวนมากมายมหาศาล…เฮ้อ” เมิ่งฮ่าวถอนหายใจ และมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
เขารู้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า ไข่มุกลูกนี้ได้เชื่อมต่อกับพลังแห่งชีวิตของเสียวหู่ ถ้าเขาขโมยมันไป เสียวหู่ต้องตายอย่างแน่นอน
“เจ้าไว้วางใจข้าด้วยชีวิตของเจ้า ข้า, เมิ่งฮ่าว จะเป็นคนชั่วช้าได้อย่างไร? ถ้าข้าทำ มันก็จะกลายเป็นตราบาปติดตัวข้าไปตลอดชีวิต และวันเวลาแห่งการฝึกตนของข้าก็จะจบลง” ดวงตาของเขาสาดประกาย โบกสะบัดแขนเสื้อ และแตะลงไปที่หน้าผากของเสียวหู่
ร่างของเสียวหู่กระตุกเล็กน้อย จากนั้นดวงตาของมันก็ค่อยๆ ลืมขึ้น มันรีบป้องกันตัวในทันที ลุกขึ้นยืน และถอยหลังออกไปหลายก้าว มันจ้องไปที่ไข่มุกในมือของเมิ่งฮ่าว และร่างกายก็เริ่มสั่นเล็กน้อย ความรู้สึกสิ้นหวังพุ่งเข้าไปในดวงตาของมัน
เมิ่งฮ่าวใช้นิ้วจับไข่มุกขึ้น ทำให้มันพุ่งตรงไปที่เสียวหู่ ซึ่งคว้าจับมันไว้ได้ในกลางอากาศ ความรู้สึกอันซับซ้อนเติมเต็มอยู๋ในสีหน้าของมัน และมันก็จ้องไปที่เมิ่งฮ่าวด้วยสายตาอันว่างเปล่า
“ขอบคุณมากสำหรับการช่วยเหลือของเจ้า ของวิเศษนี้น่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง เจ้าต้องระวังให้มาก ดูแลตัวเองด้วย”
เมื่อไข่มุกลอยออกไปจากมือ ร่างของเมิ่งฮ่าวก็เริ่มอ่อนแอลง สัญญาณที่ปรากฎออกมาของ ระดับสิบขั้นรวบรวมลมปราณก็เริ่มหายไป เมื่อพลังฝึกตนของเขาตกลงไป พลังลมปราณแห่งสวรรค์และปฐพี ที่เพิ่งจะถูกตัดออกไปจากเขา ก็เริ่มกลับมาอย่างช้าๆ
พลังที่ต่อต้านพลังแห่งสวรรค์และปฐพีในร่างของเขา ก็ค่อยๆ จางหายไป
เมิ่งฮ่าวไม่รู้สึกเสียใจต่อการตัดสินใจของเขาในครั้งนี้ มีบางสิ่งบางอย่างที่เขาไม่อาจกระทำ เขาปฏิเสธที่จะต่อต้านมโนธรรมของเขาในลักษณะนี้
เซี่ยฉิว (โลหิตลูกกลมๆ) ซึ่งซ่างกวนซิวใช้เพื่อคุกคามชีวิตของชาวบ้านในสามเมืองนี้ ก็แตกกระจายในทันทีด้วยดรรชนีของเมิ่งฮ่าว มันกลายเป็นปราณโลหิตจำนวนมากมาย ลอยกลับไปยังสามเมืองนั้น
เท่าที่ผู้คนในสามเมืองนั้นรู้สึก ทุกคนรู้เพียงแต่ว่า ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา พวกมันรู้สึกค่อนข้างวิงเวียนศีรษะ และตอนนี้ ก็รู้สึกว่าหัวสมองโล่งขึ้นมากกว่าเดิม พวกมันรู้สึกเพลียบ้างเล็กน้อย นี่ก็เนื่องมาจาก พวกมันไม่รู้ว่าอายุขัยของพวกมัน ได้ถูกทำลายลง และหายไปเกือบห้าปี
