วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2560

ตอนที่ 254 : ฟ้าร้องผ่านที่ราบ

Posted By: wuxiathai - 20:20
“ยาเม็ดนี้…”
ใบหน้าเมิ่งฮ่าวดูสงบนิ่งเหมือนที่เคยเป็นมา ยากที่จะบอกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เสียงที่ดังก้องออกมาราวกับเป็นเสียงที่ดังมาจากห้วงน้ำอันลึกล้ำ ดึงดูดความสนใจของผู้ที่มุงดูอยู่ทั้งหมดในทันที
ทุกคน แม้แต่โจวเต๋อคุน ก็ดูเหมือนจะคิดว่าเมิ่งฮ่าวพ่ายแพ้แล้ว เขาไม่มีความหวังแม้แต่น้อยที่จะได้รับชัยชนะในครั้งนี้ แม้แต่เทพกระถางม่วงก็ยังไม่อาจจะแยกแยะสูตรยาของเม็ดยาโบราณนี้ออกมาได้
“นี่เป็นเม็ดยาของอะไร?” เฉินเจียสี่พูดแทรกขึ้นมา “ฟางมู่, ทำไมถึงยืดเยื้อนัก? พ่ายแพ้ก็คือพ่ายแพ้! ไม่จำเป็นต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนไป!” มันส่งเสียงหัวเราะอย่างเย็นชาออกมา
เมิ่งฮ่าวมองไปยังเฉินเจียสี่ด้วยความเยือกเย็น
เมื่อเขาพูด คำพูดของเขาทั้งไม่รีบร้อนและไม่ลังเล “เปลือกนอกของยาเม็ดนี้มีหลักฐานที่บอกว่า ได้ถูกฝังอยู่ในพื้นดินอย่างน้อยก็นานถึงหนึ่งพันปี กลิ่นอายความตายของมันเข้มข้นยิ่ง ส่งผลกระทบแม้กระทั่งกล่องหยก แต่เม็ดยาก็ไม่เสียหายแม้แต่น้อย”
“สิ่งที่แปลกก็คือ ชั้นกลางของเม็ดยาแตกต่างออกไป มันมีอายุเพียงแค่เจ็ดร้อยปี ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้จะมีพืชสมุนไพรปรากฎขึ้นในตอนแรก ของการกลั่นสกัดด้วยวิธีที่ไม่ใช้การหลอมเหลวสมัยโบราณก็ตาม แต่ความจริงก็คือ ยังมีร่องรอยของการใช้ไฟหลอมเหลวมันอยู่อย่างแท้จริง” ขณะที่เมิ่งฮ่าวพูด รอยยิ้มอันเย็นชาของเฉินเจียสี่ก็กว้างมากขึ้น
“ชั้นในของเม็ดยา” เมิ่งฮ่าวกล่าวต่อ “ยิ่งแปลกมากๆ มีสมุนไพรสิบเจ็ดชนิดอยู่ในนั้น แต่ทุกต้นก็มีอายุไม่เกินสามร้อยปี! นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมถึงทำให้ข้า ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบนานขึ้นไปอีกเล็กน้อย ข้าไม่มั่นใจว่าทำไมเม็ดยาแรกเสริมฟ้านี้จะสามารถเพิ่มอายุขัยได้ถึงหนึ่งพันปี ทั้งส่วนนอก, ตรงกลาง และด้านในสุด ช่างแตกต่างกันมากมายยิ่งนัก!” ทันทีที่เขาพูดจบ เสียงพูดคุยก็ดังขึ้นมาจากพวกที่มุงดู
“นั่นหมายความว่าอย่างไร? อย่าบอกนะว่า เม็ดยานั้นเป็นของปลอม?”
“มันจะเป็นของปลอมได้อย่างไร? เห็นได้ชัดว่า มีเสียงเพลงแห่งสวรรค์ และเด็กชายที่เต้นรำ เมื่อครู่นี้ สิ่งเหล่านั้นไม่น่าจะเป็นของปลอม!”
