เงาร่างหลายสายพุ่งเข้ามา ด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่โจวเจี๋ยกลับรวดเร็วกว่า มันส่งเสียงกู่ร้องดังก้องออกไป ขณะที่กลายเป็นลำแสงพุ่งผ่านท้องฟ้า
มันไม่ได้อยู่ห่างไกลจากเมิ่งฮ่าวมากนัก และในที่สุดก็ใกล้เข้ามามากขึ้น เมิ่งฮ่าวเห็นความบ้าคลั่งและสับสนของโจวเจี๋ยได้อย่างชัดเจน ดวงตาของมันแดงก่ำและเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
ดูราวกับว่ามันต้องการตายจริงๆ!
“สังหารข้า!!” มันแผดร้องออกมา ในตอนนี้เองที่บุคคลอื่นๆ ของสำนักชิงหลัวได้มาถึง มีทั้งหมดห้าคน ต่างก็เป็นผู้ฝึกตนขั้นสร้างแกนลมปราณ มือของพวกมันขยับร่ายเวทอาคม และทันใดนั้น พื้นดินรอบๆ โจวเจี๋ยก็จมลงไป เสียงกึกก้องกระจายออกมา และโจวเจี๋ยก็ดูเหมือนจะถูกสะกดไว้ในทันที ใบหน้าของมันบิดเบี้ยว และความทุกข์ทรมานอย่างบ้าคลั่งในดวงตาของมันก็เข้มข้นถึงขีดสุด
เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังออกมาจากร่างของโจวเจี๋ย ส่งผลให้ผู้ฝึกตนแกนลมปราณทั้งห้า ลอยออกไปด้านหลังหลายก้าว ใบหน้าพวกมันซีดขาว และกระอักโลหิตออกมาจากปาก
เมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ จิตใจเมิ่งฮ่าวก็หมุนเคว้งคว้าง และเขาก็สงสัยว่าทั้งหมดนี้มันคือเรื่องจริงหรือไม่ โจวเจี๋ยอยู่ในวงจรอันยิ่งใหญ่ขั้นพื้นฐานลมปราณ ครึ่งทางของสร้างแกนลมปราณ แต่การโจมตีของมันเมื่อครู่นี้กลับทำให้ ผู้ฝึกตนขั้นสร้างแกนลมปราณห้าคนต้องกระอักโลหิตออกมา เมิ่งฮ่าวอ้าปากค้างกับภาพที่มองเห็น
ทันใดนั้น พื้นฐานฝึกตนของโจวเจี๋ยก็เริ่มไต่ขึ้นไป พลังระเบิดออกมา และเสียงกู่ร้องของมันก็ทะลุขึ้นไปถึงสวรรค์
เสียงของแผ่นหยกผนึกอสูร ทันใดนั้น ก็ดังขึ้นในจิตใจเมิ่งฮ่าว ถึงแม้ว่ามันจะแตกต่างกันเล็กน้อยจากก่อนหน้านี้ ที่เขาได้เห็นหานเป้ยในครั้งแรก “วิญญาณไร้ร่างครอบครองร่างกาย หวนกลับมาจากชีวิตหลังความตาย ฟื้นคืนชีพ ไม่ว่าจะมีเจตนาหรือไม่ วิญญาณนั้นก็ถูกทำลายลงไปแล้ว”
ทันใดนั้น ก็มีคนผู้หนึ่งปรากฎขึ้นข้างกายโจวเจี๋ยที่บ้าคลั่ง ยกมือขึ้นและกดลงไปบนไหล่ของโจวเจี๋ย ร่างกายโจวเจี๋ยสั่นสะท้าน และพลังของมันก็เริ่มหายไป ความบ้าคลั่งและความสับสนค่อยๆ จางหายไปจากดวงตา มีเพียงสิ่งเดียวที่หลงเหลืออยู่ ก็คือความเจ็บปวดที่แปลกๆ
ร่างของมันสั่นสะท้าน ความเจ็บปวดในดวงตาของมัน ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความทรมานอย่างมากมายจนนับไม่ถ้วน นี่คือเต้าจื่อ ผู้ซึ่งทำให้เมิ่งฮ่าวรู้สึกนับถือเมื่อหลายปีก่อน ดูเหมือนมันจะเริ่มแจ่มใสขึ้นในตอนนี้ แต่ก็ยังคงพูดออกมาสามคำ “สังหารข้า…”
ผู้คนส่วนมากไม่ต้องการแสวงหาความตายอย่างจริงจัง มักจะต้องการมีชีวิตอยู่ต่อไป ผู้คนที่ต้องการตายอย่างแท้จริงมีเพียงชนิดเดียวคือ…เป็นผู้ที่มีชีวิตราวกับอยู่ในขุมนรก!
