วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2560

ตอนที่ 218 : ผู้ชนะในรอบแรก!

Posted By: wuxiathai - 19:21
ดวงตาบุรุษวัยกลางคนแดงก่ำ ขณะที่มันจ้องไปยังภาพต้นสมุนไพรที่อยู่เบื้องหน้า “ข้าเข้าสังกัดสำนักเมื่อยี่สิบปีมาแล้ว” มันคิด “ข้าเป็นเด็กฝึกปรุงยามาตลอดครึ่งชีวิตของข้า เจ้าคิดว่าจะสามารถเปรียบเทียบได้กับข้าจริงๆ?” แต่อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของมันก็ค่อยๆ เริ่มซีดขาว มันได้ตอบผิดไปแล้วเก้าครั้ง ดังนั้นมันจึงมีโอกาสเหลืออยู่เพียงแค่ครั้งเดียว โชคร้าย ขณะที่ภาพของต้นสมุนไพรปรากฎขึ้นที่เบื้องหน้าในตอนนี้…มันไม่รู้จัก
หลังจากเวลาผ่านไปนาน บุรุษวัยกลางคนก็หัวเราะอย่างเศร้าเสียใจออกมา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนช้าๆ มันไม่ได้บันทึกคำตอบลงไป มันมองไปยังภาพต้นสมุนไพรนั้นเป็นเวลานาน บันทึกไว้ในความทรงจำของมัน จากนั้นก็เดินออกไป
ในตอนนี้ เมิ่งฮ่าวเป็นเพียงผู้เดียวที่ยังเหลืออยู่ในลานสี่เหลี่ยมจัตุรัส!
สายตาทุกคู่ รวมถึงหวังฝานหมิง และชายชราทั้งเจ็ด ต่างก็จ้องมายังเมิ่งฮ่าว!
นี่เป็นเพราะ…เขายังคงตอบคำถามต่อไป!
เมิ่งฮ่าวไม่รู้ว่า เขาได้ตอบคำถามไปแล้วมากมายเท่าใด สมุนไพรหนึ่งแสนต้น หนึ่งล้านการเปลี่ยนแปลง บางทีเขาอาจจะบันทึกไปแล้วครึ่งหนึ่ง บางทีอาจจะมากกว่านั้น เขาสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เพ่งสมาธิไปที่ต้นสมุนไพรบนจอภาพที่เบื้องหน้า ค่อยๆ รู้ว่าต้นสมุนไพรบางอย่างเขาไม่เคยเห็นมาก่อน แต่หลังจากที่มองไป และขบคิดอยู่สักพัก ข้อมูลที่เกี่ยวกับต้นสมุนไพรเหล่านั้นก็ปรากฎขึ้นในศีรษะ
หนึ่งแสนต้นสมุนไพร และหนึ่งล้านการเปลี่ยนแปลง ที่เขาได้ศึกษาเป็นเพียงแค่ขั้นพื้นฐานทั่วไป แต่พื้นฐานเช่นนั้นก็ไปปลุกให้พรสวรรค์ตามธรรมชาติของดอกปี่อ้านตื่นขึ้นมา พรสวรรค์ตามธรรมชาตินี้ช่วยให้เขาขยายสิ่งที่มีอยู่ในจิตใจให้กว้างออกไป ใช้ความรู้ที่สะสมมาก่อตัวเป็นคำตอบ
ด้านในถุงจักรวาล ภาพของดอกปี่อ้านที่วาดโดยสุ่ยตงหลิวกำลังสั่นสะท้าน ดูเหมือนมันกำลังดิ้นรน, ต่อต้าน, กรีดร้องอย่างไร้เสียงออกมา นี่เป็นเพราะ ขณะที่เมิ่งฮ่าวตอบคำถามต่อไป เพื่อยืนยันในสิ่งที่เขาได้ศึกษามา ภาพของต้นสมุนไพรมากมายนับไม่ถ้วน ที่ปรากฎขึ้นในจิตใจตอนนี้ทั้งหมด เขาได้ปล้นมาจากดอกปี่อ้าน! เขากำลังฉกฉวยพรสวรรค์ของดอกปี่อ้านมา!