“อย่าบอกข้านะว่า ฟางมู่แค่พูดจาไร้สาระออกมา?”
ขณะที่ผู้ฝึกตนถกเถียงกันในเรื่องนี้ เฉินเจียสี่ก็เริ่มแผดเสียงหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะที่เย็นชา ดุร้าย ดังก้องออกไปทั่วทุกทิศทาง
มันโบกสะบัดแขนเสื้อ และพูดขึ้นอีกครั้ง เสียงของมันเต็มไปด้วยคำเยาะเย้ย “ฟางมู่, ถ้าเจ้ายอมรับความพ่ายแพ้ ข้า, เฉินเจียสี่ ก็จะแสดงความนับถือท่านในฐานะที่เป็นเจ้าแห่งเตาของแผนกเม็ดยาบูรพา แต่เจ้าใช้วิธีการที่ต่ำช้า ใช้เล่ห์เหลี่ยมพยายามที่จะได้รับชัยชนะ! เจ้าพยายามจะทำลายเม็ดยาโบราณนี้ด้วยการบอกว่ามันเป็นของปลอม!? การประลองกับเจ้า ช่างทำให้ข้าต้องเสียหน้าอย่างใหญ่หลวงนัก! เสียเวลาจริงๆ!”
“ข้าไม่อยากจะเชื่อว่า แผนกเม็ดยาบูรพา จะสร้างนักปรุงยาเช่นเจ้าออกมา ช่างเป็นความอับอายอย่างที่สุด! ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ้าได้ใช้เล่ห์เหลี่ยมในการกลายมาเป็นเจ้าแห่งเตา ตอนนี้ข้า, เฉินเจียสี่ เข้าใจถึงสถานการณ์ทั้งหมดแล้ว”
สีหน้าหลี่อี้หมิงเต็มไปด้วยการดูถูกเช่นเดียวกัน ใบหน้าโจวเต๋อคุนแดงก่ำ ในฐานะที่เป็นนักปรุงยา เมื่อพ่ายแพ้ก็ควรจะยอมรับ และความเคารพในเต๋าแห่งการปรุงยาก็ไม่ควรจะถูกละเลย
มันแอบถอนหายใจอยู่ภายใน และกำลังจะอ้าปาก เพื่อพูดให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่เสียงอันเยือกเย็นของเมิ่งฮ่าวก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ข้าเคยบอกว่ายาเม็ดนี้เป็นของปลอมตั้งแต่เมื่อไหร่?” เขาถาม สีหน้าราบเรียบเหมือนเช่นเคย กวาดมองไปยังกลุ่มคนที่มุงดู รวมถึงสีหน้าที่พึงพอใจของเฉินเจียสี่
“เจ้าเด็กลิ้นแหลมคม!” เฉินเจียสี่ร้องออกมา โยนความเมตตาทิ้งไปในสายลม “เจ้ายังคงพยายามที่จะโต้เถียง? เมื่อครู่นี้ เห็นได้ชัดว่า เจ้าบอกว่ายาเม็ดนี้เป็นของปลอม ใช่หรือไม่? เจ้าจะอธิบายเรื่องนี้ได้อย่างไร? ฟางมู่, เจ้ายังมีหน้าตาเหลืออยู่หรือไม่?”
