วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2560

ตอนที่ 235 : ค่าเล่าเรียนของศิษย์

Posted By: wuxiathai - 19:34
หลังจากที่บุรุษชุดม่วงโผล่ออกมาจากประตู สายตาของพวกที่มุงดูก็ตกกระทบไปบนร่างของบุคคลที่อยู่ด้านหลังมัน ผู้ฝึกตนหลังค่อม ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผลเป็น ซึ่งดูเหมือนจะเกิดจากการลงโทษตัวเองของมัน
ความรู้สึกถึงพลังอันยากที่จะอธิบายได้ กระจายออกมาจากร่างของมัน ซึ่งดูเหมือนจะหนุนส่งแรงกดดันที่ทำให้เกิดความเงียบสงบภายในสนามการประมูลนี้
“ปรมาจารย์ค่อม!”
“โอ, นั่นคือปรมาจารย์ค่อม! กล่าวกันว่าพื้นฐานฝึกตนของมันอยู่ที่ขั้นกลางวิญญาณแรกก่อตั้ง เมื่อสามร้อยปีมาแล้ว มันได้ละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อกลายมาเป็นผู้พิทักษ์โอสถ ของเทพกระถางม่วงอัน…”
“การที่ปรมาจารย์ค่อมปรากฎตัวขึ้นก็หมายความว่า…บุรุษในชุดม่วงนั้น จริงๆ แล้วก็ต้องเป็นหนึ่งในแปดเทพกระถางม่วงของสำนักจื่อยิ่น, อันจ้ายไห่!”
สายตาของผู้ฝึกตนนับแสนส่องประกายด้วยความนับถือขึ้นมาในทันที ตำแหน่งของเทพกระถางม่วงเกือบจะอยู่บนจุดสูงสุดของเต๋าแห่งการปรุงยา นอกจากเจ้าโอสถแล้ว ก็ไม่มีตำแหน่งไหนสูงกว่านี้อีก
สีหน้าอันจ้ายไห่สงบนิ่ง มันพยักหน้าให้กับเจ้าแห่งเตาทั้งสิบ จากนั้นก็ยกมือขวาขึ้นไปในอากาศ และทำท่าคว้าจับ เม็ดยาปีศาจก็ลอยมาตกลงไปบนฝ่ามือ มันไม่ได้นำมาสูดดม แต่ปล่อยให้เม็ดยาวางอยู่บนฝ่ามือ ขณะที่มันหลับตาลง
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ มองมาด้วยความสนใจ เมิ่งฮ่าวยังคงไม่พูดจา มองอย่างครุ่นคิด ขณะที่เทพกระถางม่วงอันจ้ายไห่ ใช้ทักษะในเต๋าแห่งการปรุงยาของมัน เพื่อรู้แจ้งเกี่ยวกับเม็ดยาของเมิ่งฮ่าว
หลังจากธูปไหม้หมดดอกผ่านไป เทพกระถางม่วงอันจ้ายไห่ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ใบหน้าของมันเปลี่ยนไป ขณะที่จ้องไปยังเม็ดยาที่อยู่ในมือ แสงแปลกๆ เต็มอยู่ในดวงตา
“ยาเม็ดนี้มีชื่อเรียกว่าอะไร?” มันถามขึ้นช้าๆ เสียงแหบแห้งเล็กน้อย
ความตื่นเต้นเต็มอยู่บนใบหน้าของผู้ดำเนินรายการประมูล มันประสานมือและโค้งตัวให้กับอันจ้ายไห่ จากนั้นก็กล่าวว่า “จากข้อมูลที่บันทึกไว้ ยาเม็ดนี้เรียกว่า แปลงปีศาจ”
