วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2560

ตอนที่ 223 : ท่าทีของฟางตานชือ

Posted By: wuxiathai - 19:24
ไป๋หยุนหลายมองมายังเมิ่งฮ่าว และกล่าวว่า “ข้าควรจะไปหาเด็กฝึกปรุงยาให้เจ้าหรือไม่?” ในตอนนี้ ฐานะของเมิ่งฮ่าวไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เขาเป็นอาจารย์ปรุงยา ไม่ว่าเขาจะเดินไปในแผนกเม็ดยาบูรพา หรือแผนกลมปราณม่วง ตำแหน่งของเขาก็เหมือนกับศิษย์สายใน ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
เนื่องจากกฎบางอย่างที่มีมาอย่างยาวนานของสำนักจื่อยิ่น อาจารย์ปรุงยาจึงเทียบเท่ากับศิษย์สายในของแผนกลมปราณม่วง แต่ในความเป็นจริง ตำแหน่งของอาจารย์ปรุงยาสูงกว่าเล็กน้อย
“ไม่จำเป็น” เมิ่งฮ่าวกล่าว พร้อมรอยยิ้มน้อยๆ เขาลงจากเขาพร้อมกับไป๋หยุนหลาย จากนั้นก็มุ่งหน้าตรงไปยังแผนกลมปราณม่วง ช่วงของการเดินทาง ไป๋หยุนหลายได้อธิบายถึงสถานการณ์ว่า บุคคลที่ร้องขอให้ช่วยปรุงเม็ดยา มีตำแหน่งที่สูงส่งอยู่ในสำนักสายใน แต่ถึงแม้มันจะเป็นผู้ถูกเลือก มันก็ยังไม่อาจจะไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าแห่งเตาได้ ยิ่งไปกว่านั้น ชื่อเสียงของมันก็ไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นอาจารย์ปรุงยาส่วนใหญ่จึงไม่ต้องการจะช่วยมัน
แผนกเม็ดยาบูรพามักจะอยู่ในตำแหน่งที่สูงส่ง อาจารย์ปรุงยาใดๆ ก็ตาม มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธคำร้องขอ ถ้าทำเช่นนั้น ศิษย์สายในของแผนกลมปราณม่วง ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้ โดยเฉพาะผู้ถูกเลือกผู้นี้ มีทางเลือกน้อยมาก และในบรรดาอาจารย์ปรุงยาที่ยินดีปรุงยาให้มัน ก็ไม่มีใครทำได้ตามที่มันต้องการ
ไป๋หยุนหลายรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี และพบว่านี่เป็นโอกาสดีสำหรับฟางมู่ ถึงแม้จะจบลงด้วยความล้มเหลวก็ตามที ผู้ถูกเลือกนี้ก็ไม่อาจจะทำอะไรกับแผนกเม็ดยาบูรพาได้ ดังนั้น ไป๋หยุนหลายจึงเร่งรีบมาหาเมิ่งฮ่าว
หลังจากได้ยินคำอธิบาย เมิ่งฮ่าวก็ครุ่นคิดอยู่สักพัก จากนั้นก็ถามว่า “มันต้องการให้ปรุงเม็ดยาอะไร?”
