วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2560

ตอนที่ 12 : ศิษย์พี่หญิงฉื่อ สบายดี?

Posted By: wuxiathai - 19:16

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างความสนใจให้กับผู้ฝึกตนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ทั้งหมดมีสีหน้าเปลี่ยนไป หลายคนดูเหมือนจะสูญเสียความมั่นใจ ไม่แน่ใจในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ขณะนี้ ทุกคนต่างก็รู้ว่าเมิ่งฮ่าวไม่ใช่บุคคลที่ใครจะมาตอแยด้วยได้
ถึงแม้ว่าพวกมันไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น แต่หัวใจเมิ่งฮ่าวก็เต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง ที่สามารถขายยาให้กับลูกค้ารายแรกได้ เขาตบถุงเก็บสมบัติที่มีหินลมปราณทั้งหกก้อน ซึ่งถูกส่งมอบมาให้ด้วยความเคารพ
เขารู้สึกเสียใจที่ในอดีตไปยืนลังเลอยู่หน้าร้านขายยาสำหรับผู้ฝึกตน หงุดหงิดกับการไม่มีหินลมปราณในเวลานั้น ทำให้ต้องจบลงด้วยการที่เขาไม่มีเม็ดยาเลย แต่ในตอนนี้เขาสามารถขายเม็ดยา ทำให้มีหินลมปราณเพิ่มขึ้นมากมาย
เมิ่งฮ่าวรับหินลมปราณ ส่งมอบเม็ดยาประสานโลหิต และเม็ดยาผ่อนคลายกระดูกให้กับลูกค้ารายอื่นๆ
ขอบคุณทุกท่านที่มาอุดหนุน” เขาพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง โปรดกลับมาซื้อใหม่นะขอรับ” อีกครั้งหนึ่งที่เขาดูอ่อนแอและบอบบาง แต่สำหรับผู้ฝึกตนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขากลับคิดว่า เขาเป็นสัตว์ป่าที่อยู่ในชุดลูกแกะ บุรุษผู้นั้นเดินจากไปด้วยใจที่สั่นสะท้าน
หลังจากที่ลูกค้ารายนี้จากไป เมิ่งฮ่าวตัดสินใจไม่กลับไปยังจุด ที่เขานั่งขายยาบนก้อนหินใหญ่อีก เขาถือป้ายผ้าที่เขียนว่า ร้านขายยาแบบเร่งด่วน เริ่มเดินไปเรื่อยๆ รอบๆ เขตส่วนรวม เขามาหยุดใกล้กับศิษย์สายนอกสองคนกำลังต่อสู้กันอยู่ ปักป้ายผ้าลงไปบนพื้น
พี่ท่าน ดูเหมือนว่าจะบาดเจ็บนะ” เมิ่งฮ่าวกล่าว เดินไปข้างหน้า ท่านดูเหมือนไร้เรี่ยวแรง ไม่อยู่ในสถานะที่จะต่อสู้กับใครได้เลย
ศิษย์สายนอกทั้งมองมาที่เขาอย่างประหลาดใจ เหมือนกับว่าเขาได้โจมตีใครสักคนจนสลบไป พวกมันลังเลจากนั้นก็หยุดต่อสู้พร้อมใจกันถอยหลังไป
ข้ามีเม็ดยาลมปราณสดชื่น จากร้ายขายยาสำหรับผู้ฝึกตน รับไปสักเม็ด ท่านก็จะพลังสมบูรณ์ขึ้นมาใหม่ รับประกันได้เลยว่าชัยชนะก็จะเป็นของท่าน เนื่องจากวันนี้เป็นการเปิดร้านวันแรก คิดราคาแค่หินลมปราณหนึ่งก้อน ช่างสะดวกสบายอะไรเช่นนี้” เมิ่งฮ่าวเดินหน้าไปเรื่อยๆ หน้าตาเต็มไปด้วยความจริงใจ