เมิ่งฮ่าวรู้เรื่องพวกนี้ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากถอนหายใจกับตัวเอง เขาโบกสะบัดแขนเสื้อ และเตรียมจะจากไป
“ศิษย์พี่เมิ่ง” เสียวหู่กล่าว “ซ่างกวนซิว…”
“ไม่มีบุคคลเช่นนั้นอีกแล้วในโลกนี้” เขาไม่หันกลับไปมอง แต่พุ่งออกไปยังที่ห่างไกล การต่อสู้ที่นี่ต้องสร้างความสนใจให้กับสามสำนักใหญ่อย่างแน่นอน และเมิ่งฮ่าวก็คาดเดาได้ว่า ทำไมพวกมันถึงยอมให้ซ่างกวนซิว สร้างเวทสะกดในที่นี้ได้ มันต้องเป็นเพราะเมิ่งฮ่าว
ซ่างกวนซิวต้องการถุงเก็บสมบัติของเขา และสามสำนักใหญ่ก็ต้องการตัวเขา ในตอนนี้ เขาไม่มีทางที่จะจัดการกับสถานการณ์เช่นนี้ได้ มีเพียงสิ่งเดียวที่ทำได้ ก็คือ ไปยังที่ห่างไกลเพื่อหลบซ่อน และคิดหาหนทางต่อไป
เสียวหู่ไม่พูดอะไรอีก มันมองเมิ่งฮ่าวจากไป จากนั้นความมุ่งมั่นก็เติมเต็มอยู่ในดวงตา
“เมิ่งฮ่าว เจ้าไม่แย่งชิงของวิเศษที่มีค่ามากที่สุดของข้าไป ข้า, ต๋งหู่ ถึงจะไม่ใช่คนดี แต่เจ้าสามารถวางใจได้ ในชีวิตนี้ ข้าจะไม่ทำอะไรให้เจ้าต้องผิดหวัง” มันหันตัวกลับ มองไปยังเมืองที่อยู่ห่างไกลออกไป มองเห็นบิดาและมารดา ความอ่อนโยนก็ปรากฎอยู่ในดวงตาของมัน จากนั้นความอบอุ่นก็หายไป ก้มศีรษะลง รีบขยับตัวพุ่งออกจนหายลับตาไป
ในเวลาเดียวกันนั้น ท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยลำแสงอันมากมายนับไม่ถ้วน ด้านหน้าสุดที่นำอยู่ ไม่ใช่ใครอื่น นอกจาก หลิวเต้าอวิ๋น จากสำนักเฟิงหาน (สายลมยะเยือก)
“เมิ่งฮ่าว, ครั้งนี้เจ้าไม่มีทางหนีพ้น!”
เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้ว กลายเป็นแสงแวบไป เมื่อเขาเร่งความเร็วพุ่งออกไปยังที่ห่างไกล เขาใช้พลังที่ยังเหลืออยู่ ของระดับสิบขั้นรวบรวมลมปราณ เพื่อยืดระยะห่างระหว่างตัวเขา และพวกที่ไล่ตามมาให้ไกลมากยิ่งขึ้น
เขาได้เห็นศิษย์มากมายของสามสำนักใหญ่ และท่ามกลางพวกมัน ก็มีผู้ฝึกตนขั้นพื้นฐานลมปราณ และขั้นสร้างแกนลมปราณ รวมอยู่ด้วย
เห็นได้ชัดว่า ก่อนหน้านี้พวกมันไม่ต้องการแสดงตัว จึงได้ส่งศิษย์ระดับต่ำกว่า มาตรวจดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เมื่อได้เห็นเมิ่งฮ่าวปรากฎตัวขึ้น พวกมันก็แสดงตัวขึ้นเช่นเดียวกัน
