“คำที่สาม! ข้ากำลังจะกัดเป็นคำที่สาม!” เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เจ้าอ้วนใช้พลังทั้งหมดสิบส่วนกัดลงไป เสียงกระหึ่มดังอยู่ในศีรษะ และฟันของมันก็บดลงไปบนเม็ดยาอย่างรุนแรง จนดูเหมือนจะมีประจุไฟฟ้าพุ่งออกมา
ความยืดหยุ่นอย่างน่าเหลือเชื่อของเม็ดยา ได้ต่อต้านฟันของมันกลับไป เกิดเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบายออกมาได้ ทำให้เจ้าอ้วนเริ่มตัวสั่น ใบหน้าซีดขาวไร้สีเลือด และหยดเหงื่อก็เริ่มไหลลงมา
ขบฟันแน่นเพื่อต่อต้านความเจ็บปวด มันตะโกนเสียงดังออกมา “ดูว่าข้ารักษาคำพูดอย่างไร!? ฮา ฮา ฮา! ข้าแกล้งทำเป็นหลั่งเหงื่อเท่านั้น…ตกลง นี่คือกัดครั้งที่สี่ เด็กน้อย หลังจากครั้งนี้ ข้าจะไม่อ่อนข้อให้อีกต่อไป”
ทำไมผู้มุงดูรอบๆ จะไม่รับรู้ถึงเบาะแสบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นนี้ได้อย่างแท้จริง? ท่าทางแปลกๆ เริ่มปรากฎขึ้นบนใบหน้า พวกมันสามารถรับรู้ได้ว่าจิตใจของเจ้าอ้วนเริ่มไม่นิ่งแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศิษย์สำนักจินซวงเริ่มมีสีหน้าแปลกๆ เนื่องจากพวกมันรู้จักหลี่ฟูกุ้ยเป็นอย่างดี
ดวงตาซานจิ่วหดแคบลง มันขมวดคิ้ว และเริ่มพึมพำกับตัวเอง
ทุกคนมองเห็นความมุ่งมั่นที่เต็มอยู่ในดวงตาของเจ้าอ้วน เห็นได้ชัดว่ามันกำลังจะใช้พลังทั้งหมดที่มีอยู่ออกมา มันย้ายเม็ดยาไปที่อีกข้าง และกัดลงไปเต็มแรง
“ท่านย่ามันเถอะ! ไม่มีทางที่ข้าไม่อาจกัดมันให้แหลกเป็นชิ้นๆ!”
เสียงแตกร้าวดังออกมา ขณะที่ฟันของเจ้าอ้วนกัดลงไปในเม็ดยา แต่ทันทีที่ทำเช่นนั้น ของเหลวที่เหม็นคาวมีรสเผ็ดอย่างไม่น่าเชื่อ ก็กระจายออกมาจากรูซึ่งถูกกัดลงไปในเม็ดยานั้น
ใบหน้าของเจ้าอ้วนทันใดนั้นก็ขาวซีด ร่างกายเริ่มสั่นสะท้าน และดวงตาก็เบิกกว้าง เต็มไปด้วยเส้นเลือด น้ำตาเริ่มไหลลงมาจากดวงตา และเสียงกระหึ่มก็เต็มอยู่ในจิตใจ ดูราวกับว่าจิตวิญญาณของมันกำลังจะโบยบินออกมาจากร่าง ความรู้สึกที่อยู่ในปากของมัน ยากที่จะอธิบายออกมาได้
“เจ้า…เจ้า…” ร่างกายสั่นสะท้าน ใบหน้าซีดขาว มันกระโดดไปที่ด้านหลังอย่างลืมตัว และกำลังจะคายเม็ดยาออกมา แต่เมื่อมันตระหนักว่าทุกคนกำลังมองมา มันก็รีบปิดปากลงแน่นอย่างรวดเร็ว ไม่ยอมถ่มคายเม็ดยาออกมาอีก
