“ถ้ากินเม็ดยาชนิดใดชนิดหนึ่งบ่อยมากเกินไป มันก็จะมีประสิทธิภาพลดน้อยลงไปเรื่อยๆ นี่เป็นผลจากปัญหาของต้นสมุนไพรที่อยู่ในเม็ดยา ดังนั้น เม็ดยาที่มีความเข้มข้นของตัวยาห้าในสิบส่วนเช่นนี้ คุณค่าที่แท้จริงของมันยากที่จะจินตนาการได้!” ตอนนี้มันได้ยืนยันข้อสงสัยเกี่ยวกับฟางมู่ด้วยตัวเองเรียบร้อยแล้ว มันจึงตัดสินใจอย่างรวดเร็วว่า จำเป็นต้องคบหาเขาเป็นสหายให้ได้
“สรุปล่วงหน้าได้เลยว่า มันต้องทะยานขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุด ในตอนนี้ ชื่อเสียงของมันเพิ่งจะเป็นที่รู้จัก และยังมีอีกหลายคนที่กำลังลังเล ถ้าได้ช่วยเหลือมันในตอนนี้ ก็จะเป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีในอนาคตอย่างแน่นอน!” ความคิดของซูจงหลุน เป็นเช่นเดียวกับของติงหย่ง ที่แตกต่างกันก็คือ ซูจงหลุนเข้าใจในความสามารถที่เกี่ยวกับพืชสมุนไพรของฟางมู่ดีกว่ามาก รวมถึงทักษะในการปรุงยา และคุณค่าที่กล่าวมา
ความปั่นป่วนใหม่พุ่งขึ้นมาท่ามกลางกลุ่มศิษย์สายในของแผนกลมปราณม่วง นี่เป็นเพราะซูจงหลุน ถึงแม้มันไม่ได้ทะลวงผ่านจุดตีบตัน แต่มันก็มีความก้าวหน้าในพื้นฐานฝึกตนอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งไปกว่านั้น มันยังได้พูดเกี่ยวกับเม็ดยาของฟางมู่ภายในเขตศิษย์สายในซ้ำแล้วซ้ำเล่า อันที่จริง มันยังได้หยิบเอาเม็ดยาที่เหมือนกันออกมาสองเม็ด เม็ดหนึ่งถูกปรุงโดยฟางมู่ อีกเม็ดปรุงโดยอาจารย์ปรุงยาคนอื่น จากนั้นมันก็นำยาทั้งสองเม็ดมาเปรียบเทียบกันจุดต่อจุด
ตอนแรกเป็นติงหย่ง จากนั้นก็เป็นซูจงหลุน จากคำเสนอแนะของพวกมัน รวมกับคลื่นข่าวที่กระจายออกไปโดยไป๋หยุนหลาย ทำให้เสียงพูดคุยทั้งหมด ภายในเขตสำนักสายใน ในช่วงครึ่งเดือนต่อมา ต่างก็เกี่ยวข้องกับฟางมู่
ในที่สุด ศิษย์สายในก็เริ่มมาหาฟางมู่ให้ช่วยปรุงยามากขึ้นเรื่อยๆ
ตอนแรก มีเพียงศิษย์จากสถานที่แตกต่างกัน พวกมันลังเล และเห็นได้ชัดว่า เพียงแค่ต้องการทดลองดูว่าจริงหรือไม่เท่านั้น พวกมันไปหาไป๋หยุนหลาย เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการให้บริการของฟางมู่
เมิ่งฮ่าวไม่ปฏิเสธคนที่มาขอให้ช่วยปรุงเม็ดยา เมื่อกระถางปรุงยาของเขาระเบิดออกภายใต้ความเครียดเนื่องจากมีการใช้งานอยู่ตลอดเวลา เขาก็จะมีกระถางปรุงยาใบใหม่มาแทนที่ในทันที
ศิษย์สายในสามถึงสีคนกลุ่มแรก ที่มาหาเขาเพื่อให้ช่วยปรุงเม็ดยา ก็กลับมาอีกภายในไม่กี่วันหลังจากนั้น และนำสิ่งที่ซื้อกลับไปยังถ้ำแห่งเซียนของพวกมัน
จางสุ่ยล่าย ซึ่งอยู่ในขั้นต้นพื้นฐานลมปราณ เป็นหนึ่งในพวกมัน มันไม่ใช่คนโดดเด่นท่ามกลางศิษย์สายใน และกำลังมองหาอาจารย์ปรุงยามาก่อนเพื่อให้ช่วยปรุงเม็ดยา หลังจากที่รู้สึกประทับใจในประสบการณ์ที่ได้รับ มันก็ต้องการติดต่อฟางมู่อีกครั้ง แต่โชคร้ายที่มันไม่มีหินลมปราณเพียงพอ และทำได้เพียงรอรับเม็ดยาในช่วงวันแจกจ่ายเม็ดยาของสำนักเท่านั้น