“ซ่างกวนซิว มีเมืองเทียนเหอหนุนหลัง ดูเหมือนว่าไม่ใช่พลังที่เล็กน้อย…สามสำนักใหญ่ต้องยอมวางมือ เพราะข้อตกลงของพวกมัน เมื่อพวกมันรับรู้ว่าเวทสะกดได้หายไป พวกมันก็เข้ามาใกล้ ซ่างกวนซิวมีความลับของมัน และไม่ต้องการให้ใครเห็นว่า กำลังเกิดอะไรขึ้น มันยังได้ระวังคนจากเมืองเทียนเหอ ไม่ยอมให้พวกนั้นรับรู้จุดประสงค์จริงๆ ของมัน”
เขาจากภูเขาต้าชิงไป พุ่งผ่านทะเลเหนือ และข้ามแนวป่าอันกว้างใหญ่ ตรงไปยังทิศทางของสำนักเอกะเทวะ
ประมาณครี่งทางที่ผ่านเข้าไป ในแนวป่าอันกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต ภายใต้เทือกเขาอันสลับซับซ้อน เมิ่งฮ่าววิ่งไปตามทางด้วยความเร็วสูงสุด สีหน้าคลุมเครือไม่ชัดเจนปรากฎบนใบหน้าของเขา ขณะที่เขาวิ่ง เขาก็มองลงไปยังกระดองเต่า ที่ถืออยู่ในมือเป็นครั้งคราว นี่เป็นสิ่งของที่เขาได้มาจากถุงเก็บสมบัติของซ่างกวนซิว
ขนาดของมันเท่ากับฝ่ามือ และขอบของมันขรุขระ เห็นได้ชัดว่า มันได้แตกออกมาจากกระดองเต่าอันที่ใหญ่กว่านี้
พื้นผิวของมันจารึกไว้ด้วยแถว และแถวขอตัวอักษรเล็กๆ จนยากที่จะอ่านได้ ต้องแผ่พลังลมปราณเข้าไปในดวงตาเท่านั้น เขาถึงสามารถอ่านตัวอักษรพวกนี้ได้ชัดเจน
“ในโลกแห่งการฝึกตน เป็นไปได้ที่จะบรรลุถึงสิ่งที่เรียกว่า…พื้นฐานสมบูรณ์แบบ!” เมิ่งฮ่าวอ้าปากค้าง
บนพื้นผิวของกระดองเต่า มีสูตรของเม็ดยาอยู่สองชนิด หนึ่งเป็นสูตรสำหรับเม็ดยาพื้นฐานสมบูรณ์แบบ อีกหนึ่งเป็นสูตรสำหรับเม็ดยาแกนสีทองสมบูรณ์แบบ
“ข้อความบนกระดองเต่าเห็นได้ชัดว่า พื้นฐานลมปราณ ไม่ได้มีเพียงแค่สามชนิด, ไร้ตำหนิ, รอยร้าว และแตกหัก แต่ยังมีชนิดที่สี่ ก็คือ พื้นฐานสมบูรณ์แบบ ซึ่งหายากเป็นอย่างยิ่ง พบเห็นได้แค่หนึ่งในหมื่นเท่านั้น…”
เมิ่งฮ่าวหายใจเร็วขึ้น จ้องมองไปที่กระดองเต่า และคิดกลับไปถึงตอนที่ ซ่างกวนซิวได้พูดก่อนที่มันจะตาย ตอนนี้เขาก็เข้าใจถึงความเสียใจของซ่างกวนซิว ที่ถูกบังคับให้ต้องบรรลุขั้นพื้นฐานลมปราณ หลังจากที่ถูกพิษ และตอนนี้เขาก็เข้าใจถึง ความเกลียดชังอย่างบ้าคลั่งในดวงตาของซ่างกวนซิว
เมิ่งฮ่าวครุ่นคิดอย่างเงียบๆ เขาเคยอ่านข้อมูลมากมาย เกี่ยวกับพื้นฐานลมปราณ ในศาลาเวทของสำนักเอกะเทวะ
ในขั้นพื้นฐานลมปราณ เสาแห่งเต๋าจะปรากฎขึ้นภายในแกนทะเลสาบลมปราณ เนื่องจากขั้นพื้นฐานลมปราณ จะเพิ่มอายุขัยให้ยืนยาวมากขึ้น มันจึงถูกจัดให้เป็นขั้นตอนของการ ขโมยโชคชะตาและต่อต้านสวรรค์ ด้วยเหตุนั้น เสาแห่งเต๋าจึงไม่มีทางสมบูรณ์ได้ แต่จะมีรอยร้าวปรากฎอยู่ตลอดเวลา
