วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2560

ตอนที่ 16 : มานี่!

Posted By: wuxiathai - 19:19
สีหน้าของผู้ฝึกตนที่มุงดูอยู่รอบๆ เนินที่ราบสูงเริ่มซีดขาว การโจมตีของเมิ่งฮ่าวทั้งแน่วแน่และเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่โหดร้าย ซึ่งตัวเมิ่งฮ่าวเองไม่เคยได้สังเกตเห็น สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ แน่นอนว่าจะเป็นแนวโน้มให้ผู้ฝึกตนอื่นๆ ทำตามต่อไป
ในสายตาของผู้ที่มุงดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ยกให้เมิ่งฮ่าวกลายเป็นบุคคลอันดับหนึ่งบนที่ราบสูงแห่งนี้ไปเรียบร้อยแล้ว บางทีทั่วทั้งบรรดาศิษย์สายนอกทั้งหมด เมิ่งฮ่าวก็เป็นหนึ่งในกลุ่มของผู้ที่มีพลังสูงสุด
ผู้ฝึกตนหลายคนได้คิดย้อนกลับไปในครึ่งเดือนที่ผ่านมา ด้วยพลังการฝึกตนที่ค่อนข้างสูงของเมิ่งฮ่าว เขาสามารถที่จะปล้นแย่งชิงใครก็ได้ตามที่เขาต้องการ เป็นความจริง ที่ลูกค้าของร้านเขาไม่ได้มีความยินดีที่จะซื้อเม็ดยา แต่เขาก็ปฏิบัติต่อพวกมันอย่างอ่อนโยน คนส่วนใหญ่เริ่มมองไปที่เมิ่งฮ่าวด้วยความหวาดหวั่นเกรงขาม
ไม่มีการต่อสู้แย่งชิงกันบนเนินที่ราบสูงในวันนั้น หลังจากที่เมิ่งฮ่าวกลับไป ข่าวที่พลังลมปราณของหลู่หงถูกทำลายก็แพร่กระจายออกไปราวกับสายลม ความจริงที่ว่ามันได้อ้างชื่อของหวังเถิงเฟย ยิ่งถูกพูดคุยถึงมากเป็นพิเศษ และยิ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ข่าวนี้แพร่กระจายออกปรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เมื่อตกกลางคืน ทุกคนในเขตศิษย์สายนอกก็ได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้ทุกคนก็รู้จักเมิ่งฮ่าว
ณ ยอดเขาตะวันออก ซึ่งปกคลุมด้วยกลุ่มควันของก้อนเมฆหลากสี  มันเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของสำนักเอกะเทวะ และเป็นสถานที่ของศิษย์สายใน ยอดเขาลูกนี้มีพลังลมปราณกระจายไปทั่วมากกว่ายอดเขาลูกใดๆ ของสำนัก และเป็นที่ที่เจ้าสำนัก เฮ่อหลัวฮว่า มักจะไปนั่งกัมมัฎฐานโดยลำพัง
ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ยังรุ่งเรืองของสำนักเอกะเทวะ ยอดเขาทั้งสี่มักจะเต็มไปด้วยศิษย์สายใน ที่มีระดับขั้นเจ็ดของการรวบรวมลมปราณขึ้นไป แต่ตอนนี้ มีเพียงศิษย์หญิงฉื่อ และเฉิน เท่านั้นที่อยู่บนยอดเขาตะวันออก ขณะที่ยอดเขาอื่นๆ ถูกปล่อยทิ้งให้รกร้างว่างเปล่า
ตรงเชิงภูเขาตะวันออก มีถ้ำแห่งเซียนที่กว้างใหญ่กว่าของเมิ่งฮ่าว แท้จริงแล้วมันเป็นถ้ำแห่งเซียนที่ดีที่สุดในเขตสำนักเอกะเทวะสายนอก มันถูกจัดให้เป็นที่อยู่อาศัยของผู้ที่จะก้าวขึ้นเป็นศิษย์สำนักสายใน
ด้านในถ้ำมีน้ำพุลมปราณ ที่เคยมีพลังลมปราณที่หนาแน่น และส่งกลิ่นหอมกระจายไปทั่ว แต่ตอนนี้แห้งขอดไปหมดแล้ว