เหตุผลที่มันขอใช้บริการของฟางมู่ ก็เนื่องจากมันรู้ว่าฟางมู่เพิ่งจะเริ่มมีชื่อเสียง ทำให้นี่อาจจะเป็นโอกาสเดียวของมัน ดังนั้นมันจึงตัดสินใจที่จะติดต่อเขา ในขณะที่มันสามารถทำได้
มันนั่งอยู่ในถ้ำแห่งเซียน ถือขวดยาไว้ในมือ ด้านในเป็นเม็ดยาสิบเม็ดที่ใช้กับขั้นต้นพื้นฐานลมปราณ มันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และหยิบยาหนึ่งเม็ดใส่เข้าปาก เกือบจะในทันที ดวงตามันเบิกกว้าง และเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ มันมองลงไปยังเม็ดยาที่เหลือ เพียงแค่มอง ก็ดูเหมือนว่าไม่แตกต่างจากเม็ดยาอื่นๆ ที่มันเคยกินมาเมื่อในอดีต
เวลานานผ่านไป หลังจากดูดซับพลังทั้งหมดของเม็ดยา จางสุ่ยล่ายสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ มันหยิบขวดยาอื่นขึ้นมา ด้านในมียาอยู่สองเม็ดซึ่งใช้กับขั้นต้นพื้นฐานลมปราณ หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียด มันก็กลืนยาทั้งสองเม็ดนั้นลงไป ไม่นานหลังจากนั้น ความไม่อยากจะเชื่อก็เต็มอยู่ในดวงตามันมากขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น? เม็ดยาที่อาจารย์ปรุงยา ปรุงให้ข้าก่อนหน้านี้ไม่นาน เพียงแค่กลายเป็นพลังลมปราณ แต่…แต่…เม็ดยาของฟางมู่มีพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ มันมีพลังลมปราณมากกว่าห้าในสิบส่วนของคนอื่นๆ!” มันอ้าปากค้าง และดวงตาสาดประกาย ถ้าในตอนนี้มันไม่ตระหนักว่ามีอะไรกำลังเกิดขึ้น มันก็คงไม่ได้เป็นศิษย์สายในแล้ว
โดยไม่ลังเลอีกแม้แต่น้อยนิด มันทะยานขึ้น และพุ่งออกไปจากถ้ำแห่งเซียน มุ่งหน้าตรงไปหาฟางมู่ มันต้องรีบฉวยโอกาสในตอนที่คนอื่นกำลังลังเล เพื่อให้เขาช่วยปรุงเม็ดยามากขึ้น
แต่ทันทีที่มันเข้าไปใกล้แผนกเม็ดยาบูรพา ก็พบว่าศิษย์สายในคนอื่นๆ ที่เคยได้รับเม็ดยาจากฟางมู่มาก่อน ทั้งหมดต่างก็มีความคิดเช่นเดียวกัน พวกมันทั้งหมดกลับมา สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น คนทั้งหมดสบสายตากัน จากนั้นก็พุ่งตรงไปที่แผนกเม็ดยาบูรพาเพื่อไปหาไป๋หยุนหลายพร้อมกันโดยไม่พูดจา
ก่อนหน้านี้ พวกมันเพียงแค่สนใจในการทดลองเม็ดยา แต่ตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าแตกต่างไป
พวกมันไม่ได้มีความสามารถในการแยกแยะ และวิเคราะห์เม็ดยาเช่นเดียวกับซูจงหลุน แต่หลังจากที่กินเม็ดยาพวกนั้นลงไป พวกมันก็ตระหนักได้ว่า เม็ดยาของเมิ่งฮ่าวไม่ธรรมดาอย่างแท้จริง สามารถกล่าวได้ว่า ถ้ามีอาจารย์ปรุงยาคนอื่นๆ สามารถปรุงเม็ดยาที่มีความเข้มข้นเต็มสิบส่วน เม็ดยาของเมิ่งฮ่าวก็จะมีความเข้มข้นถึงสิบห้าส่วน อย่างน้อยต้องมีความเข้มข้นมากกว่าห้าในสิบส่วน ซึ่งแน่นอนว่าทำให้ศิษย์สายในเหล่านี้มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง
แต่สิ่งที่พวกมันไม่รู้ก็คือ เม็ดยาของเมิ่งฮ่าว ไม่ได้มีความเข้มข้นของตัวยามากกว่าเพียงแค่ห้าในสิบส่วนเท่านั้น ในโลกของผู้ปรุงยาในดินแดนด้านใต้ทั้งหมด เม็ดยาที่ถูกปรุงขึ้นโดยอาจารย์ปรุงยา ไม่เคยมีความเข้มข้นของตัวยามากเกินไปกว่าสามในสิบส่วนเลย ความเข้มข้นที่เหลือ มักจะหายไปกับขั้นตอนการปรุง สุดท้าย เม็ดยาที่ปรุงขึ้นก็ไม่สมบูรณ์ กล่าวในอีกแง่หนึ่งก็คือ เมิ่งฮ่าวสามารถปรุงยาที่มีความเข้มข้นของตัวยาได้มากถึงห้าในสิบส่วน ทำให้เห็นได้ชัดว่า ใครอยู่เหนือกว่าใครได้ในทันที
ความนิยมในตัวฟางมู่ ท่ามกลางเหล่าศิษย์สายใน ก็ได้ระเบิดขึ้นในทันใดด้วยเหตุนี้
ข่าวที่มีศิษย์สายในกลุ่มแรก กลับไปขอให้ช่วยปรุงเม็ดยาเพิ่มขึ้นก็กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุด ไป๋หยุนหลายก็ไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับฟางมู่อีกต่อไป ข่าวลือถูกส่งต่อกันไประหว่างสหายด้วยกัน ในเขตสำนักสายใน และในไม่ช้า ศิษย์คนอื่นๆ ก็มาเพื่อให้ช่วยปรุงยามากขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานนักก็มีคำพูดกระจายออกไป ทำให้นามของฟางมู่พุ่งขึ้นไปอยู่เหนืออาจารย์ปรุงยาคนอื่นๆ ชื่อเสียงของเขาขจรขจายออกไปเรื่อยๆ
“เจ้ารู้หรือไม่? แผนกเม็ดยาบูรพา มีอาจารย์ปรุงยานามฟางมู่ เม็ดยาที่มันปรุงขึ้นมา มีประสิทธิภาพเป็นสองเท่าของเม็ดยาที่ถูกปรุงขึ้นโดยอาจารย์ปรุงยาคนอื่นๆ!”
“มันจะเป็นไปได้อย่างไร? ถึงข้าไม่ได้ฝึกฝนเต๋าแห่งการปรุงยา แต่ข้าก็เคยติดต่อกับอาจารย์ปรุงยามามากมาย ดังนั้น ข้าก็รู้ตัวดีว่ากำลังพูดถึงเรื่องอันใด ฟางมู่ผู้นี้ไม่ใช่เจ้าแห่งเตา จึงไม่มีทางที่มันจะปรุงยาที่มีประสิทธิภาพได้เช่นนั้น”
“ฮา ฮา ฮา! เจ้าต้องลองดูก่อน แล้วจะรู้เองว่า เจ้าพูดถูกหรือผิด ลองให้ฟางมู่ปรุงเม็ดยาให้เจ้าดู แล้วเจ้าก็จะรู้” เสียงพูดคุยเช่นนี้ ได้ยินไปทั่วในเขตสำนักสายใน ของแผนกลมปราณม่วง
ในที่สุด ผู้คนก็เริ่มไปหาไป๋หยุนหลายไม่เว้นแต่ละวัน
เนื่องจากกฎของแผนกเม็ดยาบูรพา ทำให้บุคคลภายนอกไม่อาจเข้ามาได้ หนทางเดียวที่จะติดต่อกับอาจารย์ปรุงยาก็คือ ใช้แผ่นหยกส่งข่าวสาร แต่เมิ่งฮ่าวก็ไม่มีการติดต่อใดๆ โดยตรงกับใคร มีแต่ต้องติดต่อกับไป๋หยุนหลายเท่านั้น
