วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2560

ตอนที่ 178 : สหายเก่า

Posted By: wuxiathai - 22:30
ทันทีที่มันเข้าไปในหน้ากาก ผีโต้งก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ
“น-น-นั่นคือ…ธวัชโลกันต์เก้างานศพ!! มันมีสามแฉกแล้ว! ชั่วร้าย! ชั่วร้ายนัก!” ด้วยท่าทางเข้มงวด ผีโต้งเข้าไปใกล้ปรมาจารย์ตระกูลหลี่ที่อ้าปากค้างอยู่ “เฒ่าชรา กลายเป็นว่าเจ้าเป็นสิ่งชั่วร้ายที่กลับชาติมาเกิด! ในนามของความยุติธรรม ข้าจะเปลี่ยนแปลงเจ้า! เจ้าไม่อาจเป็นเช่นนี้ มันไร้ศีลธรรม เจ้าต้องพบจุดจบที่ไม่ดีอย่างแน่นอน ถ้ายังอยู่ในเส้นทางนี้…”
เมิ่งฮ่าวกระแอมไอออกมาเบาๆ จากนั้นก็เก็บหน้ากากไว้ เขาถอนหายใจยาวออกมา และดวงตาก็สาดประกายแหลมคมออกมา
“ธวัชโลกันต์เก้างานศพ?” จมอยู่ในภวังค์ความคิด เมิ่งฮ่าวกำลังจะบินออกไปจากป่าที่เขาหยุดอยู่นั้น เขาได้ซ่อนพลังฝึกตนเอาไว้ และดวงตาก็หรี่เล็กลง
พลังฝึกตนของเขาอยู่ในขั้นกลางของพื้นฐานลมปราณ ซึ่งก็หมายความว่า เขาสามารถต่อสู้กับเต้าจื่อได้ แต่เขาก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องทำเช่นนั้น พื้นที่แถบนี้เป็นเขตชายแดนของสำนักเซี่ยเยา และสำนักกูตู๋เจี้ยน เขาต้องระมัดระวังตัวให้มาก และต้องไม่ทำอะไรที่เกินตัว เขาเตือนตัวเองไม่ให้ลืมเรื่องเหล่านี้
หลังจากหายใจเข้าออกผ่านไปสิบครั้ง ลำแสงหลากสีมากมาย ก็ปรากฎขึ้นที่ท้องฟ้าด้านบน ผู้ฝึกตนสิบคนปรากฎขึ้น แต่ละคนยืนอยู่บนกระบี่บิน พวกมันใส่ชุดเหมือนกันทั้งหมด และดูท่าทางสง่างามน่าประทับใจ การเดินทางของพวกมันส่งเสียงกระหึ่มไปทั่วท้องฟ้า
ในบุคคลทั้งสิบนั้น สามคนที่อยู่ด้านหน้าดูเด่นเป็นสง่ามากที่สุด พวกมันสวมใส่ชุดยาวสีขาวดำที่เชื่อมต่อกัน ฝักกระบี่แขวนอยู่ด้านหลัง และรังสีกระบี่ที่อยู่ใต้เท้าก็ส่องแสงเจิดจ้า ดูเหมือนจะสามารถกรีดเฉือนสิ่งใดๆ ได้อย่างง่ายดาย
หนึ่งในสามเป็นบุรุษท่าทางสง่างาม อายุประมาณสี่สิบปี มันอยู่ในขั้นสุดท้ายของพื้นฐานลมปราณ ขณะที่มันบิน เส้นผมสีดำของมันก็พริ้วไปรอบๆ สลับกับเส้นผมสีขาวของมันเป็นครั้งคราว