ศิษย์สำนักชิงหลัวทั้งหมดในตอนนี้ ต่างก็มองมายังเมิ่งฮ่าว ใบหน้าของพวกมันเต็มไปด้วยสีหน้าแปลกๆ ปรมาจารย์จื่อหลัว และอีกสองคนมองมาโดยไร้คำพูดพร้อมคิ้วที่ขมวดขึ้น
“เจ้าจะหยุดพูดได้แล้วหรือยัง!?” เมิ่งฮ่าวคำรามออกมา ดวงตาเต็มไปด้วยแสงเจิดจ้า ซึ่งส่องประกายราวสายฟ้าในยามราตรีที่มืดมิด คำพูดของเขาดังก้องราวเสียงฟ้าผ่าไปบนพื้นที่ราบ ดังจนทำให้จิตใจของเฉินเจียสี่สั่นสะท้านขึ้นในทันที โดยไม่ได้ตระหนักถึง มันถอยหลังออกไปสองสามก้าว เสียงนั้นยังคงดังอยู่ในหูของมัน
เมิ่งฮ่าวก้าวเท้าตรงไป พูดขึ้นมาอย่างไร้มารยาท “เจ้าจึงพูดจาไร้สาระ! กลับดำเป็นขาว! เจ้าไม่อาจเปรียบกับข้าได้ในเรื่องของเต๋าแห่งการปรุงยา หรือทักษะในเรื่องพืชสมุนไพร แม้แต่เรื่องสูตรวิเศษในทันที เจ้าก็อยู่ล้าหลังห่างไกลจากข้านัก แต่เจ้าก็ยังกล้าที่จะแยกเขี้ยวกางเล็บต่อหน้าข้า?!”
“ข้า, ฟางมู่ พูดไปสามจุดเมื่อครู่นี้ และไม่มีการพูดถึงคำว่า ‘ของปลอม’ แม้แต่คำเดียว นั่นเป็นคำที่ออกมาจากปากเจ้า บังอาจนัก! การประลองนี้ก็เป็นความคิดของเจ้า พ่ายแพ้แล้วพ่ายแพ้อีกจึงได้เปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมา เจ้าคนชั้นต่ำ! เจ้าถามข้าว่ายังมีหน้าอยู่หรือไม่? ให้ข้าถามเจ้าเถอะ? ใครกันที่ไว้หน้าเจ้า?” เสียงเมิ่งฮ่าวดังมากขึ้น และมากยิ่งขึ้น แต่ละประโยคแทงเข้าไปในจิตใจของเฉินเจียสี่ราวกับกระบี่อันแหลมคม ดวงตามันเต็มไปด้วยเพลิงโทสะ แต่ขณะที่เมิ่งฮ่าวเข้ามาใกล้มัน ความหวาดกลัวก็พุ่งขึ้นมาในจิตใจ และมันก็ล่าถอยไปด้านหลังอีกครั้ง
“เจ้าเป็นแค่อาจารย์ปรุงยาชุดแดงของแผนกเม็ดยาพสุธา แม้แต่คนที่อยู่เหนือเจ้าในแผนกเม็ดยาพสุธาก็ยังไม่มีคุณสมบัติ ในการที่จะกล่าวหาว่าข้าใช้เล่ห์เหลี่ยมในการกลายมาเป็นเจ้าแห่งเตา ข้าเป็นเจ้าแห่งเตาได้เนื่องจากความกรุณาของเจ้าโอสถภูผานิรันดร์ และท่านก็ยอมรับในเม็ดยาที่ข้าปรุงขึ้นมา ดังนั้น การปฏิเสธข้าก็เหมือนกับการปฏิเสธเจ้าโอสถภูผานิรันดร์ และเป็นการปฏิเสธแผนกเม็ดยาพสุธาทั้งหมด!” เมิ่งฮ่าวก้าวเท้าตรงไปอีกหนึ่งก้าว คำพูดของเขาดังกระหึ่มก้องกระจายออกไปทั่วบริเวณนั้น
“ด้วยการกระทำเช่นนั้น ในฐานะที่เป็นศิษย์ของแผนกเม็ดยาพสุธา ก็ไม่มีอะไรนอกจากการเป็นกบฏกับสำนักของตัวเอง!”