นี่เป็นข้อตกลงของเต๋าแห่งสวรรค์ มันสามารถสรุปได้ว่า “เมื่อได้สิ่งหนึ่งมา, ก็ต้องสูญเสียอีกสิ่งไป” หรืออาจจะเป็น “เมื่อบางสิ่งเข้ามา, บางอย่างก็ออกไป” นี่เป็นส่วนของวงจรแห่งสวรรค์และปฐพี และถูกยินยอมให้คงอยู่
พื้นฐานลมปราณ ประกอบด้วย เริ่มต้น, ตรงกลาง และขั้นย่อยสุดท้าย เมื่อครบทั้งหมด เสาแห่งเต๋าเก้าต้น ก็จะปรากฎขึ้น ถ้าแต่ละต้นมีรอยร้าวหนึ่งแห่ง ก็หมายความว่า จะมีรอยร้าวทั้งหมดเก้าจุดปรากฎขึ้น นี่เรียกว่า พื้นฐานไร้ตำหนิ ซึ่งมีรอยร้าวเกิดขึ้นน้อยที่สุด
และพลังลมปราณที่รั่วไหลออกมา ก็น้อยที่สุดด้วยเช่นกัน หลังจากผ่านการสูดลมหายใจมาอย่างยาวนาน ร่างกายก็จะมีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ มากยิ่งกว่าพื้นฐานชนิดอื่นๆ มากนัก
ในโลกแห่งผู้ฝึกตนสมัยใหม่ นี่เป็นพื้นฐานชนิดที่แข็งแกร่งมากที่สุด วิธีการพิเศษที่จะบรรลุได้ มีแต่หาพบได้จากท่ามกลางเบาะแสที่มีอยู่ในคัมภีร์โบราณ ยกตัวอย่างเช่น ตำรารวบรวมลมปราณของ คัมภีร์สุดยอดวิญญาณ ความลับของมันสามารถที่จะทำให้ โลหิตไหลนองเป็นท้องธาร ในความเป็นจริง…นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไม สำนักเอกะเทวะ ถึงได้ล่มสลายไป
ถ้าไม่มีคัมภีร์พวกนั้น วิธีเดียวที่จะมีโอกาสสำเร็จขั้น พื้นฐานไร้ตำหนิ ก็คือ ต้องเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์อย่างน่าเหลือเชื่อ หรือไม่ก็ต้องเป็นผู้ที่มีโชคชะตาอันโดดเด่น ซึ่งส่วนมากก็เป็นผู้ถูกเลือก ซึ่งสามารถรวบรวมชิ้นส่วนของเบาะแสเหล่านั้นเข้าด้วยกัน
ถ้ามีรอยร้าวมากกว่านั้น ปรากฎขึ้นในแต่ละเสาแห่งเต๋า ก็จะถูกเรียกว่า พื้นฐานรอยร้าว ถึงแม้ว่าพื้นฐานชนิดนี้ จะอ่อนแอกว่า พื้นฐานไร้ตำหนิ แต่ก็ไม่สามารถที่จะดูถูกมันได้ ซึ่งมักจะมีแต่ศิษย์ของสำนักใหญ่เท่านั้น ที่จะสามารถบรรลุขั้นนี้ได้
สุดท้าย, แน่นอนว่าเป็นพื้นฐานแตกหัก หลังจากบรรลุพื้นฐานลมปราณขั้นสุดท้าย ถ้ามีรอยร้าวเกิดขึ้นมากกว่าสิบแปดจุดบนเสาแห่งเต๋า ซึ่งถือว่ามาก พื้นฐานชนิดนี้ถือว่าใกล้จะแตกสลายไป ในแง่ของความเร็วของการฝึกตน และพลังของการต่อสู้ ทั้งสองอย่างนี้จะอ่อนแอมาก ด้วยชนิดของพื้นฐานลักษณะนี้ ก็มีโอกาสที่จะก่อตัวขึ้นเป็นแกน ซึ่งต่ำกว่าพื้นฐานมาก