ด้านหลังมันเป็นบุรุษหนุ่มอายุประมาณสามสิบปี มีริมฝีปากที่บางเฉียบ และท่าทางเกรี้ยวกราด มีดวงตาที่เฉียงขึ้นเหมือนนัยน์ตาหงส์ ซึ่งส่องประกายความเย็นชาออกมา มันมีรูปร้างหน้าตาที่น่าดูเป็นอย่างยิ่ง แต่ดูเหมือนจะเป็นคนเลือดเย็น กระบี่ที่อยู่ใต้เทาของมันกระจายแรงกดดันอันเยือกเย็นออกมา มันอยู่ในขั้นกลางของพื้นฐานลมปราณ และดูเหมือนภาพวาดของพลังอันสง่างาม
บุคคลสุดท้ายมีอายุประมาณยี่สิบเจ็ดถึงยี่สิบแปดปี ดูท่าทางธรรมดา แต่มันส่องประกายอันถูกต้องเที่ยงธรรมออกมา อยู่แค่ขั้นต้นของพื้นฐานลมปราณ แต่ดวงตาของมันส่องประกายเจิดจ้า ดูเหมือนมันจะเต็มไปด้วยรังสีแห่งความแข็งแกร่ง
เมื่อเมิ่งฮ่าวมองเห็นมัน จิตใจของเขาก็ท่วมท้นไปด้วยความทรงจำ บุรุษที่เต็มไปด้วยความเที่ยงธรรมผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก…ศิษย์พี่ของเมิ่งฮ่าวจากสำนักเอกะเทวะ ผู้ซึ่งถูกนำไปโดยสำนักกูตู๋เจี้ยน
หลายปีผ่านไป ที่นี่ ในตอนนี้ เบื้องหน้าเขา คือ เฉินฟ่าน เขาคิดย้อนกลับไปถึงวันที่พวกเขาได้ถูกแยกจากกัน และมันก็เหมือนกับจะนาน, นานมากมาแล้ว ไม่มีสำนักเอกะเทวะอีกแล้ว และแคว้นจ้าวก็หายไป เมิ่งฮ่าวอยากรู้นักว่า เฉินฟ่านจะยังคงเป็นคนเดิมเหมือนก่อนหน้านี้หรือไม่
เขานิ่งเงียบขณะที่สังเกตไปยังกลุ่มคนพวกนั้น พวกมันทั้งหมดเป็นศิษย์ของสำนักอันดับหนึ่งในดินแดนด้านใต้ สำนักกูตู๋เจี้ยน ไม่มีสิ่งใดบ่งชี้ว่าสำนักกูตู๋เจี้ยนจะมาปรากฎอยู่ที่นี่ ยิ่งไปกว่านั้น พื้นที่นี้ก็เป็นอาณาเขตการต่อสู้ระหว่างสำนักเซี่ยเยา และสำนักกูตู๋เจี้ยน
เมิ่งฮ่าวรู้ดีถึงเรื่องความขัดแย้งระหว่างสองสำนักใหญ่นี้ รวมถึงการต่อสู้เล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวนั้น
ขณะที่บุคคลกลุ่มนั้นกำลังจะหายลับตาไป สีหน้าของเมิ่งฮ่าวก็เปลี่ยนไป และเขาก็มองกลับไปในท้องฟ้าด้านหลัง
ในไม่ช้า, เขาก็มองเห็นลำแสงสิบลำสีแดงเลือด ส่งเสียงแหลมเล็กแหวกฝ่าอากาศมา พวกมันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุด ส่งผลให้เกิดลมกรรโชกป่าไม้ในภูเขาด้านล่าง ด้านบนของกลุ่มคนทั้งสิบเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่เกือบสิบตัว บินไปพร้อมกับพวกมัน