“มันไม่ได้บอก เจ้าลองถามดูเมื่อพวกเราไปถึง สถานะของข้าทำให้ไม่มีสิทธิ์ถาม ติงหย่ง เป็นผู้ถูกเลือกของแผนกลมปราณม่วง มันไม่จำเป็นต้องตอบคำถามข้า ถึงข้าจะถามมันก็ตาม” ไป๋หยุนหลายถอนหายใจ
เมิ่งฮ่าวพยักหน้า ขณะที่พวกเขาผ่านหุบเขาต่างๆ ภาพเมื่อก่อนหน้านี้ก็ปรากฎขึ้นในจิตใจของเขา เสียงดังอันน่าเหลือเชือนั้น เกิดจากผีโต้งทะลวงผ่านเปลือกแห้งนั้นออกมา ทันทีที่มันปรากฎขึ้นในขั้นกำเนิดใหม่ น่าแปลกใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ดูเหมือนว่ามันไม่ได้สนใจในการพูดจา มันรีบเปลี่ยนรูปลักษณ์ของเมิ่งฮ่าวให้กลับไปเป็นฟางมู่อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็บินกลับเข้าไปในหน้ากากสีโลหิตเพื่อหลับใหล
ตอนนี้ มันหลับเหมือนกับอ๋าวเฉี่ยน หลังจากตรวจสอบอย่างรวดเร็ว เมิ่งฮ่าวก็สรุปได้ว่า มันคงจะตื่นขึ้นมาในอีกสองสามเดือนข้างหน้า ด้วยเช่นนั้น เขาก็ไม่ต้องสนใจมันมากนัก จากนั้น ด้วยความตื่นเต้นเขารีบรวบรวมผิวที่สลัดออกมาของมัน ซึ่งได้ระเบิดขึ้นก่อนหน้านี้ไว้
ผิวนั้นเหนียวแน่นทนทานเป็นอย่างยิ่ง แม้แต่พื้นฐานฝึกตนของเขา ก็ไม่มีทางจะทำลายมันได้แม้แต่น้อย เมื่อมันมาจากผีโต้ง เมิ่งฮ่าวก็คิดว่ามันต้องเป็นอาวุธเวท ไม่มีเวลาตรวจสอบรายละเอียดของมัน เขาเก็บเอาไว้ จากนั้นก็เดินออกมาจากถ้ำแห่งเซียน
ใช้เวลาไม่นานนักสำหรับเมิ่งฮ่าวและไป๋หยุนหลาย ที่จะมาถึงหุบเขาซึ่งเชื่อมต่อกับแผนกเม็ดยาบูรพา และแผนกลมปราณม่วง ที่กำลังรอคอยพวกเขาอยู๋เป็นบุรุษหนุ่มท่าทางเย่อหยิ่ง ซึ่งไพล่มืออยู่ด้านหลังในตอนนี้ และกำลังมองขึ้นไปในท้องฟ้า
นี่คือ ติงหย่ง มันสวมชุดยาวสีแดง ซึ่งส่องประกายอยู่ในแสงอาทิตย์ และจริงๆ แล้ว ก็ส่องประกายสีม่วงออกมา ปีที่เมิ่งฮ่าวเข้าสังกัดสำนักจื่อยิ่น เขาได้เรียนรู้ว่า ไม่ว่าแผนกเม็ดยาบูรพา หรือแผนกลมปราณม่วง ผู้ที่มีลมปราณสีม่วง จะได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพ ดังนั้น ถึงแม้บุรุษหนุ่มผู้นี้ ไม่ได้สวมชุดสีม่วงของศิษย์แกนหลัก แต่ความจริงที่ว่า เสื้อผ้าของมันเปล่งประกายสีม่วงออกมา ก็แสดงให้เห็นว่า มันเป็นผู้ที่มีตำแหน่งสูงส่งอยู่ในสำนัก มันคือผู้ถูกเลือก แห่งสำนักจื่อยิ่น
พื้นฐานฝึกตนของมันอยู่ในขั้นสูงสุดของขั้นกลางพื้นฐานลมปราณ ห่างจากขั้นสูงอีกไม่ไกล
เมื่อติงหย่งเห็นเมิ่งฮ่าว มันขมวดคิ้ว และกล่าวว่า “เจ้าคือฟางมู่?” ในความคิดของมัน ยิ่งอาจารย์ปรุงยามีอายุมาก ก็จะยิ่งดี สำหรับมัน เห็นได้ชัดว่าเมิ่งฮ่าวมีอายุน้อยเกินไป
เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้วอย่างเย็นชา หยุดลง ตลอดช่วงเวลาที่อยู่กับลี่เทา เขาได้คุ้นเคยวิธี่การจัดการกับศิษย์สายในของลี่เทา ตำแหน่งของอาจารย์ปรุงยาโดยเนื้อแท้แล้ว ต้องเป็นที่เคารพของศิษย์สายในทั่วไป แต่ก็อาจจะต้องใช้พยายามส่วนตัวเพื่อให้ได้รับความเคารพ ถ้าตั้งเกณฑ์ไว้ต่ำไป คนอื่นๆ ก็อาจจะคิดว่า เป็นอาจารย์ปรุงยาที่ไม่ค่อยมีทักษะมากนัก
ดังนั้น เขาจึงยืนอยู่ที่นั่น จากนั้นก็โบกสะบัดแขนเสื้อ แค่นเสียงเย็นชาออกมา
“ไป๋หยุนหลาย” เขาพูดเสียงราบเรียบ “นับจากนี้ไป ไม่จำเป็นต้องเรียกข้าออกมาปรุงยากับเรื่องเช่นนี้อีก” โดยไม่มองไปยังติงหย่ง เขาหมุนตัว และเริ่มเดินออกไป
ไป๋หยุนหลายมักจะทำงานร่วมกับอาจารย์ปรุงยา และมันก็คุ้นเคยกับเมิ่งฮ่าวมากด้วยเช่นกัน ทำไมมันถึงไม่เข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น? ด้วยความรู้สึกยินดีอยู่ลึกๆ มันแสร้งทำเป็นมีสีหน้าหวาดกลัว จากนั้นก็จ้องไปยังเป้าหมายของเมิ่งฮ่าวด้วยกลยุทธ์เล็กๆ น้อยๆ มีท่าทางตำหนิติงหย่ง ซึ่งยืนอ้าปากค้างอยู่ที่นั่น
“มันเป็นอาจารย์ปรุงยา ของแผนกเม็ดยาบูรพา ไม่สำคัญว่ามันอายุยังน้อย มันครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในการสอบคัดเลือกเลื่อนขั้นครั้งล่าสุดนี้! คิดดูให้ดี! จากเด็กฝึกปรุงยาหนึ่งแสนคน, มีเพียงคนเดียวได้รับเลือก ท่าน…อ้าย, ท่านไม่รู้เลยว่าข้าต้องใช้เวลานานแค่ไหน กว่าจะร้องขอให้ฟางตานชือยอมมาที่นี่ได้ แล้วดูที่ท่านทำ…” ส่ายศีรษะ มันหันหลังไล่ตามเมิ่งฮ่าวไป
ติงหย่งหัวเราะด้วยความขมขื่น ถอนหายใจออกมา มันไม่เหมือนกับเชียนสุ่ยเหิน และหลู่ซ่ง ซึ่งเคยออกจากสำนักไปหาประสบการณ์มาก่อน แต่ทำไมมันถึงไม่รู้วิธีการเช่นนี้ของเมิ่งฮ่าว? เมื่อมันคิดถึงคำพูดของไป๋หยุนหลาย มันก็ตระหนักดีว่า ทักษะการปรุงยาของฟางมู่ต้องยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง หลังจากครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ รอยยิ้มก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้า และมันก็เดินออกไปหลายก้าว
“ชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ของฟางตานชือ ได้ดังก้องราวฟ้าร้องอยู่เต็มสองหูข้ามานานแล้ว” มันกล่าว “เมื่อครู่นี้ ข้าไม่นึกว่าฟางตานชือจะอายุเยาว์เช่นนั้น ทำให้ข้าตกใจจนพลั้งปากออกไป ฟางตานชือ ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย”
เมิ่งฮ่าวหยุดลงอีกครั้ง จากนั้นก็หมุนตัวมา มองไปยังติงหย่งด้วยสายตาเย็นชา “ท่านต้องการเม็ดยาอะไร?”
ดวงตาติงหย่งสาดประกาย เมื่อเห็นเมิ่งฮ่าวพูดด้วยลักษณะท่าทางดังกล่าว ก็ทำให้มันเชื่อว่าเขาต้องเป็นบุคคลที่ควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้ มันรีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว “เม็ดยาทำลายอุปสรรค!”