หลังจากพูดจบ โจวเจี๋ยก็หมดสติไป เงาร่างที่ปรากฎอยู่ข้างกายมันไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ปรมาจารย์จื่อหลัว สีหน้าของมันเคร่งขรึมขณะที่คว้าจับโจวเจี๋ยที่ไม่ได้สติไว้ และกำลังจะจากไป ทันใดนั้น มันก็หันหน้ามามองยังเมิ่งฮ่าว
“ฟางมู่ต้าชือ, เป็นที่หัวเราะเยาะของท่านแล้ว เจ้าเด็กโจวเจี๋ยผู้นี้เริ่มสับสนขณะที่ฝึกฝนพลังฝึกตน และเกิดคลุ้มคลั่งขึ้นเล็กน้อย” มันถอนหายใจ และส่ายหน้า ด้วยเช่นนั้น มันก็นำโจวเจี๋ยจากไป ติดตามด้วยผู้ฝึกตนสร้างแกนลมปราณทั้งห้า
เมิ่งฮ่าวยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ สิ่งทั้งหมดที่เพิ่งจะเกิดขึ้นนี้ทำให้จิตใจเขาสั่นสะท้าน เต้าจื่อจากห้าปีก่อน และโจวเจี๋ยในตอนนี้ช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง อะไรที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างน่ากลัวเช่นนี้ได้?
เขาเริ่มคิดย้อนกลับไป เกี่ยวกับการต่อสู้กับโจวเจี๋ยในคืนที่มีฝนตกหนักนั้น
ตอนสายของยามเช้าได้มาถึง เมิ่งฮ่าวหันหลัง และมุ่งหน้ากลับไปยังที่พักบนยอดเขาต้อนรับเขียวขจี
เขานั่งลงขัดสมาธิ นึกทบทวนทุกสิ่งทุกอย่างที่เพิ่งจะเกิดขึ้นกับโจวเจี๋ย รวมถึงคำพูดของแผ่นหยกผนึกอสูร ความลับที่แปลกประหลาดของสำนักชิงหลัว ดูเหมือนจะเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ เวลานานผ่านไป ในที่สุด เมิ่งฮ่าวก็ส่ายหน้า และวางเรื่องเหล่านั้นลง เขาตบไปที่ถุงสมบัติ หยิบเอากระถางปรุงยาออกมา
ถึงเขาจะอยู่นอกสำนัก แต่ก็ยังคงทำการปรุงยาอยู่ทุกวัน เขาแตะไปที่กระถางปรุงยา และเสียงกระหึ่มก็ได้ยินออกมา เขาจัดเตรียมแก้วผลึกไฟปฐพี และเริ่มปรุงเม็ดยาพิษ
หลังจากที่กลายเป็นเจ้าแห่งเตา เม็ดยาพิษเป็นสิ่งที่เขามักจะปรุงขึ้นมา จากส่วนผสมของต้นสมุนไพรที่หลากหลาย ก็จะสร้างเป็นผงยาพิษ หรือเม็ดยาพิษออกมา
มีการเปลี่ยนแปลงมากมายอย่างนับไม่ถ้วน แต่ละอย่างก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป
จากความต้องการ เมิ่งฮ่าวก็ใช้ต้นสมุนไพร และเร่งปฏิกิริยามัน ในตอนนี้ เขาถือดอกใบไม้วิเศษอยู่ในมือ ซึ่งไม่มีพิษ เมิ่งฮ่าวเร่งปฏิกิริยามันจนกระทั่งเกือบจะแห้งเหี่ยว
ด้วยการเร่งปฏิกิริยามันจนถึงจุดนี้ และจากนั้นก็นำมันไปทาบบนต้นสมุนไพรอื่น เขาก็สามารถทำให้ไม่สามารถตรวจพบร่องรอยของพิษได้
แสงสีม่วงพุ่งออกมาจากฝ่ามือเมิ่งฮ่าว ด้วยพลังแห่งการเร่งปฏิกิริยา ดอกใบไม้วิเศษก็เริ่มแกว่งไปแกว่งมาและเติบโตขึ้น ในตอนนี้เองที่ร่างกายของเมิ่งฮ่าว ทันใดนั้น ก็สั่นสะเทือน ดวงตาเขาเบิกกว้าง และเริ่มส่องประกาย เขาเริ่มหายใจเร่งร้อนขึ้น และในจิตใจ ความคิดก็แวบขึ้นราวสายฟ้า เขาเพิ่งมีความคิดใหม่ขึ้นมา
เป็นความคิดที่เกี่ยวข้องกับโจวเจี๋ย, หานเป้ย และแผนกเม็ดยาบูรพา!