เมิ่งฮ่าวครุ่นคิดเกี่ยวกับทุกสิ่งเหล่านี้ จากนั้นก็มองลงไปยังกระดองเต่า จากคำอธิบายในนี้ ด้วยการปรุง และกลืนเม็ดยาพื้นฐานลมปราณ ก็มีโอกาสสูง ที่จะบรรลุขั้นพื้นฐานสมบูรณ์แบบ ในกรณีนี้ จะไม่มีรอยร้าวใดๆ ปรากฎขึ้น นี่เป็นชนิดของการฝึกตนที่ต่อต้านสวรรค์ และเป็นเส้นทางที่ไม่อาจหวนกลับ
เนื่องจากพื้นฐานนี้ ไม่ถูกยินยอมโดยสวรรค์ มันอาจจะไปกระตุ้นทัณฑ์สายฟ้า การที่จะสำเร็จได้อย่างแท้จริงต้องต่อต้านสวรรค์ให้ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ มันก็คล้ายคลึงกับระดับสิบขั้นพื้นฐานลมปราณ
“จากที่ซ่างกวนซิวพูดมา ดูเหมือนว่าระดับสิบขั้นพื้นฐานลมปราณ ก็เป็นการต่อต้านสวรรค์เช่นเดียวกัน เห็นได้ชัดว่า การบรรลุขั้นพื้นฐานสมบูรณ์แบบ ก็เป็นเช่นเดียวกัน…”
“ถ้าอยู่ในขั้นพื้นฐานแตกหัก และได้กลืนเม็ดยานี้ ก็จะมีโอกาสหนึ่งในสิบส่วน ที่จะบรรลุขั้นพื้นฐานสมบูรณ์แบบ ถ้าอยู่ในขั้นพื้นฐานรอยร้าว ก็จะมีโอกาสสามในสิบส่วน และด้วยพื้นฐานไร้ตำหนิ โอกาสก็จะเป็นหกในสิบส่วน เม็ดยานี้ช่วยซ่อมแซมรอยร้าว ช่วยให้บรรลุถึงขั้นพื้นฐานสมบูรณ์แบบ แต่…ต้องดูช่วงระยะการกลืนเม็ดยาด้วย ยิ่งกลืนมันไปเร็วขึ้น หลังจากที่บรรลุพื้นฐานลมปราณ ก็ยิ่งดีมากขึ้น ถ้าเวลาผ่านไปนาน ประสิทธิภาพของเม็ดยาก็จะลดลง และต้องใช้เวลาสองเดือนในการปรุงเม็ดยาพื้นฐานสมบูรณ์แบบ” หัวใจของเมิ่งฮ่าวเต้นถี่เร็ว เมื่อเขาอ่านคำอธิบายนี้
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ซ่างกวนซิว เข้าสังกัดสำนักเอกะเทวะ…ก็เหมือนกับหวังเถิงเฟย มันต้องการโอกาสที่จะได้ตำรารวบรวมลมปราณ ของคัมภีร์สุดยอดวิญญาณ หลังจากที่บรรลุขั้นพื้นฐานไร้ตำหนิ โอกาสของมันก็จะสูงมากขึ้น…และไม่ต้องสงสัยเช่นกันว่า มันหายตัวไปในวันที่สำนักปิดตัวลง พร้อมกับความลับนี้ในตัวมัน มันจึงไม่กล้าที่จะเสนอหน้า…” เมิ่งฮ่าวจับกระดองเต่าในมือแน่นขึ้น วิ่งตรงไปข้างหน้าต่อไป
นอกจากกระดองเต่า ถุงเก็บสมบัติของซ่างกวนซิว ยังมีกระถางปรุงยาขนาดเล็ก ซึ่งทำมาจากผลึกโปร่งใสสีเขียว ขนาดเท่ามือ และมันก็ยังมีสมุนไพรจำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดก็วางอยู่ในกล่องหยก มีหลายร้อยชนิดที่แตกต่างกันไป
มีสมุนไพรหลายชนิดที่เมิ่งฮ๋าวไม่คุ้นเคย แต่ก็ต้องขอบคุณ ที่มีแผ่นหยกในถุงเก็บสมบัติ ซึ่งมีคำอธิบายถึงรายละเอียดของสมุนไพรทุกชนิด เมื่อได้อ่าน เมิ่งฮ่าวก็รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น และมากยิ่งขึ้น