แน่นอนว่า ท่ามกลางศิษย์ทั้งหมดของสำนักเอกะเทวะสายนอก มีเพียงคนเดียวที่คู่ควรกับการครอบครองสถานที่เช่นนี้ ก็คือ หวังเถิงเฟย ผู้ที่ฟ้าคัดสรรนั่นเอง
มันนั่งขัดสมาธิในชุดยาวสีขาว อันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของมัน สีหน้าเรียบสงบ มองไปยังหลู่หงที่นั่งคุกเข่าเบื้องหน้ามัน สีหน้าหลู่หงซีดขาวและร่างกายสั่นไหว พลังลมปราณของมันถูกทำลายโดยเมิ่งฮ่าวไปจนหมดสิ้น
“…ข้าวิงวอนต่อศิษย์พี่หวังให้ช่วยผดุงความยุติธรรมให้ข้าด้วย” มันพูดผ่อนลมหายใจ
“มันเจ้าเล่ห์มากกว่าที่ท่านคิดไว้ มันกำลังจะหนีออกจากสำนัก”
ทุกครั้งที่หลู่หงมองไปที่ศิษย์พี่หวัง ก็รู้สึกว่าช่างเป็นบุคคลที่สมบูรณ์พร้อมไร้ที่ติ ความรู้สึกนี้ยิ่งรุนแรงขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา ในขณะที่พลังฝึกตนของหวังเถิงเฟยยิ่งมาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
“ถ้ามันหนีไป” หวังเถิงเฟยกล่าวด้วยเสียงอ่อนนุ่ม “มันจะเป็นการละเมิดกฎของสำนัก และข้าจะส่งใครบางคนไปสังหารมัน” มันยิ้มด้วยสีหน้าที่น่าดู ซึ่งทำให้ทุกคนชอบมัน และพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล ที่ทำให้มันดูสูงส่ง
หลู่หงไร้คำพูดที่จะกล่าว มันโขกศีรษะ สีหน้าเต็มไปด้วยการวิงวอน ร่างสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้
“ดีมาก” หวังเถิงเฟยกล่าว “มันทำร้ายเจ้าอย่างโหดเหี้ยม ต้องกำราบให้เป็นเยี่ยงอย่าง ข้าจะไปเกลี้ยกล่อมท่านลุงซ่างกวนที่ยอดเขาตะวันออก และพยายามที่จะไม่สร้างความลำบากใจให้กับศิษย์พี่หญิงฉื่อ เมิ่งฮ่าวต้องถูกทำลายพลังลมปราณทั้งหมด เอาทรัพย์สมบัติของมันมาแจกจ่าย และต้องถูกตัดแขนและขาอย่างละข้าง เพื่อแทนคำขอโทษของมัน เพียงพอหรือไม่?”
มันพูดราวกับว่ามันได้จัดการเรื่องปกติธรรมดาทั่วไปในสำนักเอกะเทวะ เหมือนกับว่าด้วยคำพูดคำเดียวของมัน ก็สามารถทำลายพลังลมปราณ พร้อมทั้งแขนและขาของเมิ่งฮ่าวได้อย่างง่ายดาย มันยิ้มอย่างอ่อนโยนเหมือนเคย สมบูรณ์ไร้ที่ติ
“ข้าน้อยขอขอบคุณเป็นอย่างมาก เจ้าผู้นั้น…มันชั่วร้ายเลวทราม…” หลู่หงกัดฟัน ในใจเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“ถ้างั้นข้าก็จะขับไล่มันออกจากสำนัก” หวังเถิงเฟยกล่าวเสียงเรียบเฉย ราวกับว่ามันกำลังพูดคุยเรื่องไร้สาระทั่วไปอยู่ “มันสามารถที่จะหนีเข้าไปในป่า และกฎแห่งธรรมชาติก็จะสอนบทเรียนแก่มันเอง”
ในเวลาเดียวกันนั้น เมิ่งฮ่าวนั่งขัดสมาธิ อยู่ในถ้ำแห่งเซียน ที่ภูเขาทิศใต้ มองดูขวดน้ำเต้าหยกในมือด้วยสีหน้าหมองคล้ำ การก้าวข้ามไปถึงขั้นสี่ของการรวบรวมลมปราณ แล้วไปต่อสู้ เขาได้ใช้พลังลมปราณไปจนเกือบหมด แต่ในที่สุดก็ได้น้ำเต้าวิเศษมาชดเชย