อันจ้ายไห่มองไปยังเม็ดยาเป็นเวลานาน จากนั้นก็ถอนหายใจและกล่าวว่า “ช่างเป็นเม็ดยาที่มหัศจรรย์อะไรเช่นนี้ แปลงปีศาจ หลอมจิตวิญญาณ และเปลี่ยนมันให้กลายเป็นปีศาจ พึ่งพาเพียงตัวเองให้ทะยานขึ้นไปในท้องฟ้า มันไม่ได้เผาไหม้จิตวิญญาณ แต่มันเข้าแทนที่!” นี่คือความพยายามของมันที่จะเน้นถึงแก่นแท้ของยาเม็ดนี้ มันไม่อาจจะได้ข้อสรุปของสูตรการปรุงยาเม็ดยานี้ในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นนี้ได้
คนอื่นๆ อาจจะไม่เข้าใจคำพูดของมัน แต่ทันทีที่เมิ่งฮ่าวได้ยิน ม่านตาของเขาก็หดเล็กลง
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันคือเทพกระถางม่วง เพียงมองแค่แวบเดียว มันก็สามารถบอกถึงแก่นแท้ของเม็ดยาออกมาได้” เมิ่งฮ่าวจมอยู่ในความครุ่นคิดสักพัก ในวันข้างหน้า เขาจำเป็นต้องเพิ่มส่วนประกอบอื่นลงไปในเม็ดยาเพื่อสร้างความสับสน ทำให้เป็นเรื่องไม่ง่ายที่จะวิเคราะห์มันได้ ถึงแม้บุรุษผู้นี้จะเป็นเทพกระถางม่วง แต่สถานการณ์ทั้งหมดนี้ก็ทำให้เมิ่งฮ่าวรู้สึกถึงความยุ่งยากขึ้นอีกเล็กน้อย
“นี่ไม่ใช้เม็ดยาร้อยส่วนเต็ม” อันจ้ายไห่กล่าว “ความเข้มข้นของตัวยาจริงๆ แล้ว ก็อยู่ที่เก้าสิบห้าในร้อยส่วน แต่ก็สมควรจะได้รับคำยกย่อง เมื่อความจริงที่ว่า เม็ดยานี้ถูกปรุงขึ้นท่ามกลางความรู้แจ้งแห่งการปรุงยา ไม่มีสูตรยาสำหรับยาเม็ดนี้” ทันทีที่ผู้ฝึกตนนับแสนได้ยินคำพูดนี้ พวกมันก็เริ่มหอบหายใจออกมา และจิตใจก็เริ่มหมุนเคว้งคว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากคำพูดที่ว่า ความรู้แจ้งแห่งการปรุงยา
“ความรู้แจ้งแห่งการปรุงยา…”
“ยาเม็ดนี้ถูกปรุงขึ้นจากความรู้แจ้งแห่งการปรุงยา ไม่มีสูตรยาสำหรับมัน!”
“เม็ดยาที่ถูกปรุงขึ้นในช่วงเกิดความรู้แจ้งแห่งการปรุงยามีเพียงหนึ่งเดียว ไม่มีทางที่จะค้นหาเม็ดยาอื่นที่เหมือนเม็ดยานี้ได้อีกแล้ว! นั่นก็หมายความว่า…ราคาของมันต้องพุ่งขึ้นสองเท่าเป็นอย่างน้อย!” ผู้ฝึกตนนับแสนพูดคุยเรื่องนี้กันต่อไป สายตาที่ร้อนแรงของพวกมันจ้องนิ่งไปยังเม็ดยาแปลงปีศาจ ดูเหมือนพวกมันจะเริ่มบ้าคลั่งขึ้นมาอีกครั้ง
อันจ้ายไห่มองไปยังเม็ดยาแปลงปีศาจนานอีกสักพัก จากนั้นก็ลดมือลง ปล่อยให้เม็ดยาลอยอยู่ในอากาศ จากนั้นก็ถอยไปด้านหลังสองสามก้าว และหลับตาลง
ดูเหมือนมันปรากฎตัวมาเพื่อตรวจสอบว่า เม็ดยาแปลงปีศาจได้ถูกผลิตขึ้นมาในช่วงของความรู้แจ้งแห่งการปรุงยาเพียงเท่านั้น
“ยี่สิบล้านหินลมปราณ! ตระกูลหลี่ต้องได้ยาเม็ดนี้!”