ถ้ามันเรียบง่ายเช่นนั้น ก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอันใด แต่ขณะที่เมิ่งฮ่าวกำลังตอบคำถามต่อไป เขาก็ตระหนักว่า แกนอสูร ที่อยู่ในเสาแห่งเต๋า ดูเหมือนจะหมุนวนไปมา ทุกรอบของการหมุนนี้ เส้นใยของพลังที่มองไม่เห็นก็กระจายออก ไหลเข้าไปในจิตใจของเขา ทำให้พรสวรรค์ตามธรรมชาติของดอกปี่อ้านเริ่มมีความแข็งแกร่งมากขึ้น
การสอบเรื่องพืชสมุนไพรนี้ เป็นโอกาสอันดีที่เขาสามารถขโมยพรสวรรค์ตามธรรมชาติ มาจากดอกปี่อ้าน! ไม่มีวิธีการอื่น ที่จะทำให้เมิ่งฮ่าวสามารถขโมยได้เร็วกว่านี้อีกแล้ว การทดสอบนี้เป็นหลักใหญ่ในความโชคดีของเขาอย่างแท้จริง!
เขาทำการสอบต่อไป แม้จะตกอยู่ในห้วงความคิดเมื่อครู่นี้ ตอบคำถามมากขึ้นไปเรื่อยๆ ตอบอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ไม่มีใครได้ยินเสียงกรีดร้องของดอกปี่อ้าน ขณะที่พรสรรค์ตามธรรมชาติของมันถูกฉกฉวยไป และหลอมรวมเข้ากับเมิ่งฮ่าว กลายเป็นของเขาเพียงผู้เดียว!
ถ้ามีใครมาร้องขอให้เมิ่งฮ่าวหยุดในตอนนี้ เขาต้องปฏิเสธอย่างแน่นอน
ดวงตาของเขาแดงก่ำ บางครั้งเขาต้องใช้เวลาคิด แต่ก็ไม่เคยตอบผิดพลาด ขณะที่เขาคิด และบันทึกคำตอบ ทุกคนที่อยู่รอบๆ มองมาพร้อมกลั้นหายใจ รู้สึกมึนงงต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ หวังฝานหมิง และชายชราอีกเจ็ดคน มองตากันไปมา สายตาของพวกมันทั้งหมดเต็มไปด้วยความตกตะลึง
ข้อมูลบางอย่างที่เมิ่งฮ่าวตอบมา แม้แต่พวกมันก็ยังรู้สึกว่ายาก พืชกลายพันธุ์บางชนิดก็ต้องใช้ต้นสมุนไพรถึงสิบชนิดที่แตกต่างกัน มาทาบกิ่งเข้าด้วยกันด้วยเวลาที่ต่างกัน เพื่อสร้างเป็นพันธุ์ที่หายาก ในท้ายที่สุด
หวังฝานหมิง และคนอื่นๆ มองตากันด้วยความตื่นเต้น จากนั้นก็เริ่มแลกเปลี่ยนคำพูดกัน
“หนึ่งแสนต้นสมุนไพร หนึ่งล้านการเปลี่ยนแปลง สิบล้านต้นกลายพันธุ์ สามอาณาจักรของพืชสมุนไพร ความรู้เช่นนี้ เป็นตัวบ่งชี้ว่าเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ตามธรรมชาติ ที่จะกลายมาเป็นอาจารย์ปรุงยา…”
“ในดินแดนด้านใต้ มีเพียงเทพกระถางม่วงเท่านั้น ถึงจะมีพรสวรรค์เพียงพอที่จะเรียนรู้อาณาจักรที่สอง ที่ไกลออกไปสำหรับอาณาจักรที่สาม มีเพียงสามท่านเท่านั้นที่เรียนรู้ได้ เจ้าโอสถจอมปีศาจ และต้าชืออีกสองท่าน!”