ศิษย์สายในมาพบกับไป๋หยุนหลายมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด มันก็เริ่มมีงานมากขึ้นจนไม่อาจจะดูแลได้ทั่วถึง เมิ่งฮ่าวก็รู้สึกประหลาดใจกับเหตุการณ์ที่กลับกลายเป็นเช่นนี้ ก่อนหน้านี้ไม่นาน เขาใช้เวลาเกือบทั้งหมดในการปรุงเม็ดยา จนมาถึงจุดที่เขาไม่สามารถทำต่อไปได้ มันเป็นความสุขที่อยู่บนความเจ็บปวด เนื่องจากจำนวนเม็ดยาที่เขาต้องปรุงมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับสูตรปรุงยาจำนวนมากมาย และต้องสร้างที่เก็บต้นสมุนไพร ที่เขาต้องใช้เป็นส่วนผสมซึ่งมีเพิ่มมากขึ้นอยู่ตลอดเวลา
เรื่องเหล่านี้มีมากขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง หลังจากผ่านไปสองเดือน ศิษย์สายในของแผนกลมปราณม่วงต่างก็รู้จักฟางมู่กันทุกคน เขตสำนักสายในเต็มไปด้วยเสียงพูดคุย ใครก็ตามที่พยายามลองกินเม็ดยาของเมิ่งฮ่าว ก็จะรู้สึกประหลาดใจขึ้นในทันที และจะกลับมาหาเขาอีกทุกคน
บางคนก็แลกเปลี่ยนเม็ดยากับคนอื่นๆ บางคนก็เชื่อในข่าวลือ โดยไม่ลังเล พวกมันจะมาติดต่อไป๋หยุนหลายในทันที
ไม่ช้า เมิ่งฮ่าวก็มาถึงจุดที่เขามีงานมากจนทำไม่ทัน การปรุงเม็ดยาจำนวนมากมายทำให้เขาเหน็ดเหนื่อยมาก ดังนั้น เขาจึงปรึกษาเรื่องนี้กับไป๋หยุนหลาย และตัดสินใจขึ้นราคา!
เขาแบ่งระบบราคาด้วยคุณค่าที่แตกต่างกันของเม็ดยาแต่ละชนิด เป็นราคาที่เห็นได้ชัดว่าสูงกว่าอาจารย์ปรุงยาคนอื่นๆ นี่เป็นความคิดของไป๋หยุนหลาย ซึ่งเมิ่งฮ่าวก็เห็นด้วย แต่ไม่ว่าพวกเขาจะขึ้นราคามากเท่าไหร่ กลับทำให้ฟางมู่มีชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้น คนทั้งสองต่างก็รู้สึกมึนงงกับเรื่องเช่นนี้
ศิษย์สายในมาขอให้ช่วยปรุงยาเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งทำให้ตอนนี้ มีเสียงบ่นมาจากอาจารย์ปรุงยาคนอื่นๆ แต่ทันทีที่พวกมันใช้เวลาศึกษาเม็ดยาของเมิ่งฮ่าว เสียงบ่นนั้นก็หายไป…
เหตุผลที่เมิ่งฮ่าวมีชื่อเสียงเป็นอย่างยิ่งก็เนื่องจาก ความเข้มข้นของตัวยาห้าในสิบส่วนในเม็ดยาของเขา สำหรับศิษย์สายใน พวกมันรู้สึกว่าได้กำไรในการกินเม็ดยาเช่นนี้ โดยไม่ต้องพูดจาใดๆ ออกมา
สิ่งที่สำคัญมากที่สุดก็คือ ในแผนกเม็ดยาบูรพาทั้งหมด บุคคลที่มีทักษะของเต๋าแห่งการปรุงยา ที่สามารถปรุงเม็ดยาที่มีความเข้มข้นของตัวยาได้ถึงห้าในสิบส่วน มีเพียงเจ้าแห่งเตาเท่านั้น
แต่เจ้าแห่งเตาจะไม่ปรุงเม็ดยาให้กับศิษย์สายใน บริการเฉพาะศิษย์แกนหลักเท่านั้น ด้วยการปรากฎตัวของฟางมู่ ก็ทำให้ศิษย์สายในทั้งหมด มีโอกาสที่จะได้เม็ดยาที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับของเจ้าแห่งเตา แต่ในราคาของอาจารย์ปรุงยาในทันที ยิ่งไปกว่านั้น ที่พวกมันร้องขอให้ช่วยเป็นฟางมู่ ไม่ใช่เจ้าแห่งเตา
ดังนั้น แม้จะมีการขึ้นราคา เม็ดยาของเมิ่งฮ่าว ก็ยังคงถูกกว่าเม็ดยาที่ถูกปรุงโดยเจ้าแห่งเตา ด้วยเช่นนั้น ศิษย์สายในจึงยอมรับในราคาที่แพงกว่านี้ได้
ฟางมู่โด่งดังแล้ว!