ทันทีที่ความคิดนี้แวบขึ้นมาในศีรษะ คลื่นลูกใหญ่ก็ดูเหมือนจะเดือดพล่านอยู่ในจิตใจ สมาธิของเขาพังทลายลง และพลังลมปราณก็เริ่มไม่คงที่ ดอกใบไม้วิเศษอันล้ำค่าในมือ ทันใดนั้น ก็เริ่มแตกกระจายไป
ในตอนนี้ เมิ่งฮ่าวไม่ได้สนใจว่าดอกใบไม้วิเศษจะมีมูลค่ามากมายเท่าใด เขาหายใจด้วยความตื่นเต้น และดวงตาก็สาดประกายเจิดจ้า ลุกขึ้นยืน ลืมการปรุงยาไปหมดสิ้น และเพ่งไปที่ความคิดซึ่งขยายตัวอยู่ในจิตใจอย่างเต็มที่
เมิ่งฮ่าวเริ่มพึมพำกับตัวเอง ในแต่ละประโยค ดวงตาก็เริ่มส่องประกายเจิดจ้ามากขึ้นไปเรื่อยๆ “แผนกเม็ดยาบูรพา…เวทเจตจำนงม่วง…พลังแห่งการเร่งปฏิกิริยา…ทำให้ต้นสมุนไพรเติบโต…ปรุงเม็ดยาอย่างรวดเร็ว…ตระกูลหาน, หนึ่งในเก้าครอบครัวใหญ่…หานเป้ย…กลั่นสกัดเวลา…สร้างของวิเศษแห่งกาลเวลา…สิ่งที่สามารถแปลงเวลา…” ในจุดนี้ ดวงตาเขาก็ดูเหมือนจะสาดประกายเจิดจ้าราวกับดวงตะวัน ทันใดนั้น ก็เงยหน้าขึ้น และอ้าปากค้าง
“เวทเจตจำนงม่วงของแผนกเม็ดยาบูรพา จริงๆ แล้วก็คือวิชากลั่นสกัดเวลาของตระกูลหาน!!” เมิ่งฮ่าวตบไปที่ถุงสมบัติ หยิบเอาแผ่นหยกกลั่นสกัดเวลา ซึ่งเขาได้มาพร้อมกับหานเป้ยในดินแดนสงบสุขออกมา
นี่ไม่ใช่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ศึกษาแผ่นหยกนี้ มันบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการกลั่นสกัดเวลา และสร้างของวิเศษกาลเวลาไว้ เมิ่งฮ่าวมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะได้ครอบครองของวิเศษเช่นนั้น
แต่นี่ก็เป็นเพียงหนึ่งแผ่นหยกจากทั้งหมดสามแผ่น แผ่นแรกยังคงอยู่ในกระถางในดินแดนสงบสุข และอีกแผ่นก็ถูกผีโต้งกลืนลงไป เมิ่งฮ่าวมีแผ่นที่สาม ซึ่งมีข้อมูลของวิธีสร้างของวิเศษกาลเวลา แต่การทำเช่นนั้นก็ต้องใช้เวลาหลายร้อยปีเพื่อสร้างพลังของเวลาอย่างเพียงพอ หลังจากเรียนรู้เรื่องนี้ เขาก็ล้มเลิก
มันใช้เวลานานเกินไป เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสร้างของวิเศษด้วยวิธีการเช่นนี้
เวลาผ่านไป และในไม่ช้าก็เป็นยามราตรี แสงจันทร์ปกคลุมไปทั่วพื้นปฐพี เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และเริ่มสำรวมจิตใจ ดวงตาส่องประกายด้วยแสงที่ไม่เคยมีมาก่อน