ดูเหมือนว่าทุกอย่างง่ายดายไปหมด ตั้งแต่ที่เขาเข้ามาสู่สำนักเอกะเทวะ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นเพราะความฉลาดและการมองการณ์ไกลของเขาเอง ถ้าเป็นบุคคลอื่น ก็คงตกอยู่ในอันตรายตั้งแต่วันแรกของวันแจกจ่ายเม็ดยาแล้ว
หลังจากนั้น เขาก็ได้รับการปกป้องจากพลังลึกลับของกระจกทองแดง จากการที่จ้าวอู่กังจะมาแย่งชิงทรัพย์สมบัติของเขาหน้าถ้ำแห่งเซียน ถ้าจ้าวอู่กังไม่ตาย อนาคตของเมิ่งฮ่าวคงมืดมัว และสูญเสียสิ่งของทุกอย่างไป นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาได้สังหารคน
ถ้าเขาไม่ได้เปิดร้านขายเม็ดยา เขาก็คงไม่ก้าวมาถึงจุดนี้ได้ เหมือนกับว่าสายลมแห่งโชคชะตาได้พัดพาความยากลำบากที่ไม่คาดคิดมาให้เขาอย่างไม่รู้ตัว
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนสายฟ้าแห่งพายุที่โหมกระหน่ำสาดซัดเข้ามา เมิ่งฮ่าวมองลงไปอย่างเงียบเชียบที่ขวดน้ำเต้าหยก คิดไปถึงศิษย์สายนอกอันดับหนึ่ง ผู้ที่ฟ้าประทานมา หวังเถิงเฟย คิดถึงความสมบูรณ์เพียบพร้อมของมัน เมิ่งฮ่าวรู้สึกเหมือนกับมีแรงกดดันของภูเขาทั้งลูกได้กดทับลงมาที่เขา จนเกือบจะไม่สามารถหายใจได้
เขาต้องการที่จะหนีไป แต่เขาก็รู้ว่าเขาไม่มีสิ่งใดเลย เป็นแค่เพียงศิษย์ตัวเล็กๆ ในสำนัก การหลบหนีถือเป็นการละเมิดกฎอย่างร้ายแรงของสำนัก นั่นเป็นการทำให้ผู้อาวุโสของสำนักไล่ติดตาม และเขาต้องตายแน่นอน
“ถ้าข้ารู้แต่เนิ่นๆ ว่า หลู่หง มีหวังเถิงเฟย อยู่เบื้องหลัง…” เมิ่งฮ่าวพึมพำ หลังจากนั้นสักพัก ความมุ่งมั่นอันแน่วแน่สาดประกายในดวงตา
“ยังไงข้าก็จะทำเหมือนเดิม ถ้าข้าไม่โจมตีมัน มันก็จะสังหารข้า ข้าไม่ได้บังคับมัน มันต่างหากที่บังคับข้า ยังไงก็ได้สร้างความแค้นต่อกันไว้แล้ว นอกเสียจากว่าข้าจะปล่อยให้เฉาหยางปล้นทรัพย์สินของข้าไป ผลทุกอย่างก็คงต้องออกมาเป็นแบบนี้ ถึงแม้ว่าข้าจะยอมให้มากแค่ไหน ข้าก็ไม่สามารถป้องกันไม่ให้มันยึดเอาการค้าของข้าไปได้” สายตาของเขาเปล่งประกาย ในขณะที่เขาดูเหมือนจะโศกเศร้าอยู่ในถ้ำแห่งเซียนนั้น
“แย่นักที่ศิษย์พี่หญิงฉื่อกำลังปลีกวิเวกนั่งกัมมัฎฐานอยู่…” สิ่งแรกที่เขาทำหลังจากทำลายพลังลมปราณของหลู่หงก็คือตามหานาง แต่ก็ถูกแจ้งว่าห้ามรบกวนเมื่อศิษย์สายในนั่งกัมมัฎฐาน
“ขวดน้ำเต้าหยกนี้…” มันมีพลังอย่างเหลือเชื่อ เมื่อเขาได้ทดสอบด้วยพลังลมปราณของเขา มันระเบิดพลังเวทออกมาจนทำให้หัวใจเขาเต้นรัว เขาคิดว่าควรจะใช้มันช่วยเหลือเขาอย่างไร บางทีเขาอาจะสามารถก้าวข้ามไปที่ระดับห้าของการรวบรวมลมปราณด้วยขวดน้ำเต้านี้
สิ่งแปลกประหลาดก็คือ ขวดน้ำเต้าหยกนี้ไม่สามารถใส่ลงในถุงเก็บสมบัติได้ มีแต่แขวนไว้บนร่างกายเท่านั้น น่าเศร้าใจนัก เขาไม่มีหินลมปราณเหลืออยู่เลย เขาใช้มันทั้งหมดไปกับการก้าวข้ามระดับสามของการรวบรวมลมปราณ มิฉะนั้นเขาอาจะลองใช้กระจกทองแดง สร้างขวดน้ำเต้าหยกขึ้นมาอีกขวดหนึ่ง