สถานการณ์นี้ดูเหมือนไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมาย แต่สำหรับเจ้าอ้วน ดูเหมือนมันกำลังตกอยู่ในห้วงฝันร้าย หยาดเหงื่อไหลลงมาโซมกาย มันไม่มีปัญหากับกลิ่นเหม็น ไม่มีปัญหากับกลิ่นคาว แต่สิ่งที่มันเกลียดมากที่สุดก็คือ อาหารรสเผ็ด
ปากของมันรู้สึกราวกับว่าถูกไฟเผาไหม้ และดูเหมือนจะทำให้มันแทบเป็นบ้า
เมิ่งฮ่าวรู้สึกสำนึกผิดมากขึ้นไปอีก เขารู้ว่าเจ้าอ้วนเกลียดอาหารรสเผ็ด ตั้งแต่อยู่ที่สำนักเอกะเทวะ เจ้าอ้วนบังเอิญเปิดเผยเรื่องนี้ต่อเขาด้วยตัวมันเอง ในช่วงของขั้นตอนการปรุงยาเมื่อครู่นี้ เขาตั้งใจที่จะเพิ่มสมุนไพรที่สร้างรสเผ็ดลงไป…
เม็ดยานี้เป็นส่วนผสมที่รวมถึงฝุ่นผงผิวหนังของผีโต้ง ซึ่งไม่อาจจะทำลายลงได้ แต่เมิ่งฮ่าวก็กังวลว่าฟันของเจ้าอ้วนจะมีพลังเกินกว่าที่เขาจะคาดคิดได้ ดังนั้น เขาจึงเผื่อเหตุฉุกเฉินสำรองไว้…รสเผ็ด
ใบหน้าเจ้าอ้วนเป็นสีแดงก่ำ ขณะที่มันจ้องมายังเมิ่งฮ่าว รู้สึกลิ้นชา และศีรษะก็มีแต่เสียงหึ่งๆ “ข้ายังไม่ได้กัดอีกหนึ่งคำ…เจ้า…เจ้าสาร…เจ้ารอก่อนเถอะ ครั้งนี้ ข้าจะกัดยาเม็ดนี้ให้แหลกละเอียด!”
ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบสงบ ผู้ฝึกตนที่อยู่รายรอบมองมาด้วยสีหน้าแปลกๆ
ดวงตาหลินไห่หลงเบิกกว้าง ด้านข้างมัน, อันจ้ายไห่อ้าปากค้างอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็เริ่มส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้มอันแห้งแล้ง
เจ้าอ้วนกำลังจะใช้พลังทั้งหมดของมันในการกัดครั้งสุดท้ายครั้งที่ห้านี้ เมิ่งฮ่าวไม่อาจทนได้อีกต่อไป “ยิ่งกัดลึกลงไป ก็ยิ่งมีความเผ็ดมากขึ้น…” เขาพูดโพล่งออกมา
เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินเช่นนี้ ก็รู้สึกราวกับจิตใจของมันโดนสายฟ้าฟาด สั่นไปทั้งตัว ดูเหมือนมันจะตกใจมากก่อนที่กัดลงไป และดูเหมือนอยากจะยกเลิกการกัดครั้งนี้ บุคคลที่ถูกเจ้าอ้วนจัดการไปก่อนหน้านี้ ดูเหมือนจะรู้สึกแย่ลงเล็กน้อยในตอนนี้
“เจ้าต้องการอะไร…?” เจ้าอ้วนพูด ดูเหมือนมันกำลังจะร้องไห้ออกมา
“ข้า…” เมิ่งฮ่าวถอนหายใจ เขารู้สึกผิดจริงๆ ในตอนนี้
“ข้าไม่เล่นแล้ว!” เจ้าอ้วนอ้าปากถ่มเม็ดยาออกมา แต่เม็ดยาในตอนนี้ก็ติดอยู่ที่ฟันซี่หนึ่งของมัน ซึ่งได้เจาะลงไปในเนื้อเม็ดยา แต่ก็ไม่ได้กัดลงไปทั้งหมด