“ยี่สิบล้านห้าแสนหินลมปราณ! เม็ดยาระดับเลิศเช่นนี้ ถูกปรุงในช่วงของความรู้แจ้งแห่งการปรุงยา มีเพียงหนึ่งเดียวในใต้หล้า”
สถานที่แห่งนี้ทั้งหมดเริ่มเดือดพล่านด้วยความตื่นเต้น ขณะที่การเสนอราคาอื่นๆ ดังออกมา เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และดวงตาก็ส่องแสงเจิดจ้า เมื่อได้ยินเสียงเสนอราคาทั้งหมด ก็ทำให้จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น แต่อย่างไรก็ตาม ความลังเลอยู่เล็กน้อย ทันใดนั้น ก็ปรากฎขึ้น หลังจากได้ยินคำอธิบายของเทพกระถางม่วง ตอนนี้เขาถึงได้รู้ว่าขั้นแปลกๆ ที่เกิดขึ้นตอนที่เขากำลังปรุงเม็ดยาในวันนั้น ถูกเรียกว่า ความรู้แจ้งแห่งการปรุงยา แต่เขาก็ไม่เข้าใจว่า เทพกระถางม่วงได้อธิบายว่าเม็ดยานี้มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ซึ่งดูเหมือนจะไม่ตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
“บางทีอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่ข้าไม่ค่อยเข้าใจนัก…” เมิ่งฮ่าวคิด สะกดความสับสนลง และรับฟังด้วยความตื่นเต้นกับเสียงเสนอราคาที่เพิ่มสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้ เขาเข้าใจว่าคงจะเป็นเรื่องยากสำหรับนักปรุงยาที่จะทำกำไรจากการปรุงเม็ดยา แต่เขาไม่เคยคาดคิดว่าเม็ดยาแปลงปีศาจจะขายได้ในราคาอันน่าเหลือเชือเช่นนี้
ทันใดนั้น เขาก็ตระหนักว่าการเลือกเข้าสังกัดสำนักจื่อยิ่น เป็นการเลือกที่ชาญฉลาดอย่างแท้จริง
ในไม่ช้า ราคาสำหรับเม็ดยาแปลงปีศาจก็พุ่งไปถึง สี่สิบล้านหินลมปราณ ราคาเช่นนี้สามารถทำให้สำนักส่วนใหญ่ล้มละลายได้ นอกจากสี่สำนักใหญ่และสามตระกูลดังแล้ว ไม่มีใครมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะมาประมูลแข่งกับพวกมันอีกแล้วในตอนนี้
“สี่สิบสามล้านหินลมปราณ!!” เจ้าอ้วนตะโกนออกมา กระโดดขึ้นไปอยู่บนโต๊ะ
“สี่สิบแปดล้าน!” ใครบางคนจากสำนักชิงหลัวตะโกนออกมา
“หกสิบล้าน!” เจ้าอ้วนตะโกนอย่างบ้าคลั่ง “ท่านย่ามันเถอะ! เจ้ากล้าจะช่วงชิงสิ่งของจากข้า!?”