“ข้าน่าจะคิดถึงเรื่องนี้แต่เนิ่นๆ…กลั่นสกัดเวลา, เวทเจตจำนงม่วง…ทั้งสองอย่างนี้โดยเนื้อแท้แล้วก็เป็นความสามารถศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน! โดยพื้นฐานแล้ว พวกมันต่างก็เป็นวิชาเวท ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากแหล่งเวทเดียวกัน! แผ่นหยกที่สามนี้อธิบายถึงวิธีการผนึกเวลา พลังของเวลาทุกๆ สิบปี ก็จะเก็บเวลาไว้ได้หนึ่งปี หกร้อยปีก็จะเก็บเวลาได้หกสิบปี ในกรณีนี้ พลังของวงจรหกสิบปีสิบรอบก็จะสามารถใช้สร้างเป็นของวิเศษกาลเวลาได้” เมิ่งฮ่าวตบไปที่ถุงสมบัติ หยิบเอาต้นชุนชิวออกมา
“บางทีแผ่นหยกที่ผีโต้งกลืนลงไปอาจจะเป็นแผ่นที่สอง หรืออาจจะเป็นแผ่นแรกซึ่งอยู่ในกระถางของดินแดนสงบสุข ที่มีบันทึกของวิชาเร่งปฏิกิริยาเจตจำนงม่วงของแผนกเม็ดยาบูรพา! เพื่อที่จะสร้างเป็นของวิเศษกาลเวลา การเร่งปฏิกิริยาเจตจำนงม่วงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างแท้จริง!” เขามองลงไปยังแผ่นหยก และต้นชุนชิว ดวงตาสาดประกาย
“มีเพียงทางเดียวที่จะยืนยันให้แน่ใจ!” โดยไม่ลังเล เมิ่งฮ่าวทำให้เกิดแสงสีม่วงปรากฎขึ้นในมือ ตั้งสมาธิปล่อยพลังของเวทเจตจำนงม่วงออกมาเต็มที่ ให้ไหลเข้าไปในต้นชุนชิว
เวลาผ่านไป ในไม่ช้าหนึ่งชั่วยามก็ผ่านไป เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้ว ต้นชุนชิวเหมือนกับหลุมดำที่ดูดกลืนเอาพลังเร่งปฎิกิริยาทั้งหมดของเวทเจตจำนงม่วงเข้าไปอย่างไม่ลดละ ดูเหมือนมันจะไม่มีผลกระทบใดๆ กับต้นชุนชิว
เมิ่งฮ่าวพึมพำกับตัวเอง และมองไปรอบๆ ในที่สุด เขาก็แค่นเสียงเย็นชาออกมา จากนั้นก็หยิบเอาเหรียญกษาปณ์เจ้าแห่งเตาของเขาออกมา กดลงไปที่มัน และเกราะป้องกันสีม่วงก็กระจายออกมา ปกคลุมไปทั่วทั้งที่พักของเขา
นี่คือหน้าที่ของเหรียญกษาปณ์เจ้าแห่งเตา มันจะสร้างเกราะป้องกันที่สามารถกันได้แม้แต่จิตสัมผัส ด้วยวิธีนี้ เจ้าแห่งเตาก็จะไม่ถูกล้วงความลับขณะที่ปรุงเม็ดยา
มีอุปกรณ์อีกหลายอย่างที่แผนกเม็ดยาบูรพาสร้างขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์เช่นนี้ จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังไม่มีใครสามารถทำลายมันได้ เจ้าแห่งเตาไม่ได้ใช้มันตลอดการปรุงยา แต่มันก็สามารถใช้ได้หลายชั่วยาม ในช่วงเวลาที่จำเป็น
ถ้าเวลาผ่านไปนานมาก ก็เป็นไปได้ที่จิตสัมผัสจะทะลวงผ่านเข้ามาได้
ด้วยเกราะป้องกันในสถานที่นี้ เมิ่งฮ่าวก็หยุดที่จะจำกัดพื้นฐานฝึกตนของเขา ทันใดนั้น พลังของเสาแห่งเต๋าทั้งหกต้นก็ถูกปล่อยออกมาอย่างเต็มที่