“ฟางมู่ผู้นี้เพาะสร้างทักษะเช่นนี้ได้อย่างไร? มันเหมือนกับไม่ใช่มนุษย์! มันผ่านอาณาจักรที่สองไปเรียบร้อยแล้ว และตอนนี้ก็เข้าไปในเขตแดนของอาณาจักรที่สาม…ถ้าทักษะการปรุงยาของมันสามารถเทียบได้กับพรสวรรค์เรื่องพืชสมุนไพร มัน…มันก็จะสามารถสร้างความสั่นสะเทือนให้กับสวรรค์และปฐพี!”
“คงไม่ใช่เช่นนั้น พรสวรรค์เรื่องพืชสมุนไพรของมัน ถึงจะไม่ใช่มีอยู่ในคนธรรมดาทั่วไป แต่ทักษะเรื่องการปรุงยาแตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตาม ถ้ามันได้เรียนรู้ทักษะนี้ ถึงแม้มันจะไม่ได้กลายเป็นเทพกระถางม่วง มันก็ต้องเป็นเจ้าแห่งเตาได้อย่างแน่นอน!”
“มันคงขึ้นกับผลลัพธ์การปรุงยาของมันทั้งหมด และระดับความเข้มข้นของยาที่มันได้ผลิตขึ้น อาจารย์ปรุงยาโดยทั่วไป เพียงปรุงยาที่มีความเข้มข้นแค่สามในสิบส่วน มีเพียงเจ้าแห่งเตาเท่านั้น ถึงจะทำได้ห้าในสิบส่วน เทพกระถางม่วงสามารถทำได้ถึงเจ็ดในสิบส่วน ทั่วทั้งดินแดนด้านใต้ มีเพียงเจ้าโอสถจอมปีศาจ และต้าชืออีกสองท่าน ที่สามารถกลั่นสกัดได้ถึงเก้าในสิบส่วนหรือมากกว่านั้น! และมีเจ้าโอสถจอมปีศาจเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่สามารถปรุงยาที่มีความเข้มข้นได้ถึงสิบส่วน เป็นเม็ดยาที่ไม่มีการสูญเสียประสิทธิภาพใดๆ!”
ขณะที่ชายชราทั้งแปดพูดคุยกัน เด็กฝึกปรุงยาทั้งหมดก็อ้าปากค้างมองดูต่อไป จิตใจของพวกมันหมุนเคว้งคว้าง ขณะที่มองไปยังเมิ่งฮ่าว ผู้ยอมแพ้สิบคนสุดท้ายก็มองดูเช่นกัน บางคนก็รู้สึกยอมรับและนับถือ บางคนก็รู้สึกอิจฉาและไม่พอใจ
เวลาผ่านไป และเมิ่งฮ่าวก็ตอบคำถามต่อไปโดยไม่มีการหยุดพัก ขณะที่ภาพของพืชสมุนไพรแวบขึ้นที่เบื้องหน้า สีหน้าของเขาก็ค่อยๆ ตื่นเต้นขึ้นไปเรื่อยๆ ข้อมูลมากมายไหลบ่าท่วมท้นเข้าไปในจิตใจ และแกนอสูรที่อยู่ในร่างก็หมุนวนด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
เวลาเดียวกันนั้น ที่ไหนสักแห่งภายในสำนักจื่อยิ่น บนยอดเขาโดดเดี่ยว ภายในแผนกเม็ดยาบูรพา ชายชรานั่งขัดสมาธิ สังเกตดูกระถางปรุงยาที่ลอยอยู่เบื้องหน้า ท่านสวมใส่ชุดนักพรตสีขาว และตลอดทั้งร่างก็ส่งกลิ่นอายของยาสมุนไพรออกมา สายตาเพ่งนิ่งไปบนกระถางปรุงยา
รูปร่างหน้าตาของท่านไม่ได้น่าประทับใจมากเท่าไหร่ แต่ดวงตาของท่านแจ่มใสราวกับสายน้ำ เมื่อมองครั้งแรก ก็ดูเหมือนว่าชุดนักพรตสีขาวนั้นธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง แต่มีรูปกระถางปรุงยาปักไว้ที่แขนเสื้อแต่ละข้าง