เสียงกระหึ่มจากคำพูดของเมิ่งฮ่าว ส่งผลให้จิตใจเฉินเจียสี่หมุนเคว้งคว้าง ดวงตาของมันเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย “เจ้า…” ร่างของมันสั่นสะท้าน และมันก็ยกนิ้วชี้ไปที่เมิ่งฮ่าว ปกติแล้วมันสามารถคิดคำพูดที่แหลมคมออกมาได้อย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้ จิตใจของมันตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวาย และมันก็ไม่อาจแม้แต่จะพูดออกมาได้
เสียงคำพูดของเมิ่งฮ่าวดังกระหึ่มคล้ายสายฟ้า “ในการพยายามที่จะทำให้มีชื่อเสียง เจ้ายังได้ไม่ยอมรับซานจิ่วต้าชือ และเป็นกบฏต่อสำนักของตัวเอง! เจ้ามันคนชั้นต่ำ เลวร้ายกว่าสุกรหรือสุนัข! อะไรที่ทำให้เจ้าคิดว่า เจ้ามีหน้าตาพอที่จะมายืนวางมาดต่อหน้าข้า, ฟางมู่? อะไรที่ทำให้เจ้ากล้าที่จะมายืนบนเวทีเดียวกับข้า เมื่อข้ากำลังสอนเรื่องการปรุงยา?” เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดแขนเสื้อ คำพูดของเขากระแทกเข้าไปในหูของเฉินเจียสี่ ทำให้ร่างของมันสั่นระริก และจิตใจก็หมุนเคว้งคว้างปั่นป่วนไปมา
“ฟางมู่!” มันแผดร้องเสียงแหลมเล็ก
“สุดท้าย, มาพูดถึงเม็ดยาของเจ้า เปลือกนอกของมันมีอายุหนึ่งพันปี, ตรงกลางอายุเจ็ดร้อยปี และด้านในสุดอายุแค่สามร้อยปี มันไม่ใช่ของปลอม แต่มันไม่สามารถเพิ่มอายุขัยได้ถึงหนึ่งพันปี ทำไม? เพราะยาเม็ดนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นยาพิษ! ชั้นนอกของมันเป็นเพียงแค่เปลือกที่ห่อหุ้มไว้ ขณะที่เนื้อยาชั้นกลางช่วยปกปิดพิษที่แข็งตัวอยู่ที่ชั้นในสุด!”
“นักปรุงยาเจ้าเล่ห์เช่นไร ถึงจะปรุงยาเช่นนี้ออกมาได้? ยิ่งไปกว่านั้น เจ้ามีจุดประสงค์อะไรถึงได้นำมันออกมา? อย่าบอกข้านะว่า เจ้าวางแผนจะขายมันให้กับผู้อาวุโสของสำนักชิงหลัว? เมื่อกลืนยาเม็ดนี้ลงไป, เส้นลมปราณก็จะตีกลับ, ปราณและโลหิตจะไหลย้อนกลับ ภายในสามอึดใจ ก็จะมีโลหิตไหลซึมออกมาจากดวงตา, จมูกและปาก ภายในช่วงสูดลมหายใจเข้าออกสิบครั้ง เสื้อผ้าก็จะเปียกชุ่มไปด้วยโลหิต และจะมีความเจ็บปวดอย่างรุนแรงแสนสาหัส จนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ หลังจากธูปไหม้หมดไปหนึ่งดอก โลหิตก็จะแข็งตัว และตายไป!” เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดมือ ส่งกล่องหยก และเม็ดยาสีแดงลอยกลับไปยังเฉินเจียสี่ ซึ่งยืนอยู่ที่นั่น เส้นผมยุ่งเหยิงเป็นกระเซิง ตลอดทั้งร่างสั่นสะท้าน
เมิ่งฮ่าวแค่นเสียงเย็นชา จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่สามารถตัดตะปูเฉือนเหล็กกล้าต่อไป “นั่นคือคำตอบของฟางมู่ ถ้าเจ้าเอาของปลอมออกมา ข้าก็จะจำแนกมันได้อย่างง่ายดาย แต่การหยิบเอาเม็ดยาพิษออกมาเช่นนี้ ก็แสดงให้เห็นว่าเจ้าเป็นตัวอันตรายอย่างแท้จริง สมควรตายเป็นอย่างยิ่ง! ไม่มีความจำเป็นสำหรับข้าที่จะประลองกับเจ้าอีกต่อไป!!”