ราคาได้พุ่งขึ้นสูงจนไม่อาจคาดคิดได้ สำหรับคนที่มุงดูเกือบทั้งหมด นี่อาจจะหายาก, เป็นเม็ดยาระดับเลิศ แต่มันก็ไม่ได้มีค่ามากเช่นนั้น แม้จะเพิ่มว่าเป็นการปรุงขึ้นในช่วงการรู้แจ้งแห่งการปรุงยา หรือยาเม็ดนี้มีความเข้มข้นของตัวยาอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่มันก็ไม่ได้เห็นชัดว่า ผลลัพธ์ของมันจะเป็นอย่างไร ถ้ากลืนลงไปโดยขั้นสร้างแกนลมปราณ เมื่อพิจารณาว่ามันได้ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับขั้นพื้นฐานลมปราณ ราคาหกสิบล้านหินลมปราณ สำหรับเม็ดยาเช่นนี้จึงค่อนข้างสูงมากเกินไป
สำหรับคุณค่าที่สามารถค้นคว้าวิจัยเม็ดยาแปลงปีศาจก็ยากที่จะบอกได้ แต่ถ้าหลังจากค้นคว้าจนเสร็จสิ้น แล้วพบว่าเม็ดยานี้มีประสิทธิภาพสำหรับขั้นสร้างแกนลมปราณ ถ้าเป็นเช่นนี้ คุณค่าของมันก็คงจะไม่มีขีดจำกัด
คงต้องเน้นย้ำว่า สำหรับนักปรุงยาของดินแดนด้านใต้ ที่จะก้าวไปถึงระดับเจ้าโอสถนั้น ต้องปรุงเม็ดยา ที่ไม่เพียงแค่มีความเข้มข้นถึงเก้าในสิบส่วนได้เท่านั้น แต่ต้องปรุงเพื่อใช้กับห้าขั้นนี้ได้ด้วย คือ รวบรวมลมปราณ, พื้นฐานลมปราณ, สร้างแกนลมปราณ, วิญญาณแรกก่อตั้ง และตัดวิญญาณ หลังจากปรุงเม็ดยาสำหรับขั้นทั้งห้านี้ด้วยเม็ดยาระดับเลิศ มีความเข้มข้นถึงเก้าในสิบส่วนได้ คนผู้นั้นถึงจะถูกพิจารณาว่าเป็นเจ้าโอสถของเต๋าแห่งการปรุงยาอย่างแท้จริง
ไม่ว่ายังไงก็ตาม การวิเคราะห์ถึงคุณค่าของเม็ดยาแปลงปีศาจก็ยากที่จะคาดคิดได้อย่างแท้จริง มันยิ่งสร้างความตื่นเต้นให้ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เพราะมันไม่ใช่เพียงแค่กลืนเม็ดยาลงไป แต่มันเป็นเม็ดยาที่ไม่เหมือนใครที่ถูกปรุงขึ้นท่ามกลางการรู้แจ้งแห่งการปรุงยา
เมิ่งฮ่าวมีความตื่นเต้นมากขึ้นไปเรื่อยๆ เขาอยากให้ราคาสูงขึ้นไปมากกว่านี้ อันที่จริง ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพื้นฐานฝึกตนที่ต่ำของเขา แม้จะมีความวิตกกังวลอยู่ลึกๆ เขาก็อยากจะหยิบเอาเม็ดยาแปลงปีศาจเม็ดที่สองออกมา และประมูลร่วมกับยาเม็ดแรกนั้นด้วย
ถึงแม้ว่าในตอนนี้ เขากำลังสงสัยว่า เขาจะได้รับกำไรมากเท่าไหร่ หลังจากที่ยาเม็ดนั้นถูกขายออกไป แต่นั่นก็เป็นปัญหาเพียงเล็กน้อย
ในตอนนี้เองที่ดวงตาของอันจ้ายไห่ ทันใดนั้น ก็ลืมขึ้นมา
“หนึ่งร้อยล้าน!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ก็ทำให้ผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ อ้าปากค้างจ้องมองไป เจ้าอ้วนและคนอื่นๆ มองไปยังอันจ้ายไห่ และใบหน้าของพวกมันก็ค่อยๆ เต็มไปด้วยโทสะขึ้นมาอย่างช้าๆ
ทุกคนรู้ถึงกฎที่ไม่มีการเขียนไว้ในการประมูลเม็ดยาสำนักจื่อยิ่นว่า ผู้ฝึกตนของสำนักจื่อยิ่นต้องไม่เข้าร่วมประมูล ก่อนหน้านี้ ในช่วงของการประมูลเม็ดยาจู้จีเทียน แผนกเม็ดยาบูรพาก็ปล่อยให้มันถูกขายออกไปเพื่อการค้นคว้าโดยไม่กระพริบตาแม้แต่น้อย
แต่นี่คือเม็ดยาระดับเลิศ…เทพกระถางม่วง อันจ้ายไห่ กำลังเข้ามาประมูลด้วย ทำให้เกิดสถานการณ์ที่ผู้ซื้อแข่งขันกับผู้ขาย แล้วใครจะไปแข่งด้วยได้?