ท่านมีรูปลักษณ์ที่เก่าแก่โบราณ ราวกับว่าคงอยู่มาแล้วหลายพันปีจนนับไม่ได้ ขณะที่ท่านมองไปยังกระถางปรุงยา ก็ยิ้มออกมา ยากที่จะบอกว่าท่านมีพื้นฐานฝึกตนอยู่ที่ระดับใด แต่การคงอยู่ของท่านบนยอดเขานี้ ก็ดูเหมือนจะเป็นเหตุให้กลุ่มเมฆกระจัดกระจายออกไป และสายลมก็เงียบสงบ ดูเหมือนด้วยการคงอยู่ของท่าน โลกก็จะเป็นเช่นนี้ตลอดไป
ข้างกายท่านเป็นหญิงสาว ที่อยู่ในชุดเสื้อคลุมยาวสีม่วง นางมีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้คิ้วของนางจะมีรอยย่นที่ขมวดอยู่เล็กน้อย นางไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ฉู่อวี้เยียน
ชายชรา…เป็นผู้ที่มีศักดิ์ศรีสูงส่ง และเป็นที่เคารพนับถือไปทั่วทั้งสำนักจื่อยิ่น ท่านเป็นอาจารย์ผู้ปรุงยาอันยิ่งใหญ่ ที่มีนามครอบคลุมไปทั่วทั้งดินแดนด้านใต้มาหลายพันปี ศิษย์ของท่านสองคนได้ตัดขาดจากท่านไป กลายเป็นต้าชือด้วยความสามารถของพวกมันเอง นี่คือ…เจ้าโอสถจอมปีศาจ!
ปีศาจมีรูปแบบมากมายนับไม่ถ้วน เหมือนกับตัวแปรต่างๆ ของเม็ดยา วันที่ชายชราผู้นี้บรรลุเต๋า ท่านก็ใช้นามว่า ตานกุ่ย (โอสถปีศาจ) ชื่อของเจ้าโอสถจอมปีศาจดังก้องไปทั่วในดินแดนด้านใต้หลายพันปีมาแล้ว ตอนนี้ท่านได้กล่าวขึ้น “เจ้าสามารถปรุงเม็ดยาสามมฤตยูได้หรือไม่?” ท่านถาม เลื่อนสายตาจากกระถางปรุงยามายังฉู่อวี้เยียน
“ข้าล้มเหลวอีกแล้ว” นางตอบ พร้อมขมวดคิ้ว “ท่านอาจารย์, เม็ดยาสามมฤตยูปรุงได้ยากยิ่ง” นางมองไปยังกระถางปรุงยาที่กำลังลอยอยู่
ชายชราส่ายหน้า และหัวเราะหึๆ ออกมา ด้วยท่าทางที่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกของหลายๆ ปีที่ผ่านมา ท่านมองออกไปยังที่ห่างไกล ตรงไปยังรูปปั้นยักษ์ของท่านจื่อตงเจินเหริน ในที่สุด ท่านก็มองกลับมายังกระถางปรุงยา หลังจากผ่านไปสักพัก ก็พูดขึ้นอีกครั้ง “จิตใจของเจ้ายุ่งเหยิง และกำลังขาดความมุ่งมั่น ดูเหมือนเจ้ายังไม่อาจจะเข้าใจถึงจุดประสงค์ที่อาจารย์ให้เจ้าปรุงเม็ดยาสามมฤตยูนี้ ในเรื่องนี้เจ้าควรจะเรียนรู้บางอย่างมาจากมันจริงๆ” ท่านชี้ตรงไปยังกระถางปรุงยา ขณะที่ทำเช่นนั้น กระถางก็เริ่มเลือนลาง จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นภาพของเมิ่งฮ่าวที่อยู่บนลานสี่เหลี่ยมจัตุรัส