ผู้ฝึกตนทั้งสิบนี้มีใบหน้าดุร้ายเต็มไปด้วยความตาย รังสีสังหารหมุนวนไปรอบๆ พวกมัน และสัตว์อสูรที่อยู่ด้านบนของพวกมัน ซึ่งดูเหมือนจะถูกให้อาหารอยู่ ก็แผดเสียงคำรามและกู่ร้องออกมา
คนกลุ่มนี้ แน่นอนว่า เป็นศิษย์ของสำนักเซี่ยเยา พวกมันเร่งความเร็วขึ้น ขณะที่พุ่งผ่านเมิ่งฮ่าวไป เมื่อดูจากทิศทางที่พวกมันมุ่งหน้าไป ก็ดูเหมือนว่าพวกมันกำลังไล่ตามผู้ฝึกตนจากสำนักกูตู๋เจี้ยน
ขณะที่พวกมันหายลับตาไปในเส้นขอบฟ้า เมิ่งฮ่าวก็โผล่ออกมาจากราวป่า พึมพำกับตัวเอง มองไปยังทิศทางที่ผู้ฝึกตนทั้งสองสำนักหายลับไป แทนที่จะบินตามพวกมันไป เขากลับวิ่งเข้าไปในป่าเพื่อติดตามไป
เมิ่งฮ่าววิ่งผ่านต้นไม้มากมาย ชั่วระยะธูปไหม้หมดไปสองดอก จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงระเบิดดังออกมา เขาเพิ่มความเร็วขึ้น และไม่นาน ก็มองเห็นผู้ฝึกตนของสำนักกูตู๋เจี้ยน และสำนักเซี่ยเยากำลังต่อสู้กันด้วยวิชาเวทอย่างดุร้ายรุนแรง เสียงระเบิดดังออกมา และระลอกคลื่นของเวทอาคมก็กระจายออกไปทั่วพื้นที่บริเวณนั้น
สำหรับคนของสำนักกูตู๋เจี้ยน กระบี่เป็นอาวุทแห่งความตาย มันมีความคมกล้าเป็นอย่างมาก สำหรับคนของสำนักเซี่ยเยา เวทอาคมของพวกมันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา น่าประหลาดใจ ที่มันไม่ได้ปกคลุมไปด้วยสีของโลหิต แต่พวกมันใช้วิชาเวทอย่างต่อเนื่องไม่รู้จบ สัตว์ปีศาจที่พวกมันควบคุมอยู่ก็มีความแข็งแกร่งไม่ธรรมดา มีเพียงสามตัว แต่พวกมันก็พุ่งเข้าไปปะทะด้วยความรุนแรง ทำให้คนของสำนักกูตู๋เจี้ยนไม่อาจเข้าใกล้ได้
คนทั้งสองกลุ่มไม่มีผู้เชี่ยวชาญสร้างแกนลมปราณ ที่แข็งแกร่งมากที่สุดท่ามกลางพวกมันก็คือ ขั้นสร้างแกนลมปราณเทียม ที่เหลือต่างก็อยู่ในขั้นพื้นฐานลมปราณ พวกมันต่อสู้กันไปมาอย่างดุเดือด ประกายโลหิตปกคลุมไปทั่ว เมิ่งฮ่าวมองไปขณะที่บางคนในกลุ่มของพวกมันได้ตายไป ในตอนนี้ ดูเหมือนสำนักเซี่ยเยากำลังเป็นฝ่ายเหนือกว่า ทันใดนั้น, ดวงตาของผู้ฝึกตนขั้นสร้างแกนลมปราณเทียม จากสำนักกูตู๋เจี้ยนสาดประกายด้วยแสงเย็นเยียบออกมา