ข้ามียาเม็ดจำนวนนึงแล้ว บุรุษหนุ่มพูดแบบไร้เยื่อใย มันตบไปที่ถุงเก็บสมบัติ เม็ดยาลมปราณสดชื่นก็ปรากฎขึ้นในมือ มันหย่อนใส่ปากกลืนลงไป
เมื่อเห็นดังนั้น เมิ่งฮ่าวก็ถอนหายใจออกมา เขาได้มองบุรุษคนนี้ซักพัก ก่อนที่จะคิดว่ามันคงไม่มีเม็ดยา เมิ่งฮ่าวส่งเสียงไอเล็กน้อย ก่อนที่จะมองไปที่บุรุษอีกคนที่ยืนตรงหน้าเขา บุรุษผู้นั้นส่งเสียงเย็นชาในลำคอ จากนั้นก็หยิบเม็ดยากลืนกินลงไป เริ่มต่อสู้กันอีกครั้ง เมิ่งฮ่าวได้แต่แอบถอนหายใจ
แต่เมิ่งฮ่าวก็มิได้ท้อแท้ เขาเดินเป็นวงกลมกลับไปที่หินก้อนใหญ่ ยังคงมองไปที่การต่อสู้ของคนทั้งสอง เมื่อเวลาผ่านไป ร่างกายของพวกมันดูเหมือนว่าเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ เห็นได้ชัดว่าเม็ดยาของพวกมันถูกใช้จนหมดไปแล้ว และแล้วจุดวิกฤตในการต่อสู้ก็ได้มาถึง ชัยชนะหรือพ่ายแพ้ใกล้จะถูกตัดสิน
เมิ่งฮ่าวใจเต้นรัวอีกครั้ง ยกป้ายผ้าเดินเข้าไปหาพวกมันอีกครั้ง
พี่ท่าน ช่วงเวลาวิกฤตของชีวิตได้มาถึงแล้ว ท่านไม่มีเม็ดยาเหลืออยู่อีกเลย แต่ไม่ต้องกังวล ข้าพอจะมีบ้างตอนนี้
ถึงจุดวิกฤตนี้ ซื้อเม็ดยาลมปราณสดชื่นของข้าเพียงหนึ่งเม็ด ก็จะช่วยฟี้นฟูพลังของท่านให้กลับมาอีกครั้ง รวมถึงฟื้นคืนพลังลมปราณโดยเร็วอีกด้วย พี่ท่าน ท่านไม่ได้ซื้อเม็ดยา แต่ท่านกำลังซื้อพลังลมปราณอยู่นะ โอย ท่านบาดเจ็บแล้ว!”
เสียงของเมิ่งฮ่าวสร้างความว้าวุ่นให้กับคู่ต่อสู้ กระบี่บินได้ปักเข้าใส่แขนของหนึ่งในนั้น เกิดเป็นน้ำพุโลหิตสาดกระเซ็น มันถอยหลังพร้อมส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด
เมิ่งฮ่าวยังคงติดตามไปพูดด้วยความรวดเร็ว มองดูอ่อนแอเหมือนนักศึกษาเช่นเคย
พี่ท่าน ถึงเวลาแล้ว โลหิตของท่านไหลออกมามาก เร็วเข้า รีบมาซื้อเม็ดยาประสานโลหิต ถ้าไม่ซื้อท่านก็จะยิ่งอันตรายหนักขึ้นไปอีก
ไสหัวออกไป!” บุรุษที่ได้เปรียบคำรามใส่เมิ่งฮ่าว กระโจนใส่ผู้ที่บาดเจ็บ
ส่งยามาให้ข้า” ผู้บาดเจ็บร้องขอด้วยสีหน้าซีดขาว ถอยหลังไปอีกหลายก้าว กัดฟันหยิบหินลมปราณโยนให้เมิ่งฮ่าว เขาก็โยนเม็ดยาประสานโลหิตไปที่บาดแผลบนแขนของผู้บาดเจ็บนั้น โลหิตที่ไหลออกมาอย่างรวดเร็วก็เริ่มไหลช้าลง แล้วก็หยุดไหลในที่สุด มันกระโดดกลับเข้าไปต่อสู้อีกครั้ง
โอย พี่ท่านดูเหมือนว่าเม็ดยาของท่านก็หมดเช่นกัน ดูสิ ของข้ายังมีอีกมาก ตอนนี้คู่ต่อสู้ของท่านซื้อไปแล้วหนึ่งเม็ด เขาก็มีพลังเพิ่มขึ้น แต่ท่านกำลังบาดเจ็บ ทำไมท่านไม่ลองซื้อเม็ดยาประสานโลหิตสักเม็ดล่ะ?”
