เมิ่งฮ่าวรู้ดีถึงสิ่งทั้งหมดนี้ แน่นอนว่า สีหน้าของเขาก็ยังคงสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย และเขาก็ไม่สนใจใครอื่น เขาหยุดชะงักในแต่ละชั้น เพื่อดูดซับลมปราณให้มากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ และจากนั้นก็ทะยานขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง
ด้านหลังเขาไม่กี่จ้าง เป็นผู้ฝึกตนที่เหลือทั้งหมด พวกมันมองไปยังเมิ่งฮ่าวอย่างหมดหนทาง รอเขาเคลื่อนที่ต่อไป ก่อนที่พวกมันจะทำเช่นเดียวกัน
ดวงตาทุกคู่ในโลกแห่งนี้ กำลังมองไปยังเมิ่งฮ่าว เขาเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจทั้งหมด
การคัดเลือกบุตรเขยของตระกูลซ่ง กลายเป็นหินรองรับเท้าให้กับเมิ่งฮ่าว ไม่ว่าเขาจะเป็นผู้ชนะหรือไม่ เขาก็ได้ประทับเป็นความทรงจำอย่างลึกล้ำ ไว้ในจิตใจของซ่งเจี๋ยเรียบร้อยแล้ว รวมถึงเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นก่อนที่งานเลี้ยงจะเริ่มขึ้น ทำให้นางไม่สนใจคนอื่นๆ และเพ่งมองไปยังเมิ่งฮ่าวแต่เพียงผู้เดียว
บางทีนี่อาจจะเป็นชะตา หลังจากวันนี้ ห้าสำนัก และสามตระกูล ก็จะรู้ว่า เมิ่งฮ่าวก็เป็นผู้ถูกเลือกด้วยเช่นกัน!
บางทีนี่อาจจะเป็นชะตา หลังจากวันนี้ เรื่องราวของนักศึกษาเมิ่งฮ่าวของแคว้นจ้าว ก็จะกระจายออกไปทั่วทั้งดินแดนด้านใต้ ว่าในตอนนี้ยังมีเพิ่มอีกหนึ่งคน ท่ามกลางกลุ่มผู้ถูกเลือก!
ก่อนหน้านี้ โชคชะตาอาจจะไม่รู้ว่า เมิ่งฮ่าวจะกลายเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจ ผู้ฝึกตนมากมายจะได้ยินเรื่องราวของเขาเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง…เรื่องของเขาและฉู่อวี้เยียน ข่าวลือจะแพร่กระจายออกไปราวไฟลามทุ่ง ทั่วทั้งดินแดนด้านใต้
เมิ่งฮ่าวจะกลายเป็นสิ่งที่น่าอิจฉา สำหรับผู้ฝึกตนบุรุษมากมายจนนับไม่ถ้วน แน่นอนว่า เขาต้องกลายเป็นจุดสนใจของผู้ฝึกตนหญิงสาวมากมาย ตอนนี้ เขาได้กลายเป็นเรื่องอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับสี่สาวงามในดินแดนด้านใต้ไปแล้ว ทุกคนมุ่งความสนใจไปที่เขาในตอนนี้
ในเวลาเดียวกันนั้น คนที่ไม่เคยรู้เรื่องของเมิ่งฮ่าว ที่เกี่ยวข้องกับสำนักจื่อยิ่นในแคว้นจ้าวก่อนหน้านี้ ก็ต้องรู้เกี่ยวกับมันอย่างแน่นอนในตอนนี้ ชื่อของเมิ่งฮ่าวจะเป็นที่รู้จักกันไปทั่วมากขึ้นเรื่อยๆ
อันที่จริง ถ้ามีใครรู้เกี่ยวกับความแค้นระหว่างสำนักชิงหลัวและเมิ่งฮ่าว หรือรู้ว่าเขาได้ครอบครองขุมทรัพย์เซียนโลหิต เขาก็จะกลายเป็นผู้ฝึกตนที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักในดินแดนด้านใต้ทั้งหมดอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น ในตอนนี้ เขายังสามารถกวาดล้างผู้ถูกเลือก และโค่นล้มเต้าจื่อได้อย่างง่ายดาย
วันนี้เป็นเพียงสัญญาณแรกของสิ่งที่จะมาถึง นั่นก็คือ เมิ่งฮ่าวกำลังตัดแบ่งดินแดนด้านใต้!