การเสนอราคาจะดำเนินต่อได้อย่างไร…?
“หนึ่งร้อยสิบล้าน!” เจ้าอ้วนตะโกน ดวงตาแดงก่ำ มันไม่สนใจเกี่ยวกับหินลมปราณ แต่มันเสียหน้าไม่ได้ ไม่มีอะไรถ้ามันจะมีเรื่องกับเทพกระถางม่วง หลังจากการเสนอราคาที่สูงมากของมันเมื่อครู่นี้ มันก็สั่นสะท้าน ซึ่งทำให้มันรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง นี่ไม่ใช่การต่อสู้จริงๆ เท่าที่เจ้าอ้วนคิด หินลมปราณอันเล็กน้อยเหล่านี้ไม่มีอะไร และมันก็มั่นใจว่ามีมากพอ
“สองร้อยล้าน” อันจ้าวไห่พูดเสียงราบเรียบ ผู้ฝึกตนนับแสนอ้าปากค้าง ราคาเช่นนี้ช่างนึกไม่ถึงอย่างแท้จริง ถึงแม้จะเป็นเม็ดยาระดับเลิศสิบเม็ด ซึ่งทุกเม็ดต่างก็ถูกปรุงขึ้นด้วยความรู้แจ้งแห่งการปรุงยา ก็ไม่น่าจะมีค่าเช่นราคาที่น่าเหลือเชื่อนี้
สองร้อยล้านหินลมปราณ สำนักใหญ่สามารถใช้จ่ายได้ถึงสิบปี
“สองร้อย…” โทสะของเจ้าอ้วนพุ่งขึ้นไปจนถึงสวรรค์ มันกำลังเพิ่งจะเพิ่มราคา เมื่อเสียงอันราบเรียบของอันจ้ายไห่ดังออกมา
“ข้าไม่ได้ซื้อยาเม็ดนี้สำหรับตัวเอง ข้าเป็นตัวแทนซื้อมันด้วยคำสั่งของเจ้าโอสถจอมปีศาจ”
คำพูดเหล่านี้ ทำให้เกิดความเงียบปกคลุมไปทั่ว ทุกคนดูท่าทางครุ่นคิด ตอนนี้ พวกมันเข้าใจแล้ว ไม่ว่าใครจะพูดว่าอย่างไร สำนักจื่อยิ่นก็จะไม่ยอมให้เม็ดยาเช่นนี้ถูกขายออกไป ถึงแม้ว่าประเพณีของการประมูลเม็ดยาจะถูกทำลายลงไปก็ตาม ไม่ว่าอย่างไรยาเม็ดนี้ก็ไม่อาจจะออกไปจากสำนักจื่อยิ่นได้
โดยไม่มีการคำนึงถึงเรื่องนี้ เจ้าอ้วนยังคงดูเหมือนต้องการจะเพิ่มราคา “สองร้อย…” ทันใดนั้น หนึ่งในศิษย์จากสำนักของมันก็คว้าตัวมันไว้ และกระซิบไปที่หูมัน ใบหน้าเจ้าอ้วนเต็มไปด้วยท่าทางหงุดหงิด มันแค่นเสียงอย่างไม่พอใจ แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมาอีก
ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเช่นกัน อันจ้ายไห่ ทำท่าคว้าจับด้วยมือขวา และเม็ดยาแปลงปีศาจก็ลอยเข้าไปในมือของมัน โดยไม่พูดอะไร มันหันหลัง ติดตามไปด้วยชายชราหลังค่อม จากนั้นก็หายเข้าไปในประตูเรืองแสงนั้น
เมิ่งฮ่าวมองไปด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ขณะที่สิ่งทั้งหมดได้เกิดขึ้น ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกกังวลขึ้นเล็กน้อย