“เวทกระบี่เดียวดาย!” มันตะโกนขึ้น ศิษย์สำนักกูตู๋เจี้ยน รวมทั้งเฉินฟ่าน บินตรงไปที่มัน กระบี่ของพวกมันเปล่งแสงอย่างน่าตกใจออกมา เพียงชั่วพริบตา กระบี่ทั้งหมดก็รวมเข้าด้วยกัน ก่อตัวเป็นกระบี่ขนาดใหญ่มหึมา ยาวถึงหนึ่งร้อยจ้าง กระบี่เล่มนั้นพุ่งตรงไปยังสัตว์ปีศาจทั้งสามตัวนั้น
เสียงระเบิดดังออกมาทั่วทุกทิศทาง สัตว์ปีศาจสั่นสะท้านและแผดเสียงร้องออกมา จากนั้นก็แตกกระจายออกไปทีละตัวจนไม่เหลืออันใด กระบี่ขนาดใหญ่มหึมาเล่มนั้น ก็กลายเป็นลำแสงกระบี่นับร้อย พุ่งตรงไปยังศิษย์สำนักเซี่ยเยาที่เหลืออยู่ รวมถึง…ตรงมาที่พื้นดิน ซึ่งเมิ่งฮ่าวยืนอยู่
เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้ว และจากนั้นก็กระโจนขึ้นไปในอากาศ เขาโบกสะบัดมือขวา ทำให้เกิดเป็นลมพายุกรรโชกขึ้น ลำแสงกระบี่ที่ใกล้เข้ามา ก็ถูกทำลายกลายเป็นชิ้นๆ ในทันที
การปรากฎตัวของเมิ่งฮ่าว และการทำลายลำแสงกระบี่อย่างรวดเร็วของเขา ทำให้ตกเป็นจุดสนใจของผู้ฝึกตนสำนักกูตู๋เจี้ยนที่อยู่บริเวณนั้นในทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับบุรุษหนุ่มที่ดูท่าทางเกรี้ยวกราด ซึ่งอยู่ในขั้นกลางของพื้นฐานลมปราณ ดวงตาของมันเปล่งแสงเย็นเยียบราวน้ำแข็งออกมา ลำแสงกระบี่ที่พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าวเมื่อครู่นี้ อยู่ภายใต้การควบคุมของมันเอง
“สำนักเซี่ยเยานี้ มีแต่พวกชั่วร้าย” บุรุษหนุ่มพูดเสียงราบเรียบ “ศิษย์น้องทั้งหลาย, ฟังคำสั่งข้า สังหารมัน!” ดูเหมือนมันไม่ยอมแม้แต่จะตรวจสอบตัวตนของเมิ่งฮ่าว การปรากฎตัวขึ้นที่นี่ของเขา ก็เพียงพอที่จะทำให้บุรุษหนุ่มผู้นั้นพิพากษาเขาได้แล้ว
ทันทีที่คำพูดดังออกมาจากปากของมัน ผู้ฝึกตนอายุสี่สิบปีขั้นสุดท้ายพื้นฐานลมปราณก็ขมวดคิ้ว แต่มันก็ไม่ได้ก้าวก่าย ดวงตาของผู้ฝึกตนที่อยู่รายรอบสาดประกายความเย็นชาออกมา ขณะที่พวกมันพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว
ในตอนนี้เอง ที่เฉินฟ่านมองเห็นเมิ่งฮ่าว หลังจากผ่านไปแวบเดียว ดวงตาของมันก็เต็มไปด้วยความยินดี
“หยุด!” มันร้องออกมา, พุ่งตรงไปด้วยความเร็วทั้งหมดของขั้นต้นพื้นฐานลมปราณ มันผ่านทุกคนไป บินตรงมายังเมิ่งฮ่าว “นี่คือศิษย์น้องของข้า!” มันร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น “ทุกคนหยุด!”