สีหน้าเมิ่งฮ่าวสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อยนิด เมื่อได้เห็นเช่นนั้น ติงหย่งก็สรุปได้ว่า เขาเป็นคนที่ชาญฉลาดและแปลกประหลาด อันที่จริง เมิ่งฮ่าวกำลังเมามันอยู่กับการค้นหาความทรงจำของเขาอยู่ในตอนนี้ แต่โชคร้าย ที่เขาไม่มีข้อมูลที่เกียวกับเม็ดยาทำลายอุปสรรคอยู่เลย
“มีสูตรยาอย่างน้อยสิบเจ็ดสูตรสำหรับเม็ดยาชนิดนี้” เขากล่าวเสียงราบเรียบ “ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีต้นสมุนไพรนับร้อยชนิดที่จะนำมาใช้ปรุงยาชนิดนี้ได้ ตามด้วยการเปลี่ยนแปลงที่ซับซ้อนอีกหลายอย่างที่มากถึง สามร้อยเก้าสิบเจ็ดชนิด ขั้นตอนการกลั่นสกัดต้องใช้การปรับเปลี่ยนอันละเอียดอ่อน ซึ่งต้องเพิ่มตัวแปรอีกเจ็ดในสิบส่วน ท่านต้องการให้ปรุงเม็ดยาแบบไหน?” อันที่จริง คำพูดของเขาเป็นคำหลอกลวงทั้งสิ้น ไป๋หยุนหลายที่ยืนอยู่ด้านข้างอ้าปากค้าง จริงๆ แล้ว มันก็สงสัยด้วยเช่นกันว่า เม็ดยาทะลายอุปสรรคคืออะไร เมื่อได้ยินคำพูดของเมิ่งฮ่าว ก็ทำให้มันจ้องไปที่เขาด้วยความยอมรับนับถือ
จากคำพูดที่ดูเหมือนจะออกมาจากความเข้าใจอย่างสูงสุดของเมิ่งฮ่าว ทำให้มันมันมองดูเขาเช่นนั้น อย่างน้อยนั่นก็เป็นความรู้สึกที่มันมีให้เขาในตอนนี้
ดูเหมือนว่า แม้แต่ไป๋หยุนหลายก็ยังติดอยู่ในกับดักนี้ เป็นธรรมดาที่ติงหย่งจะจ้องมาด้วยความตกตะลึงอยู่สักพัก ก่อนที่แสงอันเจิดจ้าจะปรากฎอยู่ในดวงตา คำพูดของเขาทำให้มันรู้สึกว่า ฟางมู่เป็นผู้ที่มีความลึกลับสุดหยั่งคาด มันสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ จากนั้นก็ประสานมือ และโค้งตัวลง มันพูดอย่างระมัดระวังตัว “ฟางตานชือ ด้วยความสัตย์จริง ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นชนิดไหน ข้ามีสูตรยาเพียงแค่สูตรเดียว บางที…ท่านอาจจะลองอ่านดูก่อน?” มันรีบหยิบเอาแผ่นหยกออกมาจากถุงสมบัติยื่นส่งให้เมิ่งฮ่าวอย่างรวดเร็ว
ถ้าติงหย่งไม่ได้อยู่ภายในสำนัก มันก็อาจจะไม่ถูกหลอกลวงได้ง่ายดายเช่นนี้ แต่พวกมันต่างก็อยู่ในสำนักจื่อยิ่น และเมิ่งฮ่าวก็เป็นศิษย์ของสำนักด้วยเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น มันรู้ว่าเมิ่งฮ่าวเป็นอาจารย์ปรุงยา ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่มีเปรียบกว่ามัน ดังนั้น คำพูดของเมิ่งฮ่าวจึงมีผลตามที่ต้องการอย่างแท้จริง
เมิ่งฮ่าวรับแผ่นหยกมาด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก จากนั้นก็ใช้จิตสัมผัสอ่านข้อมูล ใบหน้าเขาเรียบเฉยเหมือนทุกครั้ง แต่ภายในจิตใจ เขากำลังตกตะลึงอยู่
“นี่เป็นสูตรเม็ดยาจริงๆ แต่เม็ดยาทำลายอุปสรรค แต่ละคนก็กินได้แค่สองครั้งเท่านั้น ถ้าใครกินเป็นครั้งที่สาม ก็จะต้องตายในทันที!”