โอ ไม่นะท่านโดนฟันอีกแล้ว ท่านต้องเมื่อยล้ามากแน่นอน ใจเย็นๆ นะ อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ พี่ท่าน ข้ายังมีเม็ดยาผ่อนคลายกระดูก ที่ช่วยบรรเทาความเมื่อยล้าอีกด้วยนะ
หนึ่งหินลมปราณสำหรับยาหนึ่งเม็ด ท่านควรจะรีบซื้อยาโดยเร็ว ท่านนักปราชญ์กล่าวไว้ว่า หินลมปราณถึงจะมากคุณค่า แต่ชีวิตก็หาค่ามิได้” เมิ่งฮ่าวค่อยๆ เดินวนเป็นวงกลมรอบๆ พวกมัน แน่นอนที่สุดว่า พวกมันใช้เม็ดยาไปหมดแล้ว และในไม่ช้า ด้วยความรู้สึกกดดันของกันและกัน ทั้งสองก็มาขอซื้อเม็ดยาไปบางส่วน การต่อสู้ก็เพิ่มความรุนแรงมากขึ้น รุนแรงยิ่งกว่าการต่อสู้ปกติสี่ถึงห้าเท่า
เดิมที มันเป็นการต่อสู้ที่เรียบง่ายและยุติธรรม แต่ด้วยมีร้านขายยาแบบเร่งด่วนมาเปิดที่นี่ ทำให้กลายเป็นการต่อสู้ที่ซับซ้อนยุ่งยากมากขึ้น ด้วยอาการบาดเจ็บจากการต่อสู้ที่รุนแรงในครั้งนี้ ทำให้ทั้งสองไม่สามารถหยุดการต่อสู้ได้
ในที่สุด คนทั้งสองก็ใช้พลังลมปราณที่มีทั้งหมดไป พวกมันล้มลงบนพื้นนอนสลบไม่ได้สติ ทั้งหินลมปราณ และเม็ดยาถูกใช้ไปหมดสิ้น แม้แต่ของวิเศษก็ถูกทำลายไปทั้งหมดในตอนต่อสู้ ช่างน่าอนาถใจยิ่งนัก
จากที่เมิ่งฮ่าวเข้ามาสอดแทรกในการต่อสู้ครั้งนี้ เขาคิดว่าเขาได้ช่วยชีวิตพวกมันไว้ หรืออย่างน้อยก็ช่วยได้หนึ่งชีวิต จากนั้นเขาก็แบกป้ายร้านขายยาแบบเร่งด่วน เดินช้าๆ ไปรอบๆ พื้นที่ราบสูงนั้นต่อไป และอีกครั้งที่พบเห็นผู้ฝึกตนสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด ดูจากสภาพการต่อสู้นี้แล้ว ถึงแม้พวกมันจะมีเม็ดยารักษาอาการบาดเจ็บ แต่ก็คงหมดไปเรียบร้อยแล้ว เมิ่งฮ่าวยืนถือป้ายด้วยสายตาวาววับ ใกล้ๆ กับสองคนนั้น
พี่ท่าน ท่าทางของท่านดูเลวร้ายนัก ท่านคงมีการบาดเจ็บที่ร้ายแรง แต่ไม่ต้องกลัว ข้ามีเม็ดยารักษา หนึ่งหินลมปราณซื้อได้หนึ่งเม็ดยา รับประกันว่าร่างกายท่านจะฟื้นฟูกลับมาเหมือนเดิม
ทำไมท่านไม่พูดอะไรบ้างอย่าบอกนะว่าท่านไม่เชื่อข้าก่อนหน้านี้มีศิษย์คนอื่นซื้อยาของข้า ผลก็คือคู่ต่อสู้ของเขาตายเรียบร้อย
ในไม่ช้า ทั้งสองก็ซื้อเม็ดยา ซื้ออีกครั้ง และอีกครั้ง จนกระทั่งพวกมันไม่มีหินลมปราณเหลืออยู่เลย หลังจากที่ต่อสู้ไปอย่างดุเดือดสักพัก พวกมันก็หยุดการต่อสู้โดยที่ไม่ได้อะไรเลย ยกเว้นถุงเก็บสมบัติที่ว่างเปล่า
เมิ่งฮ่าวส่ายหน้าเก็บป้ายร้าน เดินไปหาลูกค้ารายใหม่เพื่อทำการค้าต่อไป
เมื่อดวงอาทิตย์เริ่มตกดิน เมิ่งฮ่าวได้เดินไปทั่วทุกแห่งในบริเวณเขตส่วนรวมเพื่อขายเม็ดยา สุดท้ายไม่ว่าเขาจะไปที่จุดการต่อสู้ไหน การต่อสู้นั้นก็หยุดลงทันที และคู่ต่อสู้ก็เดินจากไป ในที่สุดเมิ่งก็พบเจอแต่ความว่างเปล่าบนที่ราบสูงนั้น เขาเอามือตบถุงเก็บสมบัติเบาๆ แล้วก็เดินจากไป