สำนักนี้ไม่ใช่โลกมนุษย์ปุถุชน มันง่ายมากที่จะเสียชีวิตที่นี่ ถ้าข้าสามารถป้องกันหายนะครั้งนี้ โดยการส่งมอบขวดน้ำเต้าหยกนี้ออกไป บางทีข้าควรจะลองทำดู…” เขาไม่อยากที่จะทำแบบนี้ แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่มีทางเลือก ในขณะที่เขากำลังหมกมุ่นกับความคิดนี้ เสียงอันน่ากลัวลอยผ่านประตูหินของถ้ำแห่งเซียนเข้ามาในคืนที่มืดมิด
“ข้าคือซ่างกวนเกอ มาที่นี่เพื่อช่วยศิษย์พี่หวังทวงหาความยุติธรรม เมิ่งฮ่าว เจ้าจงออกมาจากถ้ำแห่งเซียน และโขกศีรษะให้ข้าเดี๋ยวนี้”
เสียงเย็นเยียบเหมือนจะดังไปทั่วทั้งถ้ำ เมิ่งฮ่าวสองตาสาดประกาย เงยหน้าขึ้น สีหน้าไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อย เขาคิดไว้อยู่แล้วว่า ต้องมีใครสักคนมาตามหาเขา
เมิ่งฮ่าวเงียบไปชัวครู่ จากนั้นก็พูดขึ้นช้าๆ “คืนนี้ดึกมากแล้ว ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ศิษย์พี่ ถ้ามีสิ่งใดที่ต้องการกล่าว ก็กล่าวออกมาเถอะ”
“ช่างหยิ่งยโสนัก” เสียงนั้นเอ่ยขึ้น เห็นได้ชัดเจนว่าไม่พอใจ พ่นลมออกจากจมูกด้วยความเย็นชา
เมิ่งฮ่าวไม่พูดจา ยังคงอยู่ในความเงียบ
“ถ้าเจ้าไม่เปิดประตู ก็ดี ข้าจะแจ้งคำสั่งของศิษย์พี่หวังให้ฟัง เมิ่งฮ่าว ศิษย์สำนักสายนอก ไม่ทุ่มเทใส่ใจที่จะฝึกฝนตัวเอง สร้างความวุ่นวายในเขตส่วนรวม ใช้วิธีการอันเลวทรามต่ำช้ากับศิษย์คนอื่นๆ อย่างไรก็ตาม เห็นแก่การที่อายุยังน้อย จึงไม่พิจารณาลงโทษให้ถึงแก่ความตาย ให้ส่งมอบทรัพย์สมบัติที่มีทั้งหมดออกมา ทำลายพลังลมปราณของตัวเอง ตัดแขนและขาออกอย่างละข้าง และถูกไล่ออกจากสำนักไปอยู่ในป่าหลังเขา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เจ้าไม่ใช่ศิษย์ของสำนักเอกะเทวะอีกต่อไป”
เมื่อเมิ่งฮ่าวได้ฟังเสียงอันน่ากลัวนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเศร้าหมอง จากนั้นเมื่อเขาได้ยินคำพูดตอนท้าย สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นไม่พอใจขึ้นมาทันที
“คำพูดของศิษย์พี่หวัง ไม่ใช่กฎของสำนัก” เมิ่งฮ่าวพูดเสียงหนักแน่น
“คำพูดของศิษย์พี่หวัง คือกฎของสำนัก” คนด้านนอกพูดต่อ โดยไม่แยแสการพูดสอดแทรกของเมิ่งฮ่าว “พรุ่งนี้จะเป็นวันแจกจ่ายเม็ดยา เจ้าต้องไปคุกเข่าเอ่ยคำขอโทษ และโขกศีรษะให้กับหลู่หง จากนั้นก็รอรับการลงโทษ” จากนั้นมันก็สะบัดชายเสื้อหันกลังกลับและจากไป
เมิ่งฮ่าวนั่งคิดใคร่ครวญอยู่ในความเงียบ เวลาผ่านไป และรุ่งอรุณมาเยือน สายตาเขาเต็มไปด้วยสายเลือด เขาไม่รู้ว่าจะทำประการใดดี อีกฝ่ายต้องการขวดน้ำเต้าหยกคืน และต้องการเห็นเขาตาย โดยปราศจากความปราณี เขาต้องทำลายพลังลมปราณ ตัดแขนตัดขา และขับไล่เขาออกจากสำนัก ให้ไปอยู่ในป่าในภูเขา ถ้ามันเกิดขึ้นจริง เขาคงไร้ความหวังโดยสิ้นเชิง