“ด้วยปฏิกิริยาของสมุนไพรหลายชนิด รวมถึงพืชพิษอีกหลายอย่าง ทำให้เกิดเป็นส่วนผสมที่ไปกระตุ้นเส้นลมปราณ และทำให้พื้นฐานฝึกตนมีความสามารถทีจะ พุ่งทะลวงผ่านจุดตีบตันได้!” เมิ่งฮ่าวเงียบไปสักพักขณะที่ครุ่นคิด
ด้านข้างเขา, ติงหย่งมองมาอย่างกังวล มันเคยกินเม็ดยาทำลายอุปสรรคไปแล้วหนึ่งครั้งก่อนหน้านี้ แต่โชคร้าย ทุกครั้งที่ถึงจุดวิกฤต มันก็ไม่อาจจะทะลวงผ่านไปได้ ตอนนี้มันเหลือเพียงโอกาสเดียว สิ่งเลวร้ายทั้งหมดนี้ ก็เนื่องจากเมื่อหลายปีที่ผ่านมา มันได้ไปมีเรื่องกับเจ้าแห่งเตาและอาจารย์ปรุงยาทั้งหมด ถึงแม้จะมีหนึ่งในนั้นยินดีช่วยมันปรุงยา แต่มันก็รู้สึกไม่สบายใจกับผลลัพธ์นี้ มันยังคงลังเล สำหรับฟางมู่ นี่เป็นแค่การปรุงยาอย่างง่ายๆ แต่สำหรับมัน ก็หมายถึงโอกาสสุดท้าย
ถ้ามันทำได้สำเร็จ มันก็จะผ่านเข้าไปยังขั้นสุดท้ายพื้นฐานลมปราณ ดังนั้น มันต้องทำด้วยความรอบคอบอย่างช่วยไม่ได้
อันที่จริง แม้หลังจากเลือกฟางมู่แล้ว มันก็ยังคงไม่ได้ตัดสินใจโดยสิ้นเชิง มันยังต้องการดูสถานการณ์ไปก่อน แล้วค่อยตัดสินใจอีกที มันต้องการหาอาจารย์ปรุงยาที่เชื่อถือได้ เพื่อปรุงเม็ดยาที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งนี้ ติงหย่งไม่ใช่ศิษย์สายนอก มันรู้ดีว่าความเข้มข้นของตัวยาในเม็ดยาใดๆ นั้น ขึ้นกับว่าใครเป็นคนปรุงมันขึ้นมา อาจารย์ปรุงยาบางคนปรุงเม็ดยาด้วยความเข้มข้นสูง บางคนก็ต่ำ เท่าที่ติงหย่งกังวล ความเข้มข้นของเม็ดยาทำลายอุปสรรค เป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง
เม็ดยาที่มันกลืนลงไปก่อนหน้านี้ มีความเข้มข้นธรรมดา ถ้าไม่ใช่เช่นนั้น มันก็คงไม่ได้อยู่ที่นี่ในวันนี้ มันถอนหายใจออกมา
เวลาผ่านไปนาน ก่อนที่เมิ่งฮ่าวจะเลิกอ่านแผ่นหยก เขาพึมพำกับตัวเองสักพัก ก่อนที่จะเดินไปหาติงหย่ง
“ยกมือขึ้น”
ติงหย่งอ้าปากค้างชั่วครู่ ดวงตาหดเล็กลง แต่มันก็ไม่ปฏิเสธ มันยกมือขึ้น เมิ่งฮ่าวจับไปที่ข้อมือของมัน และเริ่มส่งพลังลมปราณเข้าไปในตัวมันเล็กน้อย
“อย่าต่อต้าน” เขากล่าวเสียงราบเรียบ กระจายพลังของขั้นรวบรวมลมปราณเข้าไปในร่างติงหย่ง ซึ่งดูท่าทางลังเล ขณะที่มันจ้องมายังเมิ่งฮ่าว แต่มันก็ยอมให้พลังลมปราณของเขาโคจรหมุนวนไปทั่วร่างของมัน
เมิ่งฮ่าวเริ่มแน่ใจถึงระดับความเข้มข้นของเม็ดยาที่ติงหย่ง จำเป็นต้องใช้ทะลวงผ่านจุดตีบตันอย่างรวดเร็ว เขายังรับรู้ถึงพลังของตัวยาอื่นๆ ที่ซับซ้อนอยู่ภายในร่างของติงหย่งด้วยเช่นกัน พลังของตัวยาเหล่านั้น ดูเหมือนจะประกอบไปด้วยเศษส่วนลมปราณของพืชสมุนไพร จากเม็ดยาทำลายอุปสรรคที่มันกลืนลงไปในครั้งแรก