มันเป็นเวลาดึกแล้ว เมื่อเขากลับไปถึงถ้ำแห่งเซียน เขานั่งขัดสมาธิ และเริ่มตรวจนับหินลมปราณที่ได้มาในวันนี้อย่างตื่นเต้น
หนึ่งสอง…” เขาตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่นับ ทั้งหมด ห้าสิบสาม ข้ารวยแล้ว วิธีนี้ช่างรวดเร็วกว่าการไปปล้นชิงจากคนอื่นมากนัก ทั้งปลอดภัยกว่ามาก แล้วก็ไม่ต้องสังหารใครด้วย
เม็ดยาข้าเหลืออยู่ไม่มาก พรุ่งนี้ข้าต้องไปที่ร้านขายยาสำหรับผู้ฝึกตนเพื่อซื้อเพิ่ม ถ้าข้าต้องการให้การค้าดีกว่านี้ ข้าก็ควรจะซื้อเม็ดยาทั้งหมดในร้านของเดือนนี้มา ถ้าข้ามีหินลมปราณไม่พอ ข้าก็ควรซื้อให้มากเท่าที่จะซื้อได้ เมื่อเม็ดยาในร้านขายยาสำหรับผู้ฝึกตนขาดแคลน พวกมันก็จะมาซื้อเม็ดยาที่ร้านขายยาแบบเร่งด่วนของข้าง่ายขึ้น
เมิ่งฮ่าวเปิดถุงเก็บสมบัติที่เขาได้จากผู้ฝึกตนที่สลบไปออกมาดู ด้านในมีหินลมปราณเล็กน้อย เม็ดยารวบรวมลมปราณสองเม็ด แล้วก็มีเม็ดยาสีชมพูหนึ่งเม็ด
เขายกเม็ดยาสีชมพูขึ้นมาตรวจสอบ ก็พบว่ามันเป็นเม็ดยาคงโฉมของร้านขายยาสำหรับผู้ฝึกตน ซึ่งมีราคาแพง มีค่าประมาณเม็ดยารวบรวมลมปราณสิบเม็ด และเป็นสินค้าที่แพงมากเท่าที่จะหาซื้อได้สำหรับร้านขายยาสำหรับผู้ฝึกตน
เม็ดยานี้ปรุงขึ้นมาเพื่อยังโฉมคงความงาม มันไร้ประโยชน์สำหรับข้าที่จะใช้มัน” เขาคิดว่าเจ้าของยานี้ก่อนหน้า คงตั้งใจจะเอายานี้ ไปให้ศิษย์สตรีที่หมายตาไว้เพื่อเอาใจเป็นแน่ เขาคร้านที่จะคิดถึงเรื่องนี้ไปมากกว่านี้ จึงเก็บเม็ดยาสีชมพูลงไปในถุงเก็บสมบัติ
เมื่อเขามองไปยังหินลมปราณ และเม็ดยาทั้งหมดด้วยความพึงพอใจ ทันใดนั้นประตูหินหลักของถ้ำแห่งเซียนก็เกิดเสียงดัง และเริ่มเปิดออก มันเกิดขึ้นรวดเร็วมากจนเมิ่งฮ่าวไม่ทันที่จะเก็บหินลมปราณและเม็ดยาทั้งหมดที่วางอยู่
หญิงสาวเดินเข้ามา ล้อมรอบด้วยรัศมีของแสงจันทร์ เป็นอิสตรีที่สวยสะคราญ แต่เย็นชาและมีสีหน้าไร้ความรู้สึก นางสวมใส่ชุดยาวสีเงิน ซึ่งดูเหมือนว่านางได้สร้างแสงจันทร์ขึ้นมาด้วยตัวเอง
ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจากศิษย์สายในของสำนักเอกะเทวะ ศิษย์พี่หญิงฉื่อ
เมื่อนางได้เข้ามาในถ้ำแห่งเซียน แสงจันทร์ก็ส่องกระทบ หินลมปราณและเม็ดยาซึ่งวางอยู่ตรงหน้าเมิ่งฮ่าวเป็นประกายสีเงินแวววาว ทำให้สีหน้าที่เย็นชาของนางเปลี่ยนเป็นประหลาดใจ
ศิษย์พี่หญิงฉื่อ สบายดี?” เมิ่งฮ่าวกล่าวทักทาย รีบใช้มือขวากวาดหินลมปราณและเม็ดยาใส่ถุงเก็บสมบัติ ลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางอึดอัดใจ
ศิษย์พี่หญิงฉื่อไม่กล่าววาจา เพียงแค่มองดูเมิ่งฮ่าวแล้วก็พยักหน้า จากนั้นก็เดินออกไป
เมิ่งฮ่าวเดินตามนางไปด้วยความประหลาดใจ
ศิษย์พี่หญิงฉื่อ ท่านมาที่นี่อย่างยากลำบาก ทำไมไม่อยู่สักครู่หนึ่ง?”