เจ้าอ้วนรีบดึงเม็ดยาออกมาจากฟันของมันอย่างรวดเร็ว และโยนกลับคืนไปให้กับเมิ่งฮ่าว ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง มันถอยกลับเข้าไปในท่ามกลางกลุ่มศิษย์สำนักจินซวง
ในตอนนี้ ริมฝีปากและลิ้นของมันชาด้านไปหมดแล้ว คำพูดที่มันเพิ่งจะพูดไปเมื่อครู่นี้ฟังดูเลอะเลือน และใบหน้าของมันก็เป็นสีแดงก่ำ หยาดเหงื่อยังคงไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง และเสียงกระหึ่มก็ดังอยู่ในศีรษะต่อไป น้ำตาไหลพรากเต็มใบหน้า และรู้สึกราวกับว่าปากของมันเกือบจะพ่นไฟออกมาได้ทุกเมื่อ
ทุกสิ่งทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ ใครจะไปคาดคิดหรือทำนายได้ว่า หลี่ฟูกุ้ยจะเกลียดรสเผ็ดมากมายเช่นนี้มาก่อน ผู้ฝึกตนไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป และสามารถป้องกันเรื่องที่จะมีผลกระทบเช่นนี้ได้ ดังนั้น ปฏิกิริยาของเจ้าอ้วนจึงเกิดจากตัวเม็ดยาเองอย่างเห็นได้ชัด
“ยาเม็ดนั้นมีรสชาติเผ็ดอย่างน่ากลัวเช่นไร ถึงได้มีประสิทธิภาพอย่างมากมายเช่นนั้น!?!?”
“เม็ดยานั่น…ช่างมีพลังอำนาจที่ร้ายแรงกว่ายาพิษซะจริงๆ!”
“ยานั่น…ช่างแปลกประหลาดนัก!!”
ความสนใจของทุกคนมุ่งตรงไปยังเม็ดยาที่อยู่ในมือเมิ่งฮ่าว มีรอยฟันที่มองเห็นได้จากสองข้างของเม็ดยา และมีจุดเป็นรูเล็กๆ ซึ่งฟันของเจ้าอ้วนได้เจาะเข้าไป มันไม่ได้เป็นเม็ดกลมๆ อีกต่อไป แต่แบนราบ
ไม่ว่าจะมองไปที่ยาเม็ดนั้นอย่างไร ก็จะพบว่ามันไม่ได้ถูกกัดจนกลายเป็นชิ้นๆ!
ในไม่ช้า สายตาทุกคู่ก็เลื่อนจากเม็ดยา เปลี่ยนมามองที่ใบหน้าเมิ่งฮ่าว แผนกเม็ดยาบูรพา, แผนกลมปราณม่วง และสำนักจินซวง คนทั้งหมดต่างก็มองมายังเมิ่งฮ่าว
มีสีหน้าท่าทางที่แตกต่างกันหลากหลาย ท่าทางสับสน, ยิ้มแห้งๆ, จ้องมองด้วยความอิจฉา ทุกคนที่รู้จักเขา ทันใดนั้น ก็ตัดสินใจว่าในวันข้างหน้า พวกมันต้องระมัดระวังตัวให้มาก ถ้าจะกลืนกินเม็ดยาที่เขาปรุงขึ้นมา
เมิ่งฮ่าวคุ้นเคยกับการถูกจ้องมองมาเช่นนี้ สีหน้าของเขาก็ยังคงเรียบสงบเหมือนเช่นเคย แต่จิตใจก็เริ่มเต้นรัวอย่างรวดเร็ว เขาเก็บเม็ดยาไว้ จากนั้นก็มองไปยังหลินไห่หลง และอันจ้ายไห่ ซึ่งยังคงส่ายหน้า และหัวเราะออกมา
เสียงเก่าแก่โบราณของเจ้าโอสถภูผานิรันดร์ ดังทำลายความเงียบขึ้นมา “เด็กน้อย จะเป็นไรหรือไม่ ถ้าข้าจะขอให้เจ้าช่วยส่งเม็ดยานั้นมาให้ข้าตรวจสอบสักครู่?”