นามของเขาไม่เพียงแต่จะโด่งดังในเขตสายในของแผนกลมปราณม่วงเท่านั้น เด็กฝึกปรุงยาของแผนกเม็ดยาบูรพาทั้งหมด ต่างก็พูดคุยเกี่ยวกับชื่อเสียงที่น่าตกใจของเขาให้กับอาจารย์ปรุงยาคนอื่นๆ ฟัง ในที่สุด นามของฟางมู่ ก็ไปถึงหูของผู้อาวุโสบางคนในสำนักจื่อยิ่น ทำให้พวกมันคอยเฝ้าติดตามดูสถานการณ์
อาจารย์ปรุงยาหลายคนในแผนกเม็ดยาบูรพา ยังคงไม่อาจยอมรับสถานการณ์เช่นนี้ได้ ด้วยวิธีการต่างๆ พวกมันก็ได้เม็ดยาของเมิ่งฮ่าวมาเพื่อศึกษาวิเคราะห์ดูอย่างละเอียด ซึ่งก็ทำให้พวกมันต้องประหลาดใจไปตามๆ กัน มีอาจารย์ปรุงยาทำการค้นคว้าเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้าย เมื่อเมิ่งฮ่าวขึ้นราคาเม็ดยา คำสั่งซื้อที่ไป๋หยุนหลายได้รับมา ก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม
เพียงแค่เวลาไม่กี่เดือน เมิ่งฮ่าวก็ได้รับสูตรปรุงยามากกว่าร้อย หินลมปราณไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และที่เก็บต้นสมุนไพรของเขาก็เต็มจนไม่มีที่วาง เมิ่งฮ่าวมีความสุข ถึงแม้ว่าเขาในตอนนี้แทบจะไม่มีเวลาส่วนตัวเหลืออยู่ ในแต่ละวันของทุกๆ วัน เขาทำการปรุงเม็ดยา เมื่อพลังลมปราณเขาแห้งลง เขาก็จะกลืนเม็ดยาบางอย่างเพื่อฟื้นลมปราณกลับมา หลายเดือนผ่านไป เสาแห่งเต๋าต้นที่หกของเขาก็เริ่มก่อตัวขึ้นครึ่งหนึ่ง
ใครจะไปคิดได้ว่า ชีวิตของเขาในช่วงไม่กี่เดือนมานี้เป็นอย่างไร…
ในที่สุด ก็มาถึงจุดที่เมิ่งฮ่าวคิดว่า คงไม่สามารถปรุงเม็ดยาได้ทั้งหมดตามใบสั่งซื้อที่รับมาได้จริงๆ สุดท้าย เขาก็ตัดสินใจใหม่ เขาให้ไป๋หยุนหลายช่วยประกาศว่า เพียงรับปรุงยาแค่สามรายการต่อวันเท่านั้น
เขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆ เมื่อประกาศกฎนี้ออกไปก็เห็นผลลัพธ์ในทันที มีเสียงบ่นได้ยินมาอยู่ไม่น้อย และคำพูดให้ร้ายก็กระจายออกไป แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น กฎของสามรายการต่อวันก็ยังคงยืนหยัดต่อไป โดยไม่มีวันหยุด ศิษย์สายในของแผนกลมปราณม่วง ก็เริ่มมีวิธีการหลากหลายเพื่อจะรักษาสิทธิ์ที่จะเป็นหนึ่งในสามรายการต่อวันนั้น