เฉินเจียสี่รู้สึกราวกับว่าจิตใจของมันกำลังถูกฉีกออกเป็นสองส่วน “นี่ไม่ใช่เม็ดยาพิษ!!” มันแผดร้องอย่างบ้าคลั่ง
“ถ้าเช่นนั้น ทำไมเจ้าไม่กลืนมันลงไป?!” เมิ่งฮ่าวกล่าว เสียงของเขาแหลมคมราวกับใบมีด ดวงตาสาดประกายราวสายฟ้า
“เจ้า!” เฉินเจียสี่ตะโกนลั่น มันได้รับความลำบากมากมายกว่าที่จะได้ครอบครองยาเม็ดนี้ และจริงๆ แล้ว มันก็วางแผนว่าจะขายเม็ดยานี้ให้กับสำนักชิงหลัวในราคาที่แพงลิ่ว แต่คำพูดของเมิ่งฮ่าวเมื่อครู่นี้ ได้ทำให้ปรมาจารย์จื่อหลัว และอีกสองปรมาจารย์ได้จ้องมองมาด้วยความหวาดระแวง ศิษย์สำนักชิงหลัวที่อยู่รอบๆ ก็จ้องมาด้วยเช่นกัน ใบหน้าของพวกมันดูเคร่งขรึมดุร้าย
หลี่อี้หมิงรู้สึกราวกับว่าอวัยวะภายในของมันกำลังจะระเบิดออกมา เรื่องราวเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เมื่อครู่นี้ เห็นได้ชัดว่า เฉินเจียสี่อยู่ในตำแหน่งที่เหนือกว่า เพียงชั่วพริบตาหลังจากนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับตาลปัตร จิตใจหลี่อี้หมิงหมุนคว้างด้วยความงุนงง
ไม่เพียงแต่มัน โจวเต๋อคุนก็มองมาราวเป็นใบ้ มันมั่นใจเป็นอย่างมากว่าเม็ดยานั้นเป็นของจริง และไม่เคยคาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน สิ่งที่เมิ่งฮ่าวกล่าวมาดูเหมือนจะมีเหตุผลสมบูรณ์พร้อม
“เจ้า…เจ้า!!” จิตใจเฉินเจียสี่หมุนคว้างอย่างรุนแรง จนมันแทบจะไม่เข้าใจว่าอะไรกำลังเกิดขึ้น มันได้ถูกต้อนไปอยู่ในมุมอับโดยเมิ่งฮ่าว ถ้ามันไม่กลืนเม็ดยา ทุกคนก็จะสงสัยมันอย่างแน่นอน
“ฟางงงมู่…!!!” มันแผดร้องเสียงดัง
ทันใดนั้น มันก็โยนเม็ดยาเข้าไปในปาก เส้นโลหิตก็เริ่มปรากฎขึ้นในดวงตา เส้นโลหิตโผล่ขึ้นมาบนหน้าผาก มันดูเหมือนเป็นปีศาจร้ายบางอย่าง ปรมาจารย์จื่อหลัวลังเลอยู่สักพักเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น แต่ก็ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยว
ชายชราหน้าแดงก่ำ ที่นั่งอยู่ข้างกายมัน ก็สั่นสะท้านภายในใจ ไม่ทำอะไรด้วยเช่นกัน
“ข้ากลืนมันลงไปแล้ว” มันแผดร้องจ้องมายังเมิ่งฮ่าว “เจ้าเห็นหรือไม่, ฟางมู่? ข้ากลืนเม็ดยาแรกเสริมฟ้าแล้ว!!”