เมิ่งฮ่าวลังเล จากนั้นก็ถามอย่างเขินอายว่า “อืม…ผู้อาวุโส, ข้าชนะแล้วหรือไม่?” ด้วยสีผิวที่ซีดขาว และท่าทางเหมือนนักศึกษาของเขา ทำให้ดูเหมือนสัตว์ตัวน้อยที่ไม่อาจปกป้องตัวเองได้ เป็นกิริยาท่าทางที่ทำให้ผู้คนต้องรู้สึกสงสารขึ้นมาในทันที
คำถามของเมิ่งฮ่าวจริงๆ แล้วก็เหมือนไม่ใช่คำถาม ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เขาตอบคำถามเช่นนี้ ซานจิ่วคงรู้สึกต่อต้านอย่างแน่นอน
เมื่อได้เห็นสีหน้าเช่นนี้ของเมิ่งฮ่าว ก็ทำให้เส้นขนของเจ้าอ้วนลุกขึ้นชี้ชัน ดวงตาของมันเบิกกว้าง จ้องนิ่งมาที่เขา ลิ้นของมันยังคงด้านชา สายตาก็ยังคงพร่าเลือนด้วยหยดน้ำตา แต่เมื่อได้เห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ ก็ทำให้มีใบหน้าหนึ่งปรากฎขึ้นในจิตใจของมัน
สีหน้าของอาจารย์ปรุงยา และคำพูดของคนผู้นี้ ช่างเหมือนกับสิ่งที่มันจำได้จากร้านขายยาแบบเร่งด่วนในสำนักเอกะเทวะเป็นอย่างยิ่ง!
“มันคือ…มันคือ…” ยิ่งเจ้าอ้วนมองไปอย่างละเอียดมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งรู้สึกสับสนมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันคิดไปว่า เมิ่งฮ่าวได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ ไม่ว่ามันจะพยายามค้นหาอย่างไร ก็ไร้เบาะแสแม้แต่น้อย แต่เจ้าอ้วนก็ไม่เชื่อว่าเมิ่งฮ่าวจะออกไปจากดินแดนด้านใต้แล้ว
“อย่าบอกข้านะว่า…บัดซบ…นั่นคงเป็นมันจริงๆ…มีเพียงเมิ่งฮ่าวเท่านั้นที่รู้ว่าข้าเกลียดอาหารรสเผ็ด!!” ดวงตาเจ้าอ้วนเบิกกว้าง มันเริ่มสูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนักหน่วง มีท่าทางผิดปกติมากขึ้นในตอนนี้ ถ้าบุคคลผู้นี้ไม่ใช่เมิ่งฮ่าว เจ้าอ้วนก็ต้องหาทางแก้แค้นมันอย่างแน่นอน แต่ถ้ามันคือเมิ่งฮ่าว แน่นอนว่าเจ้าอ้วนคงไม่อาจจะทำอะไรได้
เจ้าโอสถภูผานิรันดร์ยิ้ม ขณะที่มันมองดูเมิ่งฮ่าว ในจิตใจของมันก็ยิ้มด้วยเช่นกัน รู้สึกราวกับว่ากำลังมองดูตัวเองเมื่อหลายปีก่อนที่ผ่านมา มันไม่สนใจ ไม่ว่าจะใส่รสเผ็ดเข้าไปในเม็ดยาหรือไม่ ความจริงที่ว่าเจ้าอ้วนไม่อาจกัดเม็ดยาให้แหลกได้ทั้งสี่ครั้ง ก็เป็นข้อพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่นของยาเม็ดนั้นได้เป็นอย่างดี
“ดูเหมือนว่าข้าต้องเสียเดิมพันแล้ว” เจ้าโอสถภูผานิรันดร์กล่าว ยิ้มออกมา ด้วยเช่นนั้น มันก็โบกสะบัดแขนเสื้อ และขวดยาพร้อมเม็ดยาโบราณก็ลอยไปยังหลินไห่หลง “เด็กน้อย, เจ้าจะส่งเม็ดยานั้นให้ข้าดูได้หรือไม่?”