ไม่มีความจำเป็น” นางตอบกลับมาเสียงเย็นชา ข้ากำลังจะปลีกสันโดษไปนั่งกรรมฐานตั้งแต่วันพรุ่งนี้ แค่แวะมาดูเจ้าเล็กน้อย” นางมองมาที่เขา จากนั้นก็เดินออกจากถ้ำไป
เมิ่งฮ่าวรู้สึกอึดอัดใจ เสียใจที่ไม่ได้เก็บหินลมปราณให้เร็วกว่านี้ ทำให้เขาดูเลวร้ายในเหตุการณ์แบบนี้ และบางทีศิษย์พี่หญิงฉื่ออาจจะต้องการช่วยเหลือเขามากกว่านี้บ้าง
ในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้สึกอบอุ่นเล็กน้อยขึ้นในจิตใจ ศิษย์พี่หญิงฉื่อถึงจะดูเย็นชาและแปลกแยก แต่นางก็มาที่นี่เพื่อหาเขา ซึ่งหมายความว่านางจำเขาได้ หัวใจเขาเต้นระรัว เขาตบถุงเก็บสมบัติ เม็ดยาสีชมพูก็ปรากฎขึ้น
ข้ากำลังจะขอบคุณท่านอยู่พอดี ศิษย์พี่หญิงฉื่อ ข้ารวบรวมเม็ดยารวบรวมลมปราณได้จำนวนหนึ่ง ทำให้ข้าสามารถนำมันไปแลกเปลี่ยนเม็ดยาคงโฉมเม็ดนี้ ได้โปรดรับมันไว้ ในสายตาของข้า มีแต่ท่านที่คู่ควรกับเม็ดยาเช่นนี้
ตั้งแต่ครั้งแรกที่ข้าเข้าสังกัดสำนัก ข้าก็ใฝ่ฝันว่าท่านจะดูอ่อนเยาว์เช่นนี้ไปตลอดกาล และคงความเป็นโฉมสะคราญตลอดไป” เขาพูดโดยไม่กระพริบตา จากนั้นก็ทำสีหน้าเคร่งขรึม และเต็มไปด้วยความเคารพ น้อมส่งเม็ดยาไปด้วยสองมือ
ศิษย์พี่หญิงฉื่อ หยุดเดินและหันกลับมามองเขา จ้องไปที่เม็ดยาในมือเขาอย่างเงียบๆ จากนั้นก็หยิบมันไป
ถึงแม้ว่าเม็ดยารวบรวมลมปราณจะหาได้ง่ายในสำนัก แม้มันจะมีผลแค่ขั้นห้าของการรวบรวมลมราณ พวกเราเหล่าผู้ฝึกตนเห็นความสำคัญของระดับพลังลมปราณ พวกเราอาศัยอยู่ในโลกของการฝึกตน ซึ่งเป็นสถานที่ ที่ซึ่งการมีชีวิตอยู่และความตายใกล้เคียงกันมาก เจ้าไม่ควรทำเช่นนี้อีกในวันข้างหน้า เจ้าอาจจะฉลาด แต่เจ้าต้องขยันฝึกให้มากกว่านี้
นี่เป็นครั้งแรกที่เมิ่งฮ่าวได้ยินศิษย์พี่หญิงฉื่อ พูดได้มากขนาดนี้ เมื่อได้ยินดังนั้น เขาก็พยักหน้าด้วยความนับถือ
ตราบเท่าที่ศิษย์พี่หญิงฉื่อชอบมัน ข้าก็ยินดีที่จะแลกเปลี่ยนเม็ดยา” เขากล่าวพร้อมกับค้อมศีรษะ กระพริบตาเหมือนจะอายเล็กน้อย
ยาเม็ดนี้ข้าจะรับไว้แค่ครั้งนี้ แต่ครั้งหน้าห้ามนำเม็ดยาของเจ้าไปแลกเปลี่ยนเช่นนี้อีก” ศิษย์พี่หญิงฉื่อเก็บเม็ดยาไว้ ลังเลครู่หนึ่ง จากนั้นก็ดึงเอาจี้หยกสีชมพูยื่นส่งให้เมิ่งฮ่าว