เวลาผ่านไป สีหน้าเมิ่งฮ่าวราบเรียบเหมือนเช่นเคย ไปข้างหน้าเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง ด้านหลังเขา ผู้ฝึกตนมากมายกำลังเริ่มหมดความอดทน บุรุษเยาว์วัยจากสำนักจื่อยื่น มองดูเมิ่งฮ่าวดูดซับลมปราณอย่างช้าๆ และมันก็ขมวดคิ้ว ไม่อาจยอมรับสถานการณ์เช่นนี้ได้อีกต่อไป มันพุ่งตรงขึ้นไป
มันตบไปที่ถุงสมบัติ และทันใดนั้น ยันต์อาคมแปดแผ่นก็หมุนวนไปรอบๆ ตัว แสงเจิดจ้าปรากฎขึ้น ยันต์อาคมกลายเป็นเวทป้องกัน พร้อมเสียงร้องอย่างมีชัย มันพุ่งตรงขึ้นไป ผ่านเมิ่งฮ่าว และเข้าไปยังชั้นต่อไป
ผู้ฝึกตนขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งสำนักจื่อยิ่น กล่าวถึงอย่างเรียบๆ “นี่เป็นผู้ถูกเลือกจากสำนักจื่อยิ่น, หลิวเกา พื้นฐานฝึกตนของมันไม่ธรรมดา ยันต์อาคมทั้งแปดของมัน สามารถลดแรงกดดันใดๆ ได้ถึงแปดในสิบส่วน” แม้ในขณะที่คำพูดหลุดออกมาจากปาก ใบหน้าของมันทันใดนั้นก็เริ่มน่าเกลียดขึ้นในทันที
ทันทีที่หลิวเกาพุ่งผ่านเมิ่งฮ่าว และเข้าไปในพื้นที่ต่อไป ร่างของมันก็เริ่มสั่นไปมา ใบหน้าตรึงเครียด และโลหิตก็กระจายออกมาจากปาก ร่างของมันสั่นราวกับตกอยู่ภายใต้การโจมตี ทุกคนมองดู ขณะที่มันกู่ร้องออกมา และพยายามที่จะฝืนทน เมิ่งฮ่าวส่งเสียงกระแอมไอออกมา เขาหยุดนิ่งอยู่สักพัก มองขึ้นไป และรอคอย
หลังจากผ่านไปไม่กี่อึดใจ ศิษย์สำนักจื่อยิ่นก็กระอักโลหิตออกมามากขึ้น ทีละแผ่น ทีละแผ่น ยันต์อาคมทั้งแปดของมันแหลกสลายไป พร้อมเสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจ มันตกลงไปในทะเลด้านล่าง หลังจากนั้นก็โผล่ขึ้นมา ใบหน้าซีดขาว และเริ่มทะยานขึ้นมาอีกครั้ง ใช้เวลาไม่นาน มันก็มาอยู่ในกลุ่มคนที่อยู่ด้านล่างเมิ่งฮ่าว มันจ้องขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว และความนับถือ
ทุกคนมองไปยังเมิ่งฮ่าวอย่างครุ่นคิด เขากระแอมไออีกครั้ง และพุ่งขึ้นไป ดูดซับลมปราณไปตลอดรายทาง
ไม่มีใครกล้าพยายามจะผ่านเขาไปอีก พวกมันทำได้เพียงแค่ติดตามไปอย่างหมดหนทาง เวลาผ่านไปขณะที่เมิ่งฮ่าวทะลวงผ่านชั้นอื่นๆ ต่อไป ตอนนี้ เสาแห่งเต๋าต้นที่ห้าของเขา ก่อตัวไปแล้วเจ็ดในสิบส่วน
ยิ่งเขามุ่งหน้าไปไกลมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งต้องการลมปราณเพิ่มมากขึ้น ก่อนจะนานไปกว่านี้ เมิ่งฮ่าวก็อยู่ห่างจากส่วนยอดของต้นไม้ยักษ์ประมาณหนึ่งพันจ้าง
ดวงตาหวังเถิงเฟย สาดประกาย และหวังโหย่วฉายก็ไม่พูดอะไร ดวงตาของมันเจิดจ้า ความคาดหวังปกคลุมใบหน้าเจ้าอ้วน มันไม่เคยคิดจะพยายามผ่านเมิ่งฮ่าวไป แต่ก็จ้องมองว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น เมื่อเมิ่งฮ่าวไปถึงจุดสูงสุดนั้น
ไม่เพียงแต่ผู้ฝึกตนจะมีดวงตาส่องประกาย สูงขึ้นไปในชั้นกลุ่มเมฆ ผู้พิสดารจากห้าสำนักและสามตระกูล รวมถึงสมาชิกตระกูลซ่งทั้งหมด ต่างก็เพ่งมองไปยังเมิ่งฮ่าว ถึงแม้ว่าทุกคนจะไม่ได้คาดหวังในตัวเขา ก่อนการเข้าร่วมคัดเลือกบุตรเขยของตระกูลซ่ง แต่เมื่อมาถึงจุดนี้ ทุกคนก็มองไปที่เขาอย่างคาดหวังด้วยความกระตือรือร้น
พร้อมรอยยิ้ม, ซ่งเทียนกล่าว “ที่จุดบนสุดของต้นไม้, ยังมีการทดสอบสุดท้าย ด้วยผู้กล้าของสำนักและตระกูลต่างๆ ก็ยากที่จะบอกว่าใคร…จะสามารถผ่านการทดสอบสุดท้ายนี้ได้”
หนึ่งในผู้ฝึกตนขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งหัวเราะและกล่าวว่า “ข้าเคยได้ยินว่า ส่วนหนึ่งของประเพณีการคัดเลือกบุตรเขยของตระกูลซ่ง ได้เกียวข้องกับการทดสอบที่ยากมาก ข้าอยากรู้นักว่าการทดสอบนี้คืออะไร ท่านผู้อาวุโสซ่ง สามารถจะบอกกล่าวให้ฟังสักเล็กน้อยได้หรือไม่?”