“ข้าเกรงว่าคงไม่ได้” เมิ่งฮ่าวตอบ สีหน้าเขาไม่ได้เขินอายอีกต่อไป “ถ้าไม่มีคำยินยอมจากผู้อาวุโสของแผนกเม็ดยาบูรพา ผู้เยาว์ก็คงไม่กล้าจะให้คนอื่นๆ ตรวจสอบเม็ดยา” ถ้าเขายื่นส่งเม็ดยานั้นให้ ทันทีที่เจ้าโอสถภูผานิรันดร์แตะสัมผัสถูกเม็ดยา มันก็ต้องสามารถตรวจพบถึงผงผิวหนังของผีโต้งได้อย่างแน่นอน ในตอนนั้น ตัวตนของเมิ่งฮ่าวก็จะถูกเปิดเผย ซึ่งจะนำมาซึ่งปัญหาทั้งหมดหลังจากนี้
เจ้าโอสถภูผานิรันดร์จ้องมายังเมิ่งฮ่าวที่กล่าวตอบมาด้วยความตกตะลึง หลายปีมาแล้วที่มันร้องขอตรวจดูเม็ดยา ก็ไม่เคยมีอาจารย์ปรุงยาคนใดกล้าปฏิเสธมาก่อน ด้วยศักดิ์ฐานะของมัน ทุกคนมักจะยื่นส่งเม็ดยามาให้ด้วยความกระตือรือร้น คำพูดเพียงคำเดียวของมัน ก็ทำให้ชื่อเสียงของนักปรุงยานั้นๆ โด่งดังไปทั่วทั้งดินแดนด้านใต้
คำตอบของเมิ่งฮ่าว ทำให้ใบหน้าของหลินไห่หลงอ่อนโยนลงเล็กน้อย มันยิ้มให้เมิ่งฮ่าว และพยักหน้าเล็กน้อย “เจ้ามีนามว่าอะไร?” มันถาม
“ศิษย์ ฟางมู่” เมิ่งฮ่าวผงะ กล่าวตอบไป
“สิ่งที่ข้าพูดไปก่อนหน้านี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น” มันกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ฟางมู่, นับจากวันนี้เป็นต้นไป เจ้าเป็นเจ้าแห่งเตา ข้าจะส่งคนมาหาเจ้าในเร็วๆ นี้เพื่อจัดทำขั้นตอนการเป็นเจ้าแห่งเตาให้เรียบร้อย” ด้วยเช่นนั้น มันก็มองไปยังซานจิ่ว “ว่าอย่างไร ซานจิ่วต้าชือ?”
ซานจิ่วมองเมิ่งฮ่าวด้วยสีหน้าลึกซึ้ง จากนั้นก็ยิ้มออกมา และลุกขึ้นยืน ส่ายศีรษะ
“ข้าแพ้แล้ว” มันกล่าว “แต่ข้าก็ไม่เสียใจ ด้วยเจ้าเด็กผู้นี้ แผนกเม็ดยาบูรพาก็จะคงอยู่ตลอดไป แต่อย่างไรก็ตาม ครั้งแรกก็เป็นศิษย์พี่หลิว จากนั้นก็ข้า ใครจะไปรู้ว่าจะมีบุคคลที่สามซึ่งละทิ้งสำนักไป จะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่?” มันส่งยิ้มให้เมิ่งฮ่าวเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นก็หันหลังและจากไป
ศิษย์สำนักจินซวงที่เหลือก็ติดตามมันไป ถังซื่อชางส่งยิ้มโค้งตัวให้อู๋ติงชิว จากนั้นก็จากไปพร้อมกับศิษย์ของมัน
ก่อนจากไป เจ้าอ้วนหันหลังกลับมา พร้อมทำท่าน่าสงสารมองมายังเมิ่งฮ่าว เมื่อได้เห็นท่าทางผิดปกติของมัน เมิ่งฮ่าวก็รู้สึกผิดเป็นอย่างมาก เขาก็ตระหนกเช่นกันว่า เจ้าอ้วนได้รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเขาแล้ว