เกราะป้องกันรอบๆ ตัวเขาส่องแสงอย่างอบอุ่นอ่อนโยน ปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่างไว้ด้วยการปกป้องของมัน ในเวลาเดียวกันนั้น พลังในการแปลงร่างของผีโต้งก็หายไป เมิ่งฮ่าวระเบิดพลังจากพื้นฐานฝึกตนออกมาอย่างเต็มที่
เขารู้ว่า คงไม่สามารถทำเช่นนี้ได้นานนัก เขาไม่ต้องการจะทำให้เกิดความยุ่งยากใดๆ กับสถานการณ์ในปัจจุบันนี้ของเขา ดังนั้น เขาจึงส่งพลังทั้งหมดออกมา ใช้สุดยอดพลังของการเร่งปฏิกิริยาเจตจำนงม่วง
เพียงชั่วพริบตา ต้นชุนชิวก็ค่อยๆ เริ่มเติบโตเป็นสีเขียว ทันใดนั้น ใบอ่อนก็ปรากฎขึ้น!
เมื่อเห็นใบอ่อน ก็ทำให้ดวงตาเมิ่งฮ่าวเต็มไปด้วยความตื่นเต้น พลังของพื้นฐานฝึกตนของเขาก็หายไปในทันที ยกมือซ้ายขึ้นมา และขยับร่ายเวทอาคม ภาพภูติผีสิบตราประทับปรากฎขึ้น เขาตบลงไปบนต้นชุนชิวในทันใด
เวทสิบตราประทับนี้ไม่ใช่เวทไหนอื่นแต่เป็นเวทผนึกกาลเวลา
ภายใต้พลังของการผนึก ต้นชุนชิวสั่นสะท้าน จากนั้นก็กลับเข้าสู่ขั้นปกติอย่างช้าๆ แต่เมิ่งฮ่าวก็สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่า ต้นไม้นี้มีบางอย่างที่แตกต่างไปจากเดิม ดูเหมือนมันจะหนากว่าและหนักกว่าเดิม ลึกๆ ลงไปข้างใน ก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายแห่งเวลา
“มันได้ผล!” ดวงตาเขาสาดประกายเจิดจ้า ขณะที่เขาเก็บต้นไม้ไว้ และยกเลิกเกราะป้องกันสีม่วงที่กระจายออกมาจากเหรียญกษาปณ์เจ้าแห่งเตา
“โชคร้าย ที่ไม่เหมาะจะใช้พลังของพื้นฐานฝึกตนของข้าได้อย่างเต็มที่ เมื่อไหร่ที่ข้าออกจากสำนักชิงหลัว ข้าก็สามารถทดสอบเพิ่มเติม และดูว่า ข้าสามารถเพิ่มเวลาให้กับต้นชุนชิวได้กี่ปี” เขาสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เพื่อทำให้จิตใจที่เต้นรัวเยือกเย็นลง คิดอีกมากมายเกี่ยวกับของวิเศษกาลเวลาตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่เมื่อมันต้องใช้เวลาหลายร้อยปีเพื่อกลั่นสกัด เขาก็ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจ แต่ตอนนี้ เขามีวิธีที่ดูเหมือนจะทำให้เขาสามารถสร้างของวิเศษกาลเวลาขึ้นมาได้ เขามั่นใจว่าคงไม่ต้องใช้เวลานานที่จะทำเช่นนั้น และจบลงด้วยของวิเศษที่มีเวลาหกสิบปีเก็บไว้
เขาไม่มั่นใจว่าพลังของ ของวิเศษเช่นนี้จะเป็นอะไร แต่ก็จะค้นหาข้อมูลอย่างดีที่สุด เขามั่นใจว่าของวิเศษที่ถูกสร้างขึ้นมาจากทั้งความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลหาน หรือเวทเจตจำนงม่วงของแผนกเม็ดยาบูรพา คงไม่ทำให้เขาต้องผิดหวังอย่างแน่นอน!