นี่เป็นของวิเศษ” นางกล่าว ใช้ป้องกันตัวเจ้า” จากนั้นก็เริ่มเดินลงไปจากภูเขา
ขอบคุณมาก ศิษย์พี่หญิงฉื่อ” เมิ่งฮ่าวเอ่ย ได้โปรดให้ข้าเดินเป็นเพื่อนท่านข้าไม่ได้พบเจอท่านเป็นเวลานานแล้ว และข้าก็มีคำถามบางอย่างเกี่ยวกับการฝึกตน ซึ่งหวังว่าท่านจะช่วยขจัดความโง่เขลาให้ข้าได้
เขาทราบว่านี่เป็นโอกาสที่สำคัญ นี่เป็นบุคคลเพียงหนึ่งเดียวที่เขาจะพึ่งพาได้ในสำนักนี้ ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องหาทางใกล้ชิดนาง ถ้าเขาได้เดินไปพร้อมกับนางในเขตสำนักสายนอก และถูกศิษย์คนอื่นๆ พบเห็น บางทีอาจจะมีศิษย์บางคนยินดีที่จะคบหาเขาในอนาคตข้างหน้า
ศิษย์พี่หญิงฉื่อลังเล นางเป็นบุคคลที่เย็นชาไม่สนใจใคร และไม่ค่อยพูดมากนัก ไม่เคยที่จะใช้เวลาร่วมกับศิษย์สำนักเพศชายมาก่อน เกิดความรู้สึกแปลกๆ ที่มีเมิ่งฮ่าวมายืนอยู่ข้างกาย กำลังที่จะพูดปฏิเสธ แต่หลังจากที่เมิ่งฮ่าวพูดจบ นางก็คิดไปถึงเม็ดยาคงโฉมที่เขาให้มาอย่างเอียงอาย จึงพยักหน้ารับคำอย่างเงียบๆ
แสงจันทร์สาดส่องลงมา ยังคนทั้งสองที่กำลังเดินไปอย่างอ่อนโยน
ณ เวลานั้น บนจุดสูงสุดของยอดเขาทิศเหนือ ชายชราร่างสูงในชุดยาวสีเทายืนขึ้น เมื่อเขาได้มองลงมาเห็นเหตุการณ์ที่เบื้องล่าง สีหน้าแสดงออกถึงการยอมรับ
ยอดเยี่ยม เจ้าเด็กเมิ่งฮ่าว ไม่เลวทีเดียว มันเข้าใจลึกซึ้งถึงแก่นแท้ของสำนักเอกะเทวะ รู้ว่าควรจะหาใครที่พึ่งพาได้ และรู้ว่าต้องรักษาความสัมพันธ์กับบุคคลนั้นไว้ หลังจากนั้นก็จะมีคนที่พึ่งพาได้คอยเคียงข้างตลอดไป” นี่เป็นชายชราคนเดียวกับที่แสดงท่าทียอมรับเมิ่งฮ่าวในวันแจกเม็ดยา มันยิ่งรู้จักเมิ่งฮ่าวมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งชอบมากขึ้นเท่านั้น

About wuxiathai

Organic Theme is officially developed by Templatezy Team. We published High quality Blogger Templates with Awesome Design for blogspot lovers.The very first Blogger Templates Company where you will find Responsive Design Templates.

Copyright © 2015 ผนึกสวรรค์ สยบมาร สะท้านเทพ

Designed by Templatezy | Distributed By Gooyaabi Templates