“นั่นก็ใช่แล้ว” ผู้ฝึกตนขั้นวิญญาณแรกก่อตั้ง สำนักจินซวงกล่าว “ข้าก็เคยได้ยินเรื่องนี้เช่นเดียวกัน ท่านผู้อาวุโสซ่ง ช่วยบอกพวกเราบ้างได้หรือไม่? พวกเราทุกคนอยากรู้”
ทุกคนดูเหมือนจะสนใจเป็นอย่างมาก ที่จะได้ยินเกี่ยวกับการทดสอบครั้งสุดท้าย
ปรมาจารย์ตระกูลซ่ง, ซ่งเทียนหัวเราะเสียงดัง จากนั้น ก็มองไปยังบุรุษวัยกลางคน ซึ่งนั่งอยู่ด้านขวาของมัน “มู่ชิว, พวกเรากำลังคัดเลือกสามีให้กับบุตรีของท่าน ทำไมท่านถึงไม่อธิบายการทดสอบขั้นสุดท้ายนี้?”
บุรุษวัยกลางคนหน้าตาหล่อเหลา และดูร่างเริง เมื่ได้ยินคำพูดของปรมาจารย์ มันก็ประสานมือด้วยความเคารพ จากนั้นก็มองไปยังกลุ่มคน สายตาสาดประกายราวสายฟ้า จากนั้น มันก็ชำเลืองมองไปยังซ่งเจี๋ย ความอบอุ่น ความรัก ก็เต็มอยู่บนใบหน้าของมัน
เสียงของมันราบเรียบ, ซ่งมู่ชิว กล่าว “การทดสอบครั้งสุดท้าย ในการคัดเลือกบุตรเขยครั้งนี้ แตกต่างจากการทดสอบของคนรุ่นก่อนอยู่เล็กน้อย นี่เป็นการทดสอบจิตแห่งเต๋าของผู้ฝึกตน!”
ผู้ฝึกตนขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งขมวดคิ้ว
ผู้อาวุโสฝานจากสำนักกูตู๋เจี้ยนขมวดคิ้ว และดื่มสุราลงไป “เรื่องของจิตแห่งเต๋า แม้แต่พวกเราก็ยังไม่ชัดเจน นับประสาอะไรกับเจ้าเด็กพื้นฐานลมปราณเหล่านั้น”
“นั่นถึงเป็นเหตุผลที่ทำไมการทดสอบครั้งนี้ถึงได้พิเศษเฉพาะ” ซ่งมู่ชิวกล่าวตอบ “ผู้อาวุโสฝานกล่าวได้ถูกต้อง จิตแห่งเต๋าเป็นเรื่องลี้ลับ และยากหยั่งถึง จริงๆ แล้ว ตระกูลซ่งเชื่อว่า หนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดของจิตแห่งเต๋า ก็คือการที่ถูกกำหนดโดยบุคลิกส่วนตัว และพฤติกรรม เมื่อรวมทั้งสองอย่างนี้เข้าด้วยกัน ก็จะกลายเป็นความดื้อรั้นของบุคคล…นั่นก็คือจิตแห่งเต๋า ดังนั้น ถึงแม้ว่า การทดสอบของวันนี้จะไม่ได้ข้อสรุป มันก็จะบอกพวกเราได้ว่าจะเป็นอะไร จริงๆ แล้ว มันได้เกี่ยวข้องกับจิตแห่งเต๋า การทดสอบนี้ แท้จริงก็คือทางเลือก!” หลังจากที่พูดออกไปมากมาย ซ่งมู่ชิวก็ปิดปากของมัน และไม่ยอมพูดมากไปกว่านี้
ทุกคนต่างก็จมลงไปในห้วงความคิด สำหรับซ่งเจี๋ย นางมองไปยังเมิ่งฮ่าวภายในกลุ่มเมฆกระแสน้ำวนต่อไป อยากรู้ว่าทางเลือกอะไร ที่เขาจะเลือกในช่วงการทดสอบครั้งสุดท้าย…
ดวงตาซ่งหยุนซู สาดประกาย ขณะที่มองไปยังกลุ่มเมฆกระแสน้ำวนอย่างเงียบๆ มันเป็นเต้าจื่อของตระกูลซ่ง และขณะที่มันมองเมิ่งฮ่าว ความรู้สึกไม่สบายใจก็พุ่งขึ้นมาในจิตใจ มันคุ้นเคยกับการปกปิดอารมณ์ความรู้สึก ด้วยการแสดงสีหน้าที่เยือกเย็น แต่มันก็อยากรู้ว่า เมิ่งฮ่าวจะเลือกอะไรเป็นอย่างยิ่ง