เมื่อนางเห็นเขา คิ้วของฉู่อวี้เยียนก็ขมวดขึ้นในทันใด นางจำเขาได้ นางนึกถึงเมื่อได้เห็นเขา ด้วยเหตุผลที่ไม่รู้บางอย่าง ทำให้จิตใจของนางเต็มไปด้วยความหงุดหงิด ทำให้นางเกือบจะผ่านพ้นแรงกระตุ้นความต้องการเอาชนะบางอย่างในตัวเขาไปไม่ได้
แม้หลังจากนั้น นางก็ไม่อาจจะอธิบายถึงความรู้สึกนั้นได้ การมองเห็นเขาอีกครั้งในวันนี้ ก็ทำให้นางเกิดความรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้ง
“บนเส้นทางของเต๋าแห่งการปรุงยา” เจ้าโอสถจอมปีศาจกล่าวเสียงราบเรียบ “พรสวรรค์เป็นเพียงตัวช่วย ความมุ่งมั่นที่แน่วแน่จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ” ท่านโบกสะบัดมือขวา และภาพนั้นก็หายไป กระถางปรุงยาก็กลับเป็นกระถางปรุงยาขึ้นอีกครั้ง “กลับไป เมื่อเจ้าปรุงเม็ดยาสามมฤตยูได้แล้ว อาจารย์ถึงจะยอมให้เจ้าออกจากสำนัก” จากนั้น ท่านก็หลับตาลง
ฉู่อวี้เยียนหน้ามุ่ยขึ้นในทันที เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจ แต่ก็ไม่อาจจะทำสิ่งใดได้ นางขยี้เท้า ขณะที่หันหลังและจากไป ด้วยเห็นเหตุผลบางอย่าง ทำให้ใบหน้าของเมิ่งฮ่าว หรือแม้แต่ฟางมู่ ก็ปรากฎขึ้นในจิตใจ และนางก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้ง
“ข้าต้องไปดูว่าทำไมคนผู้นี้ถึงได้ทำให้ข้ารู้สึกหงุดหงิด!” นางคิด ขบฟันแน่น และกลายเป็นลำแสงหายลับตาไป
ย้อนกลับไปยังการสอบแข่งขันเป็นอาจารย์ปรุงยาในเขตสี่เหลี่ยมจัตุรัส สายตาหลายหมืนคู่ ต่างก็เพ่งมองไปที่จุดเดียวกัน ขณะที่เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ เมื่อฉู่อวี้เยียนไปถึง ก็มองเห็นเมิ่งฮ่าว และนางก็ขมวดคิ้วขึ้นอีกครั้ง นางตรวจสอบเขาอย่างตั้งใจสักพัก แต่สุดท้าย นางก็ไม่คุ้นเคยกับรูปร่างหน้าตาของเขา แต่ภายในความไม่คุ้นเคยนี้ มีบางอย่างที่นางดูเหมือนจะรู้
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ หนึ่งวัน, สองวัน…ในที่สุด สามวันก็ผ่านไป
สายตาฉู่อวี้เยียนติดแน่นอยู่บนร่างเมิ่งฮ่าว แต่ในท้ายที่สุด สายตาของนางก็เต็มไปด้วยความขุ่นมัว เช่นเดียวกับหวังฝานหมิง และคนอื่นๆ นางคุ้นเคยกับอาณาจักรที่สามของพืชสมุนไพร เมื่อได้เห็นเมิ่งฮ่าวตอบคำถามแล้วคำถามเล่า นางจะไม่เต็มไปด้วยความประหลาดใจได้อย่างไร?