“หนึ่ง, สอง, สาม…” เมิ่งฮ่าวกล่าว ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เมื่อเขาพูดคำว่า ‘สาม’ สามลมหายใจก็ผ่านไป ใบหน้าเฉินเจียสี่ก็เปลี่ยนไปในทันที ร่างของมันเริ่มสั่น และใบหน้าก็บิดเบี้ยว มันส่งเสียงแผดร้องอย่างโหยหวนออกมา จากนั้นโลหิตก็เริ่มไหลซึมออกมาจากดวงตา, จมูกและปากของมัน
ทันใดนั้น ผู้ฝึกตนทั้งหมดที่อยู่บนภูเขาห้าสิบเจ็ดของสำนักชิงหลัว ก็ระเบิดเสียงพูดคุยออกมา หลายคนลุกขึ้นยืน ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
สายตาหลี่อี้หมิงเริ่มพร่ามัว จิตใจของมันเต็มไปด้วยเสียงกระหึ่มหมุนเคว้งคว้าง ทำให้มันใกล้จะหมดสติไปในไม่ช้า
โจวเต๋อคุนอ้าปากค้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ขณะที่มันมองไปยังเฉินเจียสี่ที่ยืนอยู่ที่นั่น ส่งเสียงแผดร้องอย่างน่ากลัวออกมา โลหิตหยดลงมาจากใบหน้าของมัน
ม่านตาปรมาจารย์จื่อหลัวหดแคบลง จากนั้นก็เต็มไปด้วยเพลิงโทสะ ด้านข้างมัน ชายชราใบหน้าแดงก่ำขมวดคิ้ว และดวงตาของมันก็เริ่มเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
เมิ่งฮ่าวยืนอยู่ที่นั่นบนเวที กำลังนับด้วยเสียงแผ่วเบาต่อไป
“สี่, ห้า, หก…”
ขณะที่เมิ่งฮ่าวนับ เฉินเจียสี่ก็กองลงไปที่พื้น แผดร้องเสียงแหลมเล็กออกมา ร่างของมันสั่นกระตุก และโลหิตก็ไหลออกมาทั่วร่าง เส้นลมปราณของมันไหลย้อนกลับ เสียงปะทุได้ยินออกมาจากภายในร่างกาย กลุ่มหมอกโลหิตพ่นออกมาจากปาก ทำให้ชุดสีแดงของมันกลายเป็นชุดสีโลหิตอย่างแท้จริง
ทั้งหมดนี้ตรงกับที่เมิ่งฮ่าวอธิบายไว้ ในที่สุด ลมหายใจที่สิบก็จะมาถึง และเฉินเจียสี่ก็จะตกตายไป แต่อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เมิ่งฮ่าวพูดคำว่าเก้า ร่างของเขาทันใดนั้นก็เคลื่อนที่ไปข้างหน้า ยื่นมือขวากดลงไปที่ด้านบนศีรษะของเฉินเจียสี่ที่กำลังหายใจฟืดฟาดอยู่
ทันใดนั้น เสียงแผดร้องของเฉินเจียสี่ก็หยุดลง ร่างของมันสั่นสะท้าน ดูท่าทางอ่อนแอ แต่ก็ดูเหมือนว่า การเดินทางไปบนถนนแห่งความตายของมันได้หยุดชะงักไปชั่วขณะ จากการมองไป มันมีเวลาเหลืออยู่ชั่วครู่ก่อนที่ความตายจะมาเยือน
“เพื่อเจ้าโอสถภูผานิรันดร์, ฟางมู่จะช่วยชีวิตเจ้าไว้ในวันนี้” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ ด้วยสีหน้าสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย ดังนั้น จึงไม่มีใครรู้ว่า จิตใจของเขา จริงๆ แล้วก็กำลังพลุ่งพล่านไปด้วยคลื่นแห่งความตื่นเต้นอย่างยากที่จะอธิบายออกมาได้

About wuxiathai

Organic Theme is officially developed by Templatezy Team. We published High quality Blogger Templates with Awesome Design for blogspot lovers.The very first Blogger Templates Company where you will find Responsive Design Templates.

Copyright © 2015 ผนึกสวรรค์ สยบมาร สะท้านเทพ

Designed by Templatezy | Distributed By Gooyaabi Templates