“ด้วยการเป็นเต้าจื่อของตระกูลซ่ง ข้าสามารถไปทดสอบตัวเองล่วงหน้า ทางเลือกของข้า…” ซ่งหยุนซูตกอยู่ในห้วงภวังค์ความคิด มันเพียงทำสำเร็จในความพยายามครั้งที่สองของมัน ความสำเร็จเช่นนั้น ทำให้มันได้รับคำสรรเสริญเยินยอจากท่านปรมาจารย์ซ่งเทียนอย่างมากมาย
พร้อมรอยยิ้ม, ปรมาจารย์ซ่งเทียนกล่าว “มู่ชิว พูดให้ฟังดูซับซ้อน การทดสอบครั้งสุดท้ายก็คือ ทางเลือก และเป็นการทดสอบความเห็น ข้าขอกล่าวให้ชัดเจนว่า เต้าจื่อของตระกูลซ่งพวกเรา ได้ทำสำเร็จในความพยายามครั้งที่สองของมัน” มันชำเลืองมองไปยังซ่งหยุนซู ด้วยท่าทางภาคภูมิใจ
นี่ยิ่งทำให้ทุกคนอยากรู้มากขึ้นกว่าเดิม พวกมันทั้งหมดมองกลับไปยังด้านล่าง รอคอยเมิ่งฮ่าวให้ทะลวงผ่าน พวกมันยังได้เพ่งดูกลุ่มผู้ฝึกตนด้านหลังเขาด้วย ทุกคนต่างก็รอคอยโอกาสที่จะพุ่งทะยานตรงไป
เมิ่งฮ่าวเริ่มเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็วเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ ตอนนี้เสาแห่งเต๋าต้นที่ห้าของเขาก่อตัวแปดในสิบส่วน และเขาก็ยิ่งต้องการลมปราณมากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ เขายังจำได้ถึงภาพอันน่ากลัว เมื่อเขาได้ก่อตั้งเสาแห่งเต๋าต้นล่าสุด เมิ่งฮ่าวต้องการรู้ให้แน่ว่า มีลมปราณอย่างเพียงพอในสถานที่แห่งนี้ ก่อนที่เขาจะก้าวไปถึงจุดที่ไม่อาจหวนกลับ
มิเช่นนั้น เมื่อจุดวิกฤติได้มาถึง เขาก็ไม่มีทางเลือก นอกจากต้องกลืนกินผู้ฝึกตนคนอื่นๆ นั่นเป็นเส้นทางที่เมิ่งฮ่าวไม่ต้องการจะเดินไป
ด้วยความรอบคอบ แต่ก็รวดเร็ว เขาดูดซับลมปราณ มุ่งหน้าต่อไป ทิ้งลมปราณบางส่วนไว้เบื้องหลัง และเคลื่อนที่ไปยังชั้นต่อไป เขาเข้าไปใกล้ยังจุดสูงสุดของต้นไม้อย่างรวดเร็ว แต่เพราะเขาได้ทิ้งลมปราณบางส่วนไว้เบื้องหลัง ผู้ฝึกตนที่ด้านหลังเขา ทันใดนั้น ก็เผชิญกับแรงกดดันที่ต้านไว้ ทำให้ไม่มีทางเลือก นอกจากต้องเคลื่อนที่ช้าลง
พวกมันย่ำเท้าไปอย่างหมดท่า ในตอนนี้ พวกมันและเมิ่งฮ่าวก็ยิ่งห่างไกลกันมากขึ้น ดวงตาหวังเถิงเฟยแดงก่ำโดยสิ้นเชิง มันไล่ตามไปอย่างบ้าคลั่ง
เมิ่งฮ่าวในตอนนี้ อยู่ห่างจากจุดบนสุดของต้นไม้เพียงแค่ห้าร้อยจ้าง
สามร้อยจ้าง, สองร้อยจ้าง, หนึ่งร้อยจ้าง…ห้าสิบจ้าง, สิบจ้าง…เมิ่งฮ่าวทะยานขึ้นไป ข้ามผ่านช่องว่างสุดท้าย ไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของต้นไม้
ในตอนนี้, ดวงตาทุกคู่ต่างก็มองไปที่เขา!