เขาลังเลอยู่สักพัก “เจ้าโอสถจอมปีศาจซื้อมันไป เมื่อดูจากชื่อเสียงเกียรติยศของท่าน, ท่านคงไม่…ท่านคงไม่ ไม่จ่ายเงิน, ใช่หรือไม่…?” เมื่อคิดถึงศักดิ์ฐานะของเจ้าโอสถจอมปีศาจ เขาก็รู้สึกมั่นใจขึ้นเล็กน้อย
หลังจากอันจ้ายไห่จากไป ก็ไม่มีทางที่การประมูลจะดำเนินได้ต่อไป เมิ่งฮ่าวคว้าตัวไป๋หยุนหลาย ซึ่งดูค่อนข้างใจลอย และจากไป
หลังจากกลับไปยังสำนัก เมิ่งฮ่าวใช้เวลาเล็กน้อยออกคำสั่งกับไป๋หยุนหลายซ้ำไปซ้ำมา ตลอดเวลานั้น ไป๋หยุนหลายมองมาที่เขาด้วยสายตาแปลกๆ ความนับถือในดวงตาของมันมีมากกว่าก่อนหน้านี้มากนัก
เมื่อมองไป๋หยุนหลายจากไป เหมือนจะอยู่ในอาการมึนงง เมิ่งฮ่าวหัวเราะออกมาอย่างขมขื่นอย่างช่วยไม่ได้ หลังจากขบคิดเกี่ยวกับมัน เขาก็ตัดสินใจว่า ถึงแม้จะมีใครบางคนพบว่าเขาเป็นคนปรุงยาเม็ดนั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอันใด เมื่อตัดสินใจว่าจะไม่กังวลถึงมันอีกแล้ว เขาก็มุ่งหน้ากลับไปยังถ้ำแห่งเซียน
“สองร้อยล้านหินลมปราณ! ถึงแม้ข้าจะได้เพียงแค่แปดในสิบส่วน มันก็ยังมากถึงหนึ่งร้อยหกสิบล้าน!” เขานั่งลง คิดเกี่ยวกับหินลมปราณด้วยดวงตาเจิดจ้า
ลึกเข้าไปในแผนกเม็ดยาบูรพาของสำนักจื่อยิ่น บนยอดเขาหลักของเทือกเขา อันจ้ายไห่ยืนด้วยความเคารพอยู่ข้างกายชายชรา ชายชราผู้นี้ แน่นอนว่า ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ตานกุ่ย ในมือของท่านเป็นเม็ดยาสีดำ ซึ่งก็คือ…เม็ดยาแปลงปีศาจ
ตานกุ่ย ตรวจสอบเม็ดยาอยู่เกือบหนึ่งชั่วยาม อย่างช้าๆ รอยยิ้มเริ่มปรากฎขึ้นบนใบหน้าของท่าน เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยทั้งความเอ็นดูและการยอมรับ
อันจ้ายไห่มองดูตานกุ่ย ดวงตาเต็มไปด้วยความนับถือ ในตลอดทั้งชีวิตของมัน มันไม่เคยยอมรับใครมากกว่าเจ้าโอสถจอมปีศาจมาก่อน มันเป็นเทพกระถางม่วง แต่จริงๆ แล้ว ก็เนื่องจากว่า มันได้เข้าใจถึงช่องว่างอันกว้างใหญ่ ระหว่างตัวมันและอาจารย์ ทำให้ความนับถือของมันลึกล้ำมากขึ้น
ทุกครั้งที่มันยืนอยู่เบื้องหน้าเจ้าโอสถจอมปีศาจ มันก็รู้สึกราวกับว่ามันเป็นมัจฉาตัวน้อยที่แหวกว่ายอยู่ในทะเลอันกว้างใหญ่ของเต๋าแห่งการปรุงยา
“ท่านอาจารย์” อันจ้ายไห่กล่าว “ข้าสืบหาว่าใครเป็นคนปรุงเม็ดยานี้แล้ว แต่ก็มีปัญหาอยู่เล็กน้อยเกี่ยวกับเบื้องหลังของมัน มันคือ…”
“อย่าพูดถึงมัน” ชายชรากล่าวเสียงราบเรียบ “ข้าขอห้าม ไม่มีความจำเป็นต้องพูดถึง” ท่านเก็บเม็ดยาไว้ด้วยการโบกมือ