“ข้าควรทำอย่างไรดี…” เขาเอ่ย กำหมัดแน่น สองตาแดงฉาน ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกอ่อนแอและหมดหนทาง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาหวังว่าเขาจะมีพลังมากกว่านี้ ถ้าเขามีพลังมากขึ้น เขาคงไม่ถูกข่มเหงแบบนี้ เขาคิดมากขึ้น
“อย่าบอกนะว่า ทางเลือกเดียวของข้าก็คือการหลบหนี…” สายตาเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เงยหน้าขึ้น และเดินออกไปจากถ้ำแห่งเซียน แต่เมื่อเขาเดินออกไป ก็ต้องหยุดเดินด้วยความลังเล
“ไม่, นี่ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง…” เขาก้มหน้าคิดสักพัก จากนั้นก็หันหลังเดินกลับเข้าไปในถ้ำนั่งขัดสมาธิ
ตอนเช้าเมิ่งฮ่าวลืมตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือด เขาไม่ได้นั่งกำหนดลมหายใจฝึกโคจรลมปราณ แต่ใช้เวลาทั้งคืนในการครุ่นคิดใคร่ครวญ แต่พลังการฝึกตนของเขาต่ำเกินไป เขาคิดวิธีอื่นไม่ออก นอกจากการหนีออกจากสำนัก แต่ก็แน่นอนที่ศัตรูของเขาก็คงคิดว่าเขาต้องทำแบบนั้น การหลบหนีมีค่าเท่ากับตาย เขาจะถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ทรยศต่อสำนัก
เสียงระฆังดังมาจากที่ห่างไกล วันแจกจ่ายเม็ดยามาถึงแล้ว เมิ่งฮ่าวรู้ดีว่า ถึงเขาจะซ่อนตัวอยู่ในถ้ำแห่งเซียน มหันตภัยครั้งนี้ก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่ดี
“กฎแห่งป่า ปัญหาทั้งหมดนี้เป็นเพราะว่าพลังการฝึกตนของข้าต่ำเกินไป ชายชาตรีที่แท้จริงไม่ควรมานั่งโศกเศร้า ข้าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อแก้ปัญหานี้” เขาถอนหายใจเล็กน้อย เขาถูกผลักให้ไปยืนที่ขอบเหว โดยไม่เหลือพื้นที่ให้หลบหนี เขาสงบจิตใจลง จากนั้นก็จัดแจงเสื้อผ้าให้ดูเรียบร้อย มองไปรอบๆ ถ้ำแห่งเซียน จากนั้นก็เปิดประตูหิน มองออกไปที่ท้องฟ้า และแนวป่าที่เหมือนทะเลสีมรกต
เวลาผ่านไป เขาก้าวเดินออกไปข้างหน้า เดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็สังเกตเห็นคนผู้หนึ่งเดินออกมาจากแนวป่าด้านหลัง จ้องมาที่เขาด้วยความเย็นชา
“เจ้าไม่ได้หนีไป นับว่ายังไม่โง่เขลานัก” เมิ่งฮ่าวจำสำเนียงของคนผู้นี้ได้ มันคือซ่างกวนเกอ
เมิ่งฮ่าวเคยเห็นมันมาก่อนหน้านี้ มันเป็นหนึ่งในศิษย์ที่เดินมาพร้อมกับหวังเถิงเฟยในวันนั้นที่ภูเขาทิศตะวันออก ท่านปู่ของมันเป็นหนึ่งในศิษย์ผู้อาวุโสของสำนัก มันเป็นผู้ที่มาคอยจับตาดูเมิ่งฮ่าวว่าจะหนีไปหรือไม่ ถ้าเมิ่งฮ่าวหนีไป เขาก็จะถูกตราหน้าว่าเป็นศิษย์ผู้ทรยศ และถูกสังหารในที่สุด
เมิ่งฮ่าวหันหลังกลับ และเดินตรงไปที่เขตสำนักสายนอก