“ท่านได้กินเม็ดยาทำลายอุปสรรคลงไปแล้วหนึ่งเม็ด” เมิ่งฮ่าวกล่าว ดึงพลังลมปราณกลับคืนมา
เมื่อได้ยินคำพูดเมิ่งฮ่าว ก็ทำให้ติงหย่งต้องสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ดวงตาของมันส่องประกายเจิดจ้า ขณะที่มองมายังเมิ่งฮ่าว มันไม่เคยบอกใครเลยว่า มันได้กลืนเม็ดยาทำลายอุปสรรคลงไปก่อนหน้านี้
“ข้าจะช่วยท่านปรุงเม็ดยานี้” เมิ่งฮ่าวพูดเสียงเคร่งขรึม “จัดเตรียมชุดสมุนไพรหกชุด เพื่อใช้ปรุงเม็ดยาทำลายอุปสรรค นอกจากนั้น ข้าต้องการหินลมปราณสามหมื่นก้อน”
“ข้าเพิ่งจะพบว่ามีอาจารย์ปรุงยาน้อยมากที่สามารถปรุงเม็ดยานี้ได้…” ติงหย่งกล่าวขึ้นช้าๆ “แต่ส่วนใหญ่พวกมันก็ขอส่วนผสมเพียงแค่สามชุด และหมื่นหินลมปราณ”
“ข้ารับประกันว่าเม็ดยาของข้า จะช่วยให้ท่านทะลวงผ่านได้” เมิ่งฮ่าวกล่าวตอบเสียงราบเรียบ น้ำเสียงเขาเคร่งขรึม แต่ก็มีพลัง
“ท่านมั่นใจ?!” ติงหย่งหอบหายใจ ดวงตาสาดประกายเจิดจ้า มันได้ข้อสรุปนานแล้วว่า ฟางมู่ตานชือผู้นี้ แตกต่างกับอาจารย์ปรุงยาคนอื่นๆ อย่างมากมาย
“ถ้าท่านไม่เชื่อถือข้า, ก็ไม่เป็นไร” เมิ่งฮ่าวกล่าว หมุนตัวจากไป
จิตใจติงหย่งบิดไปมา ใช้เวลาชั่วครู่ก่อนที่ความมุ่งมั่นจะปรากฎขึ้นบนใบหน้าของมัน เมื่อได้เห็นความแตกต่างของฟางมู่จากคนอื่นๆ และการที่เขาสามารถพบว่า มันได้กินเม็ดยาทำลายอุปสรรคมาก่อนหน้านี้ ทำให้มันตัดสินใจ โดยไม่มีการลังเลใดๆ อีก มันหยิบถุงสมบัติออกมา และรีบใส่ต้นสมุนไพรที่ต้องการ และหินลมปราณเข้าไปอย่างรวดเร็ว ยื่นส่งให้เมิ่งฮ่าว
“ในสองสัปดาห์ ช่วงพลบค่ำ ท่านมารับเม็ดยาได้” เมิ่งฮ่าวกล่าว ด้วยการโบกสะบัดแขนเสื้อ เขาจากไปพร้อมกับไป๋หยุนหลาย ชุดยาวสีดำของเขากระพือไปในสายลม กลิ่นอายนักศึกษา และกลิ่นหอมจางๆ ของสมุนไพรกระจายออกมา ทำให้เขาดูเหมือนเป็นคนที่อยู่ในโลกอื่น

About wuxiathai

Organic Theme is officially developed by Templatezy Team. We published High quality Blogger Templates with Awesome Design for blogspot lovers.The very first Blogger Templates Company where you will find Responsive Design Templates.

Copyright © 2015 ผนึกสวรรค์ สยบมาร สะท้านเทพ

Designed by Templatezy | Distributed By Gooyaabi Templates