อันจ้ายไห่มองไปด้วยความตกตะลึงชั่วครู่ จากนั้นก็กล่าวด้วยความเคารพว่า “ขอรับ”
“ไม่ต้องไปรบกวนมันด้วย ปล่อยให้เจ้าโอสถจอมกระถางน้อยๆ นี้ เป็นความลับต่อไปในสำนัก” ตานกุ่ยยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข และความพึงพอใจอย่างยากจะอธิบายออกมาได้ ถึงแม้ในขณะที่เสียงของท่านยังคงดังออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ท่านก็หายตัวไปยังที่ห่างไกล ตลอดเวลานั้น ท่านก็ไม่ได้พูดถึงหินลมปราณเลย
“ท่านอาจารย์, แล้วหินลมปราณล่ะ…” อันจ้ายไห่กล่าวอย่างลังเล
เสียงตานกุ่ยได้ยินมาจากที่ห่างไกลออกไป “หินลมปราณอะไร? นั่นเป็นค่าเล่าเรียนของศิษย์!”
อันจ้ายไห่มองอาจารย์ของมันหายลับไป จากนั้นก็หัวเราะออกมา ขณะที่มันหันร่างไป นามของคนผู้หนึ่งก็ลอยอยู่ในจิตใจ
“ฟางมู่…”
เวลาผ่านไป ในที่สุดครึ่งเดือนก็จากไป ในวันหนึ่ง ด้วยความมุ่งหวังอย่างใหญ่หลวง เมิ่งฮ่าวขอให้ไป๋หยุนหลายไปตรวจสอบว่า สามารถไปรับหินลมปราณได้แล้วหรือไม่ ไป๋หยุนหลายกลับมาในตอนเย็น สีหน้าของมันดูเหมือนจะผิดคาดเป็นอย่างยิ่ง
ด้วยความใส่ใจอย่างดีเยี่ยม มันกล่าวว่า “ข้าใช้วิธีการมากมายเพื่อสอบถามไปทั่ว แต่คำตอบก็เหมือนเดิมตลอด…อ้ายยย, หลังจากที่เม็ดยาถูกขายไป ก็ไม่มีหินลมปราณถูกฝากเข้ามาเลย…ข้าไม่แน่ใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น แต่พวกเราจะคาดหวังว่าแผนกการประมูล จะกล้าไปเรียกร้องหินลมปราณจากเจ้าโอสถจอมปีศาจได้อย่างไร…?”
เมิ่งฮ่าวอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ เขารู้สึกราวกับว่าเขาเพิ่งจะถูกสายฟ้าห้าสายฟาดลงมาบนศีรษะ ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยโทสะ
“หินลมปราณของข้า! สองร้อยล้านหินลมปราณของข้า! ตานกุ่ย, ท่านเอาเม็ดยาของข้าไป ส่งมอบหินลมปราณมาให้ข้า!” เมิ่งฮ่าวกัดฟันแน่น แต่ก็ไม่อะไรที่เขาสามารถทำได้ นอกจากนั่งอยู่ที่นั่นด้วยความรู้สึกที่สูญเสีย

About wuxiathai

Organic Theme is officially developed by Templatezy Team. We published High quality Blogger Templates with Awesome Design for blogspot lovers.The very first Blogger Templates Company where you will find Responsive Design Templates.

Copyright © 2015 ผนึกสวรรค์ สยบมาร สะท้านเทพ

Designed by Templatezy | Distributed By Gooyaabi Templates