ซ่างกวนเกอหัวเราะเสียงเย็นชา สายตาเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย ในความเป็นจริง มันได้จากไปเมื่อตอนกลางคืน เพื่อไปหาปู่ของมัน ซ่างกวนซิว ถึงแม้ว่าเมิ่งฮ่าวเลือกที่จะหลบหนีไปในยามราตรี เขาก็จะตกเข้าไปในกับดัก และประสบกับความตายที่น่ากลัว
ซ่างกวนเกอเดินตามเมิ่งฮ่าวไปตลอดเส้นทาง เมื่อพวกเขาเดินไปถึงเขตสำนักสายนอก ศิษย์คนอื่นๆ มองมา คนแล้วคนเล่า แต่ละคนแสดงสีหน้าแตกต่างกันไป ดูเหมือนว่าทุกคนได้คิดถึงเหตุการณ์นี้ไว้แล้ว ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่จะรู้สึกสงสารเห็นใจเมิ่งฮ่าว ทุกคนแสดงสีหน้าเยาะเย้ยมาที่เขา
ในไม่ช้า เขาก็มาถึงพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสของสำนักสายนอก เสาที่สลักรูปมังกรส่องแสงสว่าง ศิษย์สายนอกยืนเต็มรอบบริเวณนั้น ที่ห่างไกลออกไป เมิ่งฮ่าวเห็นหวังเถิงเฟยในชุดสีขาว ล้อมรอบไปด้วยกลุ่มศิษย์สายนอก
แสงแดดส่องไปกระทบชุดสีขาวของมัน ทำให้ส่องประกายคล้ายหิมะ เส้นผมที่ยาวของมันสยายไปบนไหล่ มองดูงามสง่าไร้ที่ติ เหมือนกับภาพวาดของเทพเซียน กิริยาท่าทางของมัน ทำให้ผู้คนสนใจที่จะรู้จักมัน มองดูเหมือนผู้ที่ถูกเลือกอย่างแท้จริง
มันพูดคุยอย่างอ่อนโยนกับศิษย์รอบๆ ตัวมัน แสดงท่าทีเป็นมิตรกับทุกคน โดยไม่คำนึงถึงพื้นฐานพลังการฝึกตนของแต่ละคน บางครั้งมันก็พยักหน้า บอกเคล็ดลับเกี่ยวกับการฝึกตน ทำให้ทุกคนปฏิบัติต่อมันด้วยความนับถือเป็นอย่างยิ่ง
ศิษย์ผู้หญิงทั้งหมด ก็ดูเหมือนว่าจะหลงไหลในตัวมัน พวกนางดูเหมือนต้องการที่จะไปยืนเคียงข้างมัน ราวกับว่าทุกกิริยาท่าทางของมันทำให้พวกนางเคลิบเคลิ้ม
แม้แต่ศิษย์ผู้อาวุโสที่ยืนบนแท่นเวทีสูง ก็มองลงมาที่มันด้วยความรักและการยอมรับ
ไม่ว่าหวังเถิงเฟยไปที่ไหน มันก็จะกลายเป็นศูนย์กลางของจุดสนใจ มันดูดี สุภาพเรียบร้อย สมบูรณ์พร้อมไร้ที่ติ หลอมรวมเข้าด้วยกันเปล่งประกายเจิดจ้า จนเกือบจะเผาไหม้ดวงตาเมิ่งฮ่าว เขากำมือเป็นหมัดจนแน่น
เมื่อศิษย์สายนอกมาถึงทั้งหมด หวังเถิงเฟยไม่เคยเหลือบมองมาที่เมิ่งฮ่าวแม้แต่ครั้งเดียว มันรู้ว่าเมิ่งฮ่าวมองดูมันอยู่ แต่มันไม่มีความหมายอะไรสำหรับหวังเถิงเฟย เหมือนกับจิ้งหรีดตัวหนึ่งจ้องมองมา
เมื่อทุกสิ่งจบลง และเสาลวดลายมังกรเริ่มมืดลง เสียงสุภาพของหวังเถิงเฟยดังไปทั่วในอากาศ
“มานี่!”
มันเป็นประโยคธรรมดา แต่เมื่อดังออกมา ในทันใดนั้น ทุกคนก็มองไปที่หวังเถิงเฟย มองเห็นสายตาของมันจ้องมองไปที่เมิ่งฮ่าว

About wuxiathai

Organic Theme is officially developed by Templatezy Team. We published High quality Blogger Templates with Awesome Design for blogspot lovers.The very first Blogger Templates Company where you will find Responsive Design Templates.

Copyright © 2015 ผนึกสวรรค์ สยบมาร สะท้านเทพ

Designed by Templatezy | Distributed By Gooyaabi Templates