สีหน้าของมันเต็มไปด้วยความสุขอย่างเต็มเปี่ยม จนเกือบจะเหมือนความมึนงง ขณะที่จ้องไปยังเมิ่งฮ่าว และรำลึกถึงความหลัง
เมิ่งฮ่าวมองไปยังเฉินฟ่าน และยิ้มออกมา สีหน้าของเฉินฟ่าน และคำพูดของมันเต็มไปด้วยความจริงใจ และตอนนี้ เมิ่งฮ่าวก็แน่ใจว่า…มันไม่ได้เปลี่ยนไป มันยังคงเป็นคนเดิม เหมือนที่เคยเป็นเมื่อเจ็ดหรือแปดปีที่แล้ว
เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และจากนั้นก็กล่าวว่า “ขอคารวะ, ศิษย์พี่” เขาประสานมือ และโค้งตัวลงต่ำ
เฉินฟ่านหัวเราะ มันดูแตกต่างจากเจ็ดแปดปีก่อนเล็กน้อย แต่บุคลิกของมันยังคงเหมือนเดิม มันก้าวเท้าตรงมา และโอบกอดเมิ่งฮ่าว
“ศิษย์น้องเฉิน” บุรุษหนุ่มท่าทางเกรี้ยดกราดกล่าว พร้อมรอยยิ้มที่เสแสร้ง “ทำไมข้าถึงไม่เคยเห็นศิษย์น้องของเจ้าผู้นี้มาก่อน? ข้าไม่ยักรู้ว่าสำนักกูตู๋เจี้ยนจะมีศิษย์เช่นนี้” คำพูดของมันเต็มไปด้วยข้อกล่าวหาอันน่ากลัว
เฉินฟ่านขมวดคิ้ว ยืนปกป้องอยู่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว “ศิษย์พี่โจว มันไม่ใช่ศิษย์สำนักกูตู๋เจี้ยน มันเป็นศิษย์น้องของข้า เมื่อข้ายังอยู่ในสำนักเอกะเทวะ”
เมิ่งฮ่าวไม่พูดจา และสีหน้าก็สงบนิ่งเช่นเคย เขาต้องการเห็นเฉินฟ่านจะจัดการสถานการณ์นี่อย่างไร
“งั้นมันก็เป็นศิษย์จากสำนักเล็กๆ” โจวกล่าว น้ำเสียงของมันฟังดูเนิบนาบและน่ากลัว “มันดูไม่สมเหตุสมผล มันมาอยู่ที่นี่เพื่อสอดแนมพวกเรา มันต้องรับผิดชอบ!”
ศิษย์สำนักกูตู๋เจี้ยนที่อยู่รอบๆ มองหน้ากันไปมา จากนั้นก็เคลื่อนที่ไปด้านหลังอย่างเงียบๆ ดูเหมือนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่พวกมันได้เห็นความขัดแย้งระหว่างโจว และเฉินฟ่าน
ผู้ฝึกตนวัยกลางคนขั้นสร้างแกนลมปราณเทียม ถอนหายใจออกมา, มองไปยังคนทั้งสองด้วยสีหน้ารำคาญใจ และจากนั้นก็จ้องลงไปยังเมิ่งฮ่าว
“รับผิดชอบ?” เฉินฟ่านพูดเสียงราบเรียบ ดวงตาเย็นชาขณะที่ยืนอยู่ตรงเบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว “โจวซานเยี่ย ข้าอยากรู้นักว่า เจ้าจะให้ศิษย์น้องข้ารับผิดชอบอย่างไร? ข้าอยู่ที่นี่ ใครบังอาจสร้างปัญหาให้มัน!?” เฉินฟ่านตบไปที่ถุงสมบัติ และมีดสีดำเล่มเล็กก็ปรากฎขึ้น มีขนาดเท่าฝ่ามือ บินไปรอบๆ ศีรษะของมัน
สีหน้าเมิ่งฮ่าวเปลี่ยนไปด้วยความตกใจ ทันทีที่เขาเห็นมีดเล่มนั้นปรากฎขึ้น เช่นเดียวกับใบหน้าของผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น บุรุษวัยกลางคนขั้นสร้างแกนลมปราณเทียมอ้าปากค้าง
ใบหน้าของโจวซานเยี่ย ทันใดนั้น ก็เริ่มมีสีหน้าน่าเกลียดขึ้นเป็นอย่างมาก ความอิจฉาเต็มอยู่ในดวงตาของมัน ขณะที่จ้องไปยังเฉินฟ่าน แต่ในจิตใจของมันก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ใบมีดเล่มนั้น กระจายพลังแปลกๆ ของขั้นสร้างแกนลมปราณออกมา!
“โจวซานเยี่ย, ข้ากำลังรอคำตอบของท่านอยู่” เฉินฟ่านพูดเสียงราบเรียบ

About wuxiathai

Organic Theme is officially developed by Templatezy Team. We published High quality Blogger Templates with Awesome Design for blogspot lovers.The very first Blogger Templates Company where you will find Responsive Design Templates.

Copyright © 2015 ผนึกสวรรค์ สยบมาร สะท้านเทพ

Designed by Templatezy | Distributed By Gooyaabi Templates