ในตอนสุดท้ายของวันที่สาม จอภาพที่อยู่ตรงหน้าของเมิ่งฮ่าว ทันใดนั้นก็สาดประกาย ไม่มีภาพของพืชสมุนไพรปรากฎขึ้นมาอีก เขาค่อยๆ มองขึ้นไปช้าๆ
ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบสงบโดยสิ้นเชิง ทุกคนจ้องไปยังจอภาพที่เบื้องหน้าเขา หวังฝานหมิงอ้าปากค้าง และลุกขึ้นยืน ชายชราคนอื่นๆ ก็ยืนขึ้นทีละคน ดวงตาของพวกมันเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“มันตอบได้ทุกคำถาม…”
“เจ้าโอสถจอมปีศาจ เป็นผู้จัดเตรียมภาพของสมุนไพรทั้งหมดนี้ด้วยตัวเอง ในหนึ่งพันปีมานี้ ไม่เคยมีใครตอบได้ทุกคำถามเช่นนี้มาก่อน มัน…มันมีพรสวรรค์ผิดมนุษย์แบบไหนกันแน่…?”
ขณะที่คำพูดของหวังฝานหมิง และคนอื่นๆ ดังออกมา ความตื่นเต้นที่ถูกสะกดไว้หลายวันของเด็กฝึกปรุงยาที่อยู่รอบๆ บริเวณ ทันใดนั้น ก็ระเบิดออกมา เสียงพูดคุยดังอึกทึกไปทั่วในอากาศ
“หมดคำถามแล้ว…เป็นไปได้อย่างไร!?!? มันตอบได้ทุกคำถาม!”
“จากสมัยโบราณจวบจนปัจจุบันนี้ ไม่เคยมีใครทำได้เช่นนี้…”
“เป็นไปได้หรือไม่ว่า ฟางมู่ จะกลายเป็นอาทิตย์ดวงต่อไปของแผนกเม็ดยาบูรพา…?”
แม้ในขณะที่ความปั่นป่วนกระจายไปทั่ว ความอ่อนเพลียก็ปกคลุมเมิ่งฮ่าว และเขาก็ปิดดวงตาที่แห้งผากลง ไม่รู้ว่านั่งอยู่ที่นี่มานานเท่าไหร่แล้ว เมื่อจอภาพหายไป พลังงานของเขาก็ดูเหมือนจะหายไปด้วยเช่นกัน ความรู้เกี่ยวกับพืชสมุนไพรในจิตใจเขา ก็ดูเหมือนจะพรั่งพรูออกมาราวกับมีชีวิต ลบล้างความไม่รู้ที่เคยมีอยู่ก่อนไปสิ้น
ความรู้เหล่านั้นเพิ่มขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งในที่สุดก็เริ่มคงที่ ตอนนี้ความไม่รู้ต่างๆ ถูกทำลายไป ขอบเขตทักษะเกี่ยวกับพืชสมุนไพรของเมิ่งฮ่าวเพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่น่าตกใจ
เขาได้บรรลุถึงขั้น…สูตรวิเศษในทันที
ถ้าวางเม็ดยาไว้ในมือ เขาก็จะสามารถมองเห็นสูตรยาลอยอยู่ในจิตใจ นี่เป็นอาณาจักรซึ่งมีเพียงเทพกระถางม่วงเท่านั้นถึงจะบรรลุได้
ฉู่อวี้เยียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ขณะที่นางจ้องไปยังเมิ่งฮ่าวอย่างงุนงง ไม่ต้องสงสัยใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ แค่เพียงมองไปที่เขาก็ทำให้นางรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาในทันที แต่นางก็ต้องยอมรับในทักษะของฟางมู่ ที่เกี่ยวข้องกับพืชสมุนไพรต่างๆ ว่าเกินกว่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไปอย่างแท้จริง!

About wuxiathai

Organic Theme is officially developed by Templatezy Team. We published High quality Blogger Templates with Awesome Design for blogspot lovers.The very first Blogger Templates Company where you will find Responsive Design Templates.

Copyright © 2015 ผนึกสวรรค์ สยบมาร สะท้านเทพ

Designed by Templatezy | Distributed